รองนายกรัฐมนตรีเปิดการประชุมแผนความมั่นแห่งชาติทางทะเล ชงทัพเรือเสนอซื้อเรือดำน้ำ ระบุให้บูรณาการการทำงานร่วมกันทุกหน่วยงาน เตรียมให้กองทัพเรือเสนอซื้อเรือดำน้ำให้คณะรัฐมนตรีพิจารณา
วันที่ 26 ธ.ค. พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานเปิดการประชุมเพื่อชี้แจงแผนความมั่นคงแห่งชาติทางทะเลปี 2558-2564 โดยนายอนุสิษฐ คุณากร เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ พลเรือเอกไกรสร จันทรสุวาณิชย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ ร่วมงานด้วย
โดย พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า การป้องกันและรักษาผลประโยชน์ของประเทศทางทะเลมีความสำคัญมาก โดยเฉพาะมูลค่าทางเศรษฐกิจ ที่จะมีแนวโน้มสูงขึ้นทุกวัน การเฝ้าระวังภัยคุกคาม อาทิ การลักลอบค้ามนุษย์ การลักลอบขนสินค้าหนีภาษี อาชญากรข้ามชาติ จึงจำเป็นต้องบูรณาการและสนธิกำลังของทุกภาคส่วน เพื่อร่วมกันช่วยแก้ไขปัญหา
ทั้งนี้ ในการรักษาความมั่นคงทางทะเล จำเป็นต้องมีเรือดำน้ำ เพื่อช่วยเฝ้าระวังในด้านความมั่นคง ซึ่งต้องรอสอบถามรายละเอียดจากผู้บัญชาการทหารเรือ หากเห็นว่าควรมีเรือดำน้ำก็สามารถเสนอให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีพิจารณาได้.
จาก http://www.thairath.co.th/content/471369
หวังว่าครานี้จะสำเร็จซะทีนะครับ รอกันเหนื่อยแล้ว
ข่าวเต็ม ของสื่ออีกที่นึงครับ
หอประชุมกองทัพเรือ 26 ธ.ค.-“พล.อ.ประวิตร” เปิดการประชุมเพื่อชี้แจงแผนความมั่นคงแห่งชาติทางทะเล ปี 58-64 ย้ำรัฐบาลให้ความสำคัญการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล เชื่อหากทุกฝ่ายร่วมมือกัน การแก้ปัญหาต่าง ๆ จะสำเร็จลุล่วง ขณะเดียวกันหนุน ทร.ซื้อเรือดำน้ำ
พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานในพิธีเปิด “การประชุมเพื่อชี้แจงแผนความมั่นคงแห่งชาติทางทะเล (พ.ศ.2558–2564)” ณ ห้องเจ้าพระยา หอประชุมกองทัพเรือ ถนนอรุณอมรินทร์ เขตบางกอกใหญ่ โดยมี พล.อ.ศิริชัย ดิษฐกุล ปลัดกระทรวงกลาโหม พล.ร.อ.ไกรสร จันทร์สุวานิชย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ นายอนุสิษฐ คุณากร เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) นายทหารระดับสูง ผู้ช่วยทูตทหารต่างประเทศประจำประเทศไทย นักวิชาการ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมงานอย่างพร้อมเพรียง
นายอนุสิษฐ กล่าวรายงานว่า สมช.ร่วมกับกองทัพเรือจัดงานวันนี้ขึ้นเพื่อประกาศอย่างเป็นทางการว่ารัฐบาลเห็นชอบและกำหนดให้ประเทศไทยมีแผนความมั่นคงแห่งชาติทางทะเล พ.ศ.2558–2564 เพื่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องใช้เป็นกรอบและทิศทางดำเนินการ ซึ่งรัฐบาลให้ความสำคัญเรื่องนี้อย่างยิ่ง ปัจจุบันสถานการณ์ที่ทำให้ชาติอยู่รอดปลอดภัยเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมมาก สมช.จึงทบทวนแผนความมั่นคงแห่งชาติทางทะเลใหม่เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์
