อยากสอบถามผู้รู้  ท่านใดทราบไหมครับว่า  ทำไมไม่เห็นของบทำ F16MLU ที่เหลืออีก 6 เครื่อง (เพราะก่อนหน้านี้อนุมัติไปแล้ว 2 ครั้ง รวม 12 เครื่อง)

ดูแล้วเรือดำน้ำจีน ชั้นซ่ง มา win ครับ ถ้าดูจากงบ นะ พี่ที่ทำงานที่กองเรือดำน้ำบอก รองลงมาก็ รัสเซีย รัซเสียเสนอ amur 950 มานะ ผมก็งงๆ ทำไมเขาเสนอจังเลยตัวนี้ ถ้าเรือดำน้ำจีนผมกลัวว่าพวกพี่ๆจะไม่กล้าดำ เหอะๆ

มั่วแล้วมั้งครับสำหรับข่าว ทบ จะเอา บ ถ่ายภาพมาทำไมครับผิดรุ่นหรือเปล่า

ปล ขอแสดงความเสียใจกับแฟน Yak ด้วยครับ

ฮึ ฮึ ตามที่วิเคราะห์ไว้ครับ ว่า ถ้า ทร รีบตัดสินใจเพื่ออนุมัติภายในรัฐบาลนี้ เรือดำน้ำ จีน มาแน่ ส่วน ทบ. ฮึ ฮึ ยูเครน เหมือนเดิม ส่วน ทอ. ฮึ ฮึ งานนี้ Scorpion อาจจะพลิกเกมส์ อาจจะ งง ตาแตก กันทั้งวง

ข่าวค่อนข้างมั่วครับ โดยเฉพาะเรื่องที่บอกว่ากองทัพเรือได้พิจารณาคัดเลือกแล้ว และมีราคาแล้ว แต่เพจกองเรือดำน้ำบอกว่ายังไม่เปิดให้บริษัทยื่นเสนอราคาเลย

https://www.facebook.com/222887361082619/activity/829446813760001

ข้อสังเกตอีกอย่างหนึ่งคือข่าวของ Nation ก็มีเนื้อความเดียวกัน ซึ่งคงมีคนทำ Press Release แจกโดยที่ข้อเท็จจริงคลาดเคลื่อน

ตามที่ผมเช็คข่าวมากองเรือดำน้ำไม่มีอำนาจตัดสินใจว่าจะเลือกแบบเรือดำน้ำเลยด้วยซ้ำ มีหน้าที่แค่คัดเลือกสเปกส์และส่งต่อให้ผู้บังคับบัญชาระดับสูงในกองทัพเรือ  ตามที่ท่าน กัปตันนีโมกล่าวก็ถูกต้องแล้วครับ ต้องรอให้ตัวแทนผู้ค้าอาวุธยืนราคา (TOR) ก่อน เพราะการยืนราคา (TOR) มันสามารถพลิกล็อกกันได้ มันขึ้นอยู่กับตัวแทนผู้ผลิตอาวุธว่าจะยอมสู้ราคาตามที่กลาโหมตั้งราคากลางได้ไว้หรือไม่

มันก็เหมือนกันกับโครงการเรือฟริเกตสมรรถนะสูงนั้นแหละครับ

ยังไงๆซะซีรี่เรื่องนี้ยังต้องลุ่นกันอีกยาว และการจัดสรรงบประมาณของกลาโหมที่จะใช้จัดหาเรือดำน้ำยังไม่มีการตั้งราคากลางไว้อีกด้วย (ซึ่งนั้นก็อาจจะรวมไปถึงว่าการจัดหาเรือดำน้ำในปี 2558 อาจจะไม่รับการอนุมัติเลยด้วยซ้ำ ฮะฮะ) แต่อย่างว่าผมก็เชื่ออยู่ลึกๆว่ากองทัพเรือก็คงยังไว้ลายอะไรบางอย่างให้ทางกลาโหมเค้าอาจจะยอมเพิ่มงบเพื่อให้ได้สเปกส์เรือดำน้ำที่น่าจะแฮปปี้กันทุกฝ่าย

ผมทายว่า บ ฝึก ไม่ scorpions ก็ T50 แต่ ส่วนตัวอยากได้ scorpions มากกว่า 

แต่เรื่องดำน้ำ ตามข่าว U-209 เวอร์ชั่นเกาหลีถูกสุดนะครับ 1.1 หมื่นล้านบาท/ลำ ตามข่าว

ดูแนวแล้วคิดว่าน่าจะได้เกาหลีมากที่สุดนะครับ

ก็อย่างที่บอกครับว่าข่าวมั่ว กองเรือดำน้ำเขาออกมาชี้แจงแล้ว ว่ายังไม่มีการยื่นข้อตกลงและการเสนอราคา แล้วจะมีการพิจารณาคัดเลือกได้อย่างไร

