ประวิตร" เผย เปอร์เซ็นสูงกองทัพเรือจะมีเรือดำน้ำ ส่วนเลือกซื้อจากไหนผบ.ทร.ต้องตัดสินใจเอง หากตัดสินใจพลาดก็ย้อนกลับเข้าหาตัวเองแม้จะเกษียณไปแล้วก็ตาม
----------------
http://www.thaipost.net/?q=%E0%B8%9A%E0%B8%B4%E0%B9%8A%E0%B8%81%E0%B8%9B%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%A1%E0%B9%80%E0%B8%9C%E0%B8%A2%E0%B9%80%E0%B8%9B%E0%B8%AD%E0%B8%A3%E0%B9%8C%E0%B9%80%E0%B8%8B%E0%B9%87%E0%B8%99%E0%B8%95%E0%B9%8C%E0%B8%AA%E0%B8%B9%E0%B8%87-%E0%B8%97%E0%B8%A3%E0%B8%8A%E0%B9%87%E0%B8%AD%E0%B8%9B%E0%B9%80%E0%B8%A3%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%94%E0%B8%B3%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%B3
ตามข่าวเขาบอกว่าผบ.ทร.ก็ไม่มีสิทธิ์เลือกเองนะครับ ทำไมข่าวพาดหัวขัดกับเนื้อข่าวหรือคนเขียนตีไม่แตก
อ่านตามข่าวแล้วดูเหมือนจะไม่ได้เร็วๆนี้ โอกาสได้มากกว่า 50-60 เปอร์เซ็นต์ แหม่
บอกแบบเรือดำน้ำจะไม่แทรกแซงเพราะเป็นหน้าที่ทร.ตั้งคณะกรรมการมาพิจารณา แต่ก็คุ้นๆนะว่าคนนี้แหละที่ตีกลับหาทร.ไม่เข้าครม.สักทีไม่ใช่เหรอตอนนั้น แล้วออกสื่อไปในแนวว่าอยากให้เป็นเกาหลี ให้เป็นของใหม่
ถ้าซื้อได้จะดีมากเลย ขอให้ได้แบบซื้อเครื่องบินรบ กริพเพ่นตอนนั้นนะครับ ในหัวผมมีแต่ 210mod กับ hds-500rtnนี่ละครับ มีไว้มั่งก็ดีเผื่อจะมีชาติมหาอํานาจและประเทศอื่นๆเอาเรือมาขู่ไทย ไทยจะได้กดดันให้พวกนั้นถอยไปมั่ง
คิดว่าทร ไทยจะซื้อได้ ถึง3ลําไหมถ้าจะเอา 210mod
ไม่รู้มีน้ำหนักแค่ไหนนะครับ ได้มีโอกาสสัมภาษณ์ ผู้บังคับการศูนย์ฝึกทหารใหม่ (อดีตท่านเคยเป็นผู้การเรือ)ได้สอบถามความน่าจะเป็นของเรือดำน้ำ ในไทย ท่านกล่าวกองทัพเรือเราจำเป็นต้องมีเรือดำน้ำเพราะโดยรอบๆเราเขามีกันเกือบหมดแล้ว ที่จะไม่มีเห็นจะเป็นกัมพูชา เลยถามว่าแล้วเมื่อไรจะมาครับ ปีงบประมาณนี้จะทันไหมท่านว่ามาแน่แต่คงไม่ใช่ปีงบประมาณนี้น่าจะอยู่ในช่วงปีงบประมาณหน้า(หน้าของท่านไม่รู้59หรือมากกว่า59นะครับ)เพราะถ้าจะได้ก็ต้องได้จากช่วงนี้ เลยถามต่อว่าแล้วชาติไหนจะได้ครับ ท่านก็บอกว่าเราก็อยากได้ของ เยอรมันนะ แต่ราคานี่เป็นปัจจัยหลักเห็นส่งคนเข้าไปฝึก ผมเลยถามต่อว่าแล้วมีโอกาสหวยออกที่จีนไหมครับ ท่านก็บอกว่า คงไม่เลือกของจีนเพราะเรามีบทเรียนมาเยอะครับ ส่วนอีกเรื่องที่ถามท่านด้วยคือเรื่อง 911 ถามว่า ทร ไม่คิดจัดหา เครื่องบินมาประจำการเหรอครับ ท่านก็หัวเราะบอกถ้าจะมีก็คงจะมีแต่ ฮ เรื่อง AV-8 คงไม่เอามาแล้ว ปล่อยเรื่องทางอากาศเป็นหน้าที่ของ ทอ.ดูแลเพราะเรื่องงบประมาณที่มีจำกัด ท่านกล่าวว่าสมัยก่อนขึ้นบินที ซื้อรถเบนซ์ได้คัน เลยถามต่อว่าแล้วการปรับปรุงเรือฟรีเกต นเรศวร มีปัญหากับอเมริการไหม เพราะเห็นเขาแบนเราเรื่องการรัฐประหาร ท่านก็ว่า เรื่องทางการทหารมันเป็นการค้าขาย ใครก็อยากได้เงินไม่ได้ชลอก็กำลังปรับปรุงอยู่ เลยถามต่อเลยว่า ผมรู้สึกเสียดายที่ เรือลำใหม่ของเราติดท่อยิง VLS น้อยจัง พอพูดเสร็จท่านก็บอกว่าติดมากติดน้อยไม่สำคัญขอให้มีจรวดครบทุกท่อเป็นพอถ้ามีท่อแต่ไม่มีจรวดก็แค่นั้น
