รัฐบาลสหรัฐอเมริกา ประกาศระงับพันธมิตรทางทหารเต็มรูปแบบกับไทย ตั้งเงื่อนไขต้องฟื้นฟูประชาธิปไตยก่อน
นำเสนอข่าวโดยทีมงาน Sanook.com
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า สหรัฐอเมริกาเตรียมประกาศยุติความสัมพันธ์พันธมิตรทางทหารกับประเทศไทยอย่างเต็มรูปแบบ เนื่องจากยังอยู่ระหว่างการปกครองโดยคณะรัฐประหาร พร้อมจะกลับมาเป็นพันธมิตรอีกครั้ง จนกว่าจะกลับสู่ระบอบประชาธิปไตย
แหล่งข่าวจากสำนักข่าวเอเอฟพี เปิดเผยว่า เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา นักการทูตอาวุโสสหรัฐอเมริกา ได้เปิดเผยว่ากับผู้สื่อข่าวในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ว่า สหรัฐอเมริกาจะไม่ดำเนินความสัมพันธ์เยี่ยงพันธมิตรทางทหารอย่างเต็มรูปแบบกับไทย จนกว่าไทยจะกลับคืนสู่กระบวนการประชาธิปไตยอย่างแท้จริง
ทั้งนี้แถลงการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากที่ นายแดเนียล รัสเซล ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของสหรัฐอเมริกา ฝ่ายกิจการเอเชียตะวันออกและแปซิฟิก ได้เดินทางมาเยือนประเทศไทยเมื่อสัปดาห์ก่อน นับเป็นครั้งแรกที่ตัวแทนจากสหรัฐอเมริกาเดินทางไปเยือน หลังเกิดการรัฐประหารขึ้น
สำหรับวความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับสหรัฐอเมริกา เริ่มต้นขึ้นตั้งแต่สมัยสงครามเย็นและการต่อสู้เพื่อต่อต้านต้านลัทธิคอมมิวนิสต์ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ แม้ความสัมพันธ์จะยาวนาน แต่สหรัฐอเมริกาได้ปฏิเสธเข้าร่วมฝึกซ้อมรบกับกองทัพไทยและระงับการช่วยเหลือทางทหารบางส่วน นับตั้งแต่เกิดการรัฐประหารในไทย
ติดตามข่าวด่วน เกาะกระแสข่าวดัง บน Facebook คลิกที่นี่!!
"สนุก" บอกว่า
"สหรัฐอเมริกาเตรียมประกาศยุติความสัมพันธ์พันธมิตรทางทหารกับประเทศไทยอย่างเต็มรูปแบบ"
แต่ตอนนี้จะเริ่มฝึกCobra Gold 2015 แล้ว
น่าเชื่อถือจริงๆครับแหม่ 5555555555
ความไร้จรรยาบรรณของสื่อครับ พาดหัว "ตัดความสัมพันธ์โ" เนื้อข่าว "ไม่ดำเนินความสัมพันธ์เยี่ยงพันธมิตรทางทหารอย่างเต็มรูปแบบ" คนล่ะเรื่องกันเลย
และแล้ว พอหน้าแตก voice tvก็ลบข่าวเดียวกันออกไป 55555
สื่อไทยก็ยังงี้ นั่งเทียน เขียนข่าวและขายข่าว ไปวันๆ
ยังฝึกอยู่น่ะใช่ครับแต่ลดระดับเหลือแค่ฝึกบรรเทาทุกข์ T_T
sanook นั้นถูกซื้อโดยนักลงทุนจีนไปเรียบร้อยแล้วครับ
