หน้าแรก    ตั้งกระทู้ใหม่   ตอบคำถาม    เข้าสู่ระบบ      


โอ๊ย..เกือบลืม วันนี้เป็นวันญี่ปุ่นยอมแพ้สงครามโลกครั้งที่ 2 ครบรอบปีที่ 69

โดยคุณ : odd เมื่อวันที่ : 17/08/2014 14:23:30

แต่ญี่ปุ่นไม่เรียกว่าเป็นวันยอมแพ้สงครามนะครับ ญี่ปุ่นเรียกว่า วันยุติสงคราม...เหอๆ

วันนี้นายกยุ่นก็มีการปราศัย คำปราศัยไม่มีการเอ๋ยถึงความทุกข์ยากที่ชาติเอเซียได้รับจากญี่ปุ่นในช่วงนั้นแม้แต่ครึ่งคำ

ช่วงหลังๆ จากคำพูดคำจาของนักการเมืองญี่ปุ่น ดูเหมือนญี่ปุ่นจะเป็นฝ่ายถูกกระทำ เป็นเหยื่อของสงครามในครั้งนั้นซะนี่

--------------------------

ถกกันเล่นๆ

1....หลังโดนระเบิดนิวเคลีย 2 ลูกแล้วญี่ปุ่นยังไม่ยอมแพ้ สงครามน่าจะจบลงเช่นไร นอกจากอเมริกา ยังมีชาติไหนที่น่าจะร่วมบุกยกพลขึ้นบกญี่ปุ่น และ ความเสียหายทั้ง 2 ฝ่ายจะเป็นเช่นไร

2...ถ้าอเมริกาไม่ถูกญี่ปุ่นลอบโจมตีที่ฐานทัพในดินแดนอเมริกาก่อน คิดว่า สงครามโลก2 น่าจะไปทางไหน อเมริกาจะเข้าร่วมสงครามหรือไม่

3...ถ้าจีนยอมแพ้ญี่ปุ่นตั้งแต่เริ่มปีแรกๆเลย เหมือนบางประเทศที่ยอมแพ้ แล้วเข้าร่วมเป็นพันธิมิตรเลย (สงครามจีนต้านญี่ปุ่นรุกรานยาวนาน 8 ปี) สงครามโลกจะเปลี่ยนไปทิศทางใด

 

 

 





ความคิดเห็นที่ 1


1. ยังไงอเมริกา/สัมพันธมิตรก็ยึดญี่ปุ่นได้ครับ แต่คงตายอีกเป็นล้านทั้งสองฝ่าย ถ้าอเมริกาไม่ยึด รัสเซียก็ยึดเอง

2. ถ้าวันนั้นจีนยอมแพ้ วันนี้จีนคงเป็นชาติประชาธิปไตยครับ เพราะคนที่มีอำนาจในจีนตอนนั้นคือจีนคณะชาติ หรือไต้หวัน จีนคอมมิวนิสคงโดน กองกำลังร่วมญี่ปุ่น/จีนสอย จนหมด 

3. ญี่ปุ่นมีทางเลือกอื่นเหรอครับนอกจากโจมตีอเมริกา เพราะญี่ปุ่นโดนembargo น้ำมันอยู่. อเมริกาก็รู้ว่าญี่ปุ่นจะโจมตี แต่ไม่คิดว่าจะเป็นPearl Harbor เท่านั้นเอง 

------------------------

ผมว่าคำถามที่น่าสนใจอีกสองคำถามคือ

1. ถ้าเยอรมันไม่จัมมือกับญี่ปุ่น เป็นเหตุให่อเมริกาเข้าสู่สงคราม โลกจะเป็นอย่างไร

2. หากแทนที่ญี่ปุ่นจะบุกpearl harborและAsia. แต่ไปถล่มรัสเซียซ่ะก่อน ตีขนาบรัสเซียจากอีกด้านหนึ่ง แล้วค่อยมาเก็บAsia ผลของสงครามจะเป็นอย่างไร