นักข่าวก็มโนเขียนข่าวไปเรื่อย ส่วนคนเรานี่ก็หลับหูหลับตาเชื่อทุกอย่างที่นักข่าวบอกจริงๆ

amur 950 ถ้าได้มาผมว่าก็เหมาะกับประเทศเราดีนะ คือลำเล็กๆเน้นโจนตีภาคพื้น แต่ถ้าได้รุ่น 1650ก็ไม่ว่ากันเอาไว้ขู่เรือก็น่าจะดี

แต่ใครๆเห็นสเปกของเจ้า 950 นี้.... ก็ต้องร้องกันทั้งนั้นละครับ จิ๋วแต่เจ๋ว จริงครับ 

  The special feature of the submarine "Amur 950" is the arrangement of missiles in vertical launchers and its readiness to be used fast, including salvo firing. The ammunition of the “Amur 950” submarine consists of:

10 vertical missile containers with cruise missiles: anti-ship missiles 3ะœ-54E1 and/or missiles 3ะœ-14E against land targets; missile launchers are of universal type;
4 torpedo tubes with universal torpedoes (plus 2 extra torpedoes) providing the capability to attack submarine targets or surface targets from close range.

ราคาทั้ง2รุ่นประมาณการกันเอาไว้ที่ 450,000,000$ (ราคาจากเว็บ wiki) 

ถึงท่านจูดาส อย่าเพิ่งไปกังวลกับโครงการรถไฟฟ้าความเร็วสูงจากจีนว่าเราจะเสียเปรียบอะไรกันมากมายเลยครับ

รายละเอียดตรงนั้นยังไม่มีการเปิดเผยอย่างเป็นทางการ (เพราะยังไม่มีการเซนต์สัญญา) และอีกอย่างเท่าที่ผมรู้ข่าวมาฝ่ายจีนมีการเรียกฝ่ายเราไปคุยถึง4 ครั้งแล้วตั้งแต่ อดีตนายกยิ่งลักษณ์ จนถึง ท่าน นายกพลเอกประยุทธ์เกี่ยวกับข้อเรียกร้องที่ฝ่ายไทยเราต้องการให้ปรับลดข้อสัญญาที่คู่สัญญา คือฝ่ายไทยเราเสียเปรียบในเรื่องผลประโยชน์จากการที่จีนจะเข้ามาลงทุนสร้างระบบรถไฟความเร็วสูง ลดลงไปครึ่งต่อครึ่งแล้ว แว่วๆว่าไทยเราจะร่วมลงทุนกับจีนแบบครึ่งต่อครึ่งเพื่อให้ไทยเราได้รับผลประโยชน์ร่วมด้วย ซึ่งหนึ่งในข้อสัญญาที่สำคัญก็คือเรื่องการกำหนดราคาค่าตั๋วรถไฟฝ่ายไทยเราต้องเป็นผู้กำหนดราคาแต่เพียงผู้เดียวเท่านั้น

  ปล.แต่เรื่องการลงระบบรถไฟฟ้าความเร็วสูงของจีนความไม่ได้หมายความว่าจะมาเหมารวมถึงอาวุธที่ประเทศไทยเราจะซื้อมาใช้งานนะครับ

เรือดำน้ำจากเกาหลี DSME 1400 ถ้าเราได้รับดีลเดียวกันกับของอินโดนีเซีย  คือ 3 ลำราคา 1,070 M. USD เฉลี่ยตกประมาณลำละ 1.2 หมื่นล้านบาท

    แต่ตามที่พลเอกประวิทย์ วงศ์สุวรรณ เคยบอกเอาไว้ว่าอาจจะยังจัดหาให้ได้ไม่เพียงพอต่อความต้องการ(เพราะงบไม่พอ) โดยในความหมายนี้อาจจะเริ่มจากจัดหาลำแรกที่รัฐบาลชุดนี้ก่อน  จากนั้นรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งก็จะมาซื้อเพิ่มลำที่สองและลำที่สามตามมา โดยอาจจะมีการจัดทำเป็นร่างพรบ. แบบเดียวกันกับระบบขนส่งมวลชน ก็เป็นได้ (อันนี้ความคิดเห็นส่วนตัวนะครับ) 

สงสัยว่าของเกาหลี ที่อินโดนีเซียสั่งซื้อติดตั้ง AIP ด้วยหรือเปล่าครับเพราะดูราคาถูกผิดปกติ

เรือดำน้ำ type 209 จะเอาหรอ เห็นว่าอินเดียเคยเอามาซ้อมปรากฎว่าแพ้ kilo นิ

เรือดำน้ำ type 209 ที่อินเดียซื้อลิขสิทธ์ไปต่อต่อใช้เองมันเป็นเวอร์ชั่นธรรมดาครับ ไม่มีอ็อฟชั่นยิง UGM-84 harpoon อีกต่างหากด้วย

ซึ่งจะแตกต่างกันกับเวอร์ชั่นของเกาหลี DSME 1400 ที่มีการปรับปรุง อัฟเกรต ระบบอาวุธและระบบอื่นๆค่อนข้างเยอะ(ซึ่งน่าจะรวมไปถึงระบบโซน่าด้วย)และสามารถใช้ยิง UGM-84 harpoon เพื่อโจมตีเรือผิวน้ำได้

