คือได้อ่านหนังสือประวัติการสู้รบของทหารไทยในลาว ตั้งแต่ตอนที่ส่งทหารเสือพรานไปร่วมรบในลาว กับตอนที่ทหารไทยเข้าตีฐานทหารลาวบนเนิน 1428 บ้านร่มเกล้า เพื่อยึดคืน รู้สึกว่าพอทหารไทยเข้าตีทหารลาวทีไร พอสาดกระสุนปุ๊บ ทหารลาวก็ประเคนอาวุธหนักใส่ทหารไทยทันที ค. กับ ปรส. ทหารไทยยังพอรับมือได้ แต่พอไอ้ปืนใหญ่รุ่นนี้ M-46 ของโซเวียต ขนาด 130 มม. ยิงข้ามมาจากฝั่งลาวมาตกหน้าฐานทหารลาวตรงเนิน 1428 ที่ทหารไทยหมอบอยู่ มีคำสั่งให้ทหารไทยถอนตัวต้องวิ่งลงมาจากเนิน 1428 ทุกครั้ง (ทำไมทหารลาวที่เนิน 1428 มันอึดจังหวา) ไอ้ปืนใหญ่รุ่นนี้ทำให้สูญเสียพี่น้องทหารไทยที่ร่วมรบไปหลายคนเลย จนกระทั่งมีการเจรจายุติศึกกัน
วันนั้นปืนใหญ่เราสู้ปืนใหญ่ ค่ายคอมมิวนิสไม่ได้ครับ หลักนิยม ตะวันตก ณโวันนั้น ใช้เครื่องบินทำลายเป้าหมายเห็นหลัก ในขณะที่หลักนิยมรัสเซียใช้ ปืนใหญ่หรือ จรวดหลายลำกล้องเป็นหลัก ดังนั้น ปืนใหญ่ รัสเซีย จะยิงได้ไกลกว่า ปืน 155 ของเรา ผลก็คือ เรายิงทำลายปืนใหญ่เขาไม่ถึง (เหมือนที่เขมรยิงทำลายปืนใหญ่เราไม่ถึงนั้นแหละ) แต่หลังจากนั้น เราก็จัดหา GH45 มา ยิงได้ไกลกว่า ป 130 ครับ ถ้าวันนั้น เรามี GH45 เหตุการณ์อาจเปลี่ยนไป
ปล เคยได้ยินว่า เหตุผลที่ลาวรีบเจรจาก็เพราะ กระสุนปืนใหญ่เรา นั้นแหละ คือตอนหลังเราใช้กระสุนของจีนแดง แล้วพอเขาพิสูจน์ทราบว่า เป็นกระสุนจากจีน เขาจึงรีบเจรจา กลัวอาตี๋แกลงมาเล่นด้วยแบบ สงครามสั่งสอนเวียดนาม จริงเท็จประการใดก็ฟังหูไว้หูนะครับ
ตอนนั้นเราไม่มี 155 ไม่ใช่เรอะ
เข้าใจว่า มี m114 นะครับ
ยุคนั้นเรามี 155. ใช้นานแล้วครับ
แบบ M114
M198 เรารับมอบชุดแรกตั้งแต่ปี 2525 ครับ (เป็นการสั่งซื้อของใหม่แกะกล่อง) ส่วนที่เพิ่งส่งมอบตั้งแต่ปี2555 เป็นการซื้อมือสองจากคลังของUSA
ภาพจาก http://www.iseehistory.com/index.php?lay=show&ac=article&Id=538623449
ยุคนั้นยังไม่มีกระสุนต่อระยะ ทำให้ระยะยิงของ M198 ของเราสู้ M46 ไม่ได้
เพิ่งรู้นะเนี่ยว่าตอนนั้นเราก็มี m 198 ด้วย
ตอนเหตุการณ์บ้านโนนหมากมุ่น ถ้าจำไม่ผิดดูจากหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ เหมือนอเมริกาจะเอาปืนใหญ่ที่เรียกเฮาวิตเซอร์ ใส่เครื่องบินมาส่งให้ที่ดอนเมืองครับ ดูในรูปปากกระบอกมันโปน ๆ