โดยคุณ skysky เมื่อวันที่ 15/08/2014 19:19:42


ความคิดเห็นที่ 2


ก็เนื่องจากญี่ปุ่นเป็นคนโดนบังคับให้ยอมแพ้ เลยเหมือนผู้ถูกกระทำไงครับ นอกจากนี้นักการเมืองหรือประชาชนแบ่งเป็นสองฝ่าย คือพวกสันตินิยม และพวกชาตินิยม ส่วนตัวผมคิดว่าประชาชนส่วนใหญ่เป็นสันตินิยมหรือไม่ก็ไม่สนใจไอ้พวกเรื่องการเมืองพวกนี้ ทีนี้ตอนนี้พวกชาตินิยมกำลังเรืองอำนาจเพราะการรับมือกับเศรษฐกิจที่ดูดีกว่า  ส่วนใหญ่พวกชาตินิยมยุคหลังเป็นคนที่เกิดมาหลายสิบปีจากสงครามมาก ไม่สามารถมองเห็นถึงผลพวงอันเลวร้ายและความโหดร้ายที่เกิดขี้น จึงไม่เข้าใจ นอกจากนี้ยังมีประเด็นเรื่องความขัดแย้งกับจีนตอนนี้ การสร้างกระแสชาตินิยมจึงมาแรงและนักการเมืองใช้ฉวยโอกาสสร้างคะแนน

ผมคิดว่าปัญหาเป็นเพราะการปลุกฝังของญี่ปุ่นต่อคนรุ่นใหม่ที่ทำได้ไม่ถูกต้อง เช่นไม่ได้รู้ถึงความป่าเถื่อนของทหารตัวเองในสมัยสงครามโลก รู้แต่ที่ตัวเองโดนทิ้งระเบิดนิวเคลียร์ซึ่งก็โหดร้ายมากเหมือนกัน จึงทำให้คนรุ่นใหม่ขาดความเข้าใจในประวัติศาสตร์ที่ถูกต้อง ชินโซอาเบะเองเป็นเพียงแค่นายกหนึ่งในสองคนที่เกิดหลังสงครามโลก 

อีกปัญหาใหญ่ของญี่ปุ่นคือศาลเจ้ายาสุกุนิที่สิงสถิตย์วิญญาณของทหารที่สละชีพเพื่อจักรพรรดิ์และชาติ ที่เอาอาชญากรสงครามไปไว้ด้วย(ปนกับทหารอื่นๆ ตั้งแต่สมัยโบราณ) ทำให้การไปไหวศาลเจ้าเลยกลายเป็นการยอมรับการกระทำของพวกอาชญกรสงครามโลกโดยปริยาย ซึ่งหลังๆ นี้นายกญี่ปุ่นก็พยายามหลีกเลี่ยงการเข้าไหว้ศาลเจ้า (อาเบะเคยส่งเครื่องเซ่นไหว้ไปแทน) แต่รัฐมนตรีคนอื่นๆ ก็ยังไป ซึ่งผมว่าก็แค่ย้ายพวกอาชญากรสงครามออกไปจากศาลเจ้าก็จบ แต่ญี่ปุ่น ณ ปัจจุบันในภาพรวมก็ยังต้องถือว่าพยายามปฏิเสธประวัติศาสตร์อยู่

ซึ่งนายกยุคหลังๆ จะประกาศทุกว้นนี้ว่าญี่ปุ่นจะไม่ทำสงคราม นอกจากสองปีหลังนี้ของอาเบะ (ตอนแกเป็นนายกรอบแรกก็ยังสัญญาอยู่) ซึ่งชาวหลายๆ คนรวมถึงผมเองก็เป็นห่วงเพราะญี่ปุ่นเพิ่งแก้รัฐธรรมนูญมาหมาดๆ 

ตอบข้อคิดเห็นของคุณ odd

1. หลังโดนนิวเคลียร์สองลูกแล้วญี่ปุ่นไม่ยอมแพ้ ก็ตายอีกเยอะ เพราะต้องไล่บุกไปเรื่อยๆ แบบโอกินาวาไปทีละเกาะๆ จนยึดสี่เกาะหลักได้ ซึ่งกว่าจะถึงตอนนั้นคิดว่ารัสเซียคงโยกมาช่วยรบแล้ว แต่ส่วนตัวคิดว่าญี่ปุ่นน่าจะเกิดการปฏิวัติแล้วรัฐบาลใหม่ยอมแพ้ก่อน เพราะไม่ใช่ว่าทุกคนในญี่ปุ่นเป็นสายบ้าสงครามหมด เพียงแต่โดนกวาดล้าง 

