ใครเห็นด้วยบ้าง ผมว่าโอกาสที่เป็นไปได้ที่สุดๆล่ะ
ไม่น่าเป็นไปได้น่ะครับ
500 ตัน ใหญ่กว่าเรือดำน้ำที่เราเคยมีนิดเดียวเอง เป็นเรือดำน้ำใกล้ฝั่งเเล้วล่ะครับ ระยะทำการเเละระยะเวลาการรับกำลังบำรุงสั้น สิ่งที่เราต้องการตอนนี้คือเรือดำน้ำที่มีระยะปฏิบัติการค่อนข้างมาก เเละไม่จำเป็นต้องรับการส่งกำลังบำรุงบ่อย ขั้นต่ำๆก็คง 1200-1400 ตันละครับ
เเต่ถึงเรามีเรือดำน้ำขนาด 1200-1400 ตันเเล้ว ผมว่าก็ไม่น่าจะมีการจัดหาหรอกครับ เราจะจัดหาเรือดำน้ำขนาดเล็กมาทำไมในเมื่อไม่มีความจำเป็นขนาดนั้น
ผิดพลาดอย่างไรขออภัยด้วยครับ
ผมว่าถ้าจะได้เรือดํานํ้าเกาหลีใต้ 500ตัน เพราะราคามันถูกกว่ารุ่นอื่นทุกรุ่น ดีสุดเราก็ได้ 210 mod แต่ถ้าเรา เอา dswe1400t เราคงดําในอ่าวไทยไม่ได้ต้องปฏิบัติการออกนอกอ่าวไทยใกลจากอ่าวไทยสถานเดียว
ลองช่วยเทียบราคา ของ HDS-500RTN กับ 210mod และDSWE1400T หน่อยครับว่าราคาเท่าไหร
เรือฟริเกตสมรรถนะสูง ราคาประมาณโครงการ ตันละ 4,000,000 บาท...
เรือดำน้ำ จะประมาณราคาเท่าตัวของเรือฟริเกต ก็คือ ประเมินโครงการ ตันละ 8,000,000 บาท
เรือขนาด 500 ตัน น่าจะประมาณ 4,000 ล้านบาท
จึงประเมินว่า เรือดำน้ำ ขนาด 500 ตัน จะได้ประมาณ 3 ลำ เมื่อเทียบกับเรือดำน้ำ ระวาง 1,400 ตัน จะได้เพียง 1 ลำ
และน่าจะจัดเป็นเพียง เรือดำน้ำใกล้ฝั่ง.....
ถ้า กองทัพเรือ จัดหามาใช้งานจริง...
กองทัพเรือ ก็น่าจะกลับไปสู่ การวางกองกำลังเรือดำน้ำ ประกอบเรือหลาย ๆ ขนาด...เหมือนยุคเริ่มต้นการจัดหาเรือดำน้ำ...
คือ เรือดำน้ำใกล้ฝั่ง จำนวน 4 ลำ...
เรือดำน้ำระวาง 1,200 - 1,400 ตันขึ้นไป จำนวน 2-4 ลำ...
210mod ก็ 12000 ล้านบาทถ้า ทร ใจ ถึงก็พอไหว
มีความเป็นไปได้ไหมถ้าเราซื้อ HDS-500RTN จริงเราจะได้รับถ่ายทอดเทคโนโลยี่พร้อมกับต่อเรือดํานํ้ารุ่นนี้ที่ไทยเลย
ถ่ายทอดเทคโนโลยีต่อเรือดำนน้ำคงไม่ได้หลอกครับ ผมว่าตอนนี้ ถ้าจะรับการถ่ายทอดความรู้เรื่อต่อเรือ เอาเรือรบแท้ แบบฟรีเกต คอเวทก่อนจะดีกว่า
พูดตามตรงเลยนะคุณคิดว่า ทร.เค้าอยากได้เรือดำน้ำ แค่ 500 ตันมาใช้งานหรือ???
เอ้อวิเคราะห์กันไปซะต่างๆนาๆ คิดว่าถ้ารัฐบาลจะจัดหาเรือดำน้ำโดยการแลกกับสินค้าเกษตรกับรัสเซียอย่างเดียวหรือครับ มันเป็นไปไม่ได้หรอกครับ โดยความคิดเห็นส่วนตัวผมเชื่อว่า เราต้องใช้เงินบวกกับราคาสินค้าเกษตรไปด้วยแน่ๆครับ
สมมุติราคายางอยู่ที่ ประมาณ 3,500 ล้านบาท แล้วถ้าบวกเงินเข้าไปด้วย อีกซัก 8000 ล้านบาท ก็ได้เรือ DME 1400 มาใช้อย่างน้อย 1ลำแล้วครับ(แค่สมมุติเท่านั้นนะครับ) แต่ในเบื้องต้นอย่าเพิ่งไปสรุปว่าจะมีสินค้าเกษตรแค่เฉพาะยางพาราแต่เพียงอย่างเดียว รอฟังข่าวก่อนดีกว่า
(แล้ว ถ้าเคสนี้เป็นจริงแนวโน้มหวยของเรือดำน้ำน่าจะไปออกที่พี่หมีแล้วละครับ ถึงตอนนั้นสาวกิมจิของผมคงจะแห้วซะแล้ว)
แล้วปีนี้ยังไงๆเรือดำน้ำก็ยังไม่ได้แน่ๆ แต่รัฐบาลได้อนุมัติ พรบ.ภาษีที่ดินและมีผลบังคับใช้ในปีนี้อีกด้วย ซึ่งน่าจะสามารถจัดเก็บภาษีได้เพิ่มขึ้นจากเมื่อปีที่ผ่านมา มีการประมาณการในเบื้องต้นที่ระหว่าง 250,000 - 300,000 ล้านบาทครับ คิดว่าเรือดำน้ำน่าจะต้องรอถึงปีหน้า2559นู้นแหละ ถึงจะมีเงินมาสมทบกับสินค้าเกษตรเพื่อซื้อเรือดำน้ำมาใช้
อย่าเพิ่งเดาอะไรไปก่อนดีกว่ามั้งครับ RFPก็ยังไม่ออก อาจจะบอกอยากได้1000-2000ตันก็ได้ นี่เรือเกาหลีไม่มีเครื่องดีเซลอีกนะ
ว่าแต่ราคาเรือกระดาษอย่างHDS-500หรือ210mod ไปเอามาจากไหนกันล่ะนั่น ถึง210เฉยๆจะเคยมีแล้วก็เถอะ
ภาษีที่ดินนะเลื่อนไปแล้วครับ อย่างไม่มีกำหนด http://money.sanook.com/263547/
ปล เรือดำน้ำทั้งหลายที่เสนอมา รายละเอียดเป็นยังไงยังไม่เห็นกันเลยครับ ทำไมเชียร์กันจัง
เฮ้อ พวกเศรษฐีที่ดินก็คงจะรอดตัวไปอีกตามเคย สุดท้ายประเทศชาติก็คงได้แค่นี้แหละครับ
ถึงท่าน Obeone
เรือดำน้ำจิ๋ว 500 ตัน รัสเซียไม่ได้ผลิตรุ่นนี้ส่งออกไม่ใช่หรือ แล้วจะเอายางพาราไปแลกกันอีท่าไหน ฮึ...
