จากที่อ่านๆมาในกระทู้ต่างๆที่ว่า จะมีการจัดหาเครื่องทดแทน L39 ผมจึงมีความคิดว่า F16A/B ที่เหลือไม่ได้ปรับปรุงราว 24 เครื่อง มีขีดความสามารถในการรบทางอากาศสมัยใหม่ต่ำเนื่องจากรบแบบ BVR ไม่ได้ หากนำมาปรับปรุงเล็กน้อยให้เป็นเครื่องโจมตีประสิทธิภาพสูง (ขอเรียกว่า F/A16 ก็แล้วกัน) จะดีกว่าการซื้อเครื่องใหม่อย่าง FA50 ของเกาหลีหรือไม่ โดยผมจะรวม L39 ให้เหลือ 1 ฝูงบินเครื่องฝึกนักบิน แล้วแบ่ง F/A16 เป็นฝูงโจมตี 2 ฝูงๆล่ะ 12 เครื่อง ข้อดีคือ
1. บรรทุกอาวุธได้มากกว่า F/A50
2. ราคาในการลงทุนต่ำกว่าการซื้อ F/A50
3. F/A16 มีความคล่องตัวสูงกว่า L39 ความสามารถในการอยู่รอดสูงกว่า
4. F/A16 ยังคงมีขีดความสามารถรบทางอากาศเท่าเดิม (ทำหน้าที่สกัดกั้นได้เป็นภารกิจรอง)
5. ทอ. สามารถนำงบประมาณในการซื้อเครื่องโจมตี ไปใช้ซื้อเครื่อง multi role พวก F16C/D plus , Jas39E/F ใช้ในภาระกิจครองอากาศได้เต็มที่
ผมเข้าใจว่า F16 ที่เหลือของเราชุดที่ไม่ใด้ทำ MLU นั้น Air frame มันเหลืออายุ น้อยมากๆแล้วไม่ใช่หรือครับ ทาง ทอ เลยไม่ปรับปรุงอะไรแล้ว
คือว่าข้อดีของF-16 มันเป็นข้อเสียของภาระกิจโจมตีครับ มันบินเร็วไปทำให้สนับสนุนภาคพื้นได้ไม่เต็มที่คือพอโจมตีหนึงครั้งมันจะบินเลยไปไกลเลยต่างจากเครื่องบินที่ออกแบบมาโดยตรงมันจะสามารถบินวนอยู่ในพื้นที่ได้นานและครอบคลุม อีกอย่างF-16 มันโจมตีได้อยู่แล้วก็มันเป็นเครื่องบินแบบเป็ดทำได้ทุกอย่างแต่ก็ไม่เก่งสุดขั้ว
ก็พอไหวถ้าเปลี่ยนเครื่องยนต์กับติดอุปกรณ์เสริม
ระบบอาวุธและการบินของเกาหลีของตะวันตกล้วนๆครับ ไม่ต้องห่วง
https://www.youtube.com/watch?v=OVgeJLzbGy4
ผมคิดอย่างนี้ครับ
1. F16A/B เก่าของเราเพิ่งผ่านการปรับปรุงโครงสร้างไป น่าจะเหลือใช้ได้อีกราว 4,000 ชั่วโมง หรือประมาณ 20 ปี ซึ่งผมคิดว่าใช้ได้นานมาก
2. ในภาระกิจโจมตีทั่วไป ผมจะใช้เครื่องบินแบบอื่นๆ เช่น เครื่องบินโจมตีแบบใบพัด(สมมุติว่าเป็น ทอ.6 รุ่นโจมตีก็แล้วกัน)หรือใช้อากาศยานไร้คนขับ ซึ่งมีความเร็วความคล่องตัวต่ำ ส่วนภาระกิจโจมตีเป้าหมายที่มีความเสี่ยงสูง การป้องกันหนาแน่นจะใช้ F/A16 ซึ่งทำให้มีโอกาสรอดมากกว่า