2. หากญี่ปุ่นไม่ลอบโจมตีสหรัฐก่อน นี่หมายถึงว่าญี่ปุ่นประกาศสงครามอย่างเป็นทางการก่อนลงมือ หรือว่าญี่ปุ่นไม่ประกาศสงครามกับสหรัฐฯ ? ในกรณีแรก ญี่ปุ่นชิบหายไวแน่นอน ในกรณีที่สอง สุดท้ายแล้วทั้งสองประเทศคงต้องประกาศสงครามเพราะเหมือนที่คุณ skysky ว่าครับคือญี่ปุ่นไม่มีน้ำมัน รวมถึงเหล็กและทรัพยากรอื่นๆ ที่ช่วงแรกของสงครามยังนำเข้าอยู่นอกจากนี้เมื่อสงครามยุโรปจบลง เหล่ามหาอำนาจก็จะค่อยๆ ย้ายมารบญี่ปุ่นต่ออันจะส่งผลดินแดนที่เป็นแหล่งทรัพยากรธรรมชาติในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่ญี่ปุ่นใช้เริ่มเสียไป

3. หากจีนยอมแพ้อย่างรวดเร็วแล้วเข้าร่วมเป็นพันธมิตรเลย ผลคือไม่น่าจะโดนทหารญี่ปุ่นสังหารหมู่สยองๆ แบบที่เป็น แต่หลังจบสงคราม ถ้าเราตัดประเด็นพรรคคอมมิวนิสต์ออกไปก่อน เหมือนไม่มี (ซึ่งความจริงมีก่อนญี่ปุ่นบุกเสียอีก) ประเทศจะกลายเป็นผเด็จการภายใต้เจียงไคเช็ก และสุดท้ายก็จะเกิดกบฏคอมมิวนิสต์อยู่ดีเพราะความทุจริตของผู้นำและความชิบหายของชาติอันเป็นผลพวง คล้ายๆ กับกรณีเขมร เวียดนาม ฯลฯ หากจีนไม่เกิดกบฏคอมมิวนิสต์ก็คงเกิดปฏิวัติประชาชนจนประเทศผลัดสูสาธารณรัฐ หรือไม่ก็เปลียนแปลงหลังเจียงตาย แต่ความจริงคอมมิวนิสต์จีนเกิดก่อนอยู่แล้วและชนะใจประชาชนมาเรื่อยๆ ด้วย

ตอบข้อคิดของคุณ skysky

1. มันเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้หรอกครับ เรื่องพันธมิตรระหว่างญี่ปุ่นกับเยอรมัน เพราะทั้งสองประเทศที่บ้าชาติขั้นโรคจิตเหมือนกัน (พูดภาษาเดียวกัน ว่างั้น) ต้องการหลักประกันเรื่องความมั่นคงของตัวเองว่าจะไม่โจมตีกัน เพื่อนจะได้โฟกัสกับสงครามของตัวเอง ซึ่งสุดท้ายแล้วสหรัฐฯ ก็จะเข้าสงครามอยู่ดี เพราะสหรัฐฯ เห็นว่าประเทศชั่วร้าย(เยอรมันนาซี กับจักวรรดิญี่ปุ่น) จะเป็นใหญ่ มีกองทัพและทรัพยากรทางธรรมชาติและประชาชนเกินครึ่งโลกซึ่งจะทำให้สมดุลอำนาจเอียงไปอยู่ฝั่งตรงข้ามสหรัฐฯ จึงต้องขัดขวางก่อน

2. หากญี่ปุ่นโจมตีรัสเซียก่อนสหรัฐฯ จริงๆ จะตายไวขี้นอีกครับ ซึ่งความจริงหลังจากมี่ญี่ปุ่นล่อเรือรัสเซียซะเหี้ยในสงครามรัสเซีย-ญี่ปุ่น ญี่ปุ่นก็พยายามบุกทางบกเหนือแมนจูเรียขี้นไป แต่ด้วยความห่วยและประมาทเลินเล่อของทหารบกทำให้พ่ายยับเยิน หลังจากนั้นญี่ปุ่นก็แหยงรัสเซีย หันไปลุยลงใต้แทน เพราะสู้ง่ายกว่าเยอะ แถมบุกขี้นเหนือไปไม่มีอะไรให้เอาทั้งนั้น ซึ่งต่อให้ญีุ่ป่นบุกและรัสเซียพ่ายจริงๆ ญี่ปุ่นก็บุกไม่ถึงมอสโคว์อยู่ดีเพราะกว่าจะเดินหน้าไปถึงใช้เวลาหลายปี และตามหลักแล้วคงม่องเท่งไปก่อน เพราะแม้แต่เยอรมันที่บุกแบบฟ้าแลบและอยู่ใกล้กว่ากันหลายเท่ายังเอาไม่อยู่ ญี่ปุ่นจะไปเหลืออะไร เผลอๆ จะโดนตีกลับจนเสียแมนจูเรียไปก็ได้ใครจะไปรู้