ด้าน พล.ร.อ.ไกรสร กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีให้ความสำคัญการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลที่มีมูลค่ามหาศาลในแต่ละปี ที่ผ่านมาไทยยังไม่มีแผนงานที่บูรณการการปฏิบัติงานอย่างเป็นรูปธรรม และเป็นเพียง “ศูนย์ประสานการปฏิบัติในการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล” แต่ปัจจุบันยกระดับเป็น “ศูนย์อำนวยการในการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล (ศรชล.) ขึ้นตรงต่อสำนักนายกรัฐมนตรี ซึ่ง ศรชล.ประกอบด้วย ส่วนราชการต่าง ๆ ที่มีหน้าที่รับผิดชอบในการปฏิบัติงานทางทะเล โดยแบ่งออกเป็น 2 ส่วนตามบทบาทหน้าที่ ได้แก่ หน่วยปฏิบัติการหลัก และหน่วยปฏิบัติการร่วม
“หน่วยปฏิบัติการหลัก เป็นหน่วยงานที่มีกำลังทางเรือในการปฏิบัติงานในทะเล เพื่อรักษาผลประโยชน์ของชาติ และบังคับใช้กฎหมายในทะเลได้ ประกอบด้วย 6 หน่วยงาน ได้แก่ กองทัพเรือ กองบังคับการตำรวจน้ำ กรมศุลกากร กรมเจ้าท่า กรมประมง และกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ส่วนหน่วยปฏิบัติการร่วม เป็นหน่วยงานที่ไม่มีกำลังทางเรือในการปฏิบัติงานในทะเล แต่บทบาทหน้าที่หรือความรับผิดชอบเกี่ยวข้องกับงานกิจการต่าง ๆ ทางทะเล ได้มีทั้งหมด 20 หน่วยงาน” ผู้บัญชาการทหารเรือ กล่าว
ด้าน พล.อ.ประวิตร กล่าวเปิดงานว่า การรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลเป็นสิ่งที่รัฐบาลให้ความสำคัญ เพราะมีมูลค่าทางด้านเศรษฐกิจมหาศาลและสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่พบว่ามีการเพิ่มขึ้นของภัยคุกคามต่าง ๆ เช่นกัน ทั้งการลักลอบเข้าเมือง ปัญหาภัยพิบัติ การทำลายทรัพยากรธรรมชาติ และการเข้าสู่ประชาคมอาเซียน ทำให้ต้องเปิดเสรีทางการค้าและด้านต่าง ๆ จึงเกิดความท้าทายในการบริหารจัดการความมั่นคงทางทะเล ประกอบกับประเทศไทยเป็นสมาชิกในอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยกฎหมายทางทะเล ค.ศ.1982 และการเข้าร่วมเป็นเจ้าของช่องแคบมะละกา บทบาทและความรับผิดชอบของประเทศไทยมีมากขึ้น รัฐบาลจึงทำให้ความสำคัญและกำหนดแผนความมั่นคงทางทะเล พ.ศ.2558-2564 ขึ้นเพื่อให้ทุกภาคส่วนได้บูรณาการการทำงานพิทักษ์และแสวงหาผลประโยชน์ของชาติ และถ้าทุกฝ่ายร่วมมือกัน เชื่อว่าจะทำให้การแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ลุล่วงด้วยดี
พล.อ.ประวิตร ให้สัมภาษณ์ภายหลังว่า เรือดำน้ำยังเป็นสิ่งจำเป็นในการรักษาความมั่นคงทางทะเล ซึ่งส่วนตัวไม่ขัดข้อง แต่ต้องให้ผู้บัญชาการทหารเรือชี้แจงและเสนอเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี เรื่องนี้ไม่มีใครรู้ดีเท่ากับกองทัพเรือ อย่างไรก็ตาม ในการจัดซื้อเรือดำน้ำคงไม่สามารถจัดหาได้ครบทีเดียว เพราะมีงบประมาณไม่มากพอ แต่อาจเป็นการจัดหาโดยใช้งบผูกพันในแต่ละปี.-สำนักข่าวไทย
http://www.tnamcot.com/2014/12/26/%E0%B8%9E%E0%B8%A5-%E0%B8%AD-%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%95%E0%B8%A3-%E0%B8%A2%E0%B9%89%E0%B8%B3%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B8%90%E0%B9%83%E0%B8%AB%E0%B9%89%E0%B8%84%E0%B8%A7/
ก็ถือว่าเป็นข่าวดีครับ แต่ยังต้องผ่านขั้นตอนอีกหลายอย่าง เอาใจช่วยครับขอให้สำเร็จซักที
รอบที่แล้วก็ไม่ใช่ทั่นรึที่โยนกลับจากสภากห.ให้ทร.ไปพิจารณาทบทวนอะไรไม่รู้ จะเอาเกาหลีให้ได้
ทักทายครับ จขกท.หายไปนานเลยนะครับ
ทักทาย คุณสกายนาย เพื่อเก่าแก่หายหน้าหายตาไปนานนะครับ
ตามข่าวนั้นผมว่า โอกาสมาแล้ว กองทัพเรือก็คว้าไว้เถอะครับ แต่พรีเซนต์ดีๆหน่อย เอาแบบที่ถูกใจ......
