ความเห็นส่วนตัวเหมือนเรือOPVติดจรวดNSMมากกว่าเรือคอร์เวตนะ เพราะดูจากสเป็กและรูปไม่มีอุปกรณ์ตรวจจับและต่อต้านเรือดำน้ำเลย (แต่เมื่อไม่มีราคาก็ลดลงไปเยอะพอประมาณทำให้จัดหาได้ครบ6ลำ) ทีเรือOPV Meko100ที่น่าจะเป็นเรือคอร์เวตดันติดโซนาร์เอาไว้ด้วยซะงั้น แต่เท่าที่เคยอ่านข่าวเจอมาเลเซียน่าจะนำมาทดแทนเรือเร็วโจมตีรุ่นเก่าๆของตัวเองให้หมด นั่นก็คือโครงการใช้เรือใหญ่ทดแทนเรือเล็กเหมือนสิงคโปร์ไม่มีผิด

เห็นภาพเรือมานานแล้วนึกว่าล้อเล่น แหม่.... อิจฉา ตอนแรกที่เห็นภาพยังใช้ชื่อนี้อยู่เลยแฮะ ติดจรวดNSMเพิ่มแล้วเปลี่ยนชื่อใหม่เล่นมุขนี้เลยนะเกาหลี พบเรือฟริเกตลึกลับไม่ระบุสัญชาติที่มุมขวาของภาพอีกแล้วสุดยอด ดีใจกับDSMEด้วยครับต่อไปนี้ก็จะมีโมเดลเรือMSCของมาเลเซียมาตั้งโชว์เรียกลูกค้าคู่กับเรือลึกลับลำนี้ในทุกงานโชว์ ^__^

ราคาดีล รายละเอียดยังไม่มีการเปิดเผย อุปกรณ์อะไรก็สามารถเปลี่ยนแปลงได้

เรื่องต่อสู้ภัยใต้น้ำ ในอนาคตมาเลเซียมี gowind class frigate ตั้ง 6 ลำอยู่แล้ว แถมมีเรือดำน้ำอีก

ไทยน่าห่วงกว่าเยอะเรือที่มีขีดความสามารถปราบเรือดำน้ำนับหัวได้เลย

ของเราเอาแค่ต่อเรือชั้นกระบี่เพิ่ม ซัก อีก 3 ลำ  และติดฮาพูนเพิ่มให้กับเรือชุดปัตตานี ต่อเรือชั้นอ่างทอง เพิ่มอีกซักลำ แค่นี้เอาให้ครบก่อน 

ราคารวมทั้งโครงการอยู่ที่ประมาณ600ล้านริงกิต(ถูกไปหน่อยไหมน่าจะซัก600ล้านเหรียญ) อุปกรณ์และอาวุธส่วนใหญ่ก็ตามภาพ มาเลเซียมีข่าวว่าสนใจจะเอาจรวดNSMมาติดบนเรือ Kedah classหรือmeko100ของตนเองได้หลายเดือนแล้ว มาติดบนเรือลำนี้ด้วยก็ดูสมเหตุสมผลดี แม้ตอนนี้จะยังต้องรอรัฐบาลมาเลเซียอนุมัติก่อนแต่ทุกอย่างค่อนข้างชัดเจนเพราะมีการทำข้อตกลงเอาไว้แล้ว(เหมือนประเทศไทยนั่นแหละ) มีการก่อตั้งบริษัท NGV Marine Engineering & Logistic Sdn Bhd เพื่อรองรับการประกอบเรือลำนี้ภายในประเทศ

จากก่อนหน้าปี 2557 ที่ DSME ได้โชว์ โมเดล เรือ MSC

และในเดือน เมย. 2557 โมเดลตัวโชว์ ในงาน DSA 2014 ก็ดูจะเห็นการเปลี่ยนแปลงไปเยอะ พอสมควร

พวกระบบตรวจจับ ฉบับ เกาหลี ก๊อป Thale

เห็นภาพ FAC ตามที่ท่าน superboy โพส คุณลักษณะ ดูก็เหมือนกับ MSC เลย

เลยไม่แน่ใจว่า MSC จำนวน 6 ลำ นี้ จะมาแทน FAC เก่า จำนวน 8 ลำ ของ ทร.มาเลเซียที่กำลังจะปลดประจำการ หรือเปล่า ?

