หน้าแรก    ตั้งกระทู้ใหม่   ตอบคำถาม    เข้าสู่ระบบ      


ตกลงอินเดียจะซื้อ Rafale เปล่าครับ

โดยคุณ : premsk127 เมื่อวันที่ : 17/02/2015 04:41:00

คือเห็นอินเดียประกาศจะซื้อมาเกือบ 3 ปีแล้วจนถึงตอนนี้ยังไม่มีการเซ็นสัญญาเลย ตกลงอินเดียยังจะซื้ออยู่เปล่าครับ เห็น tejas mk 2 ก็เข้าประจำการแล้ว หรือว่าอินเดียจะประจำการ tejas แทน ?





ความคิดเห็นที่ 1


tejas มันคนละชั้นครับ เอามาแทนพวก jaguar 

ปัญหาเหมือนยังตกลงรายละเอียดสัญญาไม่ได้ เป็นเรื่องเกี่ยวกับผลประโยชน์เรื่องการผลิตพวกซัพพลายเออร์และเสป็คเครื่องบินนี่แหละ ฝรั่งเศสทำเขี้ยวเดี๋ยวเขาไม่ซื้อกลับไปเอาซูขึ้นมาจะจ๋อยเอา

โดยคุณ toeytei เมื่อวันที่ 13/02/2015 09:15:33


ความคิดเห็นที่ 2


ปัญหาคืออินเดียจะให้ฝรั่งเศสรับประกันราฟาลที่ผลิตในอินเดียด้วย ซึ่งฝรั่งเศสรับประกันเฉพาะบ.ที่ผลิตในฝรั่งเศสเท่านั้น

และปัญหาเดียวกันนี้กำลังจะเกิดกับบ. T-50 PAK-FA ที่อินเดียร่วมทุนกับรัสเซียด้วย

ตรงนี้ก้น่าเห็นใจทั้ง 2 ฝ่าย อย่าลืมว่าอากาศยานทางทหารของอินเดียมีสถิติตกสูงติดอันดับต้นๆโลกครับ

โดยคุณ MIGGERS เมื่อวันที่ 13/02/2015 10:14:01


ความคิดเห็นที่ 3


tejas เป็นเครื่องบินไอพ่นขนาดเล็กอารมณ์F-5 หรือF/A-50ของเกาหลีใต้ ราคาไม่แพงทำงานจุกจิกได้ด้วยค่าปฎิบัติการต่ำเพราะมีเครื่องยนต์เดียว

Rafal เป็นเครื่องบินไอพ่นขนาดกลางแม้จะใช้2เครื่องยนต์แต่เท่าๆกับF/A-18เลย(เบากว่าSuper Hornetรุ่นใหม่พอสมควร) แม้จะหนักกว่ากริเพนก็จริงแต่ไม่เยอะเท่าไหร่ ผมเพิ่งรู้น้ำหนักตัววันนี้เหมือนกันแฮะ ทำงานได้ทั้งขับไล่สกัดกั้นโจมตีทิ้งระเบิดตลอด24ชม. เรียกว่าเป็นม้าหลักเลยก็ว่าได้ อินเดียเลือกตัวนี้ผมว่าเหมาะสมแล้วเพราะเขาเคยใช้มิราจมาก่อนจึงน่าจะใช้งานคล่องได้อย่างรวดเร็ว

SU-30 เป็นเครื่องบินไอพ่นขนาดค่อนไปทางใหญ่  น้ำหนักเปล่าหนักกว่าRafalเกือบ8ตัน ติดอาวุธได้มากกว่าบินได้ไกลกว่า กินน้ำมันกว่า ซ่อมบำรุงแพงกว่า และความคล่องตัวในการโจมตีภาคพื้นดินน้อยกว่า