3. หากเราซื้อ F/A50 จากเกาหลี ก็ไม่ได้ทำให้ ทอ. ของเราครองอากาศได้เมื่อเทียบกับ เครื่องบินของประเทศเวียดนาม พม่า มาเลเซีย ดังนั้น เราน่าจะนำงบไปลงทุนกับฝูงที่ทำภาระกิจขับไล่ครองอากาศจะดีกว่า อย่างพวก F16C/D block 60 Jas39E/F
4. F16A/B เดิมก็ทำภาระกิจโจมตีได้อยู่แล้ว แค่ปรับปรุงอีกนิดหน่อยให้สามารถติดอุปกรณ์เพิ่มเติม และใช้อาวุธใหม่ๆได้ โดยเฉพาะพวกระเบิดนำวิถีแบบต่างๆ
คือภารกิจโจมตีมันมีอยู่สองแบบครับ แบบแรกคือโจมตีทั่วไปหรือ deep air support ก็บินๆ ไปยิงจรวด ปล่อยระเบิดนำวิถีไปเรื่อย เช่นถล่มฐานทัพถล่มที่ตั้ง หรืออะไรที่ไม่ได้เสี่ยงต่อการโดนพวกตัวเอง ซึ่งเครืองอะไรที่มีความสามารถในการ swing role (ขับไล่ยุคหลังเกือบทุกรุ่น) ก็ทำได้ เอฟสิบหก ย๊าสได้หมด
อย่างที่สองคือการโจมตีแบบ close air support ที่ร่วมปฏิบัติการณ์ร่วมกับเหล่าอื่นเช่นทหารราบ ทหารม้า คอยถล่มด่านหน้าข้าศึกเพื่อเบิกทางให้ฝ่ายเรา หรือถล่มเป้าเคลื่อนที่เช่น รถถัง รถเกราะ รบบรรทุก ฮ. ต่างๆ ซึ่งต้องใช้ความเร็วต่ำ บินเรี่ยๆ เป็นมัคๆ เล็งไม่โดนกันพอดี พวกเครื่องขับไล่ความเร็วสูงส่วนใหญ่ความคล่องตัวที่ระดับความเร็วต่ำจะไม่ดีเพราะต้องการความเร็วสูงเพื่อเพิ่มแรงยกที่ปีก ดังนั้นพวกเครื่องโจมตีจึงปีกค่อนข้างตรงไมไ่ด้เฟี้ยวเหมือนขับไล่
ส่วนการจะเอา เครื่องเร็วมาใช้ในการโจมตีสนับสนุนภาคพื้นดิน มันก็ทำได้ถ้ากองทัพบกเราไฮเทคมี IFF กันหมด และอาวุธโจมตีนำวิถีหมด แต่จะให้กราดยิงปืนกลอากาศใส่อีกฝ่ายคงไม่โดน
และประเด็นสุดท้ายคือ ถ้าเครื่องเอฟสิบหกที่เราจะโละๆ ยังใช้ได้ ไม่ได้เปื่อยกรอบอะไร เราก็เก็บไว้เป็นขับไล่เหมือนเดิมสิครับ จะโละทำไม ยิ่งมีน้อยๆ อยู่ แล้วซื้อเครืองโจมตีขับไล่ที่ค่าปฏิบัติการณ์ถูกๆ มาใช้ดีกว่า เพราะใช้ฝึกด้วยอะไรด้วยครับ
f/a 50 ติดนู่นติดนี่ราคาก็สะกิดก้นบ. multirole fighter พอดี
ต้องแยกระหว่าง T-50 กับ TA-50 และ FA-50 ครับ
FA-50 ไม่ใช่ TA-50 และ T-50 ก็ไม่ใช่ TA-50
T-50 ก็คือ บ.ฝึกไอพ่นขั้นสูงเฉย ๆ (ราคาถูกสุด)
TA-50 ก็คือ บ.ฝึกขั้นสูง ที่สามารถเป็น บ.โจมตีเบา ได้ แบบ L-39 ครับ แต่ก็ใช้ได้แค่ระบบอาวุธบางแบบเท่านั้น (ราคาปานกลาง)