กองทัพเรือ มาเลเซีย ก็แบบ กองทัพภาคเรือ เป็น  3 ภาค คล้าย ๆ กับ ของ ไทย

แต่ดู กองทัพเรือภาคที่ 2 จะรับภาระกิจหนักพอสมควร เพราะดูจะเป็น พื้นที่โอกาสเกิดความขัดแย้งสูงกว่า ภาค อื่น ๆ

สำหรับ ประเทศไทย ถ้าจะมีข้อพิพาท กับ กองทัพเรือ มาเลเซีย ก็คงเป็น กับ กองทัพเรือภาคที่ 1

ส่วน ประเทศจีน เวียดนาม ฟิลิปปินส์ ถ้าจะมีข้อพิพาท ก็คงเป็น กับ กองทัพเรือภาคที่ 2

ส่วน กองทัพเรือภาคที่ 3 น่าจะเน้นเรื่อง การดูแลความปลอดภัยของ กองเรือพาณิชย์ มากกว่า โอกาสเกิดความขัดแย้งในแง่ สงครามทางเรือ

ส่วน กองเรือดำน้ำของ มาเลเซีย ก็รับคำสั่งขึ้นตรงกับ ผบ.ทร. เลย

COMNAV 1 ฐานบัญชาการอยู่ที่ Kuantan

COMNAV 2 ฐานบ้ัญชาการอยู่ที่ Sepanggar หรือ Kota Kinabaru

COMNAV 3 ฐานบัญชาการอยู่ที่ Langkawi

และที่แน่ ๆ โครงการต่อไปของ ทร. มาเลเซีย คือ การจัดหา ฮ.ประจำเรือใหม่อีก 6 - 12 ลำ

โดย ตัวเก็ง น่าจะเป็น MH-60R กับ EC-725 ซึ่งดูจากแบบจำลอง MSC และ SGPV-LCS ทั้ง 2 แบบ ก็สามารถจะรองรับ ฮ. ขนาดนี้ ได้ทั้งหมด ซึ่งดุจากแบบจำลอง MSC นี้ ก็จะเห็น แบบจำลอง ฮ. เป็น MH-60R ไม่ใช่ MH-60S เพราะมี ล้อหลัง อยู่กลางลำตัว ไม่ใช่ ปลายหาง

อยากได้ nsm 

แต่ถ้าดูจากข้อมูลของ defense-studies.blogspot

Corvette ทั้ง 6 ลำนี้ อาจจะมาทำหน้าที่แทน Corvette ชั้น Laksamana ก็ได้เหมือนกัน

เพราะ เรือชั้น Laksamana ก็จะทำการถอดอุปกรณ์ระบบอาวุธนำวิถีออกหมด รวมถึง ท่อยิงตอร์ปิโด คงเหลือไว้เป็น เรือเร็วโจมตีปืน เท่านั้น

Laksamana class corvettes will be refitted as FAC-G (photo : pertahanan pertiwi)

In further refurbishment work, four ‘Laksamana’ class corvettes will be refitted and re-designated as Fast Attack Craft (Gun). Their outdated missile systems have been retired, their torpedo launchers removed, and they will rely on 76mm (three-inch) and 40mm guns as their armament.

จากข่าว ท่อยิงตอร์ปิโด ของ Laksamana ไปใช้กับ เรือชุด Kasturi

แล้ว Aspide จะเอาไปทำไปอะไร ?

KUALA LUMPUR: The contract which will kick off the construction of the LCS/SGPV is expected to be signed by the end of the month, Royal Malaysian Navy chief Admiral Tan Sri Abdul Aziz Jaafar said today.