เรือรัสเซียที่มานำเสนอกับทางกองเรือดำน้ำ ขั้นต่ำ AMUR 950 นะเท่าที่ดูข่าวจากใน เวป TAF ไม่มีไซด์เล็กกว่านี้แล้ว
อ่านจากกระทู้นี้แล้วรู้สึกงงๆ ว่าเรือดำน้ำโปรเจกต์ของเกาหลีกับเยอรมัน ไปเกี่ยวข้องอะไรกันกับโครงการแลกสินค้าเกษตรกับอาวุธระวางไทยกับประเทศรัสเซียว่ะเนี่ย กระทู้นี้มันต่อเนื่องมาจากกระทู้ก่อนหน้ารึเปล่า
และอีกอย่างหนึ่ง สำหรับเรือดำน้ำมันยังเร็วเกินไปที่จะไปเหมารวมเป็นเรื่องเดียวกันกับการแลกสินค้าเกษตรกับทางรัสเซียนะ
ถ้าอย่างเครื่องบินฝึก yak-130 กับ Buk-1 ของรัสเซีย อ้างอิงตามท่าน nakarin ในกระทู้ก่อนหน้านี้ยังพอมัความเป็นไปได้หน่อย
ผมว่าทางรัสเซียเค้าก็ต้องดูความเหมาะสมว่าจะเอาอาวุธอะไรมาแลกกับสินค้าเกษตรเราด้วยนะครับ ได้หมายความว่าจะแลกไปได้ซะทุกอย่างครับ
ถ้าจะเอาแค่ 500ตัน ไปซื้อแบบเรือ ส. เกาหลีเหนือที่ขายให้อิหร่าน มาต่อเอง ยังดูดีกว่าเลยครับ....
ฮา เห็นตามคุณ woot1980 เหมือนคุณ obeone จะคิดแทนคนอื่นแล้วก็จัดแจงเถียงในเรื่องที่ไม่มีใครพูดถึงเฉยยย..
กระทู้ก่อนผมก็โดนไปแบบงงๆ
อ่าวไทยมันไม่ได้ตื้นอย่างที่กลุ่มนักวิชาเกิน(ที่ต้านทหารเป็นทุนเดิม)อ้างหรอกครับจขกท. ขนาดเรือดำน้ำพลังงานนิวเคลียร์(ใหญ่โตมกาๆ แต่ไม่รู้ว่าชื่ออะไร ใครรู้บอกที)ของสหรัฐยังผ่านเข้ามาได้เลย
เรือดำน้ำขนาด 500 ตันผมว่ามันเหมาะสำหรับการฝึกมากกว่า
ดูจากพื้นที่อ่าวไทย ถ้าเรือดำน้ำขนาดเล็กจะต้องไปปฎิบัติการถึงปลายแหลมญวน ลงไปถึงช่องแคบมะละกา โดยไม่ไปถึงเขตทะเลจีนใต้และเกาะเบอร์เนียวเหนือ ผมให้ระยะทางประมาณไปถึงปลายแหลมญวนที่ 2,000 กิโลเมตร
เรือ KSS-500A ไม่มีเครื่องดีเซลสำหรับชาร์จแบต แต่แบตสามารถทำงานต่อเนื่องได้ 20-21 วันที่ความเร็ว 8 - 10 น๊อต ก็ตก 20 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ดังนั้นใน 1 วัน หรือ 24 ชั่วโมง ก็เดินทางได้ไม่ต่ำกว่า 450 กิโลเมตรนะ ดังนั้นระยะทาง 2,000 Km. ก็คงต้องใช้เวลาเดินทาง 5 วัน ถ้านับเวลาไปและกลับ ก็ตก 10 วัน ดังนั้นจึงมีเวลาแล่นเรือเล่นแถวปลายแหลมญวนประมาณอีก 10-11 วัน โดยไม่ต้องโผล่พ้นน้ำเพื่อทำการชาร์จแบต มันก็อยู่ในสภาพเหมือนเครื่องยนต์ AIP ไปในตัว กลายเป็นว่าระบบ AIP ไม่จำเป็นสำหรับเรือดำน้ำเฝ้าบ้าน
เรือ HDS 500 RTN ตามข่าวข้างล่าง ออกแบบตามความต้องการของลูกค้า คือ ทร. ไทย ดังนั้นผมว่า ทร. คงกำหนดให้มันใกล้เคียง type 206A ที่เราเคยเกือบจัดหามาก่อนหน้านี้ ก็มีระวางขนาดพอๆกันนี่ครับ
ดังนั้น ผมเดาว่า ทร. คงกำหนดสเปกให้มีเครื่องดีเซลอยู่ด้วย และคงกำหนดให้มีท่อยิงตอร์ปิโด 533 ไม่ต่ำกว่า 6 ท่อยิง และถ้าระบบแบตของ HDS 500 RTN มันสามารถทำให้เรือดำน้ำได้โดยไม่ต้องชาร์จแบตได้นานถึง 20-21 วันแบบ KSS 500A ผมว่าแบบนี้ระบบ AIP ก็ไม่มีความจำเป็น
จาก face ของกองเรือดำน้ำ เขาคาดว่าราคา DW 1400T น่าจะราคาไม่น้อยกว่า 15,000 บาทนี่ครับ โดยดูจากราคาทั้งโครงการของเรือดำน้ำที่อินโดจัดหาจากเกาหลี 3 ลำ ซึ่งไม่น่าจะมีระบบ AIP ด้วย
1 ลำของ DW-1400T ถ้าสามารถจัดหา HDS 500 RTN ได้ 3 ลำจริงๆ ผมว่าจัดหาทีเดียว 6 ลำ เพื่อให้ครบ 1 กองเรือดำน้ำและสามารถปฎิบัติการได้ 100% เต็มไปเลยดีกว่าครับ
ตามความเห็นของผม เผลอๆ 1 ลำของ DW-1400T อาจจะสามารถจัดหาได้ 4 ลำของ KSS 500A เอาด้วย
