ถ้ากำลังหมายถึงทีวีซีรีย์หรือเปล่าครับ อยากบอกว่าปกติพวกหนังหรือซีรีย์ก็มีการแต่งๆ ไปเรื่อยให้มันดราม่าครับหรือส่งผลตามทีต้องการครับ ดังนั้นไม่ต้องไปเชื่อตามครับ เช่นเรื่องอะไรถ้าคุณรู้จริงอยู่แล้วแต่หนังบอกขัดแย้งมาให้เชื่อตัวเองครับ ส่วนลำไหนเรดาร์ไกลกว่าผมไม่รู้เหมือนกัน

Fregat MR-710 ของเรือชั้น  Kirov มีระยะตรวจจับ 300 ก.ม.

AN/SPY-1 ของเรือชั้น Arleigh Burke มีระยะตรวจจับ 180+ ก.ม.
 

ลืมAN/SPS-48ไปรึเปล่าครับ?

ซีรีย์ อย่าไปยึดติดเลยครับ ยิ่งตอนล่าสุดนี้อวย มะกันเวอร์ จนน่าเกลียจเลย บุกไปแค่ไม่ถึง 10 คนพี่แกเล่นถล่มทั้งลำเลย ทหารรัสเซียตายไปอีกเพียบ ส่วนมะกันตายแค่ 1คนเอง เรือรู้สึกจะโดนระเบิดไปด้วย ยิ่งเห็น ฮ mi-24 บนเรือ kirov นี้ดูขัดๆไงไม่รู้ แต่อย่างว่ามันเป็นหนังสหรัฐ

เอ่อ....  มีให้โหลดไหมครับอยากดู  อยากรู้ว่าต่างกับในหนังสือมากน้อยแค่ไหนกัน ชีวิตเด็กบ้านนอกมันเศร้าแท้หว่า สาวๆก็ไม่ค่อยมีให้ดูสัญญานเน็ตเดี๋ยวมาเดี๋ยวหาย ฮ่วย....!

เรื่องนี้สร้างโดยไมเคิล เบย์นะครับไม่ใช่ทาร์คอฟสกี้ ลูกเรือก็มีอยู่จำกัดขืนตายเยอะจะดำเนินเรื่องยังไงต่อ ยังไงอเมริกาก็ต้องชนะอยู่แล้วไม่ได้อวยอะไรหรอก ถ้าสู้กันในครัวแล้วผมไม่เคยแพ้ใครก็ว่าไปอย่าง

เอาลิงก์ไปล่ะกันครับ http://www.seriesubthai.com/last-ship/

คือ Kirov มันโดนให้ออกไปที่แนวเส้นขอบฟ้า แต่มันยังสามารถมองเห็น Arleigh Burke ได้ผ่านเรดาร์ เลยคิดว่า Kirov เรดาร์มันจับได้ไกลกว่า

อยากทราบอีกอย่าง เรือชั้น Arleigh Burke ออกทะเลได้นานสุดกี่วันหรอครับ แล้วน้ำมัน อยู่ได้โดนไม่ต้องเติมกี่วัน

ส่วน Kirov มันเป็น เรือนิวเคลียร์ คงหาแต่เสบียงเท่านั้น

จริงๆไม่ว่าเรดาร์จะแรงแค่ไหน มันก็จับเป้าผิดน้ำได้ไม่เกินเส้นขอบฟ้าไปมากหรอกครับ

radar horizonของKirovจะมีระยะทีได้เปรียบBurkeอยู่เพราะเรดาร์อยู่สูงกว่า แต่ก็ไม่ได้ให้ความแตกต่างมากมายอะไร

จริงๆไอ้การที่KirovยิงP-700จากกลางแอตแลนติกเหนือไปฝรั่งเศสผมว่าเวอร์ แถมมันไม่มีโหมดโจมตีภาคพื้นอีก เวลาจะเอายิงเรือยังต้องใช้บ.มาชี้เป้า(เพราะถ้าไม่ชี้เป้า ไม่มีเรือลำไหนยิงกันได้เกินradar horizonอยู่แล้ว) ถึงGranitมันจะมีโหมดชี้เป้าด้วยดาวเทยม แต่มันยิงใส่ภาคพื้นได้จริงรึ???