เนิน 1428 ภูมิประเทศแถบนั้นเป็นยอดเขาสูงชันครับ ขึ้นไปยากมาก ยืนตรง ๆ ยังยากเลย แล้วภูมิประเทศก็เอื้ออำนวยให้ฝ่ายตรงข้ามมาก ๆ คือ มียอดเนินที่สูงกว่า 1428 ข่มอยู่หลายลูก แค่นี้ไม่เท่าไร ฝ่ายตรงข้ามเข้ามาดัดแปลงภูมิประเทศ ขุดคู สร้างที่มั่นวางจุดยิงไว้แล้ว พอฝ่ายเราขึ้นไปก็เลยเล็งตรงใส่มาเลย ตอนแรกเราใช้วิธีการเข้าตีตรงหน้าด้วยเราจึงเสียเปรียบพอสมควร (กำลังหลัก) ช่วงหลังเราใช้กำลังเข้าปฏิบัติการณ์ในพื้นที่แนวฝ่ายตรงข้ามและมีการเจรจาสงบศึกกันก่อน แต่เราก็เตรียมส่งหน่วยจากภาคตะวันตกเข้าปฏิบัติการแล้ว ซึ่งน่าจะเป็นการให้ตีโอบจากด้านหลัง
howitzer ก็แปลว่าปืนใหญ่วิถีโค้งนี่แหละครับ
ผมเคยอ่านเจอครั้งหนึ่งเมื่อนานมาแล้ว หลังจากที่เครื่อง F-5 ปฎิบัติการผิดพลาด (ทิ้งระเบิดโดนพวกเดียวกัน) นักบินได้เข้าไปรายงานตัวที่กองบัญชาการกองทัพภาคที่ 3 ผู้บังคับบัญชาและญาติของพี่น้องทหารที่เสียชีวิตจากการทิ้งระเบิด มองท่านด้วยความไม่พอใจ แต่ท่านก็จำเป็นที่จะต้องสู้หน้า เพราะท่านได้รับแจ้งพิกัดมาแบบนั้น คนที่แจ้งพิกัดจากทางภาคพื้นดินแจ้งท่านมา โดยไม่ทราบว่าพิกัดนั้นเป็นจุดที่ทหารไทยเข้าไปปักหลักอยู่ (ขออภัยนะครับที่ผมจำชื่อท่านนักบินไม่ได้)
เรื่องความผิดพลาดของพิกัดหรือเป้าหมาย ก็อาจเป็นไปได้แต่ไม่น่าจะมี เพราะเวลาปฏิบัติการรบร่วมจะมีผู้นำอากาศยานซึ่งเป็นนายทหารอากาศมาประจำอยู่ที่หน่วยภาคพื้นครับ ในการปฏิบัติการจะต้องกำหนดเวลาขั้นตอนไว้อย่างช้ดเจน มีการติดต่อสื่อสารกันอยู่ตลอดเวลา จากการได้รับฟังจากเพื่อน ๆ ดูเหมือนว่าช่วงที่เริ่มเข้าตี การติดต่อสื่อสารเราขาดหายไปช่วงหนึ่ง ตรงนี้ช่วยกันคิดต่อแล้วกัน
ไม่เหมาะสมลบได้เลยนะครับ
ปืนใหญ่ 155 ความจริงทบ.มีมาตั้งแต่สงครามเกาหลีแล้วนะครับ พอมาสงครามเวียตนามเราก็ได้เพิ่มเติมจากที่มี หลังสงครามเวียตนามเราจัดหาเพิ่มเช่น ปญ.GHN-45 ปญ.Soltam ท้ายสุดที่M-198 ส่วนที่เราไม่เคยได้รับการสนับสนุนจากสหรัฐฯเลยคือปญ.หนักขนาด 175หรือ204มม. ส่วนสงครามบ้านร่มเกล้า เราได้เห็นประสิทธิภาพปญ.วิถีราบขนาด130มม.จึงมีการจัดหามาจากจีนจำนวนหนึ่ง แต่ปัจจุบันเหมือนลืมอดีตกันไป ไม่ว่าฮ.ชินุคหรือปญ.วิถีราบ หมดความสำคัญไป จนกว่าจะเกิดอะไรขึ้นอีกนั้นหล่ะถึงจะให้ความสำคัญกันอีก เฮ้อผญ.บ้านเรา