He however declined to say when actual construction for the first of the six-class LCS/SGPV will start as according to him, it depended on various factors. He said currently Boustead Naval Shipyard personnel were in France to finalise details on RMN’s latest vessel – expected to be in service by 2018.

Abdul Aziz admitted that it was quite important for the construction of the LCS/SGPV to start as soon as possible as the RMN was facing challenges in its ability to conduct its maritime operations as mandated by the government due to lack of hulls. He said RMN was involved in in eight operations presently which forced the command to be “very intelligent” to allocate precious resources.

Currently, RMN ships goes to sea for two weeks before returning to base for two days to refuel and re-supply before going back to sea for another two weeks patrol. Abdul Aziz admitted the high operational tempo was affecting morale and that was the reason he had emphasised to his commanders to ensure that their crew’s welfare and their families were taken care off

He declined to say the navy was facing a crisis,instead, calling the situation as a challenge to the RMN. He admitted however that if new assets were not made available in the future, RMN will be facing a crisis.

Abdul Aziz said they nearly got to procure the Nakhoda Ragam corvettes which were very similar to the Jebat class frigates. However due to budgetary reasons, the ex-Brunei corvettes went elsewhere, with reports suggesting that the three were by Indonesia. He said they were interested in acquiring vessels retired from other navies to ease the challenges but in the end it will depend the ships offered.

Abdul Aziz was speaking to reporters after delivering the annual RMN New Year Message at Wisma Pertahanan today. Some 500 Navy officers and other ranks were present at the event which was simulcast live to various RMN facilities across the country.

Meanwhile, Abdul Aziz said KD Kasturi, the first ship in the 22 Corvette Squadron had been declared operational following the completion of its SLEP programme. With the completion of the SLEP on Kasturi, its sister ship KD Lekir is currently at the Boustead Naval Shipyard facility to undergo the same refit programme.

The other corvette squadron, Skdn 24, is also undergoing a refit programme which will see the four Laksamana class ships be re-designated called Fast Attack Craft (Gun). Yes, the Laksamana class missile systems, the Aspide and the Otomat, have been retired as their RTN-10X fire control radar with Mk10 Argo fire control system are obsolete. A new electro-optical director will be used to control the 76mm and 40mm guns. The Laksamana class will also no longer be capable of anti-submarine warfare as their torpedo launchers have been transferred to the Kasturi and Lekir.

Funds for the above programmes mentioned above is the allocation for the RMN for this year. For ESSCOM, the Navy is set to commission two new vessels, a RHIB and a speedboat, both capable of doing 60 knots. Both vessels were built locally, the RHIB from a Muar shipyard while the speedboat from another yard from Johor Bahru.

ปรกติผมเข้าเว็บmalaysiandefence.comครับท่านจูดาส เพราะมักจะมีคนเข้ามาให้ข้อมูลที่เจาะลึกมากกว่าบทความนั้นๆ จึงเชื่อว่าเอาเรือDSMEมาแทนเรือFACรุ่นเก่าของเขา และโดยส่วนตัวเชื่อว่าเรือชั้นLaksamanaจะโดนแทนทีด้วยเรือLCSมากกว่า(มองจากการติดอาวุธครบ3มิติ) จึงจะยังคงประจำการLaksamanaพร้อมอาวุธเต็มลำไปอีก8-10ปีเป็นอย่างต่ำ เพราะกว่าเรือLCSจะสร้างครบก็6-8ปี ให้ลูกเรือมีความพร้อมรบก็ต้องเข้าประจำการอีก2ปี

แต่ข้อมูลล่าสุดเขาว่าแบบนี้สิครับ (แสดงว่ายังต้องมีBatch II) แถมมีชือเรือแล้วด้วย เหอๆๆ

So probably the 6 new ships will replace the 4 old combattante FAC’s

So would they take over their names?

Kd perdana
Kd serang
Kd ganas
Kd ganyang

There is still older names from tldm history that has not yet been reused

Kd panglima
Kd penghambat

Comments?