FA-50 ก็คือ บ.ขับไล่ โจมตี แบบ F/A-18 ครับ ก็คือ ทำได้ทุกอย่าง แต่ไม่ใช่ เครื่องบินฝึก (ราคาสูงสุด เทียบเท่า เครื่องบินขับไล่)
ดังนั้น ราคามันจะแตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัดครับ
ระบบ เอวิโอนิค ก็จะแตกต่างกัน ระบบเรดาร์ ก็จะแตกต่างกัน
ซึ่ง FA-50 ของฟิลิปปินส์ ก็เป็นรุ่น T-50PH คือ มีการติดตั้งระบบเพิ่มจากเครื่อง T-50 เพื่อให้ใช้ระบบบางอย่างเพิ่มเติม สำหรับใช้อาวุธได้ ซึ่งผมคิดว่า ก็คงใกล้เคียงกับ TA-50 แต่คงไม่ถึงขั้น FA-50 เพราะ ฟิลิปปินส์ เอง ก็ยังไม่มีอาวุธนำวิถี ประจำการ
ผมเดาว่า คงมีเพียงใช้ AAM เช่น ไซน์ไวเดอร์ กับ ระเบิด MK และ GBU ขนาดต่าง ๆ เท่านั้น หรือ เทียบเคียงได้กับ F-5F รุ่น ปกติ มากกว่าครับ แต่คงยังไม่ถึงขั้นใช้ Smart Bomb ต่าง ๆ ได้
สเปคของ T-50
ราคาแตกต่างกัน แต่ละแบบก็ใช้อาวุธได้แตกต่างกัน
T-50 เป็น บ.ฝึก
TA-50 เป็น บ.ฝึก และโจมตีเบา
FA-50 หรือ A-50 เป็น บ.ขับไล่ โจมตี ตามแต่ สเปค ของผู้ซื้อ ว่าต้องการ ขั้นสูง แบบไหน
พูดถึง บ.ขับไล่ครองอากาศในงบประมานที่จำกัดของ ทอ.เราถ้าใช้วิธีให้ทางสวีเดนและSAABออกแบบถังน้ำมันขนาบข้างลำตัวของgripenของเราแบบของ F-16 อิสราเอล พอจะเป็นไปได้มั้ย เพราะค่าบำรุงรักษาคงจะไมเพิ่มขึ้นเท่าไหร่และสามารถบินได้นานขึ้นพร้อมทั้งยังได้ตำแหน่งติดอาวุธเพิ่มมาอีก3จุด
ซึ่งตามข่าว ที่ ทอ. จะจัดหา คือ จัดหา บ.ฝึกขับไล่ขั้นสูง ถ้าจะเทียบเคียง ก็คงใช้ T-50 เป็นตัวเทียบเคียง
แต่ถ้า บ.แบบอื่น ๆ สามารถใช้ระบบอาวุธ เป็น โจมตีเบา ได้ด้วยเป็น ปกติ โดยไม่ต้องมีการปรับปรุงในอนาคต แล้ว ก็คงต้องใช้ TA-50 เทียบเคียง
ซึ่งถ้า ทอ. จัดหา บ.ฝึกขับไล่ขั้นสูง โดยยังไม่มีการทำภาระกิจ โจมตีเบา ได้ ก็คงใช้ T-50 เทียบเคียงอย่างเดียว
ซึ่งข้อได้เปรียบ เสียเปรียบ ก็คือ ในการ ปรับปรุงสำหรับอนาคต ถ้าเกิดงบประมาณสามารถจัดหาได้เพียงเป็น บ.ฝึกขับไล่ โดยยังไม่ต้องมีคุณสมบัติ โจมตีเบา ด้วย...บ. แบบไหน จะมีค่าปรับปรุงที่ต่ำกว่าในอนาคต...และ ค่าสิ้นเปลืองต่อชั่วโมงการฝึก...เนื่องจาก ทำหน้าที่เป็น บ.ฝึกขับไล่ อย่างเดียวเท่านั้น ในขณะที่ทำการจัดหา....
