http://thaiarmedforce.com/taf-military-news/53-rta-news/610-first-photo-of-thai-army-oplot-tank.html
สำนักข่าว Glavnoye รายงานคำสัมภาษณ์ Vadim Malyshev ผู้อำนวยการของโรงงานที่ทำการผลิตรถถังของยูเครน ซึ่งข้อข้อความที่ระบุถึงการผลิตรถถังของยูเครนด้วย
เขากล่าวว่าเมื่อปีที่ผ่านมาทางโรงงานไม่ได้รับคำสั่งซื้อจากกระทรวงกลาโหมยูเครนเนื่องจากคิวการผลิตเต็มจากคำสั่งซื้อจากสองประเทศในแอฟริกาและเอเชีย (คองโกและไทย: TAF)
Vadim Malyshev ยังกล่าวอีกว่าโรงงานใน Kharkiv ที่กำลังการผลิตรถถัง 50 คันต่อปี และกำลังการซ่อมคืนสภาพที่ 200 คันต่อปี ซึ่งถ้าได้รับงบประมาณเพิ่มก็สามารถเพิ่มกำลังการผลิตได้อีก นอกจากนั้นเครื่องมือบางส่วนยังคงต้องได้รับการปรับปรุง
นอกจากนั้นเขายังวิจารณ์ที่การตัดสินใจที่ล่าช้าและกฏระเบียบจำนวนมากของกระทรวงกลาโหมยูเครนที่ทำให้ไม่มีคำสั่งซื้อจากกระทรวงกลาโหมยูเครนแม้ว่าจะยังมีการสู้รบบริเวณชายแดนรัสเซียซึ่งทำให้มีความต้องการยุทโธปกรณ์จำนวนมากและทางโรงงานมีความสามารถในการผลิตและซ่อมคืนสภาพรถได้เป็นจำนวนมากก็ตาม นอกจากนั้นเขายังกล่าวถึงสถานการณ์การสู้รบว่า การผลิตอาวุธนั้นไม่สามารถผลิตออกมาแล้วใช้ได้เลย เพราะต้องใช้เวลาเตรียมการและฝึกคนหลายเดือน อีกทั้งที่ผ่านมายูเครนยังพยายามยกเลิกระบบการส่งกำลังบำรุงของโซเวียตพยายามมาใช้ระบบตามแนวทางตะวันตกซึ่งมีประสิทธิภาพมากกว่า
ทั้งนี้ ยังไม่แน่ชัดว่ายูเครนได้ส่งมอบรถถัง T-84 ให้กับกองทัพบกเพิ่มเติมจากที่เคยส่งมอบให้แล้วจำนวน 5 คันหรือยัง รวมถึงจะมีความล่าช้าในสัญญาหรือไม่
สถานการณ์สู้รบในภาคตะวันออกนั้น ห่างไกลจากเมืองที่ผลิต T-84 ออกไปเรื่อยๆ พื้นที่ๆกลุ่มกบฏควบคุมอยู่ก็เหลือแค่นิดเดียวคือเมือง ลูฮานส์ และโดเนสค์ ซึ่งกองกำลังรัฐบาล เคียฟ ก็กำลังล้อมเมืองลูฮานส์ ซึ่งเป็นที่มั่นฝ่ายกบฏอยู่ แม้สถานการณ์ยังตึงเครียดแต่ก็ยังทำการผลิตได้ตามปกติ. ที่ช้าผมว่าช้าที่ตัวโรงงานเองซะส่วนหนึ่ง
ล่าสุดผู้นำยูเครนประกาศเพิ่มงบประมาณทางการทหารอีกกว่าหมื่นล้านเร่งพัฒนากองทัพ ผมว่าจังหวะนี้ถ้าเราจะกอดคอ ยูเครนแบบวัดดวงกันไป ก็ไม่แน่อนาคตเราอาจจะได้พาร์ทเนอร์ทางการทหารชั้นยอดก็เป็นได้ >>> ไม่ก็ง่อยรับประทานกันไปทั้งคู่ 55555
คือไม่ได้จะอะไรนะครับ แต่ไอ้รูปเนี้ยรู้ได้อย่างไรว่าถ่ายเมื่อไหร เพราะเนื้อข่าวพูดถึงขีดความสามารถของโรงงาน ไม่ใช่เรื่องของรถถังไทย เป็นไปได้ไหมว่าเป็นรูปเก่าของรถชุดแรก
ในความเห็นผม ถ้า ยูเครน ยืนยัน และจะส่งมอบให้
อยู่ที่ว่า OPLOT จะมีประจำการเพียง 49 คัน ในโลก หรือเปล่า ?
แล้ว ประเทศไทย จะยอม ทู้ซี้ เอาให้ได้เหรอ ?
ถ้า ยูเครนผลิตได้ ส่งมอบได้ และ ทบ เอา อย่างน้อยๆ oplot ก็มี 200 คันล่ะครับ มากกว่า สติงเรย์อีก ไม่น่ามีปัญหา
ทำให้เสร็จมาเถอะ............ยังไงก็จะเอา....