ที่พลาดไปแล้วเอากลับมาไม่ได้ก็เริ่มเอาลำใหม่ที่ถูกใจ...
อย่าเอาลำเก่านะ ไม่ถูกใจ...
ปล. ห่างหายไปนานเอารูปสาวเกาหลีมาฝาก คุณสกายนายและเพื่อนๆสมาชิก
แถมด้วยนางฟ้ารัสเซีย ยอดฮิต
อันนี้ชอบเป็นการส่วนตัว
เสียดายสาวเยอรมัน แต่มันผ่านไปแล้วแบบน่าแค้นเคือง
หว่ออ้ายหนี่... Forget Me Not อย่าลืมฉัน
โครงการรถไฟความเร็วเกือบสุงไม่ได้มาเพราะโชดช่วยนะครับพี่น้อง ไหนจะข้าว2ล้านตันยางพาราอีก2ล้านตัน หนูก็มีสิทธิ์เหมือนทุกคนนะคะขุ่นพี่แอดมิน
คราวนี้คิดว่าไม่น่าจะมีปัญหาอะไรแล้วละถ้าท่านพลเอกประวิตรเป็นผู้นำเสนอขึ้นมาเอง เพราะฉะนั้นหวยของเรือ ดำน้ำ จะมาจากประเทศไหนก็คงจะเดากันได้ไม่ยาก แต่ประเด็นที่ผมห่วงคือกองทัพเรือนี่แหละ อินดี้(INDY) ซะเหลือเกินจนแห้วมาเมื่อรอบที่แล้ว
อ่ะขอรื้อฟื้นภาพเก่าๆเมื่อ สองสามปีก่อน
ซวยล่ะซิครับ เรือดำน้ำจีน ชั้นซ่ง
ผมเองก็ยังไม่มั่นใจนะ แกอาจจะทำเป็นรับๆ ไปงั้นเพื่อลดทอนกระแสก็ได้ครับ เข็ดมาหลายรอบแล้วครับ ที่ผ่านมาแกก็ไม่เคยบอกว่าไม่เอานะครับ ครั้งที่แล้วแกก็เอา แล้วไงล่ะครับ ฮา
ผมว่าแกบอกแนวๆว่า ตัวแกไม่ว่าอะไร แต่ ทร ต้องไปเคลียร์กับ สาธารณะชนเอาเองว่า จำเป็นต้องมีเรือดำน้ำ ถ้าเคลียร์ไม่ได้ก็...