 

โดยคุณ tongwarit เมื่อวันที่ 15/08/2014 20:25:48


ความคิดเห็นที่ 3


มองอีกแบบครับ ถ้าญี่ปุ่นโดนไปสองลูกไม่ยอมแพ้ ก็โดนเพิ่มไงครับ

 

โดยคุณ toeytei เมื่อวันที่ 16/08/2014 04:13:32


ความคิดเห็นที่ 4


http://image.ohozaa.com/view2/xMx20f3BKW49hN8X

(ใส่ภาพไม่เป็นครับ)

 

ภาพสดๆจากเมื่อวาน ณ สุสานที่ใช้บวงสวรงอาชญากรสงคราม

ภาพการแต่งชุดทหารญี่ปุ่นยุครุกรานเพื่อนบ้าน พร้อมดาบซามูไร สามารถทำได้อย่างเสรีในญี่ปุ่น ต่างจากเยอรมัน ใครแต่งชุดนาซีเดินตามถนนเป็นเรื่องใหญ่เลย ถึงขนาดผิดกฏหมายทีเดียว

ภาพเหล่านี้เป็นที่บาดใจเจ็บปวดของ ปชช ชาติที่เคยถูกยุ่นเข่นฆ่า โดยเฉพาะจีน และ เกาหลี

โดยคุณ odd เมื่อวันที่ 16/08/2014 09:48:08


ความคิดเห็นที่ 5


สงครามโลก2 แถบเอเซีย

ญี่ปุ่นจะเป็นการสู้รบหลักๆอยู่แค่ 2 ประเทศ ช่วงหลายปีแรกจะรบกับจีนเป็นหลักโดยทัพบก ท้ายสงครามสู้กับสหรัฐทางอากาศและทะเล

 ทัพบกหลักของยุ่นเกินครึ่ง ล้านกว่าคนใช้รุกรานจีน ยึดพื้นที่แถบชายฝั่งซึ่งเป็นแหล่งเศรษฐกิจของจีนทั้งหมด และ ก็พยายามบุกลึกเข้าไปในใจกลางของจีนซึ่งก็เจอการต่อต้านอย่างหนักจากจีน เป็นอยู่อย่างงี้อยู่หลายปีจนกระทั่งสงครามสิ้นสุด

สมมุติว่า จีนยอมแพ้ยุ่นแต่ปีแรกเลย และ เข้าร่วมเป็นพันธมิตกับยุ่น

ผมว่า ผลของสงครามโลก2 จะจบลงอีกแบบหนึ่ง คือ ฝ่ายเยอรมันและยุ่น ชนะสงคราม

เยอรมันครองยุโรปและแอฟริกา ส่วนยุ่นครองเอเซียทั้งหมด สหภาพโซเวียต และ ออสเตรเรีย...สหรัฐครองทวีปอเมริกาเหนือ+ใต้

เหตุผลคือ

ถ้าจีนจับมือกับยุ่น ทัพบกล้านกว่าคนของยุ่น + ทหารจีนที่ได้รับการเสริมอาวุธจากยุ่นอีกนับล้านคน จะทะลุถึง ตะวันออกกลาง และ ยุโรปทันทีแบบไม่ต้องรบ โซเวียตต้องแบ่งกำลังส่วนหนึ่งมาสู้กับยุ่นและจีน และคงจะแพ้อย่างรวดเร็ว เพราะโดนบุกทั้งจากตะวันตกโดยเยอรมัน... ใต้ และ ทิศตะวันออกจากยุ่นและจีน...

ฉะนั้นสงครามโลก2 จะจบลงก่อนที่สหรัฐจะสร้างระเบิดนิวเคลียสำเร็จ และ เมื่อนั้นสหรัฐคงไม่กล้าเข้าร่วมสงครามด้วย เอาตัวรอดไว้ดีกว่า

 

 

 

โดยคุณ odd เมื่อวันที่ 16/08/2014 10:09:49


ความคิดเห็นที่ 6


เวลามองภาพสงครามโลกคนมักจะนึกว่า เยอรมันกับญี่ปุ่นนั้นเกรียงไกรคนอื่นเทียบไม่ติด ทั้งโลกต้องช่วยกันกลุ้มรุมแทบรากเลือดกว่าจะเอาชนะมาได้