แผน2ของอินเดียคืออัพเกรดSU-30แล้วเอามาใช้แทนRafal ถ้าเอาแบบนี้ผมว่าเละนะ กลายเป็นกองทัพอากาศที่มีความพร้อมรบต่ำลงไปอีกจากที่มันไม่ค่อยจะสุงอยู่แล้ว หัวเด็ดตีนขาดยังไงอินเดียก็ต้องหาเครื่องบินไอพ่นขนาดกลางล่ะครับ ไม่ได้Rafalก็ต้องเอาลำอื่นเช่นGripen NG เพราะสงครามที่ผ่านมาต้องใช้ในภาระกิจโจมตีภาคพื้นดินเยอะชนิด24ชั่วโมงตลอดเวลาด้วย ไม่อย่างนั้นกองทัพบกที่เสียเปรียบเรื่องชัยภูมิเพราะต้องเป็นฝ่ายบุกเข้าไปหาจะลำบากมากขึ้นมากขึ้น

ส่วนสงครามกลางเวหาผมว่าโอกาสเกิดน้อยมาก ต้องเป็นการรบเต็มรูปแบบชนิดว่าแลกประเทศกันเลย อินเดียคงไม่ทำปากีสถานก็คงไม่เอา นอกจากจะมีประเทศมหาอำนาจอื่นๆต้องการบุกรุกอันนี้ว่ากันไม่ได้

 

โดยคุณ superboy เมื่อวันที่ 13/02/2015 10:48:44


ความคิดเห็นที่ 4


tejas นี่จะเป็นโครงการแรกของเครื่องบินยุคใหม่ที่กว่าจะพัฒนาเสร็จก็หวิดล้าสมัยพอดี  ซึ่งก็อย่างที่หลายๆ ท่านบอกละครับเป็นเครื่องบินขับไล่ชั้นระดับต่ำสุด entry level

ส่วนราฟาลนั้นก็ที่ซื้อมาตอนแรกสุดเลยเพราะจะบินซูอย่างเดียวก็ไม่ไหว อาจจะล้มละลายเอาได้ง่ายๆ (เวอร์) จึงสรุปว่าจะซื้อราฟาล ถ้าอินเดยไม่ต้องการเครื่องที่ประหยัดกว่าซูจริงๆ ก็ไม่ได้มีเหตุผลใดๆ ทั้งสิ้นที่จะต้องเปิดโครงการเครื่องบินรบขนาดกลางเลย แค่ปั๊มๆ ซูเยอะๆ มาแทนเครื่องเก่าๆ ก็จบ

ส่วนตัวผมว่าอินเดียยอมๆ ฝรั่งเศสเขาไปมั่งก็ได้ เครื่องก็ไม่ต้องมาโมฯ มีเวอร์ชั่นตัวเอง ไม่งั้นเดี๋ยวไม่ได้ใช่เสียที จ่ายตังให้ฝรั่งเศสพัฒนาเครื่องใหม่กับอีซ่าก็จบเพราะฝรั่งเศสก็ต้องการเช่นกัน และก็คงไม่อยากใช้เครื่องเวอร์ชันอินเดียพัฒนา  รู้สึกอินเดียจะยังไม่เข็ดกับตัวอย่าง tejas หรืออรชุนทั้งหลาย

ส่วนกรณี pakfa นี่ผมว่ารัสเซียก็ดูเหมือนจะพยายามเอาเปรียบอินเดียไปหน่อยแล้ว ให้อินเดียออกตังซะเยอะยังจะไปกั๊กเทคโนโลยี่อีก ฮา

โดยคุณ tongwarit เมื่อวันที่ 13/02/2015 11:01:45


ความคิดเห็นที่ 5


ถ้าเป็นเพราะเหตุที่ต้องการให้ดัสโซลการันตีเครื่องที่ผลิตประกอบในอินเดีย ผมว่าไม่น่ายากนะครับ

เพียงจัดชุดตรวจสอบของดัสโซลเองตรวสอบในทุกกระบวนการผลิต ตั้งแต่ชิ้นส่วนต่างๆ ไปจนถึงการประกอบ certify ให้เฉพาะที่ได้มาตรฐานจริงๆ