เพราะฉะนั้นจะเอาเรือดำน้ำ type 209 ของอินเดียมาเทียบเท่ากันกับ DSME 1400 ของเกาหลีไม่ได้ครับ เพราะความแตกต่างเรื่องเทคโนโลยีที่ของเกาหลีใต้ใส่เข้าไปในเรือดำน้ำใน type เดียวกันนี้เค้าจะค่อนข้างจะดีกว่าเยอะครับ

http://en.wikipedia.org/wiki/Shishumar-class_submarine

http://en.wikipedia.org/wiki/Chang_Bogo-class_submarine

ก็อย่างที่ผมบอกไปในข้างต้นนั้นแหละครับ ยังไม่มีการยอมเซนต์สัญญา เพราะเหตุผลเรื่องการรักษาผลประโยชน์ของฝ่ายไทยเรา

   ข้อสังเกตถ้าข้อเสนอในโครงการรถไฟฟ้าความเร็วสูงของจีนมันดีจริงป่านนี้ทั้งลาว เขมรและพม่าคงจะยอมเซนต์กันไปหมดแล้วแต่นี้ ทุกประเทศในอินโดจีนยังนิ่งเฉยกันหมด อย่าลืมว่าไทยเราและประเทศในอาเซียนมีการพูดคุยกันในการประชุม AEC กันทุกครั้ง

แต่เหตุที่จีนต้องพุ่งเป้ามายังที่ไทยเรานั้นก็เพราะเราเป็นศูนย์กลางหรืออาจจะเป็นตัวแทนการเจรจาโดยตรง ระหว่างจีนกับกลุ่มประเทศในอินโดจีนโดย

พูดง่ายๆถ้าผลการเจราข้อตกลงและพันธะสัญญาระหว่างไทยกับจีนจนถึงจุดลงตัวแล้ว ทั้งลาว เขมร และพม่า ก็จะเอาข้อสรุปของไทยกับจีนนำไปใช้ในประเทศเค้าด้วย

ยังไงๆฝ่ายไทยเราก็คงไม่ยอมเสียเปรียบจีนมากเกินกว่าจะยอมรับได้อย่างแน่นอน เพราะฉะนั้นซีรีย์เรื่องรถไฟฟ้าความเร็วสูงยังต้องรอดูกันอีกยาวครับแต่ก็ไม่นานจนเกินรอ

ขอยกตัวอย่าง ซึ่งเป็นหนึ่งในข้อพันธะสัญญาที่อยู่ในหนังสือที่ทางจีนร่างขึ้นมาในนั้นก็คือ

เรื่องกรอบระยะเวลาการขอสัมปทานในdการดำเนินธุรกิจรถไฟฟ้าความเร็วสูง จากเดิมที่ อายุ 100 ปี ซึ่งล่าสุดตอนนี้โดนหันลงเหลือแค่ 45 ปี แต่ทางไทยเราต้องการให้เหลือแค่ 30 ปีเท่านั้น ซึ่งก็ต้องรอดูว่าจีนจะยอมไหม

เรื่องรถไฟฟ้าความเร็วสูงนี่ผมไม่อยากให้บริษัทจีนมาลงทุนเลย ให้ประเทศจีนช่วยเรื่องเงินทุนก็พอเหมือนรถไฟฟ้าในกทม.ทั้งหลายที่กู้พวกแบงค์เพื่อการลงทุนหรือพัฒนาของญี่ปุ่น เพราะผมว่าจีนแบบครอบงำมาก เพราะถ้าเขาลงทุนเขาย่อมหวังผลครับ ผมไปดูจัดนิทรรศการพรีเซนท์รถไฟฟ้าความเร็วสูงที่สถานีมักกะสันนี่พวกป้ายอะไรต่างๆ ภาษาจีนเยอะกว่าภาษาไทยอีกครับ อารมณ์เหมือนสนามกีฬาที่ลาวที่ป้ายภาษาจีนเยอะกว่าภาษาอังกฤษเพราะรัฐบาลจีนช่วยสร้างอะไรทำนองนั้น

และก็อย่างว่าคือมันควรจะมีการประมูลอย่างจริงๆ จังๆ เพื่อความเป็นธรรม และรายละเอียดควรจะออกมาก่อนเซ็นต์สัญญาครับ ไม่ใช่มาออกทีหลัง อีกอย่างเรื่องการออกแบบบริหารการสร้างผมการันตีได้เลยว่าถ้าจีนมีส่วนร่วมมากการออกแบบและเส้นทางเช่นอันไหนสร้างก่อนสรัางหลังจะทำเพื่อสนองประโยชน์ของจีนมาก่อน ของไทยมาหลัง อย่างเส้นหนองคายมาก่อนนี่ก็ฮาละครับ ชัดเจนเหลือเกิน แทนที่ภาคตะวันออกที่โรงงานและบริษัทเยอะทำให้นักธุรกิจเดินทางระหว่างตะวันออกกับกรุงเทพฯ สะดวกกว่าเครื่องบิน หรือภาคใต้ที่แหล่งท่องเที่ยวเยอะสามารถตีเครื่องบินโลว์คอสต์ได้ยับเยินแน่ๆ 