ความเป็นจริงก็คือฝ่ายอักษะทำหวือหวาได้แค่ประมาณช่วงสี่ปีแรกของสงครามเท่านั้นแล้วตลอดปีที่เหลือคือค่อยเสียเปรียบไปเรื่อยค่อยๆแพ้แบบมองเห็นจุดจบสงครามแล้วว่าไม่มีทางสู้ได้ ญีุ่ปุ่นขยายดินแดนรวดเร็วช่วงต้นสงครามไม่กี่ปีแล้วก็ติดแหงกตรงประเทศจีนกับชายแดนอินเดีย เยอรมันในยุโรปก็ตีอังกฤษไม่เข้าจนเลิกคิดจะบุกทางภาคพื้นดิน ได้แต่ส่งเครื่องบินบอมบ์กันไปมา และหันไปเปิดแนวรบอื่น ทั้งไปทางตะวันออกคือรัสเซีย กับทางใต้คือฝรั่งเศสต่อลงทวีปอัฟริกา ทางทะเลเมดิเตอเรเนี่ยน

1. ญี่ปุ่นไม่ได้รบเก่งกาจอะไรครับ ญี่ปุ่นรบกับเอเชียอย่างเดียว ซึ่งเอเชียสมัยนั้นแต่ละประเทศเป็นอาณานิคมฝ่ายตะวันตกแทบทั้งหมด แล้วก็ล้าสมัยมาก เอาเป็นว่าไทยตอนนั้นกองทัพเป็นเบอร์สองของเอเชียรองจากญี่ปุ่น พอมีสงครามในยุโรปเจ้าอาณานิคมเขาไม่มีเวลามาโฟกัสตรงนี้ ไม่มีการส่งกำลังเสริมทั้งเรือรบทั้งอะไร คือฝ่ายตรวจการณ์เห็นว่าญี่ปุ่นมาแล้วก็ได้แต่รอมาสู้ตาย ญี่ปุ่นก็กินนิ่มครับ

ญี่ปุ่นเคยประมือกับรัสเซียตรงแมนจูเรียไปรอบนึง ประมาณปี 1938-39 ตอนนั้นญี่ปุ่นหลักนิยมการรบและยุทธวิธียังตามไม่ทัน โดนสอนมวยซะหงอ จนไม่กล้ายุ่งกับรัสเซียอีกเลย 

นอกจากนี้ญี่ปุ่นไม่มีทรัพยากรธรรมชาติเพียงพอ ทั้งเหล็กทั้งถ่านหินและน้ำมัน จึงไม่สามารถสร้างยุทโธปกรณ์มาทดแทนที่ถูกทำลายระหว่างสงคราม ต้นสงครามญี่ปุ่นมีเรือขนเครื่องบินประมาณ 11 ลำ (ผมจำไม่ค่อยได้) ส่วนอเมริกามีไม่เกิน 7 ลำ (จำไม่ได้เหมือนกัน คิดว่าน่าจะสี่ห้าลำ) ปลายสงครามอเมริกามี 10 กว่าลำ ญี่ปุ่นไม่เหลือ ญี่ปุ่นถึงพยายามมาไล่บุกแถมอินโดฯมาเลฯ เพื่อขุดเจาะน้ำมัน แล้วยังทำฮึ่มใส่เพิร์ลฮาร์เบอร์เพราะโดนอเมริกาแซงชั่นการขายวัตถุดิบให้

2. เยอรมันก็มีปัญหาในการทำสงครามยือเยื้อเช่นเดียวกัน เยอรมันต้องการน้ำมันจำนวนมาก จึงมุ่งหน้าไปแถวยุโรปตะวันออกไปไฝว้กับรัสเซีย ผลก็อย่างที่เห็น กินไม่ลง กองพล panzer อันเกรียงไกรค่อยๆหดจนต้องมายุบรวมหน่วย เพราะผลิต/ฝึก ทดแทนไม่ทัน แล้วบุกเข้าไปๆรัสเซียก็ถอยๆเข้าไป ไม่ยอมตาย ฐานการผลิตอาวุธในเทือกเขาอูราลก็ปล่อยอาวุธไหลมาเป็นเทน้ำเทท่าคือยิ่งสู้ของยิ่งเยอะขึ้นๆขณะที่เยอรมันค่อยๆหด ทั้งเครื่องบินรบทั้งรถถัง ซึ่งเน้นคอนเซ็ปงายๆไม่ซับซ้อน ผลิตจำนวนมาก พังไม่เป็นไรผลิตเพิ่ม ขณะที่ของเยอรมันไฮเท็คแต่ผลิตได้ช้ากว่า สุดท้ายพอแนวรบลึกเขาไปในรัสเซียเรื่อยๆสายส่งกำลังบำรุงเยอรมันไปไม่ถึง แนวรบก็ยืดซะกว้างจนบางจ๋อย พอรัสเซียทะลวงมาได้เท่านั้นแหละ โดนล้อม นอกนั้นอีกปัจจัยก็เรื่องหน้าหนาวซึ่งทุกคนน่าจะรู้ดีอยู่แล้ว

