วงเงินงบประมาณ 1,400 กว่าล้านบาทได้เรือM58จำนวน2ลำครับ รวมกับของเดิมเป็น3ลำครบ1กองร้อยเอ๊ย! 1หมู่เรือพอดี

ปี 59 มาแน่ครับ เพราะยังไงปีนี้คงไม่ทันอยู่ดี

ผมว่าทร.คงมีตัวเลือกอยู่ในใจแล้วละ่ะครับ แต่ภาวนาอย่าให้กลุ่มโลกสวยต้านเลยนะ

เรือดำน้ำ ยังไงก็มาแน่นอน
มันเป็นแค่เรื่องของเวลาเท่านั้น

ตอนนี้ก็คือค่อยจับตาดูว่าจะเป็นของชาติใด
เดิมเราจะเอาพันธ์ุแท้จากเยอรมัน แต่ตอนนี้อาจจะเป็นพันธ์ุทางของเกาหลีใต้

เป็นไปได้ไหมครับ ถ้าปี 2559 เรายังอด เนื่องจากเหตุการณ์ในอนาคต บลาๆ 

ผมว่าข่าวมั่ว พอสมควรเลยนะ อวป ประจำกาย 7.62...

ปลย.ที่ใช้7.62มม. รุ่นใหม่ๆได้แก่FN SCAR-H  HK417 และตระกูล AK-103/104

ไอ้คำว่ามาแน่ๆรู้สึกจะได้ยินมาหลายปีแล้ว ฟันธงกันเป็นมั่นเป็นเหมาะ ผมยังงงว่าเอาอะไรมามั่นใจ

อีกปัจจัยคือมาแล้วต้องมาให้ทันเวลาด้วย ไม่ใช่มาแบบไม่มีประโยชน์

ดีไม่ดีอาจจะไม่มีจนกระทั่งไปยุคโดรนใต้น้ำขนาดเล็กแทนก็ได้ 

ประเทศแบบพม่ามีเรือดำน้ำก็ไม่ได้แปลว่าเราจะมี พม่าอาจได้ของจีนมือสามกระหลั่วๆ (ฮา) ถามว่าเราจะเอาแบบนั้นไหม เราก็ไม่เอา เราก็ต้องเอาของดีๆสิ ซึ่งก็แพง หรือติดอะไรไม่รู้อีก ไม่งั้นป่านนี้เราก็ต้องมีพวก ballistic missle แล้วสิ เพราะพม่ามี 

ยังไงก็เอาใจช่วยให้ได้สักที

คือผมทราบว่าปลย7.62นะมันมี แต่ไทยจะใช้เหรอครับ ในเมื่อเราใช้5.56มาตลอด ถ้าเป็นปืนกล หรือปืนซุ่มยิงก็ว่าไปอย่าง หากเปลี่ยนปลยเป็น 7.62 ก็ต้องเปลี่ยนสายส่งกำลังทั้งหมด

ตามข้อมูลที่ให้มาในข่าวก็ทำให้มองไปที่เรื่องขนาดของกองทัพอีกนั่นแหละ... จาก งป 193,000 ลบ  เป็นเงินเดือน/เบี้ยเลี้ยง  135,000  ลบ.. นั่นคือมี งป เหลือให้ในส่วนการซ่อมบำรุง + อาวุธใหม่ ประมาณ 58,000 ลบ  ถ้าปรับโครงสร้างให้ค่าใช้จ่ายกำลังพลนี้ลดลง 35% (ว่ากันตามตรงก็ต้องลดตัวโตๆที่ซ้ำซ้อนลง )  ก็จะมี งป ในส่วน ซ่อมบำรุง+อาวุธใหม่เพิ่มขึ้นเป็น  105,250 ลบ. 