บไซต์ยอดนิยมอันดับหนึ่งของไทย ถูกบริษัทเท็นเซ็นต์ (Tencent) สัณชาติจีนซื้อหุ้นไปด้วยมูลค่าเพียง 10.5 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 341 ล้านบาท พบ"บริษัท สนุก ออนไลน์ จำกัด"ขาดทุนสะสมเกิน 1,000 ล้านเหรียญมานานกว่า 3 ปีแม้จะสามารถทำกำไรขั้นต้นในแต่ละไตรมาสได้เพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม นักสังเกตการณ์เชื่อว่าบริษัทจีนมองเห็นศักยภาพของสนุกดอทคอมในการเป็นทาง ลัดเพื่อขยายฐานตลาดทั่วเอเชีย และการซื้อขายหุ้นครั้งนี้จะส่งให้การแข่งขันในตลาดออนไลน์ไทยเข้มข้นขึ้น แน่นอน
ผลของการซื้อขาย คือหุ้นของสนุกกว่า 2,496 หุ้น หรือคิดเป็นสัดส่วน 49.92% ของบริษัท สนุก ออนไลน์ จำกัด ซึ่งบริษัท เอ็มเว็บ พอร์ทัล (ประเทศไทย) จำกัดถืออยู่ ได้ตกไปอยู่ในมือยักษ์ใหญ่ผู้ให้บริการเว็บท่าหรือ Web Portal แดนมังกรนามว่าเท็นเซ็นต์ตั้งแต่วันที่ 26 สิงหาคมที่ผ่านมา ประเด็นที่เกิดขึ้นได้รับความสนใจจากคนไทยอย่างมาก เนื่องจากสนุกดอทคอมนั้นมีดีกรีเป็นเว็บไซต์ไทยที่มีเพจวิวสูงที่สุดใน ประเทศ
ข้อมูลจากทรูฮิตส์ (truehits.net) ระบุว่าปริมาณการใช้งาน sanook.com ในเดือนกรกฎาคม 2553 ที่ผ่านมานั้นสูงถึง 2,522,940 เพจวิว สูงที่สุดในบรรดาเว็บไทยแต่เป็นอันดับ 6 ของประเทศเพราะแพ้ทางเว็บต่างชาติอย่าง Google (ทั้ง .com และ .co.th), YouTube, Windows Live และ Facebook
ที่ผ่านมา บริการของสนุกดอทคอมนั้นครอบคลุมทั้งส่วนความบันเทิง ข้อมูลข่าวสาร บริการชุมชนคนออนไลน์ และบริการอีคอมเมิร์ช มีรายได้จากธุรกิจโฆษณาออนไลน์บนเว็บท่า, เกมออนไลน์, ลงประกาศ รวมถึงบริการทางโทรศัพท์มือถือ การที่บริษัทจีนเทเงินซื้อหุ้นสนุกดอทคอมย่อมจะทำให้บริการเหล่านี้เปลี่ยน แปลงไปในอนาคต
ทำไมซื้อ ทำไมขาย (ถูก) ?
รายงานข่าวเบื้องต้นระบุว่า การซื้อหุ้นสนุกดอทคอมครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ขยายตลาดในเอเชียของ เท็นเซ็นต์ ก่อนหน้านี้ เท็นเซ็นต์ได้ซื้อบริษัท Comsenz ผู้ให้บริการเว็บบอร์ดออนไลน์และเครือข่ายสังคมของจีน โดยผู้บริหารสนุกบอกว่า การเข้าซื้อหุ้นสนุกจะทำให้เท็นเซ็นต์สามารถส่งต่อความรู้ความชำนาญแก่สนุก ดอทคอมได้