Reply
There is also the Handalan and Jerung class FACs to consider plus the Laksamana class corvettes. I believe there is an opportunity for at least 16 corvettes to replace around 28 FACs, PC and corvettes in service currently. They may need around six 70 or 75 metre boats or smaller boats to be based in our part of the Spratlys. The frigate force is already getting the replacements, six LCS plus….

ปล. ผมอิจฉามากที่หลายชาติในอาเซี่ยนมีคนทำเว็บภาษาอังกฤษ ประเทศไทยเราไม่มีเลยขนาดไปแจมข้อมูลกับเว็บอื่นก็น้อยเต็มทน ส่วนมากจะหนักไปทางFBหายอดlikeต่อด้วยดราม่าๆๆๆ จะบ่นทำไมเนี่ยตัวเองก็ทำไม่ได้ซะหน่อย

ปล.อยากได้NSMเหมือนกัน แว่วๆมาว่ามาเลเซียสนใจรุ่นยิงจากบนบกด้วยสิ ตอนเขาเลือกMM40 Block3 ผมไม่อะไรเลยนะ แต่พอจะเอาตัวนี้ด้วยผมนี่ตาร้อนผ่าวขึ้นมาเลย

น่าจะเป็นคำให้สัมภาษณ์ของ Royal Malaysian Navy chief Admiral Tan Sri Abdul Aziz Jaafar ให้กับ Malaysian Defense นะครับ

ว่าที่ต้องถอดออก เพราะ ระบบควบคุมการยิง หมดอายุใช้งาน และล้าสมัย และ มาเลเซีย พลาดเรือ ชั้น Nakhoda Ragam corvettes เนื่องจาก ไม่มีงบประมาณ ทำนองนั้นครับ เป็นบทสัมภาษณ์ เมื่อเดือน ม.ค. 2557

อันนี้ เป็น ข้อความของ blog อันหนึ่งนะครับ ที่เขา ก็ตัดพ้อว่า จากที่ให้สัมภาษณ์ใน malaysian defense ว่า แล้วทำไม ไม่ทำการอัพเกรดระบบพวกนี้ให้กับเรือชุด Laksamana ครับ...

http://malaysiamilitarypower.blogspot.com/2014/01/good-news-and-bad-news.html

GOOD NEWS AND BAD NEWS

saya memetik kenyataan Panglima Tentera Laut Laksamana Tan Sri Abdul Aziz Jaafar dalam temubual beliau bersama wartawan Marhalim Abbas ...rujuk link utk bacaan penuh
http://www.malaysiandefence.com/?p=3911

dalam kenyataan beliau...terdapat beberapa perkara yang betul2 membuat kan saya berasa sedih dan amat tidak berpuas hati..

quote :
Abdul Aziz said they nearly got to procure the Nakhoda Ragam corvettes which were very similar to the Jebat class frigates. However due to budgetary reasons, the ex-Brunei corvettes went elsewhere, with reports suggesting that the three were by Indonesia.
unquote

saya amat kecewa apabila membaca di laman2 web seberang dimana mereka sudah siap2 untuk terima Nakhoda Ragam class...sedangkan sepatutnya dan logikanya korvet Brunei itu dapat pada kita Malaysia kerana similarities dari segi sistem dan persenjataan yg mirip Lekiu class frigate....
 

budgetary reason menyebabkan kita terlepas Nakhoda Ragam kepada Indonesia...satu kerugian....