ผมคิดว่าเครื่องฝึกบิน ผมจะใช้วิธียุบรวมเครื่อง L39 เหลือเพียง 1 ฝูง หรือไม่ก็ใช้ Alpha jet มาใช้ฝึกบิน ซึ่งน่าจะใช้ต่อไปได้ราว 10-15 ปี ส่วนเครื่องซื้อใหม่จะเป็นพวก บ. ที่เป็น multi role หรือพวก บ.โจมตี โดยตรง (หรือ บ. ฝึกบิน/โจมตี รุ่นใหม่ มาใช้ภารกิจโจมตี) เหตุผล คือ ทำไมเราคิดจะเอาเครื่องรุ่นใหม่ที่ทันสมัย (สมมุติว่าเป็น TA50) มาใช้ฝึกเป็นหลัก แล้วเอาเครื่องรุ่นเก่าอย่าง L39 Alpha jet มาใช้โจมตีเป็นหลัก ซึ่งมันดูจะกลับกัน
สำหรับเครื่องทำภาระกิจโจมตี หากยังจำเป็นต้องมีพวก บ. โจมตีแท้ๆ ความเร็วต่ำ ผมก็ยังไม่เห็นด้วยกับการใช้เครื่องประเภทฝึกบิน/โจมตี อย่าง TA50 เพราะ บ. พวกนี้บอบบาง ทนความเสียหายได้น้อย เนื่องจากไม่มีเกราะป้องกันมากนัก โดยเฉพาะเครื่องยนตร์ ที่จะเป็นแบบคู่หรือแบบเดี่ยว ก็จะอยู่ติดกันด้านท้าย เวลาโดนยิงมักมีโอกาสพังทั้งคู่ ดังนั้นถ้าหากต้องมีเครื่องโจมตีแท้ๆ น่าจะมองรุ่นที่ทนทาน อย่างพวก A10 upgrade , SU25 upgrade หรือ อากาศยานไร้คนขับจะดีกว่า (ขนาดเครื่องพันธุ็โจมตีแท้ๆอย่าง SU25 ยังเอาตัวเองไม่รอดเลย ครับ)
ในด้านความสำคัญ หากมีเงินจำกัด ผมจะให้ความสำคัญกับการซื้อเครื่องที่ใช้ครองอากาศให้เพียงพอก่อน อย่างพวก F16block 60 JAS39 เพราะหากครองอากาศไม่ได้ เครื่องโจมตีถึงดีอย่างไรก็ไม่มีความหมายครับ
เครื่องครองอากาศนี่ผมอยากให้เป็นพวก F-16 block ใหม่ๆมากกว่า jas-39 ครับ ในความคิดผม jas-39 มันเบาไปหน่อย และประสิทธิภาพโดยรวมยังไม่น่าจะเทียบเท่า F-16 block ใหม่ๆได้
คอบท่านrayong
Alpha Jet ที่เรามีคือรุ่นA เป็นรุ่นโจมตีแท้ๆ ส่วนรุ่นEที่เป็นรุ่นฝึกผมไม่แน่ใจว่ามันต่างยังไงบ้าง (แต่มันต้องต่างแหละ ไม่งั้นเขาจะทำแยกรุ่นมาทำไม) มันก็เลยทำหน้าที่เป็นเครื่องฝึกแท้ๆไม่ได้