เรื่องเรือดำน้ำท่านประวิตรก็มีแง้มๆ มาอีกแล้วเนาะว่าอาจจะไม่ได้ แต่ถ้ารีบๆ จัดหาสั่วๆ ผมว่าก็อย่าเพิ่งเลยดีกว่า

ส่วนเครื่อง an-30 อยากจะบ้าตาย 

ก็ถูกต้องครับ เพราะในในสมัยรัฐบาลยิ่งลักษณ์ข้อสรุปของอดีตท่านนายกคือ เราจะขอกู้เงินมาสร้างระบบรถไฟฟ้าความเร็วสูงแบบที่เราจะควบคุมเองทั้งหมดไม่มีจีนมาร่วมลงทุนด้วย 

คือเรื่องโครงการสร้างรถไฟฟ้าความเร็วสูงในช่วงรัฐบาลยิ่งลักษณ์มันมี 3 กรณีนะครับ เท่าที่ผมเคยได้ไปสอบถามกับเจ้าหน้าที่แนะนำโครงการตอนช่วงที่กระทรวงคมนาคมออกมาเปิดงานโครงการระบบขนส่งที่อาคารศูนย์ราชการที่เมืองทอง 

คือ 1 กรณี จีนมาลงทุนเองทั้งหมด (ฝ่ายไทยเราไม่ยอมรับเพราะเสียเปรียบเยอะมาก)

     2 กรณี เรากู้เงินจากต่างประเทศมาลงทุนเองทั้งหมด (โปร์เจ็กนี้ดูจะเข้าท่าที่สุดแต่เราจะต้องกู้เงิน แต่แล้วถูกต่อต้านจากฝ่ายคัดค้าน)

    3 กรณี ร่วมทุนระหว่างสองประเทศ (กำลังเจรจาอยู่ในขณะนี้)

ส่วนเรื่องสเปกส์ของรถไฟและสเปกส์ของรางก็ยังไม่มีข้อสรุปเช่นกัน ว่าจะใช้รุ่นอะไรขนาดเท่าไรกันแน่ทุกอย่างมันเป็นการคาดการณ์

สรุปแล้วการจัดหาเรือดำน้ำ นี่ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกันกับโครงการรถไฟความเร็วสูงไช้หรือไม่

อ่านแล้วงง อย่างมากกกกกกก......

สำหรับโครงการระบบรถไฟรางคู่กับโครงการรถไฟฟ้าความเร็วสูงมันคนละเด็นไม่ใช่เหรอ แต่สุดท้ายก็กู้เงินมาลงทุนอยู่ดีแหละ หนี้ๆๆๆแล้วก็หนี้ (ฮา)

เอาเป้นว่าเรามาเถียงกันเรื่องเรือดำน้ำกันดีก่านะ 

สุดท้าย ก็อย่าลืมกู้เงินมาซื้อเรือดำน้ำด้วยละ ขอแค่นั้นแหละ

ข่าวกรอบข้อตกลงการลงนามร่วมในโครงการลงทุนระบบรถไฟรางคู่ระหว่างไทยกับจีน เสันทางเฉพาะสายตะวันออกเฉียงเหนือเท่านั้นครับ

เพื่อการระบายสินค้าเกษร ร่วมกันระหว่างสองประเทศ ไม่ใช้โครงการรถไฟฟ้าความเร็วสูงแต่อย่างใด

http://pantip.com/topic/33004816

จากเพจของกองเรือดำน้ำครับ

ในลาวนี่ผมหมายไม่ได้หมายถึงรถไฟครับ หมายถึงพวกสนามกีฬาถนนหนทางนี่ป้ายภาษาจีนมาก่อนภาษาอื่นเลย รถไฟทะลุลาวจีนเป็นรถไฟธรรมดาก่อนนั่นเป็นเหตุผลที่ดีแล้วแหละครับเพราะคนละเป้าหมายกับความเร็วสูง รถไฟมันไม่เกี่ยวกับเรือดำน้้ำโดยตรงหรอกครับ กำลังนอกเรื่องอยู่

โครงการรถไฟรางคู่ กับ รถไฟความเร็วสูง คือ โครงการเดียวกัน รางเดียวกัน แต่ รถไฟมันไม่เร็วสูงแค่นั้นในตอนนี้ สายแรก คือ สิ้นสุด มาบตาพุด หมายถึง การเชื่อมขนส่ง จาก จีน ผ่านลาว มาท่าเรือไทยที่มาบตาพุด ซึ่ง คือระบบการขนส่งที่ จีน ต้องคุ้มครอง เสมือนท่อก็าซในพม่าที่จีนต้องคุ้มครอง โดยขอเช่าเกาะ coco จากพม่า เพื่อวางกองเรือ โอกาส การมีบทบาททางเรือ ของกองกำลังทางเรือของจีน จะมีสูงขึ้นในอ่าวไทย ผมถึง ยืนยันว่า การจัดหา เรือดำน้ำ มีส่วนเกี่ยวข้องที่ว่า ไม่ควรจัดหาเรือดำน้ำจากประเทศจีน เพื่อลดบทบาทกำลังทางเรือ สัญชาติจีน ในภูมิภาคนี้ โดย ทร ไทย สามารถสร้างความเชื่อมั่นว่าจะคุ้มครองผลประโยชน์จีนได้ โดย คุณ ไม่ต้องมายุ่มย่ามแถวนี้