Walaubagaimanapun...masih ada berita baik dari RMN..dimana Kasturi class sudah pun selesai fasa SLEP nya dengan KD Kasturi sudah pun kembali operational....menunggu KD Lekir pula....

quote:

KD Kasturi, the first ship in the 22 Corvette Squadron had been declared operational following the completion of its SLEP programme. With the completion of the SLEP on Kasturi, its sister ship KD Lekir is currently at the Boustead Naval Shipyard facility to undergo the same refit programme. 

unquote

dalam masa sama...berita yang paling sedih adalah refit untuk Laksamana class corvette yang memperlihatkan downgrade (yes downgrade dan bukan upgrade) corvette tersebut kepada Fast Attack Craft -Gun....satu kerugian yang amat besar..melihatkan kombatan permukaan tersebut adalah antara yang paling ampuh persenjataannya dalam RMN....

quote:
The other corvette squadron, Skdn 24, is also undergoing a refit programme which will see the four Laksamana class ships be re-designated called Fast Attack Craft (Gun).

the Laksamana class missile systems, the Aspide and the Otomat, have been retired as their RTN-10X fire control radar with Mk10 Argo fire control system are obsolete. A new electro-optical director will be used to control the 76mm and 40mm guns. The Laksamana class will also no longer be capable of anti-submarine warfare as their torpedo launchers have been transferred to the Kasturi and Lekir. Funds for the above programmes mentioned above is the allocation for the RMN for this year.
unquote

kenyataan beliau merujuk bahawa Aspide dan Otomat akan ditamatkan perkhidmatannya kerana sistem radar tembakan dan kawalannya yg telah usang....

amat merugikan apabila melihat sistem kawalan dan tembakan Laksamana class tidak di naik taraf untuk mengekalkan kombatan tersebut agar terus relevan dalam RMN....

persoalan saya..

mengapa tidak di naik taraf fire control radar dan fire control system korvet tersebut....?

bukankah terdapat fire control radar lain dan fire control system lain yg lebih moden dan boleh diintegrasi dengan Otomat dan Aspide....sedangkan kedua2 misil ini masih lagi digunakan secara meluas....

saya masih cuba berfikir secara positif tentang perkara ini...

-sadiniaissadtoday-

อันนี้ ผมลอง เดา จากที่ว่า น่าจะเป็น 16 Corvette เพื่อแทน 28 (18 FAC + 6 PV (Kedah) + 4 Corvette (Laksamana)) จะหมายถึง แบบนี้ หรือเปล่า ครับ

1. OPV Kedah Class จำนวน 6 ลำ (Upgrade ติดตั้ง SAM + SSM)

2. Laksamana Class re-design เป็น FAC-G จำนวน 4 ลำ

3. DSME-Missile Surface Corvette จำนวน 6 ลำ (ตามข่าวของ กระทู้นี้)

รวมทั้งหมด 16 ลำ

ดูเหมือนMalaysia Military Power Facebookจะอ้างอิงจากmalaysiandefence.comเยอะเหมือนกันนะเนี่ย ไล่ไปไล่มาทั้ง2เว็บเรื่องจรวดSSMติดเรือนี่NSMอาจกินรวบมาถึงเรือLCSแล้วก็ได้  แต่Kedah classและเรือDSMEน่าจะเป็นNSMนอนมาแล้วล่ะครับ (ไม่ดีใจเลยข่าวร้ายมาก เพราะผมกลัวNSMมากกว่าExocetและOtomat)

http://www.malaysiandefence.com/?p=5130

On the SSM, it appears that Kongsberg’s New Strike Missile (NSM) – RMN choice – has been selected over the MBDA Exocet Block III. Details are fuzzy about the change to NSM however as Exocet has been in the works since the Gowind design was selected for the LCS programme. The SAM system however remained the VL Mica.

หลังใช้เรือเยอรมันและฝรั่งเศส(ยังไม่ได้สร้างแต่ปัญหาเยอะจัง)มาแล้ว มาเลเซียค่อนข้างปลื้มกับเรือDSMEพอสมควร เขาซื้อเรือฝึกมา2ลำและใช้แบบเรือเดิมปรับปรุงมาเป็นFACและMSCในท้ายที่สุด ก็ดีเหมือนกันนะคนหาอะไหล่จะได้ไม่ปวดหัว

เฮ้อ ไม่วิจารณ์อะไรมาก  แต่ขอบอกได้คำเดียวเลยว่า   อิจฉาาาาาา......