ส่วนที่ต้องหาบ.ฝึกที่advanceกว่าL-39เพราะไม่งั้นเราจะไม่พร้อมสำหรับระบบสมัยใหม่ครับ เทียบกันแล้วL-39กับบ.ขับไล่ยุค4.5ขึนไปมันห่างกันมาก แต่ในจุดนี้ผมเองก็ไม่สนับสนุนบ.ที่มีค่าใช้จ่ายสูงและสมรรถนะสูงอย่างT-50เช่นกัน อาจจะเป็นM-346หรืออะไรก็ว่าไป โดยเน้นว่าจะตัองจัดหาพร้อมระบบฝึกครบวงจรไม่ว่าซิมูเลเตอร์หรืออะไรก็ตามแต่ (ซึ่งเป็นเหตุผลว่าหลายๆดีลM-346แพงกว่าTหรือTA-50)
สุดท้ายเรื่องL-39ผมก็ยังไม่มั่นใจว่าทอ.จะเอายังไงกันแน่ ย้ายไป411แล้วไงต่อ จะเป็นเครื่องโจมตีเบาแท้ๆหรือเอา411เป็นฝูงฝึกเลยส่วน401เป็นฝูงโจมตี ซึ่งข้อนี้สำคัญกับการเลือกเครื่องที่จะจัดหามาลง401มากครับ
พูดถึงเรื่องบ.โจมตีแล้ว ขอถามต่อถึงประเด็นการขอCAS
คือจากที่เคยอยู่กับทหารราบมา รู้สึกว่าเรามีผู้นำอากาศยานหน้า ที่เป็นทหารบกค่อนข้างน้อยมากๆเลย
ตรงนี้ก็ไม่ทราบว่าในการใช้งานจริงๆทางทอ.จะส่งผู้นำอากาศยานหน้ามาอยู่กับชุดปฎิบัติการของทบ. ในระดับทก.พันหรือไม่ครับ
เพราะจะส่งไปเรียนเพิ่มก็คงไม่ทัน แต่ตอนจัดกำลังก็คงไม่มีทอ.มาร่วม เลยยังงงอยู่
โดยความคิดเห็นส่วนตัว
คิดว่าถ้าเราจะมองหาเครื่องบินรบเอกประสงค์ ที่สามารถใช้ฝึกขั้นสูงบวกกับใช้โจมตีและอาจจะรวมไปถึงขับไล่ด้วย คือทดแทนทั้ง F-5 และ L-39 ผมว่า FA-50 น่าจะดีกว่าครับ หรือ TA-50 ใช้ฝึกกับโจมตีทดแทน L-39อย่างเดียว ก็ok อยู่นะ
ส่วนเจ้าตัว F16C/D block 60 ถ้าจะซื้อมาใหม่ไม่เห็นด้วยด้วยครับเพราะราคามันแพงแต่ภาระกิจไม่หลากหลายเท่า Jas-39 ค่าซ่อมบำรุงในระยะยาวก็สูงกว่าด้วย
เครื่อง Jas-39 มันสามารถติดตั้ง RBS-15 ใช้โจมตีเรือรบได้แต่F-16 ติดตั้ง harpoon ไม่ได้ครับ และผมไม่เห็นว่า F-16 C/D จะสามารถครองอากาศเหนือกว่า กริฟเพ่นซักเท่าไร ถ้าว่ากันในเรื่องความเอกประสงค์แล้วผมให้ กริฟเพ่นเหนือกว่า F-16 ทุกด้านครับ
ส่วนเจ้าเครื่อง A-10 thunderbolt เลิกคิดไปได้เลยครับ มันใช้เครื่องยนต์เจ็ต 2เครื่องยนต์ ทั้งซดน้ำมันและเรื่องค่าใช้จ่ายในการซ่อมบำรุงเครื่องยนต์เจ็ต เชื่อว่าไม่โดนใจ ทอ.ของเราแน่