ไม่แน่ใจว่าเรื่องเคลียร์กับสาธารณะชนเฉพาะไปที่เรือดำน้ำเนี่ยมันเป็นสิ่งที่ควรทำ/จำเป็นหรือเปล่า เพราะเรื่องความมั่นคงของราชอาณาจักรกับความอ่อนไหวในทางยุทธศาสตร์เนี่ยบางทีมันก็พูดกันโต้งๆ/เอิกเกริกเกินไปไม่ใด้ แต่อย่างหนึ่งที่ผมว่ามันเป็นเรื่องที่สาธารณะชนควรรับทราบ และควรมีการประชาสัมพันธ์ให้มากๆก็คือแนวนโยบายในการจัดการ งป เกี่ยวกับการทหาร เช่น ประเทศต่างๆในภูมิภาคมีการจัดสรร งป ทางการทหาร เป็นอัตราเท่าใดของ GDP. ประเทศไทยควรวาง งป ที่ระดับใดจึงเหมาะสม และ แนวทางในการลด งป ที่เกียวกับกำลังพล (ขนาดกองทัพ ให้กระชับ ) แล้วเอา งป ที่ประหยัดใด้มาลงทุนระยะยาวกับระบบอาวุธที่จำเป็นในอนาคต
คหสต. ผมว่าในอีก 20 ปีข้างหน้า หยุดต่อเรือใหญ่ๆไปก่อน + ปลดระวางเรือที่ล้าสมัยเพื่อประหยัดค่าใช่จ่าย หันมาทุ่มกับเรือดำน้ำชั้นนำซัก 6 ลำ น่าจะดีเป็นที่สุด
รวมๆแล้วผมว่า Vision ของ ทร เองก็ยังไม่ค่อย เคลียร์เท่าไหร่นัก
ใกล้เข้าไปอีกนิดครับ หนุ่มไทย :)
โดยส่วนตัวคิดว่า ทร.คงไม่ต้องไปเคลียร์กับสาธารณาชนอะไรมากมายเกี่ยวกับความจำเป็นในการมีเรือดำน้ำ แต่อยากให้ ทร.ทำตามกระแสทางการเมืองบ้างคือ หลู่ไปตามลมบ้างก็น่าจะได้มีเรือดำน้ำใช้แล้วล่ะครับ ตามที่ใครๆหลายท่านบอกว่าหวยจะออกที่เรือ tpye209/1400T ของเกาหลี เพราะงบประมาณอันจำกัด
ผมมีความรู้สึกว่าเรือดำน้ำจีนก็อาจจะเป็นทางเลือกที่ไม่เลวววนักแต่คุณภาพต้องไปวัดดวงเอาในอนาคต (ฮา) เพราะคงต้องเสี่ยงดวงกันอีกแล้วว่าจีนมันจะยอมขายเรือเกรด A.รุ่นเดียวกันกับที่มันใช้อยู่บ้านมันรึเปล่าเท่านั้นละ
เอาว่ะถ้าได้งบซื้อเรือดำน้ำจริงก็ขอร่วมด้วยช่วยเชียร์เรือดำน้ำเยอรมันเชื้อสายเกาหลีดีกว่า
ความเห็นผม ตอนนี้ว่า ทร. ไม่ต้องรีบ แค่กำหนดสเปคให้ชัวส์ เปิดการแข่งขันปกติ รอ รัฐบาลจากการเลือกตั้งอนุมัติ ค่ามันเท่ากัน อย่าไปฝืนซื้อบ้าน ในขณะที่ไม่แน่ใจ หรือ ซื้อๆ ไปก่อน เพราะ บ้านมันราคาแพง และต้องอยู่อีกนาน เพราะถ้ารีบ ทร คงได้ของฝืนทนใช้มาให้ แล้วมันจะมีประโยชน์อะไร ก็แค่ คำว่า ไทย มี เรือดำน้ำแล้ว ปัญหาไว้แก้ในอนาคต ก็อย่ามีดีกว่า
ว้า... ในสภาวะ อย่างนี้ จะก่อ หนี้อีกหรือ...เรามีแต่จ่าย เราแทบไม่มี รายได้อย่างอื่น เพิ่ม ขึ้นมา...ความคิด จะเอาแต่อยาก กันจัง อะไร ๆ ก็ ฝืด ไปหมด.. แต่ หาก เอาจริง ๆ ก็ขอให้ เอาข้าว เอายาง แลกได้ก็น่า ทำ.. โดยที่ เราซื้อเขา เขาซื้อเรา... อย่างนี้ ก็ win.. win...ไม่ควร เอาไก่ เอาหมู เอา ปลา ไปแลก...