U-15 กับ U-17 น่าจะยังอยู่ที่เยอรมันนะครับ ตามรูป สภาพไม่ออกความเห็น แต่เยอรมันเขาก็เก่งนะ ถ้าจะเพียงนำมาใช้ฝึกในวงเงิน 1000 ล้านบาท 555555

โครงการณ์รถไฟรางคู่กับ ความเร็วสูงไม่น่าจะใช้รางเดียวกันครับ รถไฟไทย ราง 80 cm แทบไม่มีใครเขาใช้กันเพราะมันทำความเร็วไม่ได้ รถไฟปรกติ ของชาวบ้านเขาราง 1 เมตร เพราะมันทำความเร็วได้มากกว่า หมายถึงความกว้างนะครับ 

ส่วนเรือดำน้ำ ผมว่า ถ้า ทร จะจัดหาจริงๆ จะเอาของใคร ถ้าตัวเลือก มีแค่ เกาหลี จีน รัสเซีย ผมว่า รัฐบาลมาจากไหนก็ไม่ต่างกัน แต่หากจะบอกว่า ฝรั่งเศษโ€‹ เยอรมัน ทำไมถึงคิดว่าไทยจะซื้อ เรือ ดำน้ำเยอรมัน ฝรั่งเศษโ€‹ เพราะ ที่ผ่านมา นอกจากเรือ กวาดทุ่น ชั้น บางประจันแล้ว ไม่เห็นไทยเคยซื้อ เรือ เยอรมัน ฝรั่งเศษโ€‹ 

ส่วน a206 ผมว่ายังไงก็ไม่ได้ เพราะ สองรัฐบาลแล้วยังไม่กล้าเอา จริงๆผมว่าตอนนี้ โอกาศได้ เรือดำน้ำของ ทร ลำบากขึ้นกว่าแต่ก่อนอีก เพราะ เหตุการณ์ เครื่องบิน แอร์เอเชียตก ดันมีกระแสข่าวว่า นักบิน อินโด มองเห็น เงาเครื่องบิน ซึ่งเดี๋ยวจะมีคน เอามาแย้งว่า อ่าวไทยมันตื้น เอาเครื่องบินๆ ดูก็เห็นแล้ว ขนาดเครื่องบิน แอรเอเชียยังมองเห็นเลย ทร ต้องเหนื่อย อธิบายเพิ่ม อีก 

อีกอย่าง ทร ไม่น่าจะดำเนินการจัดซื้อทัน ในปีนี้อยู่แล้วครับ ถ้าจะได้คือ ได้ งบ ประมาณในปีนี้ กว่าจะเริ่มดำเนินการ เชิญชวน กว่าจะ สรุป spec  ผมว่า 59 ไม่รู้จะเสร็จ ทันไหม 

ท่าน skysky อ่านที่ผมยกเนื้อข่าวมาซิครับ โครงการรถไฟรางคู่ คิอ ขนาดราง 1.435 เมตร รองรับรถไฟที่ขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้า โดยโครงการจะเชื่อมต่อจาก ลาว แฝะ จีน และในอนาคต ก็สามารถจัดหารถไฟความเร็วสูงมาใช้รางนี้ได้ด้วยครับ คือ โครงการรถไฟรางคู่ จะขนานกับ รางเดิม ไม่ได้รื้อรางเดิมทิ้งโ€‹

อ่อ เข้าใจล่ะครับ โทษที ผมสับสนเอง

กลับมาที่เรือดำน้ำ ผมอยากทราบว่า จริงๆแล้ว ทร ลำดับความสำคัญไว้ที่เท่าไหร เพราะ เรือชั้น อ่างทอง ทร ก็ มีลำเดียว จากที่ควรมี สองลำ เรือ ฟรีเกตุสมรรถภาพสูง ก็ พึ่งเริ่มได้ หนึ่งลำ เรือ OPV ก็พึ่งต่อไป ลำเดียวยังขาดอีก สาม หรือ ทร จะซื้อ อย่างละลำให้ครบทุกชนิด แล้วค่อย วนไป ลำที่สอง 