ปีนี้จะเอา กริปเปน อีกฝูง + เรือดำน้ำ 2 ลำมาก่อน + ลีโออีก 50 คัน ก็พอใด้นะ

ถ้า รบ พลเรือน  มีความจริงใจจับเข่าคุยกับ กองทัพแบบนี้ (ไม่ตัด งป  เมื่อเทียบกับ GDP จะอนุมัติ โครงการอาวุธทันสมัย แต่การลดขนาดกองทัพต้องเป็นรูปธรรม เห็นตัวเลขชัดเจน )  มันก็ไม่น่าจะคุยกันยากนะ...  ห่วงอย่างเดียว... พอให้หัวหน้าหน่วยต่างๆไปพิจารณาตัด คชจ ในส่วนกำลังพล   หวยมันจะไปออก ที่ทหารเล็กๆ

ปืนประจำกาย ไม่ได้บอกนะครับว่าเป็นปลย.มาตรฐาน อาจจะเป็นของพลแม่นปืนก็ได้ มาเสริมSR-25 (หรือสั่งSR-25เพิ่มหว่า) อะไรทำนองนั้น

ส่วนตัวว่าไม่น่าจะจัดหา7.62มม. สำหรับปลย.ทั่วไปที่ใช้5.56มม. แต่สำหรับ รพศ.อาจจะเป็นไปได้สำหรับปืนอย่างFN SCAR ที่หลายชาติก็ใช้ในหน่วยพิเศษ

นอกจากนี้ 7.62x51มม. ก็ยังใช้ในปืนHK417 ที่ผู้ใช้จำพวก รพศ.อยู่หลายชาติเช่นกัน

โดยเพื่อนบ้านอย่างมาเลเซียก็ใช้ทั้ง2รุ่นอยู่

เรื้องปืนประจำกาย7.62. เนี่ยที่ผมบอกว่าแปลกเพราะหากเป็นปืนซุ่มยิงคงไม่เรียกว่าปืนประจำกายแล้วครับ อีกอย่าง งป ในการจัดหาก็บอกว่า 700ล้าน.  สมมุติว่ากระบอกล่ะแสน. จะได้7000กระบอก. เราคงไม่ต้องการปืนซุ่มยิงขนาดนั้น. หากเป็นของ. รบพิเศษใช้หน่วยเดียวก็น่าคิดครับ. แต่จะจัดหา7000กระบอกเลยหรือ. แล้วทำไมไม่ใช้5.56 ที่มีกระสุนอยู่แล้ว

นอกจากนี้บอกว่ามีโครงการต่อเรือตรวจการไกลฝั่งสองลำ. งป 1500 ทำไมถูกจัง หากจะบอกว่าเป็นเรือ m58 เรือm58ก็ไม่ใช่เรือตรวจการไกลฝั่งแต่เป็นเรือตรวจการปืน. แถมลำแรกยังไม่เสร็จจะต่อเพิ่มก็ใช่ที่เพราะที่ผ่านมา ทร จะต่อลำแรกแล้วลองใช้งานก่อนสักพักเพื่อดูข้อดีข้อเสีย ก่อนจะต่อลำที่สองที่สาม

งบประมาณ 1,400 ล้านบาท น่าจะเป็น เรือตรวจการณ์ปืน แหล่ะครับ...ไม่น่าใช่ เรือตรวจการณ์ไกลฝั่ง

ตามแผน ทร. ต้องการจำนวน 3 ลำ อยู่แล้ว...เพียงแต่ ปีก่อนหน้านี้ คงเหลืองบประมาณจัดหามาได้เพียง 1 ลำ ก่อน...

คงไม่ต้องทดลองอะไรครับ...เพราะปีที่แล้ว งบประมาณมันมาพร้อมกับ เรือฟริเกตสมรรถนะสูงด้วย...

โครงการ เรือดำน้ำ คงมีโอกาสสูงขึ้นในปี งบประมาณหน้า...แต่ก็ ลูกผี ลูกคน เรื่องงบประมาณ....

แต่ที่แน่ ๆ ในปี 2559 รัฐจะจัดเก็บภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ได้เพิ่มขึ่น เพราะไม่มีการยกเว้น รายได้สุทธิ 150,000 บาทแล้ว...

คือ ใครเคยยื่นแบบ ภงด. มีภาษีเสียกันทุกคน ยกเว้น ลูกเยอะ กับ ทำประกันชีวิตไว้มาก...

และ ภาษีมูลค่าเพิ่มจะปรับจาก ร้อยละ 7 เป็น ร้อยละ 10...

แต่ที่ ลูกผี ลูกคน คือ...เศรษฐกิจ จะไม่โต...ภาษีนิติบุคคลฯ จะเก็บภาษีได้น้อยลงในปี  2559 มีโอกาสสูง...