ถึงท่าน nidoil นั้นแหละที่ผมกลัวเป็นอย่างมากถ้าเอายางไปแลก ก็กลัวว่าคุณภาพเรือดำน้ำจะตามราคายางในปัจจุบัน (ฮา) เอาเป็นว่าใช้เงินซื้อจะดีกว่าครับ ไม่มีประเทศผู้ค้าอาวุธที่ไหนเค้าอยากขายอาวุธแลกสินค้ากันหรอกครับ
อย่างสมมุตว่าถ้าคุณเปิดร้านขายมือถือแล้วเกิดมีเกษตรกรอยากได้มือถือแล้วเอาสินค้าเกษตรมาแลกเป็นเงินคุณจะยอมขายมือถือให้เค้าไหม ลองตรองดูเอานะ
ทำไมผมสนใจ Ghadir class submarine ที่เกาหลีเหนือขายแบบให้อิหร่าน นำไปต่อในประเทศนะ
ไหนๆก็ไหนๆ ทัพเรือเองก็วิจัยและสร้างตนแบบ เรือดำน้ำขนานเล็กได้แล้ว ผมว่าซื้อแบบ เขามาต่อจะเวอกร์ไหมครับ
//ถ้าเป็น เกาหลีเหนือ ยกหนี้ค่าข้าว เอาข้าวไปแลก ผมว่าได้แบบมาต่อก็น่าสนใจ (แต่พวกเครื่องยนต์ก็หาเอาข้างหน้าละกันครับ ฮ่า)
ผมเห็น ทร จะซื้อทีไร มีแรงต้านจาก สาธารณะชนทุกที ทั้งสื่อต่างๆเอย นักวิชาเกินเอย แล้ว ทร ก็ แห้วทุกที ยังไม่เห็นว่าต้องเคลียอีกเหรอครับ
เรื่องเศรษฐกิจไม่ใช่ประเด็นครับ ตราบใดที่ไม่ได้กำลังต้มยำกุ้งหรือ แม้แต่วิฤต 2008 ประเทศเราก็ไม่ได้สาหัสอะไรซะเท่าไร ค่อนข้างสบายตัวด้วยซ้ำ ดังนั้นที่บอกว่าประเทศก่อหนี้อะไรแล้วยังจะซื้ออีกเหรออะไรนั่นลืมไปได้เลยครับ ไม่งั้นก็ไม่ต้องทำอะไรทั้งสิ้นแล้วครับ รถไฟฟ้าบีทีเอสเลิก ใช้รถเมล์เอ็นจีวีตีนผีกันเนี่ยแหละประหยัดดี อยู่ไปอีกร้อยปีพันชาติมันก็ไม่มีเงินถอยเรือดำน้ำยกแผงในปีเดียวหรอกครับ
การซื้อเรือดำน้ำแผนมันยาวครับ ต่อให้วันนี้ไม่มีกำลังซื้อแต่แผนมันสำหรับซื้อพรุ่งนี้ครับ ไม่ใช่ว่าร่างแผนเช้าเข้าโลตัสบ่ายเย็นโอนเงินนะครับ ยังไงๆ โครงการซื้ออาวุธของเราใหญ่ๆ ก็ต้องผูกพันข้ามปีอยู่แล้ว เช่นเรือฟริเกต เครื่องบินขับไล่ แม้แต่ฮ.บางดีลยังต้องค่อยๆ ซื้อทีละนิดทีละหน่อย อีกอย่างประเทศเราผมไม่คิดว่าเคยทำการกู้ตังมาซื้ออ่าวุธนะครับ เราซื้อจากงบประมาณประจำปีตลอด พวกการกู้เงินของรัฐบาลส่วนใหญ่เป็นเรื่องของเศรษฐกิจครับ (เพราะว่าสามารถอ้างได้ว่าเอามาลงทุนด้านเศรษฐกิจแล้วจะออกดอกออกผล คุ้ม ขืนกู้มาซื้ออาวุธคนก็ด่ากันตายสิครับกุ้มาเป็นหนี้ไม่ออกดอกออกผลแบบที่คุณด่าๆ อยู่เนี่ยแหละครับ) ดังนั้นอาวุธเราเลยต้องจำกัดจำเขี่ยตามแต่สภาพเศรษฐกิจ ซึ่งชัดเจนที่สุดก็น่าจะช่วงปี2540 ที่งบกลาโหมตกวูบเหลือสิบเปอร์เซ็นต์เองมั้งเรือดำน้ำโดนตัดออกจากลิสต์ไปเลยตอนนั้น เรือก็ต้องไปซื้อจีนกันมันเลยช่วงนั้น ถ้าประเทศเรามีการกู้เงินมาซื้อาวุธจริงป่านนี้เอฟสิบแปดบินว่อนละครับ เรือดำน้ำอีก 4 แบล็คฮอว์กคงครบ 33 ลำตั้งแต่ตอนสุรยุทธเป็นผบ.ทบ. แล้วล่ะครับ แฮริเออร์คงมือหนึ่งครับตอนนั้น