โครงการรถไฟความเร็วไม่สูงของสายตะวันออกเฉียงเหนือขนาดราง 1.435 เมตร ถูกสร้างขึ้นเพื่อเชื่อมต่อกับรางรถไฟของจีนครับท่าน skysky มันเป็นหนึ่งในแปดโครงการระบบรางคู่ของการรถไฟแห่งประเทศไทย ที่ได้รับการอนุมัติอย่างแน่นอนแล้ว ลองเข้าไปอ่านเพิ่มเติมในเวปลิ้งนี้ดูครับ 

http://www.bangkokbiznews.com/home/detail/finance/finance/20140730/595962/%E0%B8%84%E0%B8%AA%E0%B8%8A.%E0%B8%94%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%A3%E0%B8%96%E0%B9%84%E0%B8%9F%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B8%84%E0%B8%B9%E0%B9%888%E0%B9%80%E0%B8%AA%E0%B9%89%E0%B8%99%E0%B8%97%E0%B8%B2%E0%B8%878.6%E0%B9%81%E0%B8%AA%E0%B8%99%E0%B8%A5..html

แต่ในส่วนที่ว่าจะเป็นระบบรางคู่เส้นทางดังกล่าวที่จะใช้ร่วมกับโครงการรถไฟความเร็วสูงนั้นผลการเจรจาระหว่างไทยกับจีนนั้นยังอีกนานครับ  อีกทั้งต้องดำเนินการตามแผนพรบ.เดิมคือสายกรุงเทพ- เชียงใหม่ก่อนครับ ถ้าจะมีการสร้างรถไฟความเร็วสูง  (เพราะต้องเป็นหน้าที่ของรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งที่จะเข้ามาสานต่อ)

ในความเห็นตามที่ท่านจูดาสกล่าวเกี่ยวเรือดำน้ำจากเยอรมัน

  ก็มีความเป็นไปได้อยู่ครับ แต่ผมเองก็กลัวว่าถ้าหากกองทัพเรือยังจะไปรื้อฟื้นเรื่องเรืออู Type 206 ผมเกรงว่ามันจะไปกระตุกต่อมอารมณ์ใครบางคนที่มีพาวเว่อร์ซึ่งก็รู้ๆกันอยู่ว่าเหตุที่กองทัพเรือแห้วรับประทานมาเมื่อรอบที่แล้ว ว่าเป็นเพราะอะไร.......

  แต่ก็ขอภาวนาเอาใจช่วยด้วยก็แล้วกันครับ ขอให้ได้มาใช้ฝึกก่อนจริงๆ ก็จะดีมิใช่น้อยครับ

ก็ไม่รู้อ่ะนะ เท่าที่สังเกตจากแหล่งข่าวหลายๆแหล่ง ถ้าไม่มีการจัดหาเรือดำน้ำจริงๆในปีหน้าคือ 2558 ตามที่กองทัพเรือออกมาประกาศแก้ต่างเกี่ยวกับเรื่องที่ว่า แต่กลับมีบริษัทผู้ผลิตเรือดำน้ำยกโขยงมาแนะนำตัวกันครบเกือบแทบจะทุกเจ้าแล้ว ซึ่งมันดูจะคล้ายกับอารมณ์เมื่อตอนจัดหาเรือฟรีเกตสมรรถสูงยังไงยังงั้นเลย แล้วสุดท้ายก็เหลือผู้เข้ามายืน TOR อยู่เพียงไม่กี่เจ้าในช่วงเวลาถัดมาอีกเพียงไม่กี่เดือน

   หรือนี้มันจะเป็น ลับ ลวง พราง กันอีกแล้วหว่า คิดถึงเจ้ วาสนา นาน่วม จังเลยตอนนี้

  ถึงท่าน woot 1980 อารมณ์มันต่างกันอยู่ครับ คือต่างกันตรงที่ว่าตอนนั้นรัฐบาลอดีตนายกยิ่งลักษณ์อนุมัติวงเงินก่อนแล้วถึงได้เรียกคุยกับบริษัทเหล่านั้น แต่กับกรณีของเรือดำน้ำ มันยังไม่ได้รับไฟเขียวจากผู้มีพาวเวอร์และอนุมัติวงเงินจากรัฐบาลครับ แต่กลับมีบริษัทผู้ค้าอาวุธมานำเสนอก่อนแล้วนั้น มันก็มีความเป็นไปได้ทั้งในทางลับ และทางเปิดเผย ว่าจะมีการจัดหาเรือดำน้ำจริงๆหรือไม่ (ขึ้นชื่อว่าโปรเจกต์เรือดำน้ำของไทยเรามันไม่ธรรมดามาหลายยุคหลายสมัยแล้วครับ) ซึ่งก็คงต้องรอดูรอฟังข่าวกันต่อไปครับ

ผมว่าไม่แปลกนะที่ เขามาเสนอขายเรือดำน้ำ เพราะใครๆก็รู้ว่า ทร อยากได้มานาน แล้ว และ รอบบ้านเราก็มีเกือบหมดแล้ว จริงๆ ทรก็มีการตั้งกองเรือดำน้ำมาตั้งนานแล้ว เปิดอาคารกองเรือดำน้ำก็แล้ว แต่ยังไม่มีเรือ ผมว่าบริษัทต่างๆเขาก็เดาได้ว่าจะต้องหาเรือ เร็วๆนี้ แต่เดาว่า ทร คงไม่ได้เร็วๆนี้ แน่ น่าจะได้เรือผิวนำ้มากกว่า 