ถ้าให้ ชัวส์ ที่สุด คือ ปี 2560...น่าจะเป็น โอกาส ของ เรือดำน้ำ...ถ้าไม่โดน ทอ. ตัด แซงหน้าไป ซะก่อน...

ป๋าจูลครับ เรื่องภาษี คืออย่างงี้ครับ

จริงๆแล้ว กม.มันออกแบบมาอย่างนี้ครับคือ

1-300000 เสียภาษี ร้อยละ 5

300000 ขึ้นหปเสียตามขั้นบันไดไป

ตรง1-300000 ตามกม.ต้องเสีย 5% แต่รัฐออกพรฎ. ให้ยกเว้น 1-150000 เอาไว้

ให้150001 -300000 เสีย 5%

แล้วพรฎ.เนี่ยต่ออายุมาเรื่อยๆ ปีครั้งสองปีครั้งประมานนี้ 

แวตก็เหมือนกัน จริงกม.กำหนดให้เสียที่ 10%

แต่ออกกม.มายกเว้น ให้จัดเก็บแค่7% ต่ออายุปีสองปีครั่งเช่นกัน

ดังนั้น มันยังไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงครับ น่าจะเป็นไปอย่างเดิม คือ ออกกม.ต่ออายุการยกเว้นนั่นแหละไปเรื่อยๆ

ถ้ารัฐจะไม่ทำ น่าจะเรื่องใหญ่พอควร กระอสข่าวน่าจะแรงกว่านี้ เหมือนภาษีทรัพย์สิน ที่กะลังมีประเด็นตอนนี้ กว่าจะออกมาใช้จริง คงต้องดูกันอีกยาว 

ฉะนั้น เบาใจได้ว่า น่าจะเหมือนเดิมครับ

คือตอนแรก ผมจะเอา 209 mod แต่ดูๆแล้วประเทศไทยคงจะเหมาะกับเรือ  HDS-500RTN ถ้าเขาให้การถ่ายทอดเทคโนโลยีและสามารถต่อเรือรุ่นนี้ในไทยเองได้เพราะเรือเล็กน่าจะต่อได้ง่ายและเป็นการสานพระราชดําริเรื่องต่อเรือเล็กจนขยายลําตัวเรือให้ใหญ่ภายหลังของในหลวงได้เลยและเรือ HDS-500RTN ก็ใกล้เคียงกับเรือ type206aจากเยอรมันที่เราเคยพลาดมาแล้วด้วยเป็นไปได้ไหมที่จะขยายลําตัวเรือให้มีระยะจาก 2000ไมล์ทะเลเป็น 3000ไมล์ทะเล เหอๆขยายแบบ   HDS-500RTN ได้มะสักนิดก็ยังดี

ขยายไปเผลอๆได้ระยะสั้นกว่าเดิมอีกครับ

ปัญหาของเรือKS500(ขอชื่อนี้ละกันนะ) คือมันไม่มีเครื่องดีเซลไว้ปั่นไฟครับ แบตหมดแล้วหมดเลย กลับไปชาร์จที่ฐานทัพเรือ

พลแม่นปืน(Designated Marksman) ไม่ใช่ พลซุ่มยิง(Sniper) นะครับ บางครั้งใช้M16ติดกล้องเล็งด้วยซ้ำ

ถ้าผมก็อบมาไม่ผิด "อัตราการบรรจุอยู่ที่หมู่ปืนเล็ก2หมู่ต่อพลแม่นปืน 1 อัตรา" นะครับ จะใช้สักกี่กระบอกล่ะครับ?

ถ้าจำไม่ผิดพลแม่นปืนมีกองร้อยละ3กระบอกนะครับ กองพันหนึ่งก็9กระบอก กรมหนึ่งก็27 กองพลหนึ่งก็ 81กระบอก แต่ส่วนมากก็ใช้กระสุนขนาดเดียวกับปลย เดิมใช้ ปลย88 หรือm1 ติดกล้อง ต่อมาใช้ m16ติดกล้อง  แต่อย่างที่บอกแหละครับข่าวมันแปลกๆ เพราะขนาดเรือยังดูแปลกๆเลยถ้าไม่ชื่อโครงการผิดก็งบประมาณผิด เรื่องปืน ถ้าไม่ใช่ขนาดผิด ก็น่าจะเป็นชื่อโครงการผิด ไม่ก็วงเงินผิด