ครับนี่ก็คือการสัมภาษณ์ท่านมาครับ ต้องขอบคุณที่ท่านช่วยตอบคำถามทุกคำถามนะครับ
ขอบคุณครับคุณนักข่าว ตกลง 911 คงไม่มี AV-8 ไปตลอดแล้ว และต้องพึ่งพา Jas-39 + SAAB 340 ของทอ. บอกแล้วว่าทร.เคยบ่นว่าค่าบินของมันแพงจน ทร.จ่ายไม่ไหว แต่ถ้าจ่ายค่าน้ำมันไหว ผมเชียร์ให้ใช้นะ
แบบนี้ 911 ก็แค่วิ่งวนในอ่าวไทยเท่านั้น.............แล้วเรือดำน้ำคงต้องวิ่งวนในอ่าวไทยเหมือนกัน ไม่ไปไกล ลำเล็กๆก็พอมั๊งครับ
จากข่าวนี้ คงไม่พ้น DW-1400T และ HDS 500 RTN ซะแล้วมั๊งครับ
ได้เรือดำน้ำ U-210mod หรือเรือดำน้ำ U-209/1400mod ถือว่าดีมาก แต่ถ้าได้ DW-1400T และ HDS 500 RTN ก็ยังดีกว่าของจีนครับ เอาเถอะน่าเกาหลีไต้ต่อเอง U-209 8 ลำ และ U-214 5 ลำ และอีกลำเริ่มต่อเดือนนี้ ก็นับว่าน่าไว้ใจได้ในระดับหนึ่งครับ ขอให้ได้นะครับ
ผมว่าที่คุณ ifazuru ไปสัมภาษณ์มามันก็เป็นการตอกย้ำประเด็นเดิมๆที่ชัดเจนแล้วนะครับ
เช่นทร.อยากได้เรือเยอรมัน รล.จักรีฯไม่มีบ.ปีกตรึง เรือดำน้ำจำเป็น เพียงแต่ยิ่งรอนานไปความเร่งด่วนมันก็มากขึ้น เพราะเพื่อนบ้านมีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ โอกาศได้ก็มากกว่าแต่ก่อน
เห็นด้วยกับบทสัมภาษณ์หมดเลยครับ
av-8 มันเอามาอีกรอบคงไม่เวิร์ก
ปล่อยหน้าที่เครื่องบินรบเป็นของทอ. ดีกว่า
เรือดำน้ำจีนไม่มีใครอยากเอา อยากเอาเยอรมัน
รัฐประหารไม่กระทบความสัมพันธ์ทางทหารระหว่างประเทศ กระทบแต่ทางการเมืองระหว่างประเทศ
ท่อวีแอลเอส เอาจรวดให้เต็มดีกว่า เพราะเงินเราซื้อสิบหกหรือสามสิบสองท่อคงยาก
ผมก็เชียร์เรือดำน้ำ เกาหลี(เหนือ) เหมือนกันครับ!
กำลังจะเข้ามาเชียร์จีนเลย โดน เม้นฯ บนๆ ดักหมดเลย ฮ่าๆๆๆ ผมว่าถ้าจีนเสนอ แบบตอนเรือ ฟรีเกส ผมก็ว่าน่าสนใจ จะซื้อ2ให้3 สร้างโรงต่อ(ปิด) ขนานใหญ่ให้ บลาๆ แต่งานนี้เราก็แบบ อั๋วต่อ2 ลือต่อ1/2 เดียวอีก1/2 มาประกอบเอง แล้วจากลือกินสัมปะทานรถไฟ 3ปีเป็น 2ปี อะไรก็ว่าไป....
อีกเรื่องครับ ถามกับช่างเครื่อง ของฝูงบิน ทร บอกว่าเครื่อง p3 ว่าเป็นยังไงบ้าง พี่แกบอกว่าคณะนี้อยู่ระหว่างเตรียมปลดประจำการเลยถามต่อว่าจะจัดหาอะไรมาทดแทนไหม พี่แกบอกว่าคงไม่มีมาแล้วเพราะ p8 ก็แพงมาก ทรจะเน้นไปที่ ฮ ครับ อีกเรื่องครับจรวดที่อยู่น่าประตูทางเข้า สรฝ คือจรวดอะไรครับ
http://i.imgur.com/P8NzeDl.jpg
..ใจของทร.คงเทไจให้ type 210 mod class ไปแทบหมดแล้ว เหมือน MEKO-D MEKO-A200 แต่ปัญหามันอยู่ที่อื่น และ เรื่องเงินในกระเป๋า
การมีเครื่อง harrier 2 และ ฮ.AEW ประจำเรือ 911 เองโดยไม่พึ่งพา ทอ. นับว่าเวิร์คที่สุดแล้วครับ แต่ปัญหาอยู่ที่เงินที่จะจ่ายค่าปฎิบัติการของกองบินประจำเรือนั้นแพงระยับ ทำให้ ทร. จ่ายไม่ไหว ก็คล้ายๆกับ เรือฟรีเกตและเรือดำน้ำเยอรมันน่ะดีที่สุดแล้ว แต่ปัญหาอยู่ที่เงินมาโดยตลอด มันก็ต้องจบที่ของเกาหลีทั้งที่ไม่เต็มใจอยากได้นัก ในเมื่อเงินไม่มีพอ 911 ก็ต้องพึ่งพา jas-39 อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เหมือนที่ต้องซื้อเรือเกาหลีอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้เช่นกัน
