จีนและไทยยกระดับความสัมพันธ์ด้านเทคโนโลยีป้องกันประเทศ
เมื่อ 23 ธ.ค.57 พลเอกประยุทธ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ นาย Li Kequang นายกรัฐมนตรีของจีน ประชุมหารือความร่วมมือทวิภาคีเกี่ยวกับยุทธศาสตร์ด้านการป้องกันประเทศ การบิน การค้าและการลงทุน เทคโนโลยีด้านการสื่อสารและสารสนเทศ และขยายต่อไปยังด้านการฝึกหัดศึกษาของกองทัพ การต่อต้านการก่อการร้าย ความมั่นคงในภูมิภาค ทั้งนี้ ด้านการป้องกันประเทศจะเน้นความสำคัญไปยังโครงการ การพัฒนาและผลิตระบบจรวดหลายลำกล้อง โดยใช้พื้นฐานจากเทคโนโลยีจากเทคโนโลยีจรวด WS-1 ขนาด 302 มม. และ WS-32 ขนาด 400 มม. (ผลิตโดย China National Precision Machinery Import and Export Corporation) นอกจากนี้ไทยยังพัฒนาจรวดหลายลำกล้องขนาด 122 มม. อีกด้วย ทั้งนี้จีนยังเสนอโครงการพัฒนา และผลิตยุทโธปกรณ์เพิ่มเติมด้วย เช่น จรวดพื้นสู่อากาศควบคุมด้วยเรดาร์พิสัยไกล FD-2000 หรือจรวดพื้นสู่อากาศ FL-3000N ที่ติดตั้งบน เรือรบ และยานรบต่อต้านการซุ่มโจมตีและทุ่นระเบิด CS-VP3/Jane’s
http://dtad.dti.or.th/index.php?option=com_content&view=article&id=544%3Adefence-news-around-the-world-29dec2014-2jan2015&catid=3%3Adefense-news&Itemid=3
พลเอกประยุทธ จันทร์โอชา และ นาย Li Kequang
FD-2000
คว้าเลย โอกาสดีๆแบบนี้หายากมาก เปอร์เซ็นต์สูงมากครับ เห็นว่าในแผน dti จรวดพื้นสู่อากาศก็อยู่ในแผนด้วยนี่
ขอร้องอย่างนึง อย่าจัดหาเรือดำน้ำจีนและเครื่องบินจีนก็แล้วกัน เสียวแทนว่ะ
รถเกราะจีน ผมว่าเรามี First win แล้วนี่
เอาเป็นผลิต ปืนประจำกาย ปืนปก เครื่องยิงจรวดต่อสู้รถถัง จรวดต่อสู้อากาศยานแบบประทับบ่า ปืนกลหนัก หลังๆก็ เครื่องควบคุมการยิงแบบ electro optics ก่อนไหมครับ ไม่ได้จะว่านะครับ แต่คนไทยเราเล่นใหญ่ตลอด แต่ไปได้ไม่ตลอด กรมสรรพาวุธมีต้นแบบอาวุธเยอะแยะครับ แต่ไม่ได้เข้าสายการผลิตมันก็เป็นแค่ของโชว์ครับ ไม่ได้ใช้งาน เค้าวิจัยกันจนเซ็ง ถามจริงๆ ของใหญ่ๆเราจะคงสายการผลิตไว้ได้เหรอครับ อย่าง sam ระยะไกล หรือ ciws บนเรือ แต่ละอย่างประเทศต้นแบบยังจะคงสายการผลิตไว้แทบไม่ได้เลย จะเป็นการดีกว่าถ้าเริ่มจากเล็กไปหาใหญ่
สิบสองปันนา
สิบสองปันนา (https://www.youtube.com/watch?v=67wnbcD8G18)