vat ผมคิดว่าเราดร็อปมาตั้งแต่เศรษฐกิจล่ม และก็ไม่เคยขี้นอีกเลย เพราะนักการเมืองเขาก็กลัวเสียคะแนนนิยม ประมาณว่าเดี๋ยวโดนประท้วง เดี๋ยวไมไ่ด้เป็นนายกอีกรอบ เทือกนั้น ซึ่งเราก็คงจะยันไว้ที่ 7 เปอร์เซ็นต์จนกว่าจะผลัดเจเนเรชั่นประชาชนละครับผมว่า ต้องรอจนประชาชนเลิกเลี่ยงภาษีนู่นนี่ จนคนเราสำนึกว่าเป็นหน้าที่ที่ทุกคนต้องทำไม่ใช่เป็นการขูดรีดจากฝั่งรัฐบาล ไม่งั้นเราคงไม่มีน้ำไฟฟ้า น้ำมันทางด่วน รถไฟฟ้า โรงบาล โรงเรียน คงต้องใช้ชีวิตตัวใครตัวมัน ฮา

แหม่ฟังแล้วกลับมาเชียร์ 210mod ดีกว่าเพราะไปได้ทั้งนํ้าตื้นนําลึกออกทะเลใกลด้วย

เรื่อง Vat คงไม่ใช่เรื่องความเสียความนิยมหรอกครับ...

เศรษฐกิจ ที่ยังฟื้นตัวไม่แข็งแรง เขาต้องใช้การ เร่งบริโภค หรือ การใช้จ่ายของภาคประชาชน เพื่อให้เกิดการหมุนเวียน

แล้วแปรผันมาเป็น ภาษีของภาครัฐ โดยใช้การผลิตเงินตราภายในประเทศนำมาหมุนเวียน แล้วนำเอามูลค่าการส่งออก ที่เป็นเงินตราต่างประเทศ มาทำสมดุลย์

กับมูลค่าเงินตราในประเทศ ที่ประเทศผลิตธนบัตรมาใช้จ่าย จึงเกิดเป็น อัตราแลกเปลี่ยน การแข็งค่า หรือ อ่อนตัว ระหว่างเงินสกุลภายในประเทศ กับ ต่างประเทศ

แล้วอัตรา 10% เป็นอัตราที่ไปลอกแบบมาจากต่างประเทศ โดยศักยภาพในขณะออกกฎหมายนั้น ประเทศไทย ยังไม่มีศักยภาพในการผลักภาระ ภาษีการบริโภค ให้กับ ประชาชน ได้ในอัตราเต็มขนาดนั้น...ซึ่งมีการทะยอยขึ้นอัตรา มาเรื่อย ๆ จนถึงหยุดที่อัตรา 7%

ปัจจุบัน การบริโภคของประชาชนหยุดชะงัก หรือ บางคนมีเงิน แต่ไม่ใช้จ่าย และ พ่อค้า แม่ค้า ขายของไม่ได้...

แนวโน้ม รายได้เข้าภาครัฐ จะมีจำนวนน้อยลง อย่างมีนัยยะสำคัญ...

วิธีการง่าย ๆ ของ รัฐที่ไม่มีความสามารถ มากนัก...ก็คือ การขึ้น อัตราภาษี มาชดเชย ส่วนที่ขาดหายไป...

ซึ่งตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว จนถึง ปัจจุบัน...รัฐ มีอัตราการจัดเก็บ ภาษีมูลค่าเพิ่ม ในจำนวนที่ลดลง อย่างมีนัยยะสำคัญ...

ไม่ใช่ การเลี่ยงภาษี แต่ มันไม่มีการผลิตใหม่ ๆ เข้าสู่ระบบ...ประชาชนลดการบริโภค ของใช้ฟุ่มเฟือย (เพราะมันไม่มีเงิน)

ต้นปีที่ผ่านมา บริษัทฯ หลาย ๆ บริษัทฯ ลดโบนัส หรือ ไม่มีเลย...

นั้นคือ การใช้จ่ายหมุนเวียน ของประชาชน ขาดหายไป...

ซึ่ง กระทบ ต่อการจัดหาอาวุธของ กระทรวงกลาโหม แน่นอน ในปีงบประมาณ 2559...

โดยคิดว่า ปีงบประมาณ 2559...ทุกกองทัพฯ อาจจะได้แค่ ประคอง โครงการเดิม ไม่ให้หยุดชะงัก...