ในการจัดซื้อจัดจ้าง การเรียกบริษัทผู้ขายสินค้ารายต่างๆ เข้ามาคุยรายละเอียดก่อนเป็นเรื่องปกติครับ เพื่อได้กำหนดกรอบวงเงินคร่าวๆได้ ในการจัดทำงบประมาณ รวมทั้งเป็นข้อมูลสำหรับจัดทำ TOR ต่อไป

รถไฟรางคู่กับความเร็วสูงผมว่าแยกรางนะครับ

ความเร็วสูงใช้รางมาตรฐาน 1.435 อยู่แล้ว เพราะรางแคบๆ มันอันตรายถ้าวิ่งเร็วๆ และแทบทุกระบบในโลกใช้มาตรฐานนี้

รถไฟรางคู่ธรรมดารางนั้นผมว่าคงยังไม่สรุป เพราะมันก็มีข้อเสียในการเปลียนเป็น 1.435 เช่นความกว้างของระบบเพื่อนบ้านที่เราเชื่อมกันนั้นเป็นรางเมตรเดียว นอกจากนี้เราจะต้องยกเครื่องทั้งประเทศ ไม่ใช่เรื่องเล็กเลย แต่ส่วนตัวผมว่าคุ้มที่จะเปลี่ยนเป็นรางกว้างมาตรฐาน เพราะปลอดภัยกว่า และระบบอะไรต่างๆ มีให้เลือกเยอะกว่าและทันสมัยกว่าเพราะเป็นระบบที่แพร่หลายที่สุดตอนนี้

สาเหตุที่คงไม่ใช่รางร่วมและไม่ควรด้วย คือหากใช้รางร่วมแล้ว รถไฟความเร็วสูงจะวิ่งเร็วๆ ไม่ได้ เพราะติดขบวนข้างหน้า หรือไม่ก็ตองรอสับหลีกกัน และที่สำคัญอย่างยิ่งคือไม่เสี่ยงต่ออุบัติเหตุ นอกจากนี้ยังต้องชะลอเมื่อผ่านสถานียิบย่อยอีกต่างหาก 

u206a ยังจะขุดมาใช้ได้จริงๆ เหรอครับ? ขนาดตอนนั้นลำที่ใหม่กว่านี้ยังโดนอ้างว่าเก่า อันตรายเลย การจะเอาสองลำนี้สิทธิ์ไม่ยิ่งน้อยลงเหรอครับ

เยี่ยมเลยครับ ปีใหม่นี้คงมีอะไรให้ลุ้นกันสนุกๆ หลายอย่างทั้งเรือดำน้ำและเครื่องบินต่างๆ แล้ว Oplot ผมเป็นยังไงบ้างครับเนี่ย ใครทราบข่าวล่าสุดบ้างรบกวนช่วยปันข้อมูลบ้างนะครับ ขีดความสามารถในการผลิตของยูเครนตอนนี้คือ 5 คันต่อปีถูกต้องมั้ยครับ (มันเป็นระดับปกติใช่มั้ย) แล้วเราสั่งไปทั้งหมดกี่คันครับ

จากข่าวใช้รางเดียวกันครับ โครงการรถไฟรางคู่ คือ ต้องซื้อรถไฟใหม่ เป็นรถไฟขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้า โดยรางรถไฟดีเซลที่ใช้งานอยู่ปัจจุบัน ไม่ได้รื้อทิ้งแต่อย่างใด เป็นการทำเส้นทางใหม่ และขนาดราง คือ เชื่อมกับโครงการของจีน ที่จะลงทุนในลาวได้ โดย MOU ที่ลงนาม ฉบับที่ 1 ผมไปหาอ่านใน ประชาไท คือ ให้จีนมีส่วนร่วมในการวางพื้นฐานระบบรางด้วยครับ หรือ ง่ายๆ คือ โครงการนี้ มี 2 ขยัก ชุดแรก เป็นรถไฟฟ้าความเร็วปานกลาง 160-180 กม ต่อ ชั่วโมง บนรางคู่ ขยักที่ 2 ซื้อ หัวรถไฟฟ้าใหม่ เป็นความเร็วสูง 260 กม ต่อ ชั่วโมง มาเพิ่ม บนรางเดิม ครับ

ส่วน Oplot ผมว่า ผิดสัญญาแน่ๆเห็นบอกจะมาตั้งแต่ พฤศจิกายน แล้วนี่ครับ ตอนนี้ ยังเงียบอยู่เลย