การที่ผมเชียร์ให้ทร.มีฝูงบินรบประจำเรือเองโดยตรง ก็เพราะมันย่อมดีกว่าการพึ่งพาการคุ้มครองจาก ทอ.แน่นอน แต่เงินไม่พอจ่ายค่าน้ำมัน มันก็ย่อมเลือกไม่ได้ ต้องไปเอาทางเลือกอันดับถัดมา เหมือนซื้อเรือเยอรมันไม่ไหว ก็ต้องซื้อเรือเกาหลี ไม่ใช่ว่าเรือเยอรมันห่วย แต่เราดันมีเงินไม่พอเองช่วยไม่ได้ครับ
เหมือนที่ว่าใครๆก็อยากได้ M-346 แต่สุดท้ายท่าทางเงินจะไม่พอ ก็ต้อง yak-130 หรือ T-50 อยู่ดี
ในเมื่อมันเลือกไม่ได้ ถึงจะขัดใจผม แต่ผมยอมรับความจริงได้ครับว่ามันไม่มีอะไรได้ดังใจ ไม่ติดใจ ไม่ฟาดงวงฟาดงา เหมือนที่เสียใจที่ ทร. ไม่ได้ MEKO A-200 ที่ผมเชียร์ เกาหลีก็เกาหลี ไม่มาดูถูกว่าของโลว์เกรดแต่อย่างใตอย่างที่บางคนเสียดสี ช่วยไม่ได้ก็เงิยมันไม่มีพอเอง อยากหรูก็ต้องรวยกว่านี้ครับ
ดีแล้วครับที่ ทรเอาเรือ dw3000f เพราะเรือนี้ติดอาวุธได้ครบครันทั้ง essm asroc และ แม้แต่ sm-2 เพราะ เรือ MEKO-A200 มันได้แค่ essm และ harpoon
เอาละเข้าเรื่องเรือดํานํ้าถึงผมจะพอใจ ใน hds-500rtn แต่ระยะ ปฏิบัติการมันสั้นเกินไปจริงนั้นแหละ ครับ มันไปใกลสุดแค่แหลมญวน แค่นั้น ถ้าได้ 210 mod เราก็ไปใกลสุดทะเลจีนใต้อะครับและถ้าจะตัดเส้นทางลําเลียงทางทะเลผมว่าทะเลจีนใต้เราต้องไปใกลถึงตรงนั้นเลยไม่ต้องรอให้ข้าศึกมาจ่อปากอ่าวไทย แต่ผมก้ประทับใจ hds-500rtn อะนะ
ผมเชียร์ hds-500rtn กับ 210mod ในแง่ราคา แต่ถ้า ทรใจถึงเอา type-209 ผมจะดีใจมาก
ผมหวังว่าปีนี้กองทัพเรือจะได้เรือดํานํ้าเสียที ถ้า ทรมีเงินมากพออยากได้ทั้ง 210mod 2ลํา และ hds-50rtn ทั้ง 4ลํารวม 6ลํา
เห็นด้วยกับทุกท่านครับ
การใช้จ่ายเงินงบประมาณซึ่งเป็นภาษี มีหลักสำคัญสองข้อ คือ เหตุผลที่จะต้องจ่าย และความสามารถในการจ่าย ทุกเรื่องต้องผ่านการพิจารณาข้อแรกมาก่อน คือต้องมีเหตุผลสมควร เหมาะสม คุ้มค่า ที่จะควักกระเป๋าจ่ายหละครับ ว่ากันง่ายๆ ถ้าไม่ผ่านข้อแรกก็ไม่มีข้อสอง
เรื่องเรือดำน้ำ ผมเข้าใจว่า ในการพิจารณาของ ทร. หรือแม้แต่การนำเสนอกับรัฐบาล ก็ผ่านข้อแรกแล้ว คือ ทุกฝ่ายยอมรับกันว่า มีความจำเป็นที่ ทร. จะต้องมีเรือดำน้ำ ก็เหลือข้อสอง คือ มีงบประมาณรองรับไหม สามารถจ่ายได้เท่าไหร่ ซึ่งก็โยงไปถึงสเป็กของเรือที่จะเลือกซื้อ (อย่าลืมว่า สเป็กเรือ หมายถึงกำลังพลที่ปฏิบัติงานกับเรือด้วยนะครับ เมื่อมีคนก็ต้องมีภาระงบประมาณที่เป็นค่าตอบแทนกำลังพลเหล่านั้น ซึ่งทั้งหมดก็คืองบประมาณทั้งสิ้น) และจำนวนเรือที่อยากได้
ก็ลุ้นว่า ทร. จะได้เรือที่อยากได้ ในราคาที่เหมาะสม และมีจำนวนตามที่ต้องการโดยไวเหมือนกันครับ
คุณ :lfazuru จรวดตรงหน้าทางเข้า สอ.รฝ. น่าจะเป็นระบบจรวดต่อสู้อากาศยาน เอสปิเด้ ซึ่งได้ปลดประจำการไปแล้ว แต่ผมลืมไปแล้วว่าฐานยิงที่ตั้งโชว์ที่ สอ.รฝ.นั้นถอดมาจากชุดที่ติดตั้งบนเรือ หรือเป็นชุดแท่นยิงบนบกเหมือนฝาแฝดจรวดสปาด้าของ ทบ. แต่ทั้งสองแบบใช้ลูกจรวดสแปร์โรว์เหมือนกันครับ
อันนี้เป็นรูปของ สปาด้าของ ทบ.ครับ เครดิต กูเกิ้ลครับ