และเนื่องจาก 911 เองก็ไม่ได้มีเครื่องบินชับไล่ประจำเรืออีก โดยต้องพึ่งพาระบบการป้องกันภัยทางอากาศจาก JAS-39 และ SAAB 340 ดังนั้น 911 เองก็คงไม่พร้อมที่จะไปปฎิบัติการในเขตทะเลจีนใต้ หรือไกลกว่านั้นโดยไม่มีเครื่องบินขับไล่ประจำเรือ แบบนี้ก็ต้องแล่นไปมาในระยะที่ Jas-39 และ TEAM บินไปถึง ซึ่งระยะแค่ปลายแหลมญวนมันก็แทบจะสุดระยะคุ้มครองแล้ว
ถ้าจะเอาเรือดำน้ำมาคุ้มกันกองเรือ 911 ซึ่งก็คงไปไม่ถึงทะเลจีนใต้ แบบนี้ type 206A KSS 500A HDS 500 RTN ซึ่งต่างก็มีระวาง 500 -600 ตัน มันก็น่าจะพอแล้วนี่ครับ
ยกเว้นจะจัดหาเครื่องบินขับไล่ประจำเรือ หรือ จัดหาเรือบรรทุกบ.เบาลำใหม่ที่เป็น CATOBAR สามารถบรรทุกเครื่องขับไล่แบบ sea gripen แบบนี้ก็คงต้องหาเรือดำน้ำที่สามารถตามไปได้ถึงทะเลจีนใต้ ออสเตเรีย มหาสมุทรอินเดีย แบบนั้นคงต้อง 2000 -4000 ตัน แบบที่สิงคโปร์จัดหา type 216/218 หรือ โซริว แบบญี่ปุ่น
ว่าแต่สิงคโปร์จะเอาเรือดำน้ำใหญ่ขนาดนั้นไปปฎิบัติการไกลจากบ้านตัวเองมากๆทำไม แถมมีท่อยิง VLS ด้วย หรือข่าวที่ลือกันว่าสิงคโปร์จะสร้างเรือบรรทุกบ.ขนาดเล็กสำหรับ F-35 จะจริง
KSS 500A มีการต่อเข้าประจำการกันจริงๆแล้วโดย ทร.เกาหลีใต้ ส่วน HDS 500 RTN นั้น ตามข่าวข้างล่าง ก็ดัดแปลงมาจากแบบ KSS 500A โดยดัดแปลงตามความต้องการของลูกค้าคือ ทร.ไทยของเรานี่ครับ ดังนั้น สเปกเรือผม....เดา...ว่าคงออกมาแนวๆ type 206A แน่นอน คือ มีเครื่องยนต์ดีเซล และต้องมีท่อยิงตอร์ปิโดหนัก 533 mm อย่างน้อย 6 ท่อยิง ซึ่งพอๆกับ SMX 23 ของฝรั่งเศส ที่มีขนาด 800 กว่าตัน และเรืออาจมีขนาดมากกว่า 600 ตันก็เป็นได้ครับ
ผมขอภาวนาว่า แม้จะมีเครื่องดีเซลแล้ว แต่ขอให้ระบบแบตของเรือ HDS 500RTN จะสามารถดำใต้น้ำได้นาน 20-21 วันแบบ KSS 500A โดยไม่ต้องขึ้นมาชาร์จแบตครับ
คือถ้าไม่มีเครืองดีเซลอย่าเอามาเลยครับ เพราะแปลว่า replacment at sea ไม่ได้เลย ต้องกลับเข้าฝั่งอย่างเดียว
ถามหน่อย 2000ไมล์ทะเลและ5000ไมล์ทะเล เท่ากับกี่กิโลเมตร ครับ
ก็อย่างที่เขียนล่ะครับท่าน skysky ที่ HHI เสนอให้ทร.ไทย ก็คือ HDS 500RTN ครับ ไม่ใช่ KSS 500A ซึ่งข้อมูลข่าวบอกแล้วว่าใช้ KSS 500a เป็นพื้นฐานโดยสร้างตามแบบที่ลูกค้าต้องการ ดังนั้นผมว่าสเปกมันไม่น่าจะมีแค่แบตโดยไม่มีเครื่องดีเซล ผมมั่นใจว่า ทร. คงจะแสดงความต้องการสเปกใกล้เคียง type 206A ของเยอรมันเป็นหลักนะครับ
สรุป ยังไงผมก็มั่นใจว่า HDS 500RTN น่าจะมีเครื่่องยนต์ดีเซล
ปล. ท่าน Bok01 ตั้งใจถามใช่ไหมครับเนี่ย.......แล้วท่านว่า 1 ไมล์ ทะเลมันเท่ากับกี่กิโลเมตรกันล่ะครับ อยากได้ความรู้พิเศษจากท่านกูรูเพิ่มมากครับ
ปล. สุดท้าย type 206A เล็กจิ๋ว 500 ตันเองครับ แต่ทร.แสดงความต้องการเป็นอย่างมากในคราวที่แล้ว แสดงว่ามันใช้ได้ดีในอ่าวไทยครับ
แก้ไขเพิ่มเติมครับ เอาตัวเลขตรงๆไปเลย 1.85 กฺโลเมตร = 1 ไมล์ทะเล
1 น๊อต = 1 ไมล์ทะเลต่อชั่วโมง หรือประมาณแบบหยาบๆตัวเลขกลมๆ 20 Km/Hr ครับ ข้อมูลที่ผมแสดงเป็นการประมาณแบบหยาบๆเพื่อประกอบการพูกแบบรวดเร็วให้เห็นภาพว่า 2,000 Km. เศษ เรือที่เดินทาง 10 น็อต จะสามารถถึงที่หมายระยะทางเท่านี้ใน 5 วัน ครับ
อ่านจากที่ท่าน neo ให้เหตุผล/วิเคราะห์มาแล้วผมก็เริ่มคล้อยตามไปว่า ด.ขนาดเล็กที่ว่าอาจจะเพียงพอกับการป้องกันอ่าวไทย/ยุทธศาสตร์เชิงรับในอ่าวไทย อันนี้ก็ต้องสละเรื่องอาวุธปล่อยสำหรับเป้าหมายผิวน้ำ/บนฝั่ง รวมทั้งความสามารถในการปล่อยหน่วยรบพิเศษ(หรือเปล่า) แต่ขอเป็นแบบจิ๋วฝั่งละสองลำ แล้วก็มีอีกสองที่เป็นแบบ212 อีกฝั่งละ1ลำละกัน