ทางสงครามทางทะเล เยอรมันถือว่าทำน้ำหนักขึ้นมาดวลกับอังกฤษซึ่งครองเจ้าทะเลมาตั้งแต่ยุควิคตอเรี่ยนลากยาวมา ซึ่งก็พอเทียบเคียงได้ แต่เพิ่งมาปั๊มแข่งจำนวนและประสบการณ์ไม่พอ ทีเด็ดอีกอย่างคือเรืออูโบท ช่งแรกถือเป็นอสูรร้ายแห่งท้องทะเล ไล่ยิงไล่เก็บทั้งเรือสินค้าซึ่งเป็นงานหลักและเรือรบ พอคล้อยเข้าสงครามเต็มรูปแบบได้ไม่กี่ปีกลายเป็นขยะ หนีหัวซุกหัวซุน แทบไม่ได้จมเรือเลยออกไปแต่ละทีไม่รู้จะรอดกลับมาหรือเปล่าเพราะเทคนิคการต่อต้านเรือดำน้ำพัฒนาไปมาก โดนระเบิดน้ำลึกหรือตอร์ปิโดจากเครื่องบินเข้าไปที เรือสินค้าก็มีกองเรือคุ้มกันอีก เรือดำน้ำสมัยนั้นแล่นบนผิวน้ำเป็นหลัก แล้วค่อยดำเวลาเข้าโจมตีไม่เหมือนสมัยนี้ดำข้ามโลกไม่มีใครรู้เรื่อง

ความฝืดเคืองของเยอรมันเห็นได้จากการที่นักวิทยาศาสตร์อินเวนท์เชื้อเพลิงเหลวจากถ่านหิน เพราะไม่มีน้ำมันเกรดเครื่องบินรบมาเติมใช้ ซึ่งกรรมวิธีซับซ้อนมาก

3. กองทัพจีนจัดว่าอ่อนแอด้วยซ้ำในช่วงสงครามโลก อาวุธล้าสมัย จำนวนและประสิทธิภาพอาวุธหนักน้อย ปัจจัยที่จีนสามารถสู้กับญี่ปุ่นยืดเยื้อคือสภาพทางภูมิศาสตร์ที่โคตกว้างอารมณ์เดียกับรัสเซีย ญี่ปุนบุกเข้าไปจีนก็ถอยไปเรื่อยๆจนสายส่งกำลังบำรุงญี่ปุ่นยืดจนจะขาด อีกปัจจัยก็คือความช่วยเหลอจากอเมริกา จีนไม่มีกองทัพอากาศ อเมริกาเป็นคนส่งเครื่องบินไปพร้อมทั้งนักบินอาสา อาวุธหนักเช่นปืนใหญ่หรือรถถังอเมริกาก็สนับสนุนทั้งสิ้น เพราะจีนไม่มีใช้ไม่มีผลิต นอกจากนี้นยังมีความช่วยเหลือจากโซเวียตมาทางจีนคอมมิวนิสต์ที่ร่วมมือกับจีนคณะชาติต่อต้านญี่ปุ่น

เพราะงั้นถ้าจีนยอมแพ้ตอนต้นสงครามโลกเลยแล้วไปจับมือญี่ปุ่น กองทัพญี่ปุ่นก็ไม่แข็งแกร่งขึ้นหรอกครับ อย่างมากที่ได้ก็คือกำลังพลเพิ่มมามหาศาลแต่อาวุธเดิมๆผลิตใช้เองก็จะไม่พอถ้ามาผลิตมาสนับสนุนจีนอีกก็คงไม่ไหว