ขอบคุณมากครับผม
น่าจะเป็นจรวดPL-9มากกว่านะครับ สอ.รฝ ได้จัดหารจรวดต่อสู้อากาศยาน PL-9มาใช้งานจำนวนหนึ่ง แต่ประจำการได้ประมาณ10กว่าปีก็ปลดไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
แต่ถ้ามีหน้าตาแบบข้างล่างจะเป็นโครงการพัฒนาจรวดไซด์ไวเดอร์มาใช้บนพื้นดินของทอ.ครับ เข้าใจว่าจบไปแล้วคือหยุด ใครมีข้อมูลมากกว่านี้แทรกได้เลย
ถ้าทร.บิน p8 ไหวคงไม่ต้องปลดเครื่องบินเจ็ทในอดีตหรอกครับ ฮา แต่ผมว่าทร. ก็ยังมีหวังนะครับ เครื่องใบพัดโลกนี้ยังไม่อยู่ อาจจะปรับเป็นเครื่องรุ่นที่เล็กลง พวกสองเครื่องยนตร์เทือกนั้นก็อาจจะได้เช่น c295 หรือ saab หรือไม่ก็พวกเจ็ทขนาดบิซิเนซประมาณพวก embraer อาจจะได้อยู่ เพราะทร.ถ้าจำไม่ผิดไม่กี่ปีมานี้ก็มีเงินซื้อพวกบิสซิเนสเจ็ทอยู่นา
น่าคิดครับ จากคำให้สัมภาษณ์ของพลเอกประวิตร วงศ์สุวรรณ งานนี้หวยอาจจะไม่ใช้ของเยอรมันหรอก ถึงแม้จะมีคำสัมภาษณ์จากอดีตผู้การเรือก็เถอะ เกี่ยวกับการส่งทหารเรือไปฝึกที่เยอรมันก่อนหน้านี้ก็ตามที
โดยความเห็นส่วนตัว ก็คงจะเหลือตัวเลือกอยู่แค่ รัสเซีย กับ เกาหลีใต้
ปล.ภาวนาขอให้ ทร.เลือกสเปกส์เรือตามๆที่เค้าจัดมานั้นแหละ อย่าให้ซ้ำรอยกับกรณี U-206 อีกเลย
ขออย่าคนใช้ไม่ได้ซื้อ คนซื้อไม่ได้ใช้ในเมื่อทหารเรือใช้ ให้ทหารเรือเลือกเอง เวลาทัพบกใช้ทำไมไม่ให้ทหารเรือเลือกให้ ข่าวเรือดำนำ้เงิบไปหลายรอบเเล้ว. ครั้งนี้ไม่หวังหรอกครับ จนกว่าจะมีข่าวว่าอนุมัติจริงๆไม่เหมือนที่ผ่านมา(เซ็ง)
type 210 mod class ราคาน่าจะไม่ถูก ถ้าติดตั้งระบบ AIP เข้าไปด้วย ราคาอาจจะแพงเท่าๆ DW-1400T ที่น่าจะมีระวางขับน้ำไม่น้อยกว่า 1500 ตัน ซึ่งต้องแพงกว่า HDS 500 RTN มากเป็นเท่าๆตัวแน่นอน ได้อย่างมากแค่ 2-3 ลำเท่านั้นล่ะครับ
CN-295 MPA ที่ติดตั้งระบบ ASW เป็นอะไรที่ ทร. เคยให้ความสนใจครับ มีเงินเมื่อไหร่ คงเป็นงานถัดไปที่ ทร. สนใจ
หวบล็อกซะละมั๊ง แต่ก็ยังดีที่เรือเกาหลีไม่ได้ห่วยแบบเรือจีน คล้ายๆว่าเราอยากได้รถ BMW แต่ต้องไปเลือกรถ TOYOTA camry ก็ OK ครับรับได้ คุณภาพดีคุ้มราคา
type 210 mod ทาง HDW ไม่ได้ออกแบบให้ติด AIP ได้ครับ ถ้าจะเอา AIP ราคาไม่แรงมากก็ 209 ครับ
อ้างอิง ข้อมูลในข่าวประมาณว่า ถ้าไม่เลือกเรือดำน้ำตามที่ พลเอกประวิตร หมายตาเอาไว้โอกาสที่กองทัพเรือจะแห้วเรือดำน้ำก็มีสูง แต่ถ้าเลือกตามที่พลเอกประวิตรหหมายตาเอาไว้โอกาสได้ก็มีสูง แอ่นแอ้น...สรุปก็คือเรือดำน้ำของเราก็คงจะเป็น DSME 1400 เท่านั้นชิมิ (ขอแอ้บแบ้วนิดนึงนะท่านแอดมิน) แอ้??แล้วอย่างนี้จะมีหน่วยงานของรัฐหน่วยไหนน่าจะกล้าเข้าไปตรวจสอบการล็อกสเปกส์เรือดำน้ำจากเกาหลีหว่า (ฮา)
ก็คงต้องเป็นอย่างนั้นละกระมัง เอ้อ ก็ยังดีกว่าเรือจีนล่ะว่ะ
ตอนแรกอยากได้ dswe1400tเหมือนกันแต่คิดว่าแพงเลยไปหวัง 210mod กับ hds-500rtn แต่ถ้าประวิตรอยากจะซื้อ dswe1400t นี่ถ้าได้ใจผมจะเบิกบานมาก