น่าจะเป็นข่าวลือนะ
http://glavnoe.ua/articles/a9319
ที่มาของข่าวและภาพครับ แต่ภาษาจนด้วยเกล้าครับ
จากที่หลวงพี่บอก เป็นภาพล่าสุดแน่ครับ
ใจชื้นขึ้นมาเป็นกอง
oplot ของยูเครนกับ olplot สเป็คไทยต่างกันยังไงบ้าง ใครรู้บ้างครับ
btr 3 e1 น่าจะเหมือนกัน ผมว่าเรื่องยูเครนเอาของไทยไปใช้หรือยูเครนผลิตของตัวเองตัดหน้าผลสำหรับไทยก็เหมือนกัน
ด้วยกำลังการผลิตที่จำกัดของโรงงาน แต่ตามข่าวโรงงานมาลาเชฟ ที่ kharkiv บอกว่าปีที่ผ่านมาไม่ได้รับคำสั่งซื้อเพิ่มเติมจากรัฐบาลยูเครน แต่สองสามปีที่ผ่านมายูเครนผลิตของใหม่ออกมาประจำการเองไม่น้อย ทั้งบีทีอาร์สี่ บีทีอาร์สาม งานสวนสนามล่าสุดก็มีของใหม่มาตรึม มันคืออัลไล
คองโกสั่งซื้อ t-64bทๅ 50 คัน ไทยสั่ง olplot 49 คัน ถ้าเป็นจริงตามที่อ้างไทยก็ควรได้รับมอบรถถังหมดตั้งนานแล้ว ไม่นับว่าคองโกเพิ่มมาสั่งซื้อต้นปีนี้เอง สงครามก็เพิ่งปีนี้
ปัญหาเรื่องสภาพคล่องกับศักยภาพการกำลังผลิตเป็นปัญหาหลักของประเทศเล็กๆที่เริ่มต้นด้วยการโมดิฟายของจากยุคสงครามเย็นแล้วพัฒนามาเองแทบทุกประเทศ ผมว่าถ้าไทยจะเอาตัวนี้จริงแล้วไม่อยากให้เป็นแบบสติงเรย์ก็ซื้อๆเทคโนโลยีมาเถอะ
ยอมแพงตอนแรก แล้วไล่หาคนจับมือพัฒนาวิจัย ก็ถือโอกาสเริ่มๆเลยแล้วกัน
เรื่องถ่ายทอดเทคโนโลยีผมว่าน่าจะมีอยู่ในข้อตกลงอยู่แล้วนะครับ..ผมอิงกับดีลของ BTR-3E ที่กองทัพบกได้พูดไว้ในคลิบประชาสัมพันธ์ตอนที่ BTR มาใหม่ๆ ว่าการถ่ายทอดเทคโนโลยีนั้นอยู่ในข้อตกลง เห็นว่า BTR 2 คันแรกนั้นส่งไปฝึกถอดประกอบชิ้นส่วน(ทั้งคัน) กันที่หน่วยสรรพาวุธทหารบกตั้งนานแล้วเดาเอานะว่า Oplot ก็น่าจะมีรายละเอียดคล้ายๆกัน
เรื่องผลิตเองผมว่า ทบ.ต้องมีแผนในใจแล้วแน่ๆ แต่คงเริ่มจากการดูแลชิ้นส่วนและซ่อมบำรุงให้เชี่ยวชาญก่อนแล้วค่อยพัฒนาไปเรื่อยๆโดยเครื่องไม้เครื่องมือก็คงเริ่มจากอู่ซ่อมภายในหน่วย..แล้วค่อยๆขยายออกไป มโน..เก่งจริงเรา 555
หนุน เต็มที่ สำหรับ o plot for rta.
บางทีก็แอบคล้าย
นะ
1. ผมว่าประเด็นมันอยู่ที่ว่าศักยภาพของไทยเรานะ มีมากแค่ไหนที่จะพัฒนาเจ้า OPLOT เพื่อผลิตใช้เองในประเทศเท่าที่ติดตามข่าวยังไม่เห็นมีความคืบหน้าอะไรเลยเกี่ยวกับเรื่องนี้ มีแต่พูดเผื่อๆไว้ในอนาคต ซึ่งผมยังมองไม่เห็นอนาคตเลย ขนาดโครงการรถเกราะของชัยเสรีเราทั้งล้อสายพานและล้อยางยังไม่เห็นความเป็นรูปธรรมในการสั่งซื้อแบบเป็นล็อตใหญ่เข้าประจำการในกองทัพไทยเลยครับ
2. อย่าเพิ่งไปให้ความสำคัญกับเรื่องการถ่ายทอดเทคโนโลยีกันไปก่อนนักเลยครับ เอาตอนนี้จะเดินหน้าต่อไปหรือยังกับ 49 คันแรก