นอกจากนี้เศรษฐกิจที่เราซบเซาส่วนใหญ่เป็นเรื่องการบริโภคที่มาจากสภาวะการเมืองที่ไม่แน่นอนที่ผ่านๆ มาม็อบรายปี คนลงทุนก็ไม่อยากเสี่ยง คนทั่วๆ ไปก็อยากเก็บตังค์ไว้ก่อน เลยเกิดสภาวะเศรษฐกิจเริ่มชะลอตัว ดังนั้นเศรษฐกิจซบเซาช่วงที่ผ่านมาไม่นานนั้นเป็นเพียงระยะสั้นๆ ไม่ได้มาจากปัจจัยที่ impact มากและยืนระยะยาว เช่นก๊าซหมดประเทศหรือข้าวโดนโรคตายครึ่งประเทศหรือสึนามิหรือน้ำท่วมโรงงานเกือบหมด หรืออะไรทำนองนั้น
ส่วนเรื่องการคิดจะเสี่ยงกับเรือดำน้ำที่ไม่ค่อยไว้ใจผมว่าอย่ามาเสี่ยงเลยครับ เสียเวลาทำมาหากิน สุดท้ายต้องมานับหนึ่งใหม่
ทร.มีประสบการณ์จากเรือจีนไม่ค่อยดี ปัญหาเยอะ ยากที่จีนจะต่อเรือใหัเราเหมือนที่ใช้กองทัพเขา ภาวนาอย่าเปนจีนเลยครับแต่ถ้าจำกัดงบจริงๆ ก็ช่างมัน เอามาเป็นประสบการณ์ก่อน ดีกว่าไม่มีใช้ อย่างน้อยก็มีเรือดำน้ำใครจะดำเข้ามาน่านน้ำไทย ครานี้คิดหนักแน่นอน
เรือหลวงเจ้าพระยาเข้าประจำการในปี2534 เราได้เรือฟริเกตครบทั้ง6ลำก่อนเราจะมีปัญหาการเงิน3ปีเต็ม ถ้าไม่เจอต้มยำกุ้งเราน่าจะมีเรือชั้นเรือหลวงนเรศวร4-8ลำมากกว่านะครับ อาจจะเป็นรุ่นติดจรวดซีสแปร์โรว์และCIWSด้วยก็ว่ากันไป
คุณภาพของเรือก็ตามราคานั่นแหละครับ จะบอกว่าเรือจีนไม่ดีเลยก็คงไม่ใช่ เราซื้อเรือชั้นเจียงหู4ลำในราคาเรือยุโรป1ลำครึ่งเอ้า เป็นเรือฟริเกตที่ใหญ่พอจะออกทะเลลึกและติดจรวดต่อต้านเรือรบเป็นลำแรกของเราด้วยซ้ำ เรือหลวงนเรศวรเองก็ไม่ได้แย่อะไรตอนนี้เอามาปรับปรุงติดอาวุธใหม่และทันสมัยได้อย่างที่เห็นๆ ที่มันไม่สมราคาคุยเลยก็คือจีนบอกว่าอุปกรณ์ของเขาเข้ากันได้กับฝั่งตะวันตก แต่พอเอาเข้าจริงๆจะให้เข้ากันได้มันต้องดัดแปลงกันเยอะแยะตาแปะไ่ก่จนต้องถอดออกทั้งหมด
ลองเทียบราคาก็ได้นะครับ เรือหลวงเจ้าพระยาเขาว่าลำล่ะประมาณ2,000ล้านบาท ส่วนเรือหลวงรัตนโกสินทร์ระวางขับน้ำไม่ถึง1000ตันแต่มีจรวดแอสปิเด้ด้วยเข้าประจำการในปี2529 Tacoma Boatbuilding Co ชนะการประกวดสร้างเรือ2ลำในราคา143ล้านเหรียญไม่รวมอาวุธ ถ้า1ดอลลาร์เท่ากับ25บาทก็น่าจะเท่ากับ3,575ล้านบาท (แต่ราคาสุทธิทั้งโครงการรวมอาวุธและจรวดด้วยอาจจะอยู่ที่219ล้านเหรียญกระมังครับไม่แน่ใจ) ต่างกันไม่เยอะเลยแม้จะสร้างห่างถึง5ปี
เรือดำน้ำไม่มีความเห็นเพราะไม่เชียร์ลำไหนเลย ได้ก็ดีไม่ได้ก็ไม่คิดมาก
ได้ก็ดีนะ...