ปล. ท่าน bok01. 1 ไมล์ทะเล = 1.852 กม ครับ
อ่าวไทยมันก็ตื้นจริงๆ แหละ แต่ไม่ได้แปลว่าเรือดำน้ำปฏิบัติการไม่ได้เลย ลำเล็กๆ ได้อยู่แล้ว แต่ลำใหญ่ๆ เช่นพวกนิวเคลียร์ของสหรัฐฯ ที่มาเยี่ยม อ้นนั้นเข้าใจว่าเขาต้องวิ่งตามร่องน้ำนะครับ และไม่แน่ใจว่าจะดำลงไปได้เท่าไร ไม่น่าจะมาก สรุปว่าถ้าต้องการไว้ปฏิบัติการในอ่าวไทยให้ทั่วถึงและยืดหยุ่นต้องลำเล็กๆ หน่อยแหละ แต่ถ้าจะไปเที่ยวไกลๆ ก็ต้องลำใหญ่
ผมเองคิดว่ามีเจ้าต้ว 500 ตันก็ไม่เลวทีเดียว ราคาน่าจะถูกด้วยซึ่งน่าจะจัดหายได้ง่ายกว่า ยิ่งเกาหลีแล้วด้วยเหมือนมันมีพลังอะไรบางอย่างดันอยู่ข้างหลัง ฮา
ผมคิดว่าไทยเริ่มที่ HDS 500RTN ก็น่าจะดีน่ะครับ เพราะ
1. งบประมาณน่าจะพอจัดหาได้ขั้นต้น 1-2 ลำ (โดยโดนคัดค้านน้อยสุด)
2. มั่นใจว่าใช้งานในอ่าวไทยได้แน่ๆ
3. ใช้ฝึกประสบการณ์ให้ทหารเรือก่อนจนบุคคลากรมีจำนวนมากพอและมีความชำนาญเพียงพอ อนาคตค่อยจัดหาเรือขนาดใหญ่ขึ้น
ผมรู้นะครับว่าอะไรบางอย่างที่ดันอยู่ข้างหลังคืออะไร แต่ถ้าอะไรบางอย่างดุนอยู่ข้างหลังอันนี้ตัวใครตัวมันนะครัช ;)
โดยส่วนตัวคิดว่า500ตันเล็กเกินไปสำหรับทุกภาระกิจ แปลว่าถึงซื้อมา3ลำในราคาลำใหญ่ลำเดียวแล้ว ต่อไปในอนาคตก็ต้องซื้อลำใหญ่อีกอยู่ดี เรื่องสเป็กไม่รู้จริงๆแต่ราคาน่าจะอยู่แถวๆ2ต่อ1หรือมากกว่านั้นมากกว่า3ต่อ1นะครับ เพราะอะไรน่ะเหรอ เพราะราคาเรดาร์โซนาร์และอุปกรณ์ต่างๆมันไม่ได้เล็กตามขนาดเรือไปด้วยนี่ครับ ยังไงก็ต้องใส่ของที่มีขายในท้องตลาดจากเยอรมัน(จะเอาถูกลงมาหน่อยก็จากยุโรป)อยู่ดี เพราะไม่มีใครผลิตโซนาร์ตัวเล็กมากราคา1ใน3จากปรกติแน่ๆ และปัจจุบันเรือดำน้ำก็มักจะติดโซนาร์3-4ตัวเข้าไปแล้วส่วนนี้ตีเป็นเงินก็ไม่ใช่น้อยๆ ยิ่งใส่อุปกรณ์ต่างๆเข้าไปมากเท่าไหร่ราคาก็ยิ่งแพงมากขึ้นตามระเบียบพัก
นอกจากว่าเราจะเอาแต่ตัวเรือเพียวๆ โดยติดโซนาร์ราคาถูกตัวเดียวมาใช้งานไปก่อนอันนี้ไม่ว่ากัน จนถึงตอนนี้ผมก็ยังไม่ปันใจให้เรือลำใดเลยนะ แต่ถ้าญีปุ่นจะขอเข้าร่วมในดีลนี้ด้วยอาจเปลี่ยนกระทันหัน 5555
ถ้าให้ HDS 500RTN ปฏิบัติการนอกอ่าวไทยจะไปใกลสุดได้ประมาณไหนหว่าแล้วตรงแหลมญวน นี่ความลึกสุดกี่เมตร สงสัย ถ้าให้ดีช่วยทําแผนที่รัศมี ว่าเรือแต่ละรุ่นไปใกลได้ประมาณไหน
HDS 500RTN 2000ไมล์ทะเลจะได้ประมาณ 3,710 กิโลเมตร ส่วน210mod 5000ไมล์ทะลจะได้ประมาณ 9275 กิโลเมตร (1000ไมล์ทะเลละ 1855 กิโลเมตร)
ถึงคุณ bok01
แผนที่บอกระยะความลึกของทะเลไทย รูปนี้เคยมีสมาชิกท่านหนึ่งเคยโพสต์ไว้แต่ผมจำชื่อไม่ได้
แล้วก็รูปการเปรียบเทียบระยะความสูงของเรือดำน้ำแบบต่างๆกับระดับความลึกของใต้ทะเลไทยทั้งทางฝั่งทะเลอันดามันและทะเลอ่าวไทย
โดยความคิดเห็นส่วนตัวระยะความลึกที่เหมาะสมในอ่าวไทยที่จะใช้เดินเรือดำน้ำในการลาดตระเวนน่าจะที่ระยะความลึก 40 เมตรลงไปครับซึ่งถ้าดูจากรูปแผนที่แล้วพื้นที่ที่ระดับความลึกดังกล่าวจนไปถึง 80 เมตรเป็นพื้นที่ไม่ใช่น้อยๆสำหรับภาระกิจของกองเรือดำน้ำในการป้องส่วนภัยจากใต้ทะเล เพราะฉะนั้นใครที่บอกว่าอ่าวไทยไม่เหมาะจะมีเรือดำน้ำกรุณาพิจารณาตามแผนที่ได้เลยครับ ในส่วนทางฝั่งทะเลอันดามันไม่น่าจะมีปัญหาอะไรกับระดับความลึก