เรื่องความผิดพลาดของ เอฟ-5 น่าจะเกิดจากหลายสาเหตุ โดยเฉพาะการขาดการฝึกรบร่วมระหว่างเหล่า ระบบการสื่อสาร การขาดข้อมูลแบบเรียลไทม์ และข้อเท็จจริงที่ว่า การปฏิบัติจริงในสนามกับบนกระดานแผนที่มันมีข้อแตกต่างกันอยู่
หน่วยร่บที่เกาะอยู่หน้าเนินได้รับคำสั่งให้ถอนเพื่อ ทอ. จะแอร์เรดแอร์สไตค์ แต่เดินบนแผนที่กับเดินบนภูมิประเทศมันใช้เวลาต่างกันลิบลับ เป็นเหตุให้หลายหน่วยถอนออกมันไม่ทันเวลาที่กำหนด เป็นเหตุให้เกิดเหตุผิดพลาดในการปฏิบัติการครั้งนั้น
ผมว่า ปืน 130 มันไม่ได้เจ๋งขนาดนั้นแล้วมั้งครับวันนี้ GH45 หรือ เจ้า ซีซ่าก็ยิงได้ไกลกว่า m130 แล้ว เข้าใจว่าเขมรก็มีปืน 130 ยังโดนปืน 155 ของเราสอยเลย อีกอย่างถ้า ปืน 130 มันดีขนาดนั้น กองทัพจีนคงไม่เปลี่ยนมาใช้ 155
แล้วเหตุผลที่เรา สั้งปืน 130 เข้ามาไม่น่าจะเป็นเพราะ เหตุการนั้น แต่เป็นเพราะในช่วงนั้นเราสั่งอาวุธ ล๊อตใหญจากจีน ในราคาพิเศษ ไม่ว่าจะเป็น รถถัง รถสายพาน ปืนใหญ่ ปตอ เรือรบ ปลย เพื่อเหตุผลทาง การเมืองระดับประเทศมากกว่า
เรื่องอื่นผมไม่รู้ครับท่านSkysky แต่ท่านเข้าใจผิด ความสำคัญที่ผมพูดไม่ใช่ระยะยิง แต่ผมหมายถึงการยิงวิถีราบ ซึ่งสมัยนั้นเราไม่มี และทบ.ก็แก้ปัญหาโดยการสั่งปญ.GHN45กับSoltamมาประจำการเพราะปญ.สองแบบนี้เคยทำคนหลงประเด็นว่าเป็นปญ.วิถีราบหรือวิถีโค้งกันแน่แต่ตอนสงครามบ้านร่มเกล้าผมไม่ได้ไปกับเขาด้วยครับ ได้แต่อ่านวารสารเหล่าปญ. ปญ.ซีซ่าผมว่าสุดยอดครับ ไปนั้งดูมาแล้วทีเขาพุโลน แต่ยังไม่ใช่วิถีราบ ท่านต้องเข้าใจก่อนว่าปญ.ไม่ได้มีแต่ตั้งฐานยิงตูม แต่มันแบ่งเป็นปญ.ภูเขา ปญ.วิถีราบขนาดเบา กลาง หนัก และปญ.วิถีโค้งครับ ส่วนเรื่องการเมืองการมุ้งไม่ยุ่งดีกว่าครับ ส่วนเรื่องที่ว่าพอสปปล.รู้ว่าเราสั่งกระสุนจากจีนอันนี้ไม่รู้อีกครับ แต่ในเว็ปเราเคยมีเอกสารหรือพูดคุยกันถึงการส่งรพศ.ไปหลังแนวข้าศึก ตัดกำลังและการส่งกำลังบำรุงจนแนวหน้าสดุด และมีการปรับแผนการสื่อสารร่วมระหว่างเหล่าทัพครับจนนำมาซึ่งข้อยุติ
ท่านก็ตอบคำถามตัวเองแล้วนิครับ GH45 ก็เป็น ปืนใหญ่วิถีราบนิครับ soltam ก็ใช่ ดังนั้นจะตอบว่า ไม่ให้ความสำคัญคงไม่ได้ เพียงแต่เปลี่ยนไปใช้กระสุนขนาด 155 ซึ่งเราผลิตเองได้มาแทน