คือถ้าได้ของจีนข้อดีของมันมีอยู่ก็คือถ้าเราขัดแย้งกับสหรัฐแล้วสหรัฐบีบไม่ให้เยอรมัน เกาหลีใต้ ส่งอะไหล่อาวุธให้ไทย เรือดํานํ้าเราจะเป็นง่อยแต่ถ้าใช้ของจีนอาจจะมีอิสระมากกว่าก็ได้ผมเองก็ไม่ค่อยไว้ใจสหรัฐนัก ถ้าจีนให้การถ่ายทอดเทคโนโลยีพร้อมสร้างอู่เรือให้เพิ่มก็โอเค คือไปทางไหนก็เจอกับดักหมด ละ 5555แต่ไม่อยากได้ของจีนเลย
ขอขอบคุณมากครับท่าน Johnny_Thunders ผมลืมไปว่าเรือชั้นนี้ เยอรมันออกแบบให้มีราคาต่ำสำหรับชาติเงินน้อย และสำหรับน่านน้ำที่ตื้น จึงไม่มีระบบ AIP ที่ราคาแพงระยับ แต่ผมว่าราคาคงพ้น 10,000 ล้านบาทอยู่ดี รู้ๆอยู่ ของเยอรมันไม่เตยมีของถูกให้สัมผัส
โธ่ ท่าน TWG อย่าทักสิครับ ผมเสียววูบเลย พาลจะนอนไม่หลับเอา
ใช่ครับแปลกมาก ในเมื่อ ทร. เป็นผู้ใช้ ควรให้ทหารเรือเขาคิดกันเอง อย่าทำแบบนี้เลย เกรงใจกันดีกว่าครับ
ถ้าสรอ บีบได้ขนาดนั้น คงบีบให้เกาหลี ไม่เข้า AIIB ได้ แต่เกาหลี ก็ประกาศเข้าร่วมไปแล้วนิครับ
ใครว่าMEKO A200 ยิงได้แค่ESSMกับมีHarpoonเป็นจรวดต่อต้านเรือครับ
ประสิทธิภาพการแบกอาวุธแบกเรดาร์ของเรือลำนี้มันอะเมซซิ่งสุดๆ มีทั้งเวอร์ชั่นติดเรดาร์SPY-1F + AN/SPG-62 ใช้ระบบอำนวยการรบAEGIS มีMk.41 32ท่อ สำหรับESSM, SM-2MR, ASROC ปืนหลักMk.45 มีCIWsเป็นRAMแท่น21ลูกหัวเรือท้ายเรือ เวอร์ชั่นอัลจีเรียติดจรวดRBS-15 16ลูก(HarpoonของDW3000มัน8ลูกนา) ปืน127/64ที่ใหญ่โพดๆที่หัวเรือ ก็มี
แต่คงติดVDSไม่ได้ เพราะท้ายเรือต้องมีท่อ (เพราะไม่มีปล่องเรือ พ่นออกที่แนวน้ำแทน)
ปล.เผลอๆความสเตลธ์อาจจะเหนือกว่าDW3000ก็ได้นะ ออกแบบมาลดIR signature สุดๆ
ผมว่าการเยือนจีนดูอาวุธนู่นนี่ไม่ใช่ว่าเราจริงจังอยากซื้อของจีนอะไรมากหรอก จีนอยากขายอันนั้นแน่นอน แต่เราแค่ไปทำให้ชาติอื่นดูว่าเราไม่ได้ถูกโดดเดี่ยวนะเว้ย ทำนองนั้นมากกว่า
ท่าน Phu2000 พูดแล้วผมนึกถึงตอนที่เรากำลังจะซื้อ KDX-2 ใกล้จะลงนามกันแล้ว 32,000 ล้านบาท สำหรับ KDX-2 จำนวน 2 ลำ แต่ตกลงในเรื่องข้าวไม่ได้ เพราะมีบาร์เตอร์ข้าวบางส่วน เกาหลีมีปัญหา แล้ว ทร. จึงไปเอา MEKO A-200 ติดระบบทั้งชุดที่ท่านว่าเลย ผมนี่หัวใจพองโต ประเทศเราจะมีเรือ เอจีสใช้กะเขาบ้างแล้ว...เย้..... save รูปขึ้น desktop ดูทุกวัน สุดท้ายแห้ว เพราะขนาดตั้งงบประมาณตกลำละ 18,000 ล้านบาทว่าจะพอ ไม่พอครับ แพงระดับเทพจริงๆ ตอนนั้นภัยคุกคามจากเรือดำน้ำน้อยมาก แต่ภัยคุกคามทางอากาศมากกว่า ทร. จึงต้องการฟรีเกตป้องกันภัยทางอากาศอันดับแรก พอมีปฎิวัติ โครงการก็ทิ้งลืม
ผ่านมา 8-9 ปีแล้ว ป่านนี้ราคากว่า 25,000 ล้านต่อลำแน่ๆ เสียดายสุดๆครับ มาถึงตรงนี้คงหมดปัญญาซื้อแล้วครับ
เงินไม่มีได้แต่มองคนอื่นใช้ ครับ ยังไงเรือเกาหลีก็สู้ไม่ได้หรอกครับ เทียบได้กับเบนซ์ BMW กับ รถญี่ปุ่น
ราคาเรือเกาหลีที่เราซื้อ ถ้าบวกระบบเรด้าร์ที่เทพๆกว่า SPY-1F อย่าง CEA-mount CEA far ที่เป็น AESA ใหม่กว่า SPY-1 F ที่เป็น PESA ทร. ก็เพิ่มเงินอีกประมาณ 80- 85 ล้านเหรียญ เพิ่มจำนวน cells เป็น 32 cell รวมลูกจรวดครบ ก็เพิ่มอีกประมาณ 5000 ล้านบาท รวมราคาปัจจุบันก็ยังไม่พ้น 20,000 ล้านบาทต่อลำครับ เป็นอะไรที่เราพอจะจ่ายไหวสำหรับ พศ.นี้ แล้วเมื่อไหร่ที่ได้เรือดำน้ำมา ค่อยแปลงโฉมเป็นฟรีเกตป้องกันภัยทางอากาศก็ยังได้สบายๆ เพราะตามข่าวการแก้แบบเรือ เห็นได้ชัดว่าเผื่อสำหรับ 32 cell แน่นอน และยังได้สิทธิต่อเพิ่มเองอีก 1 ลำ