เรื่องระดับความลึกที่เหมาะสมที่ถกเถียงกันมันเป็นไปใด้มั็ยครับว่ามองกันคนละมุม.... คือถ้าว่ากันที่ระดับความลึกตำ่สุดที่ ด ขนาดกลาง-เล็กสามารถดำใด้มันก็คงชัดเจนว่า 20เมตรลงไปก็ดำใด้แล้ว แต่ถ้ามองในแง่การต่อต้านเรือดำน้้ำในความลึกระดับอ่าวไทย(ในฐานะตั้งรับในบ้าน)นั้นมันอาจจะง่าย/ถูก/มีประสิทธิภาพที่สุดโดยใช้ทุ่นระเบิดมั๊ยครับ ประมาณว่าแทนที่จะเอา ด มาเฝ้าอ่าว ก็ วางทุ่นระเบิดลงไปเยอะๆ เมื่อความลึกไม่มาก ความหนาแน่นของทุ่นระเบิดเทียบกับ volume ของน่านน้ำที่ต้องคุ้มครองก็สูง ใครคิดจะเอา ด เข้ามาในเขตุอ่าวไทยก็ต้องคิดหนักอยู่นะ... แต่ผมไม่อินกับ ตรรกกะนี้นะ แค่พยายามจะคิดแบบคนที่คัดค้านโครงการ ด. ผมว่าจะป้องกันประเทศมันต้องมีทั้งตั้งรับ และ รุก อีกอย่าง มันไม่ตอบโจทย์ทางอันดามัน
ชอบการวิเคราะห์ของคุณทองวริต เรื่อง โซนาร์ในเรือ ด. เลยพาให้คิดไปถึงว่า ด จิ๋วของเกาหลีนั้น สเปกโซนาร์จะเป็นยังไง และลำตัวเรือใช้วัสดุที่ไม่เหนี่ยวนำสนามแม่เหล็ก / ลดการสะท้อนโซนาร์หรือเปล่า
แนวความคิดจะใช้ทุ่นระเบิดวางเอาไว้รอบอ่าวไทยแล้วคิดว่าจะสามารถป้องกันทะเลอ่าวไทยเราได้เนี่ยเลิกคิดไปได้เลยครับ
1.มันเป็นดาปสองคมผู้ที่เดือดร้อนก็คือเรือประมงและเรือเดินสมุทรของฝ่ายไทยเรานี่แหละเพราะกองทัพเรือไม่มีทางเปิดเผยตำแหน่งที่นำทุ่นระเบิดไปวางเอาไว้แน่ๆ (ป้องกันข่าวจากสายลับ)
2. คิดหรือว่าฝ่ายศัตรูผู้รุกรานจะไม่นำเรือกวาดทุ่นมาด้วย ก็แค่ช่วยประวิงเวลาได้ซักระยะหนึ่ง ทุ่นระเบิดผมว่าควรจะเป็นทางเลือกสุดท้ายจะดีกว่านะครับ (ตอนวางนะวางง่าย แต่เวลาจะเคลียร์นะเคลียร์ยาก)
ทะเลตื้นนะมันมีข้อดีคือเวลาต้องจอดซุ้มกบดานอยู่ใต้น้ำจะทำได้ง่ายกว่าอยู่ในทะเลลึก
ความเหมาะสมของเรือดำน้ำขนาดเล็กหรือขนาดกลางกับทะเลอ่าวไทยเรานั้น ถ้ามองในแง่การใช้งาน บอกได้เลยว่าขนาดเล็กก็จะมีข้อดีคือมันถูกตรวจจับจากโซน่าได้ยากกว่าขนาดของเรือดำน้ำลำใหญ่ และมีความคล่องตัวมากกว่าแต่ระยะปฏิบัติการมันสั้นกว่ามาก
ซึ่งในแง่ของศักดิ์ศรี เชื่อผมดิยังงัยๆกองทัพเรือก็ไม่ยอมซื้อเรือดำน้ำที่มีระดับชื่อชั้นที่เป็นรองชาติเพื่อนบ้านเราแน่ๆ
เรือดำน้ำลำเล็กแต่ดีราคาถูก แต่ไม่โดนใจทั้งกับทหารเรือ และแฟนคลัปกองทัพไทยอย่างผมแน่ๆครับ
บอกตรงๆ ถ้าคิดจะเอาเรือดำน้ำ 500 ตัน ราคา 4000ล้านบาท ผมยอมกัดลิ้นตัวเอง เพิ่มตังค์อีกนิด เอาเรือ yuan type 039 เอามาแล่นในอ่าวไทยยังจะดีเสียกว่า
ก๊อปมาจาก วิกิน่ะครับ คือพออ่านคร่าวๆผมเข้าใจว่าทุ่นระเบิดมันมีหลายแบบ และมีเป้าหมายการใช้งานต่างกันไป แบบ 1-3 ก็คงเป็นแบบดักเรือผิวน้ำ 4-7 ก็น่าจะมีเป้าไปที่เรือดำน้ำ ยกเว้นแต่ว่าเอาไปวางในน้ำตื้นมากๆเรือผิวน้ำลำใหญ่ๆที่กินน้ำลึกมากๆก็อาจโดนใด้
โดยเฉพาะอันที่ 5 -7 ถ้าวางที่ก้นทะเลในระดับน้ำ 40 ม เรือดำน้ำก็จะถูกบังคับให้ดำใด้แค่ตื้นๆ หรือต้องลอยคอ... อันนี้ก็ต้องให้ผู้รู้มาช่วยชี้แจงอีกทีครับ
อ้อ อีกอย่าง มันจะเป็นไปใด้มั๊ยที่ทุ่นระเบิดใน ศว ที่21 จะมี ชิประบุตำแหน่งโดยGPS (คิดเล่นๆ)
Types of Naval mines: A-underwater, B-bottom, SS-Submarine. 1-Drifting mine, 2-Drifting mine, 3-Moored Mine, 4-Moored Mine (short wire), 5-Bottom Mines, 6-Torpedo mine/CAPTOR mine, 7-Rising mine
ทุ่นระเบิดไอ้ลักษณะที่คุณว่ามานะมันเอาไว้ใช้ในเขตทะเลนอกเส้นทางลาดตระเวนของเรือรบคือเอาไว้เพื่อป้องกันเอาไว้ในยามสงคราม
แล้วในยามสงบคุณจะเสียเงินซื้อทุ่นระเบิดมาวางไว้หน้าบ้าน(อ่าวไทย)เพื่ออะไรกันครับ ?
