เมื่อ 6 ต.ค.57 Pumono Yusgiantoro รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมอินโดนีเซียแถลงว่า อินโดนีเซียและเกาหลีใต้ร่วมทำการผลิตเครื่องบินรบ KF-X/IF-X รุ่น 4.5 ที่คาดว่าจะมีขีดความสามารถการบังคับอากาศยานที่ดีกว่า F-16 Eagle และ Sukhoi Su-27 โดยปัจจุบันเฟสแรกเป็นการพัฒนาเทคโนโลยี (การถ่ายทอดเทคโนโลยีและกระบวนการออกแบบต้นแบบอากาศยานจำนวน 6 ลำ) ซึ่งทำได้สำเร็จแล้ว กำลังจะเข้าสู่เฟสสองที่เป็นการพัฒนาการผลิตและวิศวกรรม โดยจะมีอากาศยานต้นแบบจำนวน 1 ลำส่งมายังอินโดนีเซียเพื่อทำการผลิตภายในประเทศ โดยการลงนามข้อตกลงครั้งนี้ประกอบด้วยเอกอัครราชทูตเกาหลีใต้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ผอ.สำนักศักยภาพกองทัพ ผอ.โครงการอากาศยาน สำนักงานบริหารโครงการจัดหาทางทหาร ข้อตกลงมีรายละเอียดว่า เกาหลีใต้เป็นผู้รับจ้างหลักที่ทำงานร่วมกับ PT Dirgantara Indonesia ด้านการจัดตั้งสำนักงานบริหารโครงการร่วมระหว่างรัฐบาลทั้งสองที่กำกับดูแลด้านการใช้งบประมาณ การตรวจสอบ การจัดแบ่งหน้าที่งาน และมีข้อผูกพันว่าจะต้องผลิตอากาศยาน KF-X/IF-X จำนวน 50 ลำ ภายใน พ.ย.2015 และเข้าเฟสการพัฒนาผลิตภัณฑ์ภายในปี 2023/www.antaranews.com
http://dtad.dti.or.th/index.php?option=com_content&view=article&id=527:defence-news-around-the-world-13-17oct2014&catid=3:defense-news&Itemid=3
KFX
ของเรายังเสร้าง ทอ.6 อยู่เลย
เปลียนรูปด่วนเลยครับ ลดขนาดด่วนเลย
* ลบรูปโปร์ไฟล์ให้แล้วครับ /Admin
ตอบแล้วก็ไป เห็นปัญหา แต่ไม่ยอมคิดจะแก้ไข รูป Avatar ก็ใหญ่ไป ก็เห็น ๆ อยู่ ตรรกะง่าย ๆ ก็คือ ลบรูป Avatar ไปก่อน ก็ได้ครับ
กระทู้ต่อมา เขาก็แสดงความเห็นไม่ได้ เรื่องแค่นี้ ผมว่า ไม่เห็นต้องให้ ใคร ทักท้วง นะครับ...
แล้วทีนี้ ใครจะกล้าแสดงความเห็น ต่อจากท่านรูป F-5E ล่ะเนี่ย...ขนาดชื่อเขา ผมยังอ่านไม่เห็นเลย
ทำไมถึงรัก F5 อิอิ
กลับมาที่กระทู้ อืม น่าอิจฉาเหมือนกันนะครับ บ้านเราน่าจะไม่หาพันธมิตรร่วมพัฒนาอย่างนี้บ้าง อันที่จริงไม่ต้องเครื่องบินก็ได้ครับ อะไรก็ได้ อาวุธปืนประจำกายทหารราบ ก็ยังดี (เอ๊ะ หรือมีอยู่แล้วครับ)
วิสัยทัศน์และแผนปฎิบัติที่เป็นรูปธรรมชัดเจน การสนับสนุนอย่างจริงจัง บ้านเรามันมีนักการเมืองไดโนเสาร์เยอะ ทำอะไรดีเด่นก้าวหน้าเกินไปก็โดนป้ายสีเตะโด่งออกไป
ถ้าหากอินโดมียอดสั่งซื้อราว 50 ลำ แล้วสามารถตั้งสายการผลิตในประเทศได้ ผมก็คิดว่าไทยเราก็ทำได้ และมีช่องทางด้วย เช่น เรายังต้องการเครื่องบินรบทดแทน F16 ADF , F5 , F16A/B รวมประมาณ 54 เครื่อง เราก็ซื้อสิทธิบัตรการผลิตเครื่องบินมาเลย โดยเฉพาะพวก Jas39 C plus,Jas39 E , F16C plus , F18E แบบใดแบบหนึ่ง มาผลิตในอัตราต่ำราว 6 เครื่องต่อปี ซึ่งอัตราระดับนี้ไม่น่าจะมีปัญหาด้านงบประมาณ และระยะเวลาของสายการผลิตก็นานราว 9-10 ปี หลังจากนั้นอาจต่อด้วยสายการผลิตเครื่องแบบอื่น เช่น เครื่องทดแทน L39 , Alpha jet ราว 54 เครื่อง ก็จะได้สายการผลิตราว 9-10 ปีเช่นเดียวกัน
สำหรับจะผลิตรุ่นไหนก็ขึ้นกับความต้องการของไทย และ เจ้าของสิทธิบัตรว่าจะยอมขายให้หรือเปล่า แต่โดยส่วนตัว พวก F16 F18 Jas39 ผมว่าเป็นเครื่องรุ่น 4.5 plus ซึ่งเจ้าของใกล้จะปิดสายการผลิตไปเป็นรุ่น gen 5 แล้ว ดังนั้นเค้าคงไม่หวงเทคโนโลยีแล้ว อีกอย่างไทยก็ไม่ต้องเสียเวลาวิจัยรุ่น 4.5 ใช้วิธีซื้อมาแล้วต่อยอดไปเลยจะดีกว่า
แพงกว่า ได้ผลช้ากว่า แต่ถ้าออกดอกออกผลมาแล้ว เก็บกินไม่ไหวแน่ๆ
แต่กรจะสร้างเครื่องบินรบเองไม่ไช่เรื่องจะทำกันใช้เวลาน้อยนิด
ต้องมีการสนับสนุนทั้งด้าน เวลา เงินทุน องค์ความรู้
การเมืองไทยมันไม่ค่อยนิ่ง ถ้าจ่ายเงินก้อนแรก ก้อนสองไปแล้วจนถึงรัฐบาลที่สาม
รัฐบาลที่สี่มาเปลี่ยนนโยบาย รอไม่ไหวนานไปยกเลิกนี่ก็คงจะเงิบแบบโฮปเวล
สำหรับคนที่ไม่อยากเสี่ยงสูง รอผลไม่ไหว ไม่กล้าลงทุน
การซื้อทีละสาม ทีละหกน่าจะปลอดภัยกว่า เพราะจ่ายปีละหมื่นล้าน สามปีก็ได้สิบสองลำละ
ส่วนเหมาทำ บางทีสั่งห้าสิบลำ สองแสนล้าน งวดละหมื่นล้านปีละสองครั้ง จ่ายหมดได้ของ
ทำไปแล้วสิบปีไม่มีเงินจ่ายต่อ อาจไม่ได้อะไรเลย