เดี๋ยวประมาณกลางปี คือ เดือน พ.ค. ถึง ส.ค. คงจะเห็นความชัดเจน เรื่องการจัดเก็บภาษี....

โครงการต่าง ๆ ในกระทู้นี้ อาจจะมีโอกาสต้องปรับลด หรือ ชะลอ ออกไป ก็ได้ครับ...พอถึงช่วงออก พรบ.งบประมาณแผ่นดินปี 2559...

เรือดำน้ำของฮุนไดทนำมาเสนอเราเป็นรายล่าสุด เท่าที่ผมมีข้อมูลคือใช้เทคโนโลยีของเยอรมันทั้งลำ ติดโซนาร์จากเยอรมันได้หลายชนิด (รวมทั้งโซนาร์นำร่องเวลาดำลึกสุดท้องทะเลด้วย) แต่ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าแตกต่างจากจากKS500มากน้อยแค่ไหนหรือเป็นรุ่นเดียวกันเลย รายละเอียดมากกว่านี้จำไม่ได้แล้ว ติดอาวุธอะไรได้บ้างระยะทำการมากน้อยแค่ไหน ขับเคลื่อนแบบไหนอันนี้ไม่รู้

ส่วนเรือตรวจการM58 ผมว่าควรจัดหาเลยนะเพราะใช้งบไม่มากและต่อในประเทศ จะได้มีเรือครบ3ลำในเวลาไล่เรี่ยกันดีกว่าโดดไปโดดมา ส่วนโครงการเรือOPVของเรามันช้าอยู่แล้วนี่นา ถ้าจะช้าไปอีกซัก1-2ปีแล้วต่อมันรวดเดียว3ลำเลย ผมว่าจะดีกว่า2ปีต่อลำ3ปีต่อลำนะครับ

    อุตะ ......  เกาหลีนี่การตลาดดีแท้   จ้าวหนึ่งส่งแบบอีกแบบหนึ่งที่มีพื้นฐานจาก type 209   อีกจ้าวหนึ่งก้เอาแบบ midget ขนาด type 206A และมีประจำการในกองทัพตนเองแล้วมาเสนอแบบ   กะให้ดิ้นไม่หลุดเลย

  HHI  เสนอแบบ  HDS-500 RTN    หาข้อมูลตามเน๊ตแล้วบอกแค่ว่าปรับแบบจาก KSS-500A    เดา..เอาว่า  คงจะเปลี่ยนระบบขับเคลื่อนไปเป็นแบบปกติทั่วไป   ซึ่งคงต้องมีเครื่องยนต์ดีเซลสำหรับการชาร์จแบตด้วย     เดา...ว่า....อาจจะมีจำนวนท่อยิงตอปิโดหนักพอๆกับ type 206A ก็ได้มั๊ง      เนื่องจากออกแบบเอง  และมีขนาดเล็กกว่าเยอะ  ราคาคงย่อมเยาว์กว่า  DW-1400T    คงเอามาดักกรณีงบจัดหาน้อย  หรือ เพื่อให้มีจำนวนเรือมากพอในการจัดหาครั้งเดียว    และถ้าระบบตรวจจับเลือกใช้ของเยอรมันได้แบบที่ท่าน  superboy บอกยิ่งน่าสนใจ

     ที่เหลือก็มาดู  offset ทางอุตสาหกรรมกันว่าจะเสนออย่างไร   ถ้าเกาหลีเสนอให้เราต่อเองได้ทั้งหมดพร้อมถ่ายทอดเทคโนโลยี  ก็น่าสนใจมาก

55555  ......   เชียร์ KSS-500A  mod  ขึ้นแฮะเรา    จะปรับแบบอย่างที่เคยเสนอความคิดหรือเปล่าหวา....

type 210 mod  ของเยอรมันเชียร์มานานแล้ว   เยอรมันส่งแบบเข้าแข่งตรงใจมากครับ.....................