นี่อาจเป็นเพียงเหตุผลส่วน เดียวที่ทำให้เอ็มเว็บตัดสินใจขายหุ้น เพราะจากการตรวจสอบงบดุลและงบกำไรขาดทุนของสนุก เพื่อหาสาเหตุที่ทำให้สนุกตัดสินใจขายหุ้นเกือบครึ่งหนึ่งในราคาเพียง 10.5 ล้านเหรียญสหรัฐ (ถือว่าน้อยเมื่อเทียบกับดีกรีเว็บไทยอันดับ 1) กลับพบว่าสนุกมีตัวเลขการขาดทุนสะสม 1,325 ล้านบาท (ตัวเลขไตรมาส 1 ปี 53) ทั้งที่สามารถทำกำไรขั้นต้นได้เพิ่มขึ้นทุกปี
ตัวเลขขาดทุนไตรมาส 1 ปี 53 ถือว่าดีกว่าตัวเลขขาดทุนสะสมในปี 52 ซึ่งสนุกดอทคอมขาดทุนสะสมถึง 1,408 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 50 ที่ขาดทุน 1,241 ล้านบาท
ส่วนหนึ่งที่ทำให้สนุกขาดทุนสูงผิดปกติในปี 52 คือตัวเลขขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน ไม่ใช่ต้นทุนการให้บริการเพิ่ม โดยในส่วนของรายได้ ไตรมาสแรกของปี 53 สนุกสามารถทำรายได้ราว 177 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 52 ที่ทำได้ 162 ล้านบาท แต่ยังน้อยกว่าปี 51 ที่สนุกทุบยอดขายได้ถึง 184 ล้านบาท
ตัวเลขรายได้ที่ค่อนข้างสวยงามนี้เองส่งให้สนุกมีกำไรขั้นต้นเพิ่ม ขึ้นจาก 22 ล้านบาทในปี 51 มาเป็น 35 ล้านบาทในปี 52 และเป็น 48 ล้านบาทในปี 53 จุดนี้เองที่ทำให้เท็นเซ็นต์ยอมเสี่ยง เพราะมองเห็นคุณค่าของสนุกในการเป็นพันธมิตรชั้นยอดเพื่อรุกตลาดนอกประเทศจีน
แหล่งข่าวในวงการอินเทอร์เน็ตให้ความเห็นว่า สนุกนั้นมีฐานผู้ใช้ขนาดใหญ่ ทำให้เท็นเซ็นต์ประหยัดเวลาในการสร้างฐานตลาดได้ ขณะ เดียวกันสนุกก็มีศักยภาพสูงเพราะมีคอนเทนท์และบริการใหม่ตลอดเวลา เช่นการร่วมกับอีเบย์ให้บริการ shopping.co.th มีการร่วมมือกับทีวีไดเร็คเพื่อผลักดันบริการจากโลกออนไลน์มาสู่ออฟไลน์
"ที่ผ่านมา จีนมีบทบาทต่อการพาณิชย์ประเทศไทยเยอะมาก การซื้อสนุกจะทำให้จีนมีบทบาทในวงการอินเทอร์เน็ตไทยมากขึ้น จากก่อนนี้ที่เป็นประเทศอย่างญี่ปุ่น เช่นราคุเทนที่มาซื้อหุ้นตลาดดอทคอมไป ตรงนี้ในแง่ทุนนิยมต้องยอมรับว่าเป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ และน่ายินดีกับสนุกเพราะจีนก็เป็นประเทศที่ประสบความสำเร็จในธุรกิจออนไลน์ มาก ขณะที่คู่แข่งอย่างกระปุกดอทคอม เมื่อรู้ถึงดีลที่เกิดขึ้นก็ต้องตื่นตัวเพื่อพัฒนาแผนมาสู้กัน ก็จะเป็นผลดีต่อผู้บริโภค"
ระวังการครอบงำ
"หน้าที่ของรัฐนับจากนี้ ก็คือต้องดูแลไม่ให้ต่างชาติเข้ามาครอบงำอุตสาหกรรม และให้เกิดการแข่งขันอย่างเป็นธรรมที่เสรี รัฐบาลต้องต้อนรับการลงทุนลักษณะนี้อยู่แล้ว เพราะจะเป็นอีกทางที่ทำให้คนได้มีความรู้ความชำนาญเพิ่มขึ้น เป็นโอกาสเกิด Technology Transfer ซึ่งจะทำให้คนไทยเก่งขึ้น" แหล่งข่าวระบุ
