การฟังเขาว่ามีเหตุผลอะไร คับข้องใจอย่างไร ก็ โอเคนะครับ  แต่ที่ทำๆไปมันผิดทั้งหมด การวางระเบิด ลอบสังหาร ปชช/จนท  แล้วจะเอาพื้นฐานอะไรมาคุยกัน เรื่องแบ่งดินแดนยิ่งไม่ต้องมาพูดกันเลย..

ถ้ามองจากคนนอก (สถานการณ์ในพื้นที่มีความซับซ้อนหลายอย่าง) ผมคิดว่า เจรจากัน เป็นเรื่องดี

ให้เขามาบอกเลยว่า อยากได้อะไร ผมคิดว่า ต่อให้เขาพูดออกมาว่า อยากได้เอกราช ก็ยังมีพื้นที่ให้เจรจาอยู่ เพราะการเป็นเอกราชมันเกิดขึ้นทันทีวันนี้ไม่ได้ ลองนึกภาพดู ถ้าสมมุติประเทศไทยยอมให้เอกราช (ย้ำว่า สมมุตินะครับ แฮ่ๆ) แล้วจะเกิดอะไรขึ้น ฝ่ายเรา ก็ต้องถอนระบบราชการ เอาผู้ว่า ตำรวจ ทหาร ครู หมอ ฯลฯ ทุกคนที่เป็นข้าราชการไทยออกไปให้หมด ระบบสาธารณูปโภค ต่างๆ ถอนหมด ไฟฟ้า ประปา โทรศัพท์ อินเตอร์เน็ต แล้วพวกท่านจะอยู่กันอย่างไร ฝ่ายท่าน ก็ต้องจัดตั้งองค์กรปกครองรัฐขึ้นมาแทนที่ มีระบบกฎหมาย ระบบภาษี และสารพัดระบบ เพื่อให้ประชาชนในรัฐใหม่ของท่านอยู่ดีกินดี เหมือนกัน ถูกไหมหละ เพราะฉะนั้น มันไม่ใช่เรื่องที่จะเกิดขึ้นได้ในวันนี้พรุ่งนี้ มันต้องมีขั้นตอน 1-2-3-4 อ่ะ แต่ไม่ว่าจะอย่างไร ขั้นตอนเหล่านี้ จะเริ่มขึ้นไม่ได้ถ้าสถานการณ์ในพื้นที่ยังไม่มีความสงบ ถูกมั๊ย เพราะฉะนั้น เรื่องไกลตัวอย่าเพึ่งมาคิดเลย เรามาเริ่มจาก เลิกวางระเบิดใส่กันก่อนดีไหมเล่า ฯลฯ อะไรอย่างนี้หนะครับ

         ผมอยากไห้เราเจรจา กับกลุ่มการเมืองของเราก่อน การเมืองจบ ผมเชื่อว่าภาคไต้ของเราสงบแน่นอน พูดถึงสมมุติถ้าได้แบ่งแยกเอกราชจริงๆ ผมว่าพี่เลี้ยงของเขาเลี้ยงดูอย่างดีแน่ครับ ไม่น่ามีอะไน่าเป็นห่วง ดีกว่าที่เราดูแลพวกเค้าในปัจจุบัน 

ถามก่อนว่า พูโล มีอำนาจในการเจรจาไหม กลุ่มก่อการร้ายที่ก่อเหตุอยู่ตอนนี้ใช่พูโลหรือยอมฟังพูโลหรือเปล่า 

เท่าที่เคยได้รับทราบข้อมูลจากหลายๆสื่อหรือหลายๆปาก มันมีหลายกลุ่มมากครับ  ที่สร้างสถานการณ์ความไม่สงบ

ทั้งจากพวกกลุ่มแบ่งแยกดินแดน,กลุ่มผู้มีอิทธิพลค้าของเถื่อนที่เสียผลประโยชน์ และเจ้าหน้าที่รัฐเอง

แยกแยะลำบากว่าฝีมือใคร แต่โดยส่วนใหญ่ที่ข่าวมักจะเป็นกลุ่มแรก

เมื่อถามว่าจะเจรจาไหมในความเห็นของผมก็ไม่รู้ว่าจะเจรจาไปเพื่ออะไร ในเมื่อกลุ่มดังกล่าวก็คงจะรู้คำตอบจากกลุ่มผู้ปกครองบ้านเมืองระดับบิ้กๆของประเทศไทยดีอยู่แล้ว ว่าคำตอบสุดท้ายคืออะไร (กองทัพจะปกป้องประเทศไทยและผืนแผนดินนี้โดยจะไม่ยอมเสียไปแม้แต่ตารางนิ้วเดียว ผมยังจำประโยคนี้จากปากของท่านแม่ทัพภาคที่สองตอนเกิดเหตุข้อพิพาททางชายแดนไทยเขมรแถวๆเขาพระวิหาร เพราะฉะนั้นนี้เป็นเพียงแค่เสียงจากปากนายทหารระดับสูงเพียงคนเดียวเท่านั้นยังไม่นับรวมกับนายทหารท่านอื่นๆในประเทศไทยเรา ซึ่งมันก็มีความหมายที่ชัดเจนอยู่แล้ว)

เพราะฉะนั้นผมคิดว่าสำหรับกลุ่มพลูโลแล้ว สิ่งที่ควรต้องทำก็คือการเรียกร้องการขออภัยโทษให้กับสมาชิกของกลุ่มตนเองให้สามารถได้รับการลดโทษหรือไม่ได้รับการรับโทษในบางกรณี จะดีกว่าแล้วกลับมาใช่ชีวิตทางวิถีทางของปุธุชนประชาชนคนธรรมดาทั่วไปแบบสงบจะดีกว่าใหม อะไรที่มันผิดพลาดไปแล้วก็ให้อภัยกันไป  

    ปล.ทุกวันนี้บอกตรงๆว่า สำหรับผมแล้วการเห็นภาพจ้าหน้าที่หรือกลุ่มโจรถูกสังหารและถูกจับ มันชินชาซะแล้วสำหรับผม

เสมือนมันเรื่องปกติในชีวิตประจำวันไปเรียบร้อยแล้ว 

ผมว่าถ้าการเจรจาจะมีผลอะไร ฝั่งผู้ก่อการต้องคุยกันเองด้วยก่อนดีกว่ามั้ง ไม่งั้นก็เหมือนการเจรจาที่ผ่านมา คนเจรจามีอำนาจหรือเปล่ายังไม่รู้เลย

เจรจาได้เจรจาไปครับ แต่สามจังหวัดมีอะไรมากกว่าที่เราไม่รู้ก็ได้ครับ เห็นว่าน้ำมันเถื่อนเยอะมาก ปราบเท่าไรก็ไม่หมดเสียที

ถ้าสงบจริงๆนะครับ คงไม่ช้าก็เร็ว