ปล.   ที่ผมเดาเอาว่าปรับ  KSS-500A  ให้ใกล้เคียง  type 206A  เพราะนิตยสาร jane บอกว่าเป็น   custom designed for Thailand's requirements.  แสดงว่า ทร.  คงเสนอความต้องการว่าแบบดีไซน์ตามที่ตนต้องการควรเป็นแบบใดให้ทาง  HHI  รับทราบ    ก็เลยเดาได้ว่า   คงยืนพื้นที่  type 206A ที่ทร. เกือบจะจัดหามาแล้ว    ซึ่งจะตรงตามความต้องการในการจัดหา type 206A ในครั้งนั้นครับ     และเดาต่อไปว่า  KSS-500A mod for RTN  จะไม่มีระบบ  AIP  เพื่อให้ถูกลงด้วย     ทำหน้าที่เฝ้าบ้าน  ตามกองเรือบรรทุกบ.ออกไปไม่ได้

ดังนั้น   KSS-500A mod for RTN คราวนี้ก็ลุ้นได้เยอะอยู่นะผมว่า

ลิ้ง jane  http://www.janes.com/article/49714/hyundai-offers-custom-designed-submarine-to-thailand

เวปนี้เขาพูดถึงเรือเกาหลี 2 แบบที่เสนอเราด้วยครับ   มีภาษาเกาหลีให้อ่านเล่นๆด้วย   อ่านไม่ออก  

http://www.militaryphotos.net/forums/showthread.php?244968-Hyundai-offers-custom-designed-submarine-to-Thailand

และด้วยเวปนี้ก็เพิ่งรู้ว่าเรือฟรีเกตใหม่ของเรามีชื่อชั้นด้วย   Gwanggaeto-class stealth frigates

คำถามสำหรับท่านผู้รู้/มีข้อมูลครับ. เรือดำนำ้ที่ไม่มีระบบ AIP จะไม่เสียเปรียบในแง่ที่ว่าจะถูกตรวจจับใด้ง่ายเกินไปหรือครับ ถ้ามี ด แบบดีเซลแบบไม่มีAIP มันอาจจะไม่มีผลในการถ่วงดุลย์อำนาจเลยหรือเปล่าครับ

คำถามสำหรับท่านผู้รู้/มีข้อมูลครับ. เรือดำนำ้ที่ไม่มีระบบ AIP จะไม่เสียเปรียบในแง่ที่ว่าจะถูกตรวจจับใด้ง่ายเกินไปหรือครับ ถ้ามี ด แบบดีเซลแบบไม่มีAIP มันอาจจะไม่มีผลในการถ่วงดุลย์อำนาจเลยหรือเปล่าครับ

aip กับ ไฟฟ้าคนละอย่างกันนะครับ ดังนั้นเรือดำน้ำไฟฟ้าดีเซลธรรมดาไม่จำเป็นต้องมี aip 

วิธีทำงานเป็นดังนี้ มีมอเตอร์ดีเซลไว้ปั่นไฟ และมอเตอร์ไฟไว้ขับเคลื่อน ในช่วงที่สามารถขี้นมาผิวน้ำหรือจะยื่นท่ออากาศขี้นมา (หมายถึงไม่ได้อยู่ในพื้นที่เสี่ยงต่อการถูกโจมตี) ก็ทำการเดินเครื่องดีเซลปั่นไฟเก็บใส่แบตเตอรี่ จากนั้นก็สามารถปิดเครื่องดีเซลแล้ววิ่งด้วยไฟจากแบตเลย ก็สเตลธ์เหมือนเรือดำน้ำนิวเคลียร์เลย 

สรุปคือต่างกันที่ต้องคอยขี้นมาชาร์จไฟครับ ไม่สามารถอยู่ใต้น้ำเป็นปีเป็นชาติ(เวอร์) เหมือนเรือดำน้ำนิลเคลียร์

ส่วน aip ปกติคือเอาอากาศแรงดันสูง/เย็นจัด ซึ่งจะมีลักษณะเป็นของเหลวใส่ถังแรงดันสูงเข้าไปในเรือดำน้ำด้วย ทีนี้ก็สามารถปั่นไฟโดยอาศัยอากาศจากถึงที่เตรียมมาได้ครับ ก็อยู่ใต้น้ำกันครึ่งเดือนอะไรก็ว่าไป แต่หมดก็ต้องขี้นมาปั่นไฟเหมือนเดิม หรือไม่ก็กลับเข้าฝั่งเปลียนถังใหม่ครับ