ผู้การแชนด์เลอร์แกก็เวอร์ไป ถ้าฟัดกับคิรอฟตรงๆยังไงก็แพ้

ปล.Kirovในหนังมีหลายอย่างมากที่ต่างจากของจริงนะครับ

ขอบคุณมากครับสำหรับลิงค์แต่อยากได้ในยูทูปสงสัยจะไม่มี ในหนังสือเรือชื่อNathan Jamesและเป็นชื่อคลาสเรือด้วย ขับเคลื่อนด้วยพลังงานนิวเคลียร์เหมือนกัน  อย่าเอาArleigh Burkeไปเปรียบเทียบตรงๆสิครับรวมทั้งเรือของโซเวียตด้วย

เคยเห็นบางคนดูหนังเรื่องThirteen Days แล้วก็เอามาอ้างอิงเป็นเรื่องจริงในกรณีคิวบา ในมุมมองของคนทำหนังสือหรือภาพยนต์จะใช้ความจริงทั้งหมดไม่ได้หรอกครับ เรื่องนี้ก็เหมือนกันผมว่าดูเอาสนุกน่าจะดีกว่านะ

AN/SPS-48 มีระยะตรวจจับ 460 ก.ม.

ถึงคุณmonson

www.navsea.navy.mil/nswc/.../05_Modernization.pdf

SPY-1B(กับเรือ ticondeloga)

                ;air suface= 175 nm (ไมล์ทะเล= 1.855 km) rang radian = 325 km

                 suface= 45 nm (ไมล์ทะเล= 1.855 km) rang radian = 85 km

SPY-1D(ใช่ในเรือชั้น Arleigh Burke)

                 air suface= 218 nm (ไมล์ทะเล= 1.855 km) rang radian = 400+ km

                 suface= 80 nm (ไมล์ทะเล= 1.855 km) rang radian = 150+ km

 เจ้า SPY-1 เป็นเรด้าห์ระบบ 3D s-band ถ้าระยะตรวจจับ air surface แค่ 180 km คงจะใช้'งานร่วมกับ SM-2 และ SM-3 ไม่ได้แน่ๆครับ

คือภาพยนตร์เวลาถ่ายหลายๆ ครั้งผู้กำกับตั้งใจทำให้ไม่สมจริงเพื่อจุดประสงค์ทางศิลป์ต่างๆ เช่นดราม่าขึ้นหรือน้อยลง ฯลฯ

และในการถ่ายทำก็ใช้ยานอื่นๆ มั่วไปเรื่อยทั้งด้านนอกด้านใน หรืออาจจะสร้างสตูเองเลย โดยเฉพาะเรือดำน้ำสมัยใหม่นี่มั่วกันนักแล เติมอุปกรณ์บ้าๆ บอๆ ที่ไม่มีจริงเข้าไปให้รึ่ม โดยสร้างสตูดิโอจากจินตนาการ เพราะพวกเรือดำน้ำนิวเคลียร์เป็นระดับความลับสุดยอดไม่มีทัวร์ให้ลงไปเยี่ยมชม หลายๆ ครั้งผมดูหนังมีรถเรือเครื่องบินหรือพวกอาวุธอะไรต่างๆ แล้วก็แบบ เอิ่มมม... มันใช่เหรอ?

เข้าใจว่า spy1 มาทดแทน sps48 นะครับ

ไม่ใช่นะครับท่าน AN/SPY-1เป็นMFR ส่วนAN/SPS-48เป็นLRR โดยเรือพวกนี้ต้องมีLRRแรงๆไว้ทำภารกิจBMDอยู่แล้ว

ผมว่าไอ้ตัว LRR คือ SPS-49 มากกว่าครับ

เพราะ SPS-48 อันนี้เป็นเรดาร์สามมิติอเนิกประสงค์เหมือนกัน ใช้นำวิถีให้อาวุธป้องกันภัยทางอากาศได้

ถึงหลักนิยมโดยทั่วไปของตะวันตกจะจับคู่เรดาร์ LRR กับ MFR แต่ปัจจุบันผมว่า LRR จะเริ่มหาย