4. อเมริกากับรัสเซียมีข้อได้เปรียบฝ่ายอักษะอย่างชัดเจนคือ 1. จำนวนประชากรที่เยอะกว่าญี่ปุ่นกับเยอรมันเกือบเท่าตัว ซึ่งก็หมายถึงจำนวนประชากรที่จะสามารถมาเป็นทหารและเป็นแรงงานในภาคอุตสาหกรรม เห็นกองทัพญี่ปุ่นกับเยอรมันมีสองสามล้านคน อเมริกากับรัสเซียเยอะกว่าครับ 2. มีแหล่งทรัพยากรธรรมชาติรองรับการทำสงครามอย่างพอเพียง สามารถผลิตอาวุธทดแทนได้มากกว่าที่สูญเสียไป 3.สภาพภูมิประเทศ ชองรัสเซียประเทศมีขนาดกว้างใหญ่ รวมทั้งมีสภาพอากาศคอยช่วย ขณะที่อเมริกาเป็นเกาะอยู่กลางมหาสมุทรไกลนับพันๆไมล์ ทำให้จากการที่ค่อยๆผงาดขึ้นมาช่วงต้นศตวรรษที่ 20 กลายมาเป็นมหาอำนาจเบอร์หนึ่งของโลก ยึดตำแหน่งเจ้าทะเลจากอังกฤษ ลากยาวมาจนปัจจุบัน

5. ระเบิดนิวเคลียร์ไม่ใช่จุดพลิกผันของสงคราม เรียกว่าไม่มีส่วนในสงครามเลย ช่วงท้ายสงครามอเมริกาโปรยระเบิดใส่ญี่ปุ่นแบบทุกวัน ทั้งระเบิดเพลิงที่ลงไปเผาบ้านเรือนประชาชน เพราะสมัยนั้นญี่ปุ่นมีอุตสาหกรรมขนาดเล็กจำนวนมากที่ผลิตยุทโธปกรณ์คือรวมอยู่ในชุมชน บ้านเป็นไม้กันเป็นหลักอีก ช่วงนั้นเหมือนฝันร้ายของประชาชนญี่ปุ่น ถึงไม่มีระเบิดนิเคลียร์ผลของสงครามก็เหมือนเดิมเพียงแต่ทหารอเมริกาจะตายจากการยกพลขึ้นบกไล่ยึดประเทศเยอะขึ้นมาก ระเบิดนิวเคลียร์เป็นเหมือนชอร์ทคัททีเดียวจบ

ถ้าศึกษาสงครามโลกครั้งที่สองแบบไล่ตามไทมไล์(ไม่ใช่เฟสบุคนะ)จะเห็นได้เลยว่าช่วงที่อักษะเป็นฝ่ายได้เปรียบนั้นแค่ช่วงแรก นอกนั้นค่อยๆโดนบีบไปเรื่อย อังกฤษมีข้อได้เปรียบคือมีประเทศในเครือจักรภพทั้งออสเตรเลีย แคนนาดา นิวซีแลนด์ซึ่งอยู่ไกลออกไปและไม่ได้รับผลกระทบจากสงครามโดยตรงส่งกำลังสนุบสนุนมาได้ตามสมรภูมิต่างๆทุกทวีป

สรุปว่าต่อให้จีนร่วมมือกับฝ่ายญี่ปุ่นจริงสงครามผลก็น่าจะเหมือนเดิมเพียงแต่ยืดเยื้อขึ้นอีกมาก เรื่องญี่ปุ่นกับจีนลุยรัสเซียเป็นไปแทบไม่ได้ เพราะตรงนั้นกันดารมาก ทั้งหนาวทั้งเป็นภูเขาเป็นทะเลทราย แล้วระยะทางกว่าจะข้ามไปถึงเมืองหลักๆของรัสเซียหรือตะวันออกกลางก็เป็นพันๆไมล์ ถ้าจะไปทางบกใช้เวลาเป็นปีๆแถมโอกาสตายสูงมาก สายส่งกำลังบำรุงไม่ถึงแน่นอน อันนี้สำคัญมาก สิ่งที่เป็นไปได้คือญี่ปุ่นลงมาเน้นที่อินเดียมากขึ้นซึ่งตรงนี้โหดมาก เป็นป่าดิบชื้น ทั้งญี่ปุ่นทั้งพันธมิตรตายจากโรคต่างๆโดยไม่ต้องรบก็เยอะ แล้วขุนเขาตรงพม่าต่อกับอินเดียก็เรียกว่าเอาอาวุธหนักเข้าไม่ได้ อินเดียตอนนั้นก็เหมือนจีน มีแต่ประชากร แต่อินเดียยังมีข้ามของจะรบเพราะเป็นอาณานิคมของอังกฤษ ส่วนทางยุโรปผลยังไงก็เหมือนเดิมเพราะจีนไม่เกี่ยวอยู่แล้ว