ให้แง่คิดนะ
1. คุณคิดว่าไอ้ทุ่นระเบิดที่วางฝั่งไว้ใต้น้ำมันมีอายุการใช้งานไหมป้องกันได้นานกี่ปี แล้วต้องซื้อมากี่ลูกเพื่อเอามาวางให้ครอบคลุมในพื้นที่ป้องกันของอ่าวไทย แล้วทุ่นระเบิดราคาต่อลูกเท่าไรครับโดยเฉพาะ แบบ ที่ 5-7 ที่คุณยกตัวอย่างมานะ
2. ทุ่นระเบิดในศตวรรษ ที่ 21 มี GPSแล้วยังไงครับ เรือประมงและเรือเดินสมุทรในอ่าวไทยบ้านเรามีกี่ลำหลักพันหรือเกือบหมื่นครับ คือนี่จะต้องโยนภาระให้ชาวประมงกับบริษัทเดินเรือเดิยสมุทรเอกชนเค้าเสียเงินไปติดเครื่องรับสัญญาน GPS จากทุ่นระเบิดอีกหรือ
แต่ถ้ารัฐจะต้องออกเงินให้ติดตั้ง เครื่องรับ GPS จะต้องสูญงบประมาณอีกเท่าไร ยุ่งยากขนาดนั้นซื้อเรือดำน้ำเลยดีกว่าไหม?
3. GPSจากทุ่นระเบิด ที่ว่า มัน security ไหมถ้าขนาดเรือประมงบ้านๆหรือเรือเดินสมุทรทั่วๆไปสามารถรับสัญญาณได้แล้วทำไมเรือจากฝ่ายข้าศึกเค้าจะจูนสัญญาณรับบ้างไม่ได้หรือไง
4. เทคโนโลยีของเรือกวาดทุ่นในศตวรรษที่ 21 คุณคิดว่ามันทันสมัยกับทุ่นระเบิดในอุดมคติของคุณรึเปล่าล่ะ
5. สุดท้ายแล้วการมีเรือดำน้ำเอาไว้ใช้งานมันเป็นอาวุธที่สามารถใช้งานได้ทั้งในเชิงรุกและเชิงรับ แต่ทุ่นระเบิดมันเป็นอาวุธเพียงแค่เชิงรับเท่านั้น และถ้ามันดีกว่าจริงคุ้มกว่า ผมว่าชาติเพื่อนบ้านเค้าคงไม่ลงทุนซื้อเรือดำน้ำหรอกครับ
นี่คือแง่มุมและแง่คิดของผมครับ
คุณWoot1980
คือที่เขียนตอบโต้ผมมายืดยาวเนี่ย.... ตรงใหนที่ผมไปเสนอว่าเอาทุ่นระเบิดมาหว่านในยามสงบ ?
แล้วคุณคิดว่าคุณมีคุณสมบติ/ความรู้ระดับใดที่จะมาอุปโลกตัวเองว่ามีความรู้ในเรื่องหนึ่งๆพอที่จะให้แง่คิดกับผู้ร่วมสนทนา ?
ไอ้คำถาม ทุกข้อ ของคุณมันแสดงความ " ฟัง(อ่าน)ไม่ใด้ศัพท์ จับมากระเดียด "ของคุณแบบเต็มๆ ถ้าอยากรู้ว่าแบบใหน-ยังไง ตอบมานะ... จะสาธยายให้
ถ้าคุณมีความรู้มากนักก็ลองอธิบายหน่อยสิครับว่าทำไมชาติอื่นเค้าอื่นเค้าถึงเลือกที่จะมีเรือดำน้ำแทนที่จะเป็นทุ่นระเบิดละครับ
อย่างประเทศเยอรมันทะเลเค้าก็มีความลึกพอๆกันกับอ่าวไทยทำไมเค้าถึงไม่เลือกที่จะใช้ทุ่นระเบิดว่ะทำไมเค้าถึงเลือกใช้เรือดำน้ำในการป้องใต้น้ำประเทศเค้า
คืออย่างคุณ SAM นะมันก็เป็นพวกประเภทโลกสวย (ผมคงไม่ต้องอธิบายประโยคนี้เพิ่มหรอกนะ)
และมีแนวความคิดพยายามจะไปคิดแบบพวกต่อต้านการมีเรือดำน้ำมันก็ผิดมาตั้งแต่ต้นแล้วครับ
แอดมินมาสาดน้ำเร็ว กระทู้ร้อนเชียว เย็นๆครับเริ่มหวดกันแล้ว ฮา
ผมว่าทุนระเบิดอย่าเลยครับ เหมือนกับระเบิด วางกันจังแต่ก่อน ตอนนี้มานั่งเก็บกู้แพงก็แพง ช้าก็ช้า เมืองไทยนี่จากสปีดที่ทำอยู่ไม่รู้กีสิบปีร้อยปีถึงจะหมด ตอนวางปั๊บๆๆเสร็จ ถ้าจะเล่นแบบนั้นไปเอาเป็นโดรนติดระเบิดใต้น้ำดีกว่าสามารถ deploy เมื่อต้องการหรือเก็บเข้าฝั่ง
ปกติพวกทุ่นระเบิดมันใช้ป้องกันเป็นจุดๆ จะล้อมอ่าวคงยาก และในทางปฏิบัติจะมีปัญหามากกว่าประโยชน์