ยิ่งถ้าให้ดัสโซลมีส่วนในการกำหนดรูปแบบและอุปกรณ์ในสายการผลิตให้เป็นมาตรฐานของดัลโซล แล้ว certify ให้ก็ยิ่งดีครับ HAL ก็จะได้โรงงานและสายการผลิตใหม่ที่ทันสมัยด้วยครับ

จัดกระบวนการทดสอบขั้นสุดท้ายแบบที่ทำในฝรั่งเศสก่อนส่งมอบให้ ทอ. อินเดียด้วย ก็น่าจะการันตีคุณภาพ บ. ที่ผลิตในอินเดียได้แล้วนะครับ

ทุกวันนี้การผลิต บ. หรือ ฮ. ของแต่ละบริษัทก็กระจายกันไปทั่วโลกอยู่แล้ว ไม่ได้มีฐานผลิตประกอบที่เดียว

ด้วยจำนวนสั่งซื้อขนาด 126 เครื่อง แถมเปิดตลาดแรกนอกฝรั่งเศส เป็นผมๆ ยอมลงทุนครับ

เหตุที่ยังดูล่าช้า ผมว่าเป็นเรื่องการหารือเจรจารายละเอียดการจัดซื้อและดำเนินการผลิตร่วมกันมากกว่าครับ โครงการใหญ่ยักษ์ มูลค่ามหาศาล จะขยับอะไรก็แลดูช้านิดหนึ่งครับ

ส่วนที่ว่า ทอ. อินเดียมีสถิติ บ. ตกระดับต้นๆ ของโลกนั้น ส่วนหนึ่งมาจากสภาพและสมถรรนะของ บ. เองครับ โดยเฉพาะ บ. รัสเซีย ของที่มาจากอังกฤษหรือฝรั่งเศสไม่ค่อยจะเห็นเป็นข่าวเลยครับ

โดยคุณ เสือใหญ่ เมื่อวันที่ 13/02/2015 11:04:49


ความคิดเห็นที่ 6


เหมือนเคสของอินเดีย กรณีเครื่องประกอบในอินเดียก็จะใช้ วัสดุ และอะไหล่จากอินเดียด้วยนิครับ ให้ฝรั่งเศษไปดูทุกขั้นตอนตั้งแต่ sub contract คงจะไม่ไหว อีกอย่าง คอร์สในการทำ qc  ทุกขั้นตอนอย่างนั้น อินเดียจะยอมจ่ายไหม

เหมือนประมาณจ้าง บริษัทรับสร้างบ้านของ SCG ให้สร้างให้ 1  หลัง แล้วบอกว่า อีก 3 หลังจะสร้างเอง หา วัสดุเอง หาช่างเอง แต่ให้ SCG รับประกันนะว่าถ้าบ้านมีปัญหาอะไร SCG ต้องรับผิดชอบ 

 

โดยคุณ skysky เมื่อวันที่ 13/02/2015 18:08:37


ความคิดเห็นที่ 7


แหม ท่าน skysky ครับ ถ้าจะให้มันเป็นตรรกะ อินเดียก็ต้องยินยอมให้ฝรั่งเศสเข้าไปควบคุมดูแลกันทั้งกระบวนการประกอบ ทดสอบ และคิวซีวัสดุอุปกรณ์ทั้งหมดที่ประกอบเป็นตัวราฟาลทั้งลำขึ้นมาในอินเดีย หาไม่แล้ว ใครจะยอมมาการันตีมาเซอร์ทิฟายให้ละครับ

การันตีสิ่งที่ตัวเองไม่ได้ทำ ไม่มีใครยอมทำหรอกครับ

โดยคุณ เสือใหญ่ เมื่อวันที่ 13/02/2015 18:51:59


ความคิดเห็นที่ 8


นั่นคือประเด็นเลยครับคุณเสือใหญ่ เพราะเท่าที่จำได้ฝรั่งเศสเขาบอกว่าจะขอผลิตเพิ่มเองที่ฝรั่งเศสดีกว่า แต่อินเดียก็ไม่ยอมอีกจะให้ผลิตในอินเดีย