อย่างใน arleigh burke class ไม่มีเรดาร์ LRR นะครับ อีกอย่างยุคหลังๆเรดาร์ LRR ก็จะเป็นสามมิติกันหมดละเรดาร์หลักก็ระยะเพิ่มจนไม่ได้ต่างกันเท่าไหร่แล้ว แต่เหมือนเซ็ทมาให้ทำงานคนละอย่างเท่านั้น เช่นอาจจะแค่ตรวจการ์แล้วแทรคเป้าหมายเฉยๆ ขณะที่เรดาร์ MFR ทำหน้าที่นำวิถีให้อาวุธนำวิถีต่างๆ ยิ่งเทคโนโลยี phased array ทำให้การเลือกแทร็คเป้าหมายต่างๆแยกกันทำได้สะดวกมากขึ้นไปอีก

SPS-48 มีระยะตรวจจับ 250 nmi (460 km) ใกล้เคียงกับ SPS-49 แต่เป็นเรดาร์3มิติ(อีกตัวเป็น2มิติ)ที่มีกำลังส่งแรงกว่าเพราะคนละคลื่น ถ้าเอาไปติดกับเรดาร์ตัวอื่นๆทั้งคู่ควรจะเป็นLRRเพราะความใหญ่โต  แต่เอามาติดรวมกันแล้วผมงงเล็กน้อยเพราะลุงแซมแกเล่นติดสลับกันไปเรื่อย เพียงแต่SPS-48จะอยู่ใกล้เคียงกันหรือสุงกว่า (ดูภาพเอาเองแล้วกัน)

เคยเห็นแต่SPS-49จับคู่กับAN/SPY-1จึงเป็นไปได้ว่าตัวหลังจะเอามาแทนSPS-48เฉพาะในเรือรบ(แต่เรือขนาดใหญ่ที่ไม่ติดSM-2ก็ยังใช้เหมือนเดิม) จะจัดให้ใครเป็นLRRผมไม่ใมีปัญหานะถ้ามีเงินขอติดมันทั้งหมด  อย่างเรือหลวงจักรีของเราถ้าจับยัดทั้ง2ตัวพร้อมๆกันเลยช่างน่าเกรงขามอะไรเยี่ยงนี้ เทียบกับปัจจุบันที่มีแค่sea giraffe ตัวเดียวให้อารมณ์เหมือนเรือเร็วโจมตีบรรทุกเฮลิคอปเตอร์เลยแฮะ

ไม่ได้จะดูถูกอะไรนะครับเข้าใจว่าได้เรดาร์ใหม่ย่อมดีกว่าของมือ2หมดสภาพ  แต่สเป็กมันฟ้องก้ไม่รู้จะยังไง เหอๆๆๆ

เดี๋ยวนะท่าน ผมเมา เรือชั้นBurkeไม่ติดAN/SPS-48นิหวา มันมีAN/SPS-73เป็นsurface search ต่างหาก

AN/SPS-48E ตอนนี้มันคือรุ่นที่อเมริกาใช้บนเรือบรรทุกเครื่องบิน

AN/SPS-49 แบบเดียวกับบนOHP และติดบนเรือTiconด้วย (แต่ก็มีAN/SPS-73อยู่)

เฉพาะAN/SPS-73 กองทัพเรือเรามีน้องชายแท้ๆของเขาติดตั้งอยู่บนเรือไม่รู้กี่ลำต่อกี่ลำ เพราะมันคือfuranoแปลงร่างมาอีกทีนั่นเอง ใช้อุปกรณ์บางส่วนจากAN/SPS-67ซึ่งปรับปรุงมาจากAN/SPS-10อีกที ผมเพิ่งเอาเรดาร์ทั้ง2ตัวไปติดบนเรือยามฝั่งของAYวันอาทิตย์นี้เองจำได้แม่น :)

เรดาร์ที่มีสีฟ้าสลับสีขาวติดอยู่บนเรือพิฆาตระบบเอจิสDDG-111ของอเมริกา เรือF-11ของพม่า และเรือต.111 ของเรา อุบ๊ะ !สุดยอด