การที่ญี่ปุ่นจะยกพลขึ้นบกที่อเมริกาต่างกับการที่อมริกายกพลขึ้นบกญี่ปุ่นมากครับ ข้อแรกคือขนาดประเทศคนละเรื่อง ญี่ปุ่นเมืองกระจุกอยู่รอบชายฝั่งเท่านั้นเพราะตรงกลางเป็นภูเขา สงครามทางทะเลก็แสดงให้เห็นแล้วว่าทั้งประสิทธิภาพของอาวุธยุทโธปกรณ์และยุทธวิธีฝ่ายอเมริกาเหนือกว่า ต่อให้ญี่ปุ่นสามารถขนทหารมาขึ้นบกที่อเมริกาได้ไม่โดนจมไปหมดก่อนแต่ประเทศใหญ่ยังกะทวีปครับ แล้วกำลังสนับสนุนหรือสะเบียงจะมายังไงครับ ยังไงอเมริกาก็รอดแล้วก็ไม่ปล่อยญี่ปุ่นแน่ ซึ่งไม่ปล่อยก็คือไปบุกเองนั่นแหละ

สงครามแปซิฟิกจีนก็ไม่ได้มีส่วนร่วมอยู่แล้ว และทางเรือหลังจากวัดกันไปหลายรอบญี่ปุ่นก็สุ้ไม่ได้อยู่ดี ค่อยเสียเกาะไปทีละเกาะซึ่งเกาะเหล่านี้ใครได้ก็ชิลล์เพราะเป็นฐานบินเชื่อมไปโจมตีข้ามมหาสมุทรและยังใช้เป็นฐานสำหรับลำเลียงกำลังบำรุงได้

โดยคุณ toeytei เมื่อวันที่ 16/08/2014 12:46:13


ความคิดเห็นที่ 7


จริงและก็น่าเป็นห่วงครับคุณ odd ที่คนญี่ปุ่นที่ยังไปร้องบันไซๆ พร้อมธงจักรวรรดิ์ญี่ปุ่นที่ศาลเจ้ายาสุกุนิยังมี ผมถึงบอกว่าคนญี่ปุ่นยังปฏิเสธประวัติศาสตร์ ซึ่งการที่แพ้สงครามมามันทำให้เกิดสิ่งทีเรียกว่า revanchism คือความรู้สึกอยากล้างแค้นกับ irrndentism ที่รู้สึกว่าเขตแดนนั้นๆ ควรเป็นของเรา ยกตัวอย่างสมมุติว่าคนไทยอยากก่อสงครามเพื่อยึดรัฐฉานจากพม่าหรือดินแดนฝั่งตะวันตกของแม่น้ำโขงคืนจากลาวเป็นต้น เพราะเคยเป็นของไทยมาก่อนที่นักล่าอาณานิคมจะยึดไปเป็นต้น (อาจจะอ้างว่าชาวไทหรือไตก็เป็นเชื้อชาติเดียวกับไทย อะไรก็ว่าไป)

สาเหตุที่เยอรมันก่อสงครามโลกครั้งที่สองก็เพราะแนวคิดข้างต้น แต่สุดท้ายก็แพ้ไปอีกครั้ง ส่วนญี่ปุ่นเพิ่งแพ้ไปทีเดียว บางคนเลยอาจจะยังคิดว่า ถ้าเกิดอะไรก็่ว่าไป)เราอาจจะไม่แพ้สงครามก็ได้ ดังนั้นเอาใหม่เว้ย อะไรเทือกนั้น

โดยคุณ tongwarit เมื่อวันที่ 16/08/2014 14:10:55


ความคิดเห็นที่ 8


จริงแล้ว การกระทำของยุ่น (เรื่องบวงสรวงอาชญากรสงครามและไม่ยอมรับผิดชอบต่อการกระทำช่วงสงครามโลก2) จะเป็นการเพิ่มความเกลียดชังให้มากยิ่งขึ้นให้แก่ชาวจีน + เกาหลี ที่มีต่อญี่ปุ่น

แต่ยุ่นก็จำเป็นต้องทำแบบนั้น เพื่อล้างสมองชนรุ่นหลัง เป็นการเตรียมการแก้ตัวอีกครั้ง(เห็นชัดว่า ยุ่นไม่เคยยอมรับว่าตัวเองแพ้สงครามโลก2)

โดยคุณ odd เมื่อวันที่ 17/08/2014 14:23:30