ทุ่นระเบิดไม่สามมารถวางในภาวะสงบได้จริงครับ อย่าว่าแต่เรือดำน้ำเลยครับ แต่ในยามสงบ เรือดำน้ำ รวมถึงกองทัพทุกเหล่าก็ไม่ได้ไปรบกับใครเช่นกัน เครื่องบิน รถถังปืนใหญ่ ก็ไม่ได้ไปยิงกับใคร ถ้าในยามสงบอ่ะนะ ในยามสงครามก็ว่ากัน วางทุ่นระเบิดดักเรือดำน้ำก็ได้ครับ แต่ทุ่นระเบิดมันเป็นอาวุธแนวรับไม่สามารถสร้าง initiative ได้ คือเราไม่สามารถกำหนดการดำเนินกลยุทธได้เลย ความอ่อนตัวก็น้อยกว่า เหมือน sam กะ เครื่องบินรบ หรือ รถถัง กับ กับระเบิดรถถัง แหละครับ ได้แต่รอคอยให้เขามา ถ้าเขาไม่มาใน พท ที่กำหนด ก็ซวยไป
มาตอบ ท่าน neo คือตอนนี้ไม่มีหลักประกันอะไรเลยครับที่เรือลำนี้จะมีเครื่องดีเซลมาด้วย และหากสมมุติว่าติดจริงๆ ราคาน่าจะแพงกว่านี้หรือเปล่าครับ
เรื่องกับระเบิด ปัญหาจริงๆมันไม่ใช่การกู้ครับ ปัญหาหลักๆมันคือการหา ตอนวาง เราเล่นไม่ทำแผนที่กันไว้เลย ปรกติการวางกับระเบิดตามตำราจริงๆต้องทำแผนที่บอกไว้ว่าวางไว้ตรงไหนบ้าง ที่นี้แบบไทยๆพี่เล่นวางไว้แล้วไม่ทำแผนที่ พอสับกำลังเปลียนหน่วยก็บอกกันคร้าวๆ ว่าวางไว้แถวๆแนวต้นไม้นั้น ระหว่างหินนี่อ่ะนะ กี่ลูกก็จำไม่ได้ หน่วยใหม่ก็วางทับมันลงไปอีก นี่ยังไม่นับที่ฝ่ายตรงข้ามวางนะ
แผนภาพเหล่านี้ของอ่าวไทย ถ้าผมจำไม่ผิด คงเป็นท่าน juldas ครับที่นำมาลงพร้อมอธิบายเรื่องระดับควมลึกของอ่าวไทยกับเรือแบบต่างๆ คงต้องเครดิตป๋าจูลดาสแล้วล่ะครับ ท่าน obeone
ตอบคุณ Woot1980นะครับ... ผมไม่ใด้คิดว่าตัวเองมีความรู้มากกว่าใครในเรื่องใดๆนะครับ และ ไม่เคยแสดงตัวอย่างนั้น...ประเด็นของผมที่มีต่อคอมเมนท์ของคุณคือ คุณคิดเอง ตอบเอง แล้วมันพลาดเป้าไปหมด... นี่คือที่ผมบอกว่า อ่านไม่ใด้ศัพท์จับมากระเดียด... แล้ววิธีการคิดการเขียนของคุณมันทำลายบรรยากาศการสนทนาในเวปบอร์ด... ผมยอมเสียเวลาอธิบายข้างล่างนี้เพื่อแสดงความจริงใจว่าผมไม่ใด้ต้องการมาทะเลาะกับใคร แค่ต้องการบรรยากาศการสนทนาที่มีอารยธรรมมากกว่านี้
ตอนทีคุณคอมเมนท์มาว่า
"แนวความคิดจะใช้ทุ่นระเบิดวางเอาไว้รอบอ่าวไทยแล้วคิดว่าจะสามารถป้องกันทะเลอ่าวไทยเราได้เนี่ยเลิกคิดไปได้เลยครับ"
>> ผมไม่เถียงเลยนะ... เพราะลึกๆก็ไม่ค่อยเห็นด้วยอยู่แล้ว เชียร์ให้ ทร มี ด ซะที...
ที่คุณว่า
" 1.มันเป็นดาปสองคมผู้ที่เดือดร้อนก็คือเรือประมงและเรือเดินสมุทรของฝ่ายไทยเรานี่แหละเพราะกองทัพเรือไม่มีทางเปิดเผยตำแหน่งที่นำทุ่นระเบิดไปวางเอาไว้แน่ๆ (ป้องกันข่าวจากสายลับ) "
>> ผมก็เลยแชร์ว่าเท่าที่ผมอ่านมามันมีหลายแบบให้เลือกใช้ เรือผิวน้ำอาจไม่ใด้รับผลกระทบอะไรเลย (รอผู้รู้มาชี้แจง )
ตรงเรื่องชิป GPS มันก็เป็นแค่ไอเดียที่คิดเล่นๆ... เนื่องจากในยุค WW II มันยังไม่มีเทคโนโลยีนี้... ตอนนี้ถ้าใครที่มีอุตสาหกรรมอาวุธก้าวหน้าคิดจะทำ มันทำใด้แน่ๆ ทำไปกันแล้วบ้างหรือยัง อันนี้ไม่รู้...