ครั้นจะจัดซื้อเรือเยอรมันราคามหาโหด แต่ไม่เอาระบบมาครบ ค่อยมาหาเงินไป upgrade ติดตั้งทีหลัง มันก็ดูยังไงอยู่ เรือหรู แต่ระบบอาวุธแค่เรือชั้นนเรศวร ........... รับรองว่าถูกด่ายิ่งกว่าเรือเกาหลีครับ
DW-3000 H ของเรามีระบบ ACTAS รุ่นใหม่สุดของเยอรมัน เราเป็นผู้ซื้อใช้รายแรกสุดด้วยเช่นกัน ระบบ TAS และ VDS ชุดนี้หรูมากนะครับ ถ้ามีระบบจรวดต่อต้านเรือดำน้ำ ASROC หรือ K-ASROC และระบบเชื่อมต่อกับ ฮ LAMPs 3 เรือลำนี้ก็มีระบบต่อต้านเรือดำน้ำเทพที่สุดในภูมิภาคแล้วครับ ในราคาแค่ 13,000 กว่าล้าน ถูกกว่า ฟอมิเดเบิ้ล และ Gowind ล่าสุดของมาเลย์ที่เป็น ASW frigate ยังไม่มี ASROC ไม่มี ESSM ไม่มี LRR และใช้ระบบ CAPTAS ที่ศักดิ์ศรียังสู้ ACTAS จากเยอรมันไม่ได้ครับ
ถึงตัวเรือไม่หรู แต่ระบบประจำเรือหรูนะครับสำหรับ DW-3000H
ของเยอรมันดีระดับเทพจริง แต่ราคาก็ระดับเทพด้วยเหมือนกันนะครับ ถ้าจะซื้อต้องตรวจเงินในกระเป๋าว่าเทพพอที่จะจ่ายไหวด้วยหรือเปล่าครับ
ต้องเลือกครับ เงินเท่านี้ ถ้าเอาเรือเยอรมันหรูๆ ระบบอาวุธสุดแสนธรรมดา กับ
เงินเท่านี้ ถ้าเอาระบบหรูๆ แต่เรือไม่ได้เลิศหรู แต่ก็ไม่กระป๋องแบบของจีน
เงินเท่านี้ต้องเลือกให้ดีที่สุดสำหรับภัยคุกคามและภาระกิจของเรือครับ
ท่านภูผมอยากเห็น ;)
ข่าวในไทยรัฐจะซื้อจีน2ลำ 36000ล้าน
ลมเปลี่ยนทิศเขียนข่าว
ท่ามกลางเศรษฐกิจตกสะเก็ด ยอดส่งออกเดือนกุมภาพันธ์ติดลบหนักถึง 6.1% สองเดือนแรกปีนี้ส่งออกติดลบไปแล้ว 4.8% อนาคตยังไม่รู้หมู่หรือจ่า ไทยมีปัญหาที่เสี่ยงต่อการถูก “แซงก์ชั่นทางการค้า” หลายเรื่อง ตอนนี้สายการบิน 4 สายรวมทั้ง การบินไทย ก็เพิ่งถูก องค์การบินพลเรือนญี่ปุ่น สั่งห้ามเพิ่มหรือเปลี่ยนเส้นทางบิน เพราะพบข้อบกพร่องเรื่องความปลอดภัยที่ กรมการบินพลเรือน ละเลยมานาน
การเก็บภาษีในประเทศต่ำกว่าเป้า สะท้อนถึงกำลังซื้อและเศรษฐกิจไทยที่กำลังถดถอยอย่างชัดเจน แต่ดูเหมือน รัฐบาลบิ๊กตู่ จะยังไม่รู้สึกตัวเท่าไร
วันก่อนมีข่าว กองทัพเรือ ของ พล.ร.อ.ไกรสร จันทร์สุวานิชย์ แม่ทัพเรือ กำลังขอซื้อ “เรือดำน้ำ” สองลำ วงเงิน 36,000 ล้านบาท โดยมี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯและรัฐมนตรีกลาโหม ให้การสนับสนุนว่า ไทยต้องมีเรือดำน้ำ เพราะมีความจำเป็น ประเทศเพื่อนบ้าน เช่น เวียดนาม ก็มีหมดแล้ว กองทัพเรือจะใช้งบประมาณของตนเองในการจัดซื้อ โดยผูกพันงบประมาณ 4–5 ปี
ก็เป็นเหตุผลที่แปลก เพราะภูมิศาสตร์ทางทะเลของไทยแตกต่างจากประเทศเพื่อนบ้านโดยสิ้นเชิง พื้นที่ทางทะเลของไทยส่วนใหญ่จะอยู่ใน “อ่าวไทย” ที่มี ความลึกเพียง 80 เมตร เท่านั้น ด้านฝั่งทะเลอันดามัน ก็มีเพียง กระบี่ พังงา ภูเก็ต ไม่กี่จังหวัด ออกไปก็เป็นทะเลลึก มีประเทศอินเดียอยู่ไกลโพ้น ไม่ใช่ศัตรูของไทย
คำถามก็คือ กองทัพเรือ จะซื้อ เรือดำน้ำ ไปรบกับใคร?