สำหรับโครงสร้างบริษัทหลังการซื้อขายหุ้น รายงานชี้ว่าเท็นเซ็นต์จะได้สิทธิเข้ามาบริหารและสามารถเข้าเป็นคณะกรรมการ บริหาร (บอร์ด) 2 ตำแหน่งในสนุกดอทคอม โดยทีมผู้บริหารในประเทศไทยล่าสุดยังเป็นซีอีโอคนเดิมคือ "ต่อบุญ พ่วงมหา"
ก่อนหน้านี้ ต่อบุญยืนยันเสมอว่าเงินที่หมุนเวียนในวงการออนไลน์เมืองไทยนั้นมีแนวโน้มเติบโตสูงขึ้นเรื่อย ๆ โดยเฉพาะธุรกิจตลาดกลางซื้อขายออนไลน์ของสนุกนามว่า shopping.co.th นั้นมียอดขายอยู่ที่ 200-300 ล้านบาทต่อปี ยอดจำนวนร้านค้าราว 3,000 ร้าน เพิ่มขึ้นกว่า 50-60% จากปี 52 ยอดผู้ซื้ออยู่ที่ราว 300,000 ราย จำนวนเพจวิวอยู่ที่ 1 ล้านเพจวิวต่อวัน
นอกจากสนุกดอทคอม เท็นเซ็นต์ได้จ่ายเงิน 300 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 9,750 ล้านบาทเพื่อถือหุ้น 10% ในกลุ่มทุนนาม Digital Sky Technologies ซึ่งเป็นบริษัทออนไลน์รัสเซียด้วย ทั้งหมดเป็นสัญญาณว่าเท็นเซ็นต์จะสยายปีกธุรกิจออนไลน์ในตลาดโลกอย่างจริงจัง
http://www.thaigoodview.com/node/77519
ขอให้ดูในประเด็นนี้ด้วยครับ คือฝึกครั้งนี้จีนส่งกำลังเข้าร่วมฝึกด้วย ซึ่งผมมองว่ามันplanไว้นานแล้วที่จะเป็นฝึกบรรเทาทุก คิดว่าหากฝึกแบบปรกติ มันเป็นไปได้เหรอครับที่ สรอ จะฝึกยกพลขึ้นบกโดยมีกองทัพจีนเข้าร่วมยกพลขึ้นบกด้วย
ส่วนเรื่องทูต ผมว่าเขาตอบแบบนั้นก็ปรกติ อย่าไปใส่ใจมาก ทางการทูตสรอ ก็ยึดนโยบายจีนเดียว แต่ก็ขายอาวุธให้ใต้หวัน
ทัมใจกับสื่อไทยเถอะพี่น้องที่เคารพ จรรยาบรรณสื่อไทยปัจจุบันอยู่ในขั้นตกต่ำมาก ทำให้ประชาชนได้รับข้อมูลข่าวสารแบบไม่จริงจัง
ผมว่าประเทศไทยควรปฏิรูปสื่อได้แล้วนะ อย่าให้สื่อไทยเป็นเพียงแค่ธุรกิจ
Snook ครัช เสธน้ำเงิน ไม่ใช่นักการทูตอาวุโสนะครัช อิอิ
@คุณbatnight ที่ว่านี้คือ สรอ.ร่วมฝึกแค่บรรเทาทุกข์ ? แล้วยังมีการฝึกอื่นและการฝึกยกพลขึ้นบกของชาติอื่นๆตามกำหนดเดิมใหมครับ (เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น ไทย ฯลฯ)
@คุณskysky การที่จีนเข้าร่วมไม่เกี่ยวครับ เพราะที่ผ่านมาก็มีการฝึกบรรเทาทุกข์ พวกนี้ปกติจะมีการฝึกหลายอย่าง ไม่แน่ใจว่าคอร์บร้าโกลด์นี่มีฝึกบัญชาการในที่ตั้งด้วยหรือเปล่า แต่การอย่างฝึกอื่นๆก็เช่นฝึกยิงกระสุนจริง ฝึกยังชีพในป่า มีเพิ่ม air assualt มาไม่กี่ปีหลังนี้ เพียงแต่การฝึกยกพลขึ้นบกนั้นเป็นไฮไลท์ครับ และแต่ละประเทศไม่ได้ร่วมฝึกทุกโปรแกรม พวกฝึกบรรเทาทุกข์หรือรับมือภัยพิบัติพวกนี้ก็จะมีประเทศร่วมเยอะ (คิดว่าเขมรก็มาฝึกนะ ตอนนั้นความสัมพันธ์ตึงเครียดด้ย แต่เอาแต่ผญ.มา หรืออันนั้นกะหรัตไม่รู้) เพราะไม่ใช่การฝึกรบ ไม่ต้องมีความสัมพันธ์ทางทหารสูง ไม่มีปัญหาเรื่องการแชร์ข้อมูลทางทหาร หรือแทคติค เทคนิค ต่างๆ