ขอบคุณครับท่าน ทองวริต. ผมคงถามไม่เคลียร์ ขอรบกวนอีกทีนะครับ  ผมพอทราบว่าAIP มันเป็นระบบที่เพิ่มเข้ามาทำให้เดินเครื่องดีเซลโดยไม่ต้องโผล่ผิวน้ำหรือใช้สนอกเกิล  เรือที่ไม่มีระบบAIP นั้น เมื่อไม่สามารถเดินเครื่องดีเซลชาร์จไฟใต้น้ำใด้  ก็ต้องโผล่มาชาร์จอย่างเดียว อันนี้ชัดเจนว่าโอกาสที่จะถูกตรวจจับด้วยกองเรือผิวนำ้. ฮ/บ ปราบ ด ก็จะสูงกว่าพวกที่มีระบบ AIP.   คือ เสี่ยงทั้งการถูกตรวจเจอด้วยโซน่าร์ +สายตา+เรดาร์ ในขณะที่เรือที่มีAIP จะเหลือแค่ความเสี่ยงจากการตรวจพบโดยโซนาร์เท่านั้น (ไม่แน่ใจว่ามาจนถึงตรงนี้เข้าใจถูกหรือเปล่า). แต่ที่ผมไม่มีข้อมูลเลยคือ เรือที่มีAIP เวลาเดินเครื่องดีเซลใต้น้ำ มันจะเงียบจนตรวจพบโดยโซน่าร์ใด้ยากมากๆเลยหรือเปล่า. คือถ้ามันไม่เงียบขนาดตรวจเจอยากๆ หรือตรวจไม่เจอ มันก็อาจจะไม่มีนัยยะสำคัญ(ในภาวะปกติ) เมื่อเทียบกับ ด ที่ไม่มี AIP.  แต่มันน่าจะเป็นข้อด้อย อย่างมากสำหรับ ด ที่ไม่มีAIP ในภาวะสงคราม/เผชิญหน้า ถ้าหากต้องโผล่มาชาร์จบนผิวนำ้  นี่คือที่ทำให้ผมสงสัยว่าถ้าไม่มีระบบAIP. มันจะด้อยสมรรถภาพไปมั๊ย 

   ใช่ครับท่าน  Sam   ระบบ  AIP  ช่วยให้เรือดำน้ำไม่ต้องขึ้นไปเสี่ยงชาร์จแบตใกล้ผิวน้ำ   ซึ่งจะถูกตรวจจับได้ง่ายในช่วงนั้น     ปกติเรือดีเซลจะดำได้นาน  5-6 วันจึงขึ้นมาชาร์จแบตทีนึง     ระบบ AIP  ทำให้ดำได้นาน   2-4 สัปดาห์โดยไม่ต้องขึ้นมาชาร์จแบตใกล้ผิวน้ำเลย 

   ระบบ  AIP  มีหลายแบบครับ   ถ้าเป็นอากาศอัดแล้วชาร์จแบตกันใต้น้ำ   ก็เป็นระบบสเตียริ่งของสวีเดน    ระบบอื่นเช่นของเยอรมันก็เป็น  fuel cell  จ่ายกระแสไฟให้มอเตอร์ขับเคลื่อนโดยตรงเลย    fuel cell หมด  ก็ยังใช้เครื่องดีเซลชาร์จแบตได้อีก  แต่ต้องลอยขึ้นผิวน้ำ            และยังมีระบบแมสม่าของฝรั่งเศสอีก    

Gwanggaeto the Great คือชื่อเรือชั้นKDX-1ที่ประจำการใน ทร.เกาหลีใต้ครับ

KDX-2 ก็ Chungmugong Yi-Sun Shin

KDX-3 ก็ Sejong the Great

เหมือนเรือType F25T ก็คือเรือชั้นนเรศวร F124 ก็เรือชั้น Sachsen Type45 ก็เรือชั้นDaring อะไรทำนองนั้น

ขอบคุณครับท่าน Neo สองสามวันที่ผ่านมาผมหาข้อมูลเพิ่มเติม ไม่เจอบทความเกี่ยวกับเรื่องระดับเสียงของระบบ AIP (stering) แต่อย่างใด. แต่ที่อ่านผ่านมาทำให้ยิ่งปักใจไปที่ระบบfuel cell แบบที่อยู่ใน U212  มากๆเลยครับ เพราะมันไม่มีเสียงในขณะผลตไฟฟ้าแน่นอน. จะมีก็แต่เสียงใบจักร   อยากใด้ อยากใด้