ถ้าบอกว่า ซื้อมาปกป้องทรัพยากรธรรมชาติในอ่าวไทย ก็คงจะแปลกอีก เพราะ น้ำทะเลในอ่าวไทยมีความลึกเพียง 80 กว่าเมตรเท่านั้น ถือว่าตื้นมาก เหมาะสำหรับ “เรือดำน้ำท่องเที่ยว” แต่ไม่เหมาะกับเรือดำน้ำที่เป็นเรือรบ ระดับน้ำแค่นี้ ต่อให้เรือดำน้ำดำลงไปจอดที่ก้นทะเลอ่าวไทย เครื่องบินข้าศึกก็มองเห็นหมด ทิ้งระเบิดใส่ได้สบาย
เรือดำน้ำจึงไม่เหมาะกับอ่าวไทย ดำได้ไม่กี่สิบเมตร ไม่สามารถรับมือกับข้าศึกบนฟ้าได้ เรือดำน้ำที่ไทยจะซื้อก็ติดขีปนาวุธไม่ได้เสียด้วย
ถ้าจะเอาเรือดำน้ำไปไว้ที่ ทะเลอันดามัน ก็ไม่รู้จะไปรบกับใครอีก เพราะไม่มีข้าศึก ดูจากแผนที่ภูเก็ต พังงาออกไปในทะเล ก็มีแต่ อินโดนีเซีย เพื่อนบ้านอาเซียนที่กำลังจะรวมเป็นหนึ่งเดียวในสิ้นปีนี้ ไกลออกไปก็เป็น อินเดีย ที่เป็นมิตรกับไทย
จึงยังมองไม่เห็นเหตุผลที่กองทัพเรือจะซื้อเรือดำน้ำไปปกป้องอธิปไตยที่ไหน
เรือดำน้ำ ไม่ใช่เรือธรรมดา เป็นเรือที่มีราคาแพงมาก เพราะต้องใช้เทคโนโลยีสูงในการสร้าง เพื่อรองรับแรงกดดันใต้น้ำมหาศาล อย่าง เรือดำน้ำรุ่นเวอร์จิเนียของสหรัฐฯ ลำหนึ่งตกประมาณ 2,600 ล้านเหรียญ เกือบ 90,000 ล้านบาท แต่เรือดำน้ำสองลำที่มีข่าวว่า กองทัพเรือ จะไปซื้อมาจาก ประเทศจีน นั้น ราคาลำละประมาณ 18,000 ล้านบาท สองลำก็ 36,000 ล้านบาท ราคาถูกเพราะใช้เครื่องยนต์ดีเซล ไปดำที่ไหนก็ถูกจับได้ง่าย เครื่องยนต์เสียงดัง แต่ก็ถือว่าแพงสำหรับเศรษฐกิจไทยยามนี้
แม้จะเพิ่งมีข่าวว่ากองทัพเรือจะซื้อเรือดำน้ำ แต่ก็มีข่าวว่า กองทัพเรือได้สร้างฐานทัพเรือดำน้ำและศูนย์ฝึกมูลค่า 540 ล้านบาทเสร็จเรียบร้อยแล้ว ที่จังหวัดชลบุรี
ก่อนหน้านี้เมื่อปี 2554 กองทัพเรือก็พยายามจะซื้อเรือดำน้ำมาแล้ว โดยจะซื้อเรือดำน้ำเก่าจากเยอรมัน 6 ลำ มูลค่า 7,700 ล้านบาท แต่ไม่สำเร็จ จึงเปลี่ยนใจจะไปซื้อเรือดำน้ำขนาดใหญ่ขึ้นจากเกาหลีใต้ 2 ลำ ก็ไม่สำเร็จอีก
ก็เป็นเรื่องที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี จะต้องคิดให้รอบคอบ
เราจะซื้อเรือดำน้ำไปรบกับใคร เหมาะสมกับเศรษฐกิจไทยยามนี้หรือไม่ เพราะเศรษฐกิจไทยกำลังอยู่ในขาลง การส่งออกก็ตกต่ำ ภาษีก็เก็บไม่ได้ตามเป้า ราคาพืชผลก็ไม่ดี เกษตรกรเดือดร้อนไปทุกหย่อมหญ้า จนรัฐบาลขู่จะขึ้นภาษี แต่กลับเอาเงินภาษี 36,000 ล้านบาท ไปซื้อเรือดำน้ำ ด้วยเหตุผลว่าเพื่อนบ้านก็มี ต้องคิดให้รอบคอบครับ.
“ลม เปลี่ยนทิศ”
โหวตข่าวนี้
ไม่ต้องให้เครดิตมากมายกับ คนเขียนคอลัมภ์นี้ครับ ลองไปค้นไปดูบทความเก่าๆถ้าเกี่ยวกับอาวุธจะให้ข้อมูลที่ไม่ถูกต้องบ่อยๆ แต่ถ้าข้อมูลเรื่องเศรษฐกิจจะค่อนข้างน่าเชื่อถือครับ
ใจไม่ดีตรงที่ซื้อของจีนนี่แหละ
จากข่าวผมก็เห็นด้วยนะครับว่าเศรษฐกิจแบบนี้จะซื้อเรือดำน้ำไม่เหมาะ แต่ถ้ามองอีกมุมบ้านเรามันกฺเศรษฐกิจแบบนี้มาแต่ไหนแต่ไร จะมีดีหน่อยก็ช่วงที่คนที่คุณก็รู้ว่าใครมากุมอำนาจ หลังจากนั้นก็ลุ่มๆดอนๆมาตลอดแบบนี้ก็แปลว่า ชาตินี้ไทยก็ไม่มีโอกาสได้เป็นเจ้าของเรือดำน้ำน่ะสิ
แต่ข้อมูลอาวุธผิดๆถูกๆแบบนี้ก็ไม่ควรนำมาเขียนข่าวนะครับ เพราะเป็นสื่อมวลชนก็ควรจะให้ข้อเท็จจริงที่แม่นยำ เช่น เรื่องอ่าวไทยตื้น ก็เถียงกันจนจบไปแล้ว แต่ที่ผมนึกขำก็คือเครื่องยนต์ดีเซลไปไหนก็รู้เพราะเสียงดัง ทั้งที่ความจริงมันเงียบยิ่ง เรือดำน้ำพลังงานนิวเคลียร์เป็นไหนๆ ศึกษาหน่อยก็ดีก่อนเขียนข่าว
อ่านข่าวแล้วก็บอกได้คำเดียวเลยว่า "บ้าไปแล้วครับ"ถ้าจะซื้อเรือดำน้ำจากจีน ด้วยงบประมาณมากขนาดนั้น (ถ้ากองทัพเรือได้รับงบขนาดนั้นจริงๆนะ!?!)
