Anti-Materiel Rifle แปลเป็นไทยตรงตัวก็อาวุธต่อต้านยุทธภัณฑ์ ในอดีตปืนชนิดนี้จะเรียกว่า Anti-Tank Rifle เนื่องจากในอดีตรถถังยานเกราะยังมีเกราะหนาไม่มากนักกระสุนปืนกลหนักขนาด 12.7mm หรือ .50BMG หรือ 20mm ก็สามารถ ทำความเสียหายให้กับรถถังได้แล้ว ซึ่งรถถังก็ได้พัฒนาเพื่อความอยู่รอดมากขึ้นโดยการเพิ่มเกราะหนามากขึ้นปืนซุ่มยิงชนิดนี้ต้องใช้แรงคนในการพกพาไปจึงไม่สามารถที่จะแบกปืนที่ใช้กระสุนขนาดใหญ่ขึ้นด้วยตัวคนเดียว มันจึงถูกลดบทบาทไปในที่สุด
ต่อมาภายหลัง Anti-Tank Rifle จึงถูกปรับเปลี่ยนเป็น Anti-Materiel Rifle เพื่อใช้ยิงทำลายอุปกรณ์ทางทหารเช่นเรดาห์ กล้องตรวจการณ์ในระยะไกลก่อนจะถูกตรวจจับได้ ในระยะที่ปืนเล็กยาวประจำการยิงไม่ถึง ในบางครั้งก็ถูกนำไปใช้ยิงต่อต้านทหารราบด้วย
ในคลิปจะเห็นว่าทหารฝ่ายต่อต้านในซีเรียใช้ Anti-Materiel Rifle ยิงทำลายเครื่องยิงจรวดฝ่ายรัฐบาลถือว่าเป็นการใช้อาวุธประเภทนี้อย่างถูกต้องที่สุด
ขอบคุณมากครับท่าน banyat สำหรับข้อมูล ตอนแรกคิดว่าใช้ซุ่มยิงทหารราบเท่านั้น หรือ พลประจำรถที่โผล่ออกมาตรวจการ หรือ ทำการรบโดยโผล่ออกมาใช้อาวุธปืนกลประจำรถ
อ่านจากอัตชีวประวัติของ christ kyle แกบอกปืนนี้ที่เอาไว้ยิงรถนั้นไม่เข้าท่า เพราะถ้ายิงเสร็จไม่ว่าเจาะเครื่องยนต์หรือถังน้ำมันรถก็จะไม่หยุดทันที วิ่งไปเรื่อยๆพักนึงแล้วหยุด แกบอกว่าใช้ 7.62 ดีกว่า แล้วยิงคนขับเอา ฮา ปืนเบากว่าเยอะ หยุดเหมือนกัน
พอดีเปิดเจอในยูทูปเลยเอามาฝากครับ ปกติเจอแต่ยิงคนมันน่ากลัวไป ปืนกลลูกโต ๆ แบบนี้เอาไว้ส่องเป้าหมายขนาดเล็กพวกอุปกรณ์ภายนอกของยานเกราะได้ผลชะงัดนักครับ (ถ้าไม่โดนมันสวนมาก่อน - -*)
ในซีเรียรถกระบะหรือพวกฐานที่มั่นเนี่ยปืนพวกนี้สามารถยิงทะลุกำแพงอิฐบล๊อคได้เลยครับ ถ้าปูนไม่หนาจริงโดนยิงทะลุเข้ามาแม้ไม่โดนใครก็ทำให้ทหารภายในฐานขวัญผวาได้