โดยคุณ tongwarit เมื่อวันที่ 13/02/2015 23:04:31


ความคิดเห็นที่ 9


ครับ คงต้องให้ฝรั่งกับแขกคุยกันเองให้จบ เราก็คงได้แค่รอดูอยู่ห่างๆ ละครับ

โดยคุณ เสือใหญ่ เมื่อวันที่ 14/02/2015 17:45:18


ความคิดเห็นที่ 10


สงสัยจะแท้งครับ กลายเป็น SU30mk แทน 

http://www.business-standard.com/article/economy-policy/rafale-proposal-effectively-dead-as-dassault-bid-not-cheapest-115021600056_1.html

โดยคุณ skysky เมื่อวันที่ 16/02/2015 18:09:36


ความคิดเห็นที่ 11


ส่วนตัวผมว่าไม่น่าแท้งนะครับ และถ้าจะแท้งก็เพราะการเมืองในประเทศอินเดียมากกว่า เพราะตามหลักเหตุผลแล้ว เอาซู หรือเทจาสนั้นถือว่าทดแทนเครื่องบินไม่ถูกประเภทนอกจากว่าอินเดียจะปรับโครงสร้างหลักนิยมของกองทัพอากาศซึ่งก็ไม่ใช่กรณีนี้ 

ต้องอย่าลืมว่าตอนประกวดเครื่องบินนั้น ซูไม่ได้เข้าประกวดด้วยซ้ำแต่เป็นมิก ซึ่งราฟาลชนะการแข่งขัน ส่วนเรื่องที่ว่างบบานปลาย ผมว่ามันเป็นสิ่งที่ทุกๆ คนนั้นรู้อยู่แกใจว่าบานกระจายแน่นอน และก็งบบานหมดแหละ ไม่ว่าใครจะเป็นคนชนะการประกวด โปรเจกท์ทุกอย่างในโลกเกือบร้อยทั้งร้อยมีงบบานแน่นอน จึงมีการคำนวนการบานปลายไว้แล้วเป็นปกติ ยิ่งการที่อินเดียจะต่อในประเทศเองนั้นราคามันแพงขึ้นก็ไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจ เพราะต้องสร้างโรงงานต้องฝึกคนงาน ต้องวางระบบโลจิสติกใหม่ ขณะที่ถ้าผลิตในฝรั่งเศสระบบทุกอย่างมันมีอยู่แล้ว แค่ผลิตๆๆ แต่การผลิตในประเทศอินเดียเงินจะอยู่ในประเทศเยอะกว่า ไหลออกไปฝรั่งเศสน้อย

และถ้างานนี้ดีลราฟาลล่มจริงๆ  ผมคิดว่าอินเดียน่าจะประกาศจัดประกวดใหม่มากกว่าอยู่ๆ จะผลิตซูขี้นมาเฉยๆ เพราะถ้าอยากเอาซูเยอะๆ ใหญ่ๆ โหดๆ แต่เปลืองน้ำมันจริงๆ ก็คงไม่ต้องออกโครงการ MRCA แต่แรกแล้วครับ 

ยิ่งการทดแทนด้วย tejas ผมว่าดูสภาพแล้วกว่าจะพัฒนาจนใช้ได้ทุกอย่างเป็นมัลติโรล (full operational capability) คงอีกซักสิบปี และดูแล้วการจะเร่งผลิตเพื่อทดแทนเครื่องๆเก่าๆ แทนที่ราฟาลก็คงทำไม่ทัน ยิ่งรุ่นทร. แทบหลับ อย่างที่บอกครับว่า tejas เป็นเครื่องที่ศิลปินมาก กว่าจะพัฒนาเสร็จก็ต้องเริ่มพัฒนารุ่นต่อมาละเป็น mk II ที่ต้องขยับขยายให้เครื่องใหญ่ขี้นหน่อย เปรียบกับกริพเพนที่เพิ่งผลิตรุ่น c/d ยังไม่ทันใช้ได้เต็มประสิทธิภาพก็ต้องพัฒนารุ่น e/f ให้ใหญ่ขี้นซะแล้ว

โดยคุณ tongwarit เมื่อวันที่ 17/02/2015 04:41:00