ไม่ค่อยหวังครับกับเรื่องเรือดำน้ำ ถ้าท่านอนุมัติจริงจะเกาหลีหรือจีน ผมก็ไม่ว่าครับ เอาทั้งนั้น
คิดถึงกระทู้นี้ครับ
http://www.thaifighterclub.org/webboard/11881/เรือดำน้ำ-amur-950-จิ๋วแต่แจ๋ว-ระวาง-950-ตัน-ใครรู้บ้างว่าลำละเท่าไร.html
รูปสาวน้อยและสาวไม่น้อยจากแดนหมีขาวครับ
น่าสนไม่น้อยนะครับ 2 สาวพี่น้องคู่นี้
Amur 950 = 400 M.USD
Amur 1650 = 450 M.USD
Refer from
http://www.military-quotes.com/forum/price-russian-weapons-t98271.html
http://en.wikipedia.org/wiki/Amur-class_submarine
http://nation-creation.wikia.com/wiki/Modern_Day_Military_Pricing_List
ถ้าจะเสวนากันแบบขำๆ โดยตัดปัจจัยเรื่องอื่นๆออกไป เรือสองรุ่นนี้ ที่น่าสนใจคือ Amur950 ที่มีเจ้า Brahmos VLS 10 cells
สเปกส์ของรัสเซียคิดว่า Amur 950 น่าสนใจมากที่สุด แต่มีข้อเสียอยู่อย่างคือลำเล็กไปนิด
ถ้าจะให้ดังทั่วโลกก็ซื้อเรือดำน้ำเกาหลีเหนือ ถ้าเอาราคาต่ำๆ ก็ของจีน
หรือจะซื้อเพราะทำขายเยอะก็ซื้อของรัสเซีย ถ้าไม่มีเงินมากนักแต่มั่นใจในระบบก็เลือกเกาหลีใต้
ซื้อของเกาหลีเหนือมันจะโดนเล่นน่ะสิ น่าจะถูกยูเอ็นคว่ำบาตรอยู่นะ
เรือดำน้ำของเกาหลีเหนือตัดออกไปได้เลยครับ
ส่วนความน่าจะเป็นจากการคาดเดาคือ
1.เกาหลีใต้
2.จีน
3.รัสเซีย
ถ้าเราจะซื้อเกาหลีเหนือ เราก็แค่บอกว่า
"ประเทศไอ ข้าวมันเยอะ เห็นเพื่อนร่วมโลกอย่างเกาหลีเหนือ อดๆอยากๆ อย่างที่ ยูชอบบอกชาวโลก ไอก็สงสาน ไอเลยเอาข้าวไปให้กับเงินนินๆหน่อยๆ แต่พอดี เกาหลีเหนือเขาไม่ชอบขอใครฟรีๆมากนัก เขาเลยให้ เรือดำน้ำมาต่อเล่นในประเทศ ไอ ไง"
//โดนUN ตื่บ...