เงิน 36,000M.THB เท่ากับ 1USD = 32.58 THB = 1,104 M.USD สามารถซื้อ DSME 1400 มา สามลำ จากเกาหลีใต้ ซึ่งได้ดีลแบบเดียวกันกับของอินโดนีเซียเลยนะนั้น วางกำลังได้ทั้งทางฝั่งอ่าวไทยและฝั่งอัดามันเลย
ปล.ก็ไม่รู้นะว่ากลาโหมปล่อยข่าวลับลวงพรางหรือเปล่านะ ตอนเรือฟรีเกตสองลำเมื่อคราวที่แล้ว ก็ปล่อยข่าว ดีลของจีนออกมาแบบเดียวกันเป้ะเลยครับ อย่างนี้ต้องรอข่าวกรองเจ้าเก่าจากเจ้ วาสนา นาน่วมเสียแล้ว
ส่วนเรื่องการคอมเมนต์ของนักข่าวหรือผู้สื่อข่าว ก็ไม่ต้องแปลกใจอะไรมากเพราะตอนนี้รัฐบาลกับนักข่าวไม่ถูกคอกันอยู่แล้วเพราะนักข่าวเพิ่งโดยเฉ่งมาจากท่านนายกฯเรื่องการเสนอข่าวไม่ครบถ้วน
มีอย่างที่ไหนเอาราคาเรือดำน้ำพลังงานไฟฟ้าจากนิวเคลียร์ยกมาเป็นตัวอย่างเพื่อเปรียบเทียบกับเรือดำน้ำพลังไฟฟ้าดีเซลแค่นี้ก็ผิดคอนเซปแล้ว มันส่อเจตนาจะขัดขาอยู่ต่างหากล่ะ
ภาพปลากรอบ
.
.
.
.
.
เอ้ย ผิด ต้องแบบนี้
MEKO A200 Aegis ขออภัยเวอร์ชั่นนี้ผมมีแต่รูปเล็ก แต่ดูน่าจะเป็น16ท่อหน้า 16ท่อกลาง รวม32 ใช้เรดาร์SPG-62 3ตัวเท่าเรือชั้นBurkeเลย (F-100ใช้แค่2ตัวเอง)
มีอีกแบบ ไม่ใช่เอจิสแฮะเพราะไม่มีเรดาร์SPG-62 (ใช้APAR/SEAPAR ????) เหลือ24ท่อ แต่มีLRRด้วย (น่าจะSmart-L) โอเวอร์ไปไหนเรือขนาดไม่ถึง4000ตัน
MEKO A200 อัลจีเรีย (ภาพใหญ่ไปเยอะเลยแฮะ แต่ย่อแล้วมันไม่ชัดนี่สิ)
แหม่... นึกว่าท่านภูจะวาดรูปให้ดูเสียอีก พูดแล้วจะหาว่าโม้นี่ผมกำลังปวดหัวกับท่อยิงจรวดUmkhontoจากมุมบนอยู่เลย เพราะดันเป็นท่อกลมเดี่ยววางเรียงๆ กันแต่พอรุ่นGround-basedดันเป็นท่อสีเหลี่ยมติดกันเหมือนชาวบ้านแล้ว(แหงล่ะสิต้องเอามายึดกันนี่) จะเอาขนาดท่อเท่าMk41กลายเป็นใหญ่เทอะทะไปอีก พอดีเจอข้อมูลของSylverเข้าเลยทำมันเล็กลงเท่าSylver35แล้วกัน
ปล.ชอบจังปืนเรือขนาด5นิ้วเนี่ย
อ้าว งั้นแก้ตัวใหม่ครับ :v
ผมว่าบทความของท่าน ลม เปลี่ยนทิศ นี้เป็นตัวอย่างที่ดีมากเลยครับ เพราะเห็นเขากำลังคุยๆเรื่องปฏิรูปสื่อกันอยู่ :)
สีบเนิ่องจากในบล๊อกที่คุณAAG_thเขียน "ทะเลไทยตื้นเกินไปสำหรับเรือดำน้ำ" และ "เรือดำน้ำไม่มีความจำเป็นสอดคล้องกับสภาพเศรษฐกิจของไทยในปัจจุบัน" และพูดถึงเรือ SS 315 sealion (Balao Class)ที่มาปฎิบัติการในอ่าวไทยในช่วงสงตรามโลกครั้งที่2 เลยขอนำข้อมูลมาแบ่งปันครับ เพราะเรือลำนี้มีความพิเศษคือหลังสงครามโลกครั้งที่2 ได้มีการดัดแปลงเรือโดยเพิ่มดาดฟ้าเป็นลานจอดhelicopterเพื่อภาระกิจลำเลียงขนส่งหน่วยปฎิบัติการพิเศษและเปลี่ยนจากSS-315 = attack submarineเป็น ASSP-315 = transport submarine
ขนาดของเรือSS-315 sealion ที่ใหญ่มากระวางขับนำ้1,526 long tons L x B x D = 95.02 x 8.31 x 5.13 m
เทียบกับเรือแถวบ้านที่เล็กกว่าอย่าง Chang Bogo Class ระวางขับนำ้1,2xx long tons L x B x D = 61 x 5.3 x 5.5 m
เทียบกับเรือใหญ่อย่าง kilo Class ระวางขับนำ้2,300–2,350 tons L x B x D = 74 x 9.9 x 6.5 m
เทียบกับเรือข้างบ้าน KD Tunku Abdul Rahman ระวางขับนำ้1,577 tons L x B x D = 66.4 x 6.2 x 5.4 m
นั่นหมายความว่าเรือเหล่านี้สามารถแอบหนีเมียมาพัทยาได้ amazing thailand 55555555555
ในภาพเปรียบเทียบเป็นเรือSS-417 Tench (Tench Class) เป็นรุ่นที่พัฒนาต่อจาก Balao Classแทน เนื่องจากมีขนาดเรือที่ใกล้เคียงกันครับ