ถ้าให้เลือกตอนนี้ว่าจะเอา f-16 หรือ กริพเพน ผมเอาอย่างหลังครับ เพราะหนึ่งเลยเมกาขี้เก๊กเกิน เหมือนครั้งที่แล้วจะให้เราซื้อมือสอง พอเราเลือกกริพเพนก็มาทำงอน ก็ทำไมไม่ขายมือหนึ่งแต่แรกวะ เราลงทุนดาต้าลิงค์ ไทยลิงค์ แล้ว ได้เอฟสิบหกเดี๋ยวก็ลีลาไม่ยอมให้เราลิงค์อีก ส่วนกริพเพนเรามาอินติเกรดเองง่ายกว่าเยอะครับ อีกอย่างเอฟสิบหกใกล้เลิกผลิตเต็มที กล่าวคือคงไม่มีการพัฒนาเพิมเติ่มฟีเจอร์ในอนาคตหรอกครับ ส่วนกริพเพนอนาคตรดูไกลกว่าเยอะครับ รวมถึงอาวุธยุคหน้าต่างๆ ที่เรามีความเป็นไปได้ว่าจะครอบครองก็มีหลากหลายกว่าครับ
ส่วนเรื่องถังน้ำมันแนบลำตัวนั้น ไม่ได้แปลว่าถ้ามีแล้วเราจะเอา hardpoint ที่ติดถังน้ำมันมาติดอาวุธจนเต็มได้นะครับ เพราะน้ำหนักบรรทุกสูงสุดมันก็มีอยู่ นอกจากนี้ผมไม่แน่ใจว่าแท่นติดถังน้ำมันตรกลางนั้นสามารถติดอาวุธได้หรือเปล่าหรือออกแบบไว้ติดได้แค่ถังน้ำมันเท่านั้น แต่ถ้ามีก็ย่อมดีกว่าการห้อยถังอยู่แล้วครับ ต่อให้ hardpoint ต้องปล่อยไว้ว่างๆ เพราะเพิ่มความคล่องตัวในการบินและลดการตรวจจับจากเรดาร์ ข้อเสียคือ บำรุงดูแลลำบากกว่าเก่า และความยืดหยุ่นต่ำกว่าหน่อย เช่นซ้ายขวาสลับกันไม่ได้เป็นต้น แต่ส่วนตัวผมว่าถ้ามีก็คุ้มครับ
ผมว่า T50 ไม่เหมาะเป็น บ ฝึกครับ ใช้เครื่องยนต์เดียวกับ F16 เลย แปลว่า อัตราสิ้นเปลืองเท่ากัน ความแรง ความเร็วพอๆกัน แต่ราคาเครื่องถูกว่า แปลว่า ชม บินแพงขึ้นกว่าเดิม ค่าใช้จ่ายน่าจะพอๆกับ เอา f16 ไปบิน
T-50 ใช้เครื่องยนต์เกือบจะตัวเดียวกับ Jas39 ครับ เรื่องประหยัดน้ำมันน่าจะOk อยู่ครับ แต่ก็ต้องแลกกับความแรงที่ลดลง (ดังนั้นT50 จึงต้องมีขนาดเล็กกว่า F16 เพื่อจะให้มีน้ำหนักลดลง เพื่อใช้กับเครื่องยนต์แรงลดลง)
The T-50 is equipped with a GE F404 engine
เครื่อง t-50 เป็นรุ่นเดียวกับที่ยาสกับ f-18 ใช้แต่คนละเวอร์ชั่น เพราะมีอัพเกรดไปเรื่อยๆ
เวลาออกแบบเครื่องบินเขาไม่ได้เลือกเครื่องยนต์ก่อนแล้วออกแบบเครื่องบินให้รับกับเครื่องยนต์นะครับ
ที่ขนาดมันเล็กก็เพราะเขาจะทำเครื่องขนาดนี้แหละครับ เป็นเครื่องฝึก /โจมตี/ ขับไล่เบา โดยใช้แพลทฟอร์มเดียวกัน แล้วสรรหาเครื่องที่ตรงวัตถุประสงค์มาใส่