ตามความเข้าใจ น่าจะหมายถึงการซ้อมรบด้วยกระสุนจริงหรือการซ้อมรบร่วม หลังจากเหตุการณ์บ้านร่มเกล้าเคยมีการซ้อมรบร่วมกันระหว่าง ทบ.กับ ทอ. และซ้อมปฏิบัติการด้วยกระสุนจริง แต่ยังทำกันในพื้นที่ทหารครับ ถ้าจะไปปฎิบัติการในพื้นที่ต่าง ๆ ก็คงได้แต่จะมีปัญหาด้านความปลอดภัยของพลเรือน ขนาดซ้อมยิงปืนใหญ่ ซ้อมยิง ค. บางที่ยังมีชาวบ้านเข้ามาในพื้นที่โดนลูกหลงเข้าไปก็มี บางครั้งลูกกระสุน ลูกระเบิด ไม่ระเบิดอีก ส่วนความยุ่งยากด้านอื่น ๆ คงมี ทั้งงบประมาณ และที่สำคัญเสียงจากลูกระเบิดมีปัญหาพอควรครับ ยกตัวอย่าง ตำบลมะกอกหวาน ที่อยู่ใกล้สนามใช้อาวุธที่ชัยบาดาล ไม่สามารถเลี้ยงไก่ได้ เพราะไก่ตกใจตาย อย่างฟาร์มไก่ในหลาย ๆ พื้นที่ ที่เครื่องบินพาณิชย์บินผ่าน พอเครื่องบินต่ำ ๆ เสียงดัง ไก่ในเล้าตกใจ โดดทับกันตายเป็นกองตามมุมเล้าก็มี ไว้รอข้อมูลจากท่านอื่นด้วยครับ

เพื่อความปลอดภัย กับเพื่อความสะดวกในการประเมินผลการยิงครับ

การฝึกยิงอาวุธด้วยกระสุนจริง จะต้องเผื่อพื้นที่ปลอดภัย ในกรณีที่ยิงพลาดไม่ถูกเป้าจะต้องไม่ไปสร้างความเสียหายหรือเป็นอันตรายกับอย่างอื่น ไม่ใช่แค่เล็งเป้าไหนก็เผื่อพื้นที่ไว้แค่ตรงนั้น ดังนั้นสนามฝึกยิงอาวุธจึงต้องเป็นพื้นที่ที่คำนวณเผื่อระยะปลอดภัยไว้แล้ว ยิ่งมีเป้าหลายจุดยิ่งต้องใช้พื้นที่ปลอดภัยมากขึ้นไปด้วย

ส่วนเรื่องการประเมินผล ถ้ามีแค่เป้าเดียว เวลายิงตกห่างจากเป้าไปแค่ไหนก็สามารถประเมินความแม่นยำได้ง่าย แต่ถ้ามีหลายเป้า บางครั้งหากพลาดเป้านึงไป แต่บังเอิญไปถูกเป้าอื่น ก็จะเกิดความยุ่งยากในการประเมินครับ

ส่วนการยิงเป้าที่ถูกบัง ในการฝึกยิงปืนใหญ่ก็มีการฝึกประเภทนี้อยู่ คือการฝึกยิงแฝง หรือการยิงโดยใช้จุดเล็งรอง คือเป็นเป้าที่ถูกบังไม่สามารถเล็งตรงๆ ได้ แต่ใช้การเล็งที่จุดเล็งรองแล้วแก้ค่า offset เอาครับ ถ้าอยากทราบรายละเอียดเพิ่มเติมลอง google คำว่า "indirect fire" ดูครับ

รายละเอียดค่อนข้างลึกซึ่งทีเดียว ถ้าเราจำลองภูเขาลูกนั้นทั้งลูก (ภูเขาที่เคยเห็นตอนฝึกยิงตามในคลิป) ให้เป็นเป้าที่แตกต่างกัน แต่ละจุดห่างกันพอสมควร เพื่อง่ายในการประเมินผล โดยทำแบบจำลองทำทีให้ข้าศึกอยู่ในที่แตกต่างกัน  ฝึกยิงจากง่ายไปหายาก และจากระยะใกล้ ไปจนไกลสุดของเขาลูกนั้น เพื่อฝึกความแม่นยำจะดีไหม

สำคัญที่คนบอกระยะ องศา ตำแหน่ง ดีกว่า เพราะอาวุธเราก็ไม่ได้ทันสมัยอะไรมากมาย เหมือนมหาอำนาจ