พอผมแชร์เรื่องทุ่นระเบิดที่ใด้อ่านมาคุณก็วีนแตก...คิดเอาว่าผมแอทแทกคุณ ทีนี้ก็หูตามัว จับแพะชนแกะไปทั่ว
" 1. คุณคิดว่าไอ้ทุ่นระเบิดที่วางฝั่งไว้ใต้น้ำมันมีอายุการใช้งานไหมป้องกันได้นานกี่ปี แล้วต้องซื้อมากี่ลูกเพื่อเอามาวางให้ครอบคลุมในพื้นที่ป้องกันของอ่าวไทย แล้วทุ่นระเบิดราคาต่อลูกเท่าไรครับโดยเฉพาะ แบบ ที่ 5-7 ที่คุณยกตัวอย่างมานะ"
>> อันนี้ก็เพราะคุณปักใจไปแล้วว่าผมเสนอให้หว่านทุ่นระเบิดในบามสงบ ซึ่งไม่ใช่ที่ผมคิด/เสนอ
" 2. ทุ่นระเบิดในศตวรรษ ที่ 21 มี GPSแล้วยังไงครับ เรือประมงและเรือเดินสมุทรในอ่าวไทยบ้านเรามีกี่ลำหลักพันหรือเกือบหมื่นครับ คือนี่จะต้องโยนภาระให้ชาวประมงกับบริษัทเดินเรือเดิยสมุทรเอกชนเค้าเสียเงินไปติดเครื่องรับสัญญาน GPS จากทุ่นระเบิดอีกหรือ
แต่ถ้ารัฐจะต้องออกเงินให้ติดตั้ง เครื่องรับ GPS จะต้องสูญงบประมาณอีกเท่าไร ยุ่งยากขนาดนั้นซื้อเรือดำน้ำเลยดีกว่าไหม? "
>> นี่ก็อีก...ถ้าทุ่นระเบิดที่เลือกใช้มันไม่มีผลกับเรือผิวน้ำ คุณจะยกข้อนี้มาเป็นปัญหาอะไร ? นี่ก็โมหะจริตพาไปอีก..
" 3. GPSจากทุ่นระเบิด ที่ว่า มัน security ไหมถ้าขนาดเรือประมงบ้านๆหรือเรือเดินสมุทรทั่วๆไปสามารถรับสัญญาณได้แล้วทำไมเรือจากฝ่ายข้าศึกเค้าจะจูนสัญญาณรับบ้างไม่ได้หรือไง "
>> อันนี้ก็คุณ ถามเอง ตอบเอง จากข้อ 2 ว่า เอาล่ะ เรือประมง เป็นหมื่นๆลำรับสัญญาณจากทุ่นระเบิดใด้แล้ว...เอ๊ะ แล้วทำไมเรือข้าศึกจะรับสัญญาณไม่ใด้... เลอะเทอะเลยทีนี้
เรื่องความรู้ทั่วไป...ปกติดีไวซ์ที่ต้องการควบคุมการเข้าถึงข้อมูลมันต้องมีการเข้ารหัส ไม่ใช่ส่งสัญญาณออกมาแบบ สถานีวิทยุ มากไปกว่านั้น มันยังสามารถถูกออกแบบ ให้ "ปิง" เฉพาะเวลาที่ถูกกระตุ็นด้วยโคดที่ถูกต้อง โดยที่มันไม่ส่งสัญญาณอะไรออกมาถ้าไม่ถูกกระตุ้น
4. เทคโนโลยีของเรือกวาดทุ่นในศตวรรษที่ 21 คุณคิดว่ามันทันสมัยกับทุ่นระเบิดในอุดมคติของคุณรึเปล่าล่ะ
>> คำถามนี้ก็แสดงให้เห็นว่าคุณก็หลงประเด็นอีก... ทุ่นระเบิดที่ผมคิดถึงอยู่และเสนอไอเดียให้คิดเล่นๆมันไม่ใช่เสตลท์ มันแค่มีระบบบอกพิกัดเอาไว้ช่วยให้การเก็บกู้ง่ายขึ้นเท่านั้น...ดังนั้นเรือกวาดทุ่นทั่วไปก็หามันเจอใด้ในอัตราปกตินั่นแหละ
5. สุดท้ายแล้วการมีเรือดำน้ำเอาไว้ใช้งานมันเป็นอาวุธที่สามารถใช้งานได้ทั้งในเชิงรุกและเชิงรับ แต่ทุ่นระเบิดมันเป็นอาวุธเพียงแค่เชิงรับเท่านั้น และถ้ามันดีกว่าจริงคุ้มกว่า ผมว่าชาติเพื่อนบ้านเค้าคงไม่ลงทุนซื้อเรือดำน้ำหรอกครับ
>> เออ ใช่ อันนี้ล่ะเห็นด้วยเต็ม ๆ แล้วก็คอมเมนท์ทำนองนี้ไปแล้ว ก่อนหน้าที่คุณจะคอมเมนท์กระทู้นี้ซะอีก
โลกของผมมันก็เป็นโลกตามความเป็นจริงล่ะครับ บางอยางบางทีมันก็สวย บางอย่างมันก็ไม่สวย
ที่หลายๆท่านคอมเมนท์ต่อมาว่าทุ่นระเบิดไม่น่าจะเหมาะสม เพราะ..... ก็ให้เหตุผลกันไป... คุณสังเกตุมั๊ยล่ะครับว่าเค้าใช้หัวข้อเป็นหลักในการสนทนา ส่วนคุณลองไปนับดูว่า ใช้คำประมาณว่า " คุณ " (เปลี่ยนเป้าจากเรื่องที่สนทนา มา สู่คู่สนทนา) หรือ " แล้วคุณคิดว่า " "คุณคิดหรือว่า" (เป็นการสรุปความว่าไอ้ที่กล่าวมานั้นไม่ใด้เรื่อง/ไม่ใด้คิดมา เอาตัวเองเป็นที่ตั้ง) ไปกี่ครั้ง กี่คำ ผมวิเคราะห์ดูแล้ว ก็เพราะคุณบิวลด์อารมณ์ตัวเองจากการตีความผิดๆ ประกอบกับเชื่อว่าที่ตัวเองคิดหรืออ้างอิงอยู่นั้นถูกเสมอ นี่ลามปามถึงขนาดมาทำรู้ว่าผมคิดอะไรอยู่ อ่านดูก็รู้ว่าคิด/เข้าใจผิดไปหมด คนที่มาคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในเวปบอร์ดนี้ไม่มีใครสมควรต้องมาถูกผู้ร่วมสนทนาแขวะลักษณะนี้ คุณอาจจะมีความรู้ มีการศึกษา แต่มันไม่ใช่ตั๋ว/ใบอณุญาตที่จะมาตีตนข่มคนอื่นด้วยการใช้ถ้อยคำแบบที่ใช้มาจนชิน
นี่ล่ะที่ผมจะสาธยายให้ฟัง ไม่ใช่เรื่องคุณ/ผม รู้หรือไม่รู้อะไร แต่เป็นเรื่องมารยาท และวิธีคิดพื้นๆ นี่หละ