โ€‹

จะบอกว่ายูเครนผลิตได้ห้าคันต่อปีก็ไม่ถูกครับ ปีสองน่าจะได้มากกว่านี้ ที่ผ่านมาสงครามน่าจะมีส่วน ทั้งโรงงานโนยึดหรือโยกกำลังการผลิตไปป้อนตัวเอง แต่ตอนไม่มีสงครามก็ยังช้าอยู่ดี ไม่เคยตรงกำหนด เลื่อนจนขี้เกียจรอ แล้วสปีด5คัน/ปีนี้ช้าโคตรครับ ไม่งั้นประเทศที่ประจำรถถังเป็นร้อยเป็นพันคันคงปลดก่อนสร้างเสร็จ

5คันต่อปี ยอดสั่ง200คัน ต้องรอ40ปี ผมว่าไม่ใช่มั้งครับ น่าจะมากกว่านี้นะครับ

เรื่องรถไฟขออนุญาตนะครับ ตามที่ผมเข้าใจ

ทางคู่ คือ meter guage 1 เมตร

รถความเร็วปานกลางหรือความเร็วสูงอะไรก็แล้วแต่ คือ standard guage 1.435 เมตร

ข่าวที่ออกมาตลอด คือก็คงไว้ทั้งมิเตอร์เกจ และสร้างสแตนดาร์ด อาจจะข้างๆ กันในบางช่วง และอาจจะต้องเวนคืนเพิ่มสำหรับส่วนที่โค้งมันไม่พอที่จะรองรับความเร็วได้

ส่วนเรื่องของความเร็วนั้น ผมเคยนั่งรถ meter guage ของมาเลเซีย เป็นรถไฟฟ้า ความเร็ว 160 กิโลเมตรต่อชั่วโมง อาจจะไม่เร็วเท่าแบบ hi speed แต่ก็เร็วเท่าๆ กับ airport link ในปัจจุบัน ผมคิดว่า ถ้าเราจะเอาจริง แบบมาเลเซียก็ได้ครับ ความเร็วได้เลย และอันที่จริงลงทุนไม่ได้มากเลยครับ มาเลเซีย เค้าทำเลย ผมเห็นผมยังคิดว่า แทบไม่มีความจำเป็นต้องทำ standard guage แต่ผมเข้าใจว่าเราทำเพราะต้องการการเชื่อมต่อกับจีนครับ

https://www.youtube.com/watch?v=dYtpfCf99LQ

จริงๆมันก็คือทางรถไฟความเร็วสูงในอนาคตนั้นแหละเพราะ เพราะขนาดของรางเท่ากันเลย 1.435 เมตร และอย่างไรเสียเส้นสายตะวันออกเฉียงเหนือก็ต้องวางเสาร้อยสายไฟฟ้าเพื่อใช้กับรถไฟแบบในประเทศยุโรป คือลักษณะโครงการรถไฟดังกล่าวมันจะดูคล้ายกับประเทศในยุโรป คือ จะมีขบวนรถไฟฟ้าความสูงไม่เกิน 160 km/hr เพื่อใช้วิ่งระหว่างเมืองหรือจังหวัด ส่วนรถไฟความเร็วสูงมากกว่า 200 km/hr เอาไว้ใช้วิ่งทั้งในและระหว่างประเทศ คือใช้รางร่วมกันได้ ขอยกตัวอย่างแบบของประเทศเยอรมัน

อืมไม่มีเรือดํานํ้าญี่ปุ่นเข้าร่วมหรือญี่ปุ่นขายแบบเฉพาะเจาะจงอยากให้ญี่ปุ่นมาร่วม คัดเลือกแบบจัง

อยากให้ปีนี้จัดหาเรือดํานํ้าให้ได้สักลําก็ยังดี  แต่อย่างว่าโครงสร้างพื้นฐานไทยยังล้าสมัยเรื่องโครงสร้างพื้นฐานมาก่อนแต่การป้องกันประเทศก็ละเลยไม่ได้  ก็ซื้อตามที่เงินมีละ

ขอโทษทีครับแอดมินช่วยลบส่วนที่เกินมาออกไปทีครับเผอิญใช้ไอโฟนเขียนตอบกระทู้ครับ เน็ตช้าไปนิดครับ

รูปข้างล่างคือ รถไฟความเร็วสูงของเยอรมัน ICE 

......

หากมองความน่าจะเป็น กองทัพเรือและกองทัพอากาศคงใช้ของเกาหลี ( T-50 , Type 209 ) ส่วน กองทัพบก เขามีความแน่นแฟ้นกับจีนมานาน คงพึ่งพาระบบจรวดจีน ไม่ว่าจะเป็นระบบป้องกันภัยทางอากาศ หรือจรวดพื้นสู่พื้น ครับ ของจากที่อื่นคงเกิดยากอยู่ช่วงนี้ครับ

แต่ไม่แน่ ถ้าตกลงไม่ได้ สาวหมี (Kilo) น่าจะมาครับ

ส่วนเครื่องบินขนส่งถ้าเป๋น CN-295 ทั้งสามเหล่า จะยิ่งดีครับ จะได้ใช้เครื่องฝึกบินจำลอง สำรองอะไหล่ หรือแม้แต่การส่งนักบินไปบินร่วมกัน สร้างเสริมประสบการณ์และความสัมพันธ์ที่ดีในเหล่าทัพ