เขียนข่าวทุเรศน่าดู (ฮา) สื่อไทยนี่เดี๋ยวนี้การตรวจสอบน้อยจริงๆ เหมือนวันๆ นั่งเปิดเฟซบุ๊คแล้วเอามาเขียนต่ออีกที
ความหมายนี่คนละเรื่อง ผมก็งงว่าทำไมไม่มีข่าวเลยอยู่ๆ จะมาประกาศงี้เลยเหรอ ซึ่งเข้าใจว่าสหรัฐฯ ก็แสดงท่าทีอย่างนี้มาตั้งแต่เราปฏิวัติแล้วนะ หากสหรัฐฯ คิดจะตัดจริงๆ ผมคิดว่าสหรัฐฯ น่าจะเสียประโยชน์มากกว่าเพราะเท่ากับถีบส่งไทยไปหาจีนทีเดียว ทั้งที่สหรัฐฯ เพิ่งประกาศ pivot asia มาหมาดๆ และเป็นนโยบายยุคปัจจุบัน ผมคิดว่าสหรัฐฯ เองนั้นต้องแสดงท่าทีอย่างนี้แหละครับเพราะตามหลักเขาต้องต่อต้านอยู่แล้ว แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นไทยก็ไม่ควรจะเหลิงคิดว่ายังไงสหรัฐฯ ต้องง้อๆ เพราะหากเรากวนตีนมากๆ และไม่ทำตามโรดแม็ปคืนสู่ประชาธิปไตยก็มีสิทธิ์โดนตัดสัมพันธ์ได้จริงๆ
ส่วนจีนนั้นไม่สนเรื่องประชาธิปไตยอยู่แล้ว ฮา ยิ่งชอบสนับสนุนด้วยเพื่อเป็นการสร้างความชอบธรรมให้ระบบการปกครองของประเทศตัวเอง เช่นมาแสดงความสนับสนุนไทยหลังรัฐประหารโดยการบอกไทยว่าแหม่ประชาธิปไตยของแต่ละประเทศนั้นมันก็ต้องต่างกันไปตามวัฒนธรรม เพราะของจีนก็ประชาธิปไตย(แบบจีนๆ)เหมือนกัน
ผมว่า ข่าว มันก็ถูกนี้ครับ ผมก็เห็นหลายแหล่งนะ ถึงความหมายมันไม่ถูก แต่เนื้อหาก็พอได้อยู่นะ จาก ตัด เป็นตัดลงเหลือ ให้ลองนึกดูว่า ถ้าประเทศเราโดยโจมตีรวดเร็วจากประเทศอื่นจนสูญเสียพื้นที่ ตามเงื่อนไขการเผือกปกติของเมกาเค้า ข้อแรกก็ไม่ผ่านแล้ว คือ ช่วยเหลือพันธมิตรประชาธิปไตย เราตอนนี้ก็ออกนอกข่ายไปแล้ว จากปกติต้องมารวมเผือกแน่ๆ แต่ตอนนี้เค้าไม่มาแน่นอน ต่างกันก็ตรง ไม่เรียกตัดสัมพันธ์ทางทหาร ก็เรียกลดสัมพันธ์ทางทหาร เท่านั้นเอง
คำที่ถูกต้องคือ ลดความสำพันธ์ทางทหารครับ เพราะคำว่าตัด แปลว่าเลิกหรือไม่มีซึ่งเจตนาของผู้เขียนต้องการสื่อให้คนอ่านคิดอย่างนั้นเพื่อเหตุผลบางอย่าง ซึ่งสื่ออีกฝั่งในข้อเท็จจริงเดียวกันก็อาจเขียนได้ว่า อเมริกาไม่ตัดความร่วมมือทางทหารกับไทย ซึ่งเป็นวาทกรรมทั้งคู่ หน้าที่ของสื่อคือรายงานข้อเท็จจริง ไม่ใช่บิดเบือน