*******ทร.มีประสบการณ์จากเรือจีนไม่ค่อยดี*****************
อยากทราบรายละเอียดครับ มีอะไรบ้าง
ผมจะเอาไปโพสในเว็บจีนที่พูดคุยเกี่ยวกับด้านทหาร ครับ
ช่วงนี้รัฐบาลและคสช.กำลังเอาจริงเรื่องความมั่นคงทั้งด้านบก ทะเล อากาศ(ขอมโนแบบคร่าวๆ)แล้วนะครับ 555+
ใครจะต้านยังไงอย่าไปพูดถึงเลยครับ เดี๋ยวก็กลายเป็นว่าต่อยอดให้มันอีก คนเราย่อมต่างความเห็น
โครงการจัดหาเรือดำน้ำผมว่าท่านผบทร.ไกรสรคงอยากจะมีนะครับ ตัดคำว่า "ไม่เอา ไม่จัดหา"ออกเลย ขนาดเวียดนามเศรษฐกิจยังเป็นรองกว่าเรายังจัดหาได้เลย(เกี่ยวกันมั้ย 555+) ช่วงนี้บริษัทเรือดำน้ำหลายชาติอาทิรัสเซีย เกาหลีใต้ ฝรั่งเศส จีนต่างก็เสนอให้ทร.นะครับ
ผมว่าไม่จำเป็นต้องสวีเดนหรอกครับ เพราะของสวีเดนยังไม่มีท่าทีเสนอให้ประเทศไหนเลย(รวมถึงไทยด้วย) เรือดำน้ำจีนผมก็ไม่ไว้ใจนะ เพราะทร.เคยมีประสบการณ์ไม่ดีมาแล้วด้วย(เรือนเรศวรถูกจีนลดเกรดอย่างเห็นได้ชัดเลย) ถ้าทร.จัดหาเรือดำน้ำจีนแล้วถ่ายทอดฯ ผมไม่เกี่ยงเด้อ ถ้าได้ของรัสเซีย แต่ขอให้เป็น Amur1650 นะ ของเกาหลีเนี่ยก็น่าลุ้นนะ เยอรมันราคาเราสู้ไม่ไหวแน่นอน ฝรั่งเศสเนี่ย ราคาก็สูงไม่ใช่เล่นเหมือนกัน
ก่อนอื่น ผมขออวยพรปีใหม่กับเพื่อนๆในเว็บฯนี้ ขอให้ทุกๆท่านพร้อมกับทุกคนในครอบครัว ประสพแต่ความสุขความเจริญและคิดหวังสิ่งใดดีงามก็ขอให้สมปรารถนาทุกๆประการตลอดปีใหม่ พ.ศ.2558 ที่จะเวียนมาถึงนี้ด้วยเทอญ. และขอขอบคุณท่านเด็กทะเล ที่ยังจำเพื่อนแก่ๆคนนี้ได้ ส่วนเรื่องตัวเก็งที่กลาโหมจะจัดหามา ก็น่าจะมีตัวเลือกอยู่ใน 4ลำดับนี้.......คือ.........
1.แดวู
2.ฮุนได
3.ซัมซุง
4.LG
..........................ครับ/สกายนาย
ท่านนีโมอธิบายได้ถูกต้องแล้วครับเกี่ยวกับรูปแบบการจัดหาและประจำการเรือรบของกองทัพเรือจีนว่าทำไมอายุการใช้งานถึงสั้นนัก
จริงๆขอเสริมอีกนิดว่าทำไมถึงเป็นเช่นนั้น เหตุก็เพราะว่าจีนต้องการไปอิงกับกองทัพเรือของญี่ปุ่น เพราะอายุการเข้าประจำการเรือรบของญี่ปุ่นก็ใกล้เคียงกันครับคือ อายุการเข้าประจำการไม่เกิน 20ปี พูดง่ายๆคือต้องการพัฒนาวิทยาการและเทคโนโลยีอาวุธให้ทัดเทียมกันอยู่ตลอดเวลา แต่ในช่วงระยะหลังๆดูเหมือนจีนจะล้ำหน้าเกินญีปุ่นไปบ้างแล้ว