ล่าสุดจีนเพิ่งออกมายอมรับว่ามีการพัฒนามิสไซล์ระยะไกล ICBM ตัวใหม่ รุ่น DF-41 ระยะยิง 12,000 km สามารถติดหัวรบนิวเคลียร์ได้หลายหัวหลายเป้าหมายพร้อมๆกัน
หลังจากทำไก๋ปฏิเสธมานานเรื่องมิสไซล์ตัวนี้
โดยมิสไซล์ตัวนี้จะมาแทนที่รุ่น DF-5A ซึ่งมีระยะยิงเท่ากันแต่ขนได้หัวรบเดียว และมีข้อด้อยต่างๆอีกมากในการปฏิบัติการจริง
ช่วงนี้สื่อด้านข่าวความมั่นคงเล่นข่าวนี้กันให้รึ่ม
ที่มา
http://www.defencetalk.com/china-confirms-new-generation-long-range-missiles-report-60322/
ก็คงซื้อเทคโนโลยีบรรทุกหัวรบนิวเคลียร์แบบหลายๆหัวรบมาจากรัสเซียนะละครับ เพราะอเมริกาคงไม่ขายให้จีนแน่ๆ
ผมมองว่าจีนพัฒนาเองนะ
ปัจจุบันประเทศที่มี icbm ก็มีขีดความสามารถในการสร้าง MIRV กันหมด
ไปอ่านในวิกิฯบอกว่า DF-5a ก็มีหลายหัวรบ (ซึ่งตัวที่มีหัวรบเดียวคือ DF-5) ตั้งแต่ปี 1983 แล้ว
ก็ไม่สื่อไหนก็สื่อนึงพลาด
DF41 มีระยะทำหาร 12000-15000 KM ขึ้นอยู่กับน้ำหนัก ของหัวรบที่บรรทุก
โดยติดตั้ง หัวรบ แบบ MIRV 10 หัวรบ
DF41 ถือเป็น ICBM ที่มีระยะยิงไกลที่สุด ในปัจจุบัน
DF41 มีความเร็วของ หัวรบ ที่ 25 M ซึ่งเท่ากับว่า ปัจจุบัน ยังไม่มี Missile defense systems ระบบไหน ต่อต้านมันได้ แม้แต่ Ground-Based Midcourse Defense ก็ตาม
**เอามาจากไหนครับ ว่า MIRV จีน เอามาจากต่างประเทศ mirv มีใช้ตั้งแต่ DF5a,df31A และจีนพัฒนาขึ้นเอง
หัวรบของจีน เช่น หัวรบ MIRV ที่ติดตั้งบน JL2 SLBM มี yield of a nuclear weapon ต่อ น้ำหนัก เทียบเคียง W88 ของ us
รูปล่าง เทียบกันระหว่าง DF31 กับ DF31A
DF41
ตอบกลับคุณ Woot1980 สหรัฐฯไม่มีทางขายให้ใครหรอกครับ เพราะกลัวเทคโนโลยีจะพลาดไปถึงมือของประเทศอื่นหรือกีดกั้นไม่ให้ประเทศเล็กๆมีจรวด ICBM เพราะกลัวจะเป็นภัยตามภาษาสหรัฐฯนี่แหล่ะ(555+)
เทคโนโลยีจรวด ICBM ที่จีนทำอยู่นั้นส่วนมากมาจากรัสเซียเกือบทั้งหมดครับ
แต่มันก็ไม่แน่น่ะครับจขกท. ถ้าจีนช่วยเหลือไทยสร้าง ICBM ขึ้นมา งานนี้เวียดนามคงขาสั่นไปไหนไม่ได้เลยล่ะ ตอนนี้พี่ไทยวิจัย DTI-1G อยู่ อิอิ
ถึง hongse_c ที่คุณเห็นมัน modify แปลงเพศเอ้ยดัดแปลงมาจากรัสเซียเรียบร้อยแล้วครับ
คุณบอกว่าจีนคิดค้นพัฒนาเทคโนโลยีอาวุธสำคัญๆเองผมไม่เชื่อหรอก แต่ถ้าดัดแปลงแม่แบบเดิมจากรัสเซียแล้วซื้อเทคโนโลยีต่อยอดมาเรื่อยๆอันนี้เชื่อ อย่าว่าแต่ระบบ ICBM ขนาดระบบต่อต้านขีปนาวุธ S300 ยังต้องซื้อจากรัสเซีย แล้วเอามาดัดแปลงเอง ล่าสุดจะขอรัสเซียซื้อ S400 จากรัสเซียโดนปูตินเบรกหัวทิ่ม
หรือแม้แต่หัวรบนิวเคลียร์ที่มีเอาไว้ครอบครองอยู่ทุกวันนี้ก็ซื้อมาจากรัสเซียทั้งแต่สมัยสหภาพโซเวียต
<<<ยังไม่มี Missile defense systems ระบบไหน ต่อต้านมันได้>>>
คุณรู้ได้ไงว่าไม่มี ก็จรวด SM3 + SPY1 ไงใช้วิธีดักตีหัวกลางทางตั้งแต่ยังไปไม่ถึงหน้าบ้าน
อ้อยังมีเจ้าตัว super radar ตัวนี้อีก
------นอกเหนือจาก SPY-1 ยังมีsuper radar ในระบบ x-band ระยะตรวจจับ 2000 km มองเห็นพิกัดของจรวดตั้งแต่ยังบินข้ามไม่พ้นประเทศจีน
เทคโนโลยีจีนพื้นฐานมาจากรัสเซียหลายอย่างก็จริง
แต่หลายอย่างก็พัฒนาจนแตกต่างกันไปมากหรือคิดค้นใหม่เอง เรื่อง MIRV ผมว่าจีนมีขึ้นหลังจากที่รัสเซียกับจีนไม่สนิทชิดเชื้อเพราะจีนกลายมาเป็นคู่แข่งซะเอง
ไม่งั้นทั้งอเมริกากับโซเวียตก็ถือว่าก๊อปของเยอรมันนาซีซะเกือบหมดหรือเปล่า หลังจากโกยงานวิจัยต่างๆมาหมดหลังสงครามโลก
ซึงปัจจุบันก็แทบไม่เหลือเค้าของเทคโนโลยีเดิมแล้ว
ส่วนเรื่องที่คุณ hong-c บอก midcourse defense ก็คือการเข้าทำลายเป้าหมายในอวกาศ ก่อน reentry phase ของ หัวรบนั่นแหละ ซึ่งความเร็วไม่ใช่ความเร็วของหัวรบเวลา re-entry แน่นอน แต่เป็นความเร็วมิสไซล์ปกติ
แต่การเคลมว่าไม่มีระบบไหนต่อต้านได้ผมว่าเป็นการเคลมลอยๆจากผู้ผลิต+รัฐบาลจีน เพราะไม่น่ามีการทดลอง
อีกอย่างจากรทดสอบมิสไซล์ (anti-ballistic missile) พวกนี้ % ไม่สูงมาก เกินครึ่งมาไม่เท่าไหร่โอกาสที่หัวรบโจมตีจะหลุดรอดเข้าไปก็มี แต่ก็ไม่ได้แปลว่าไม่สามารถถูกทำลายได้
แหม่ คุณ toeytei ก็ แล้วไอ้กันมันจะโง่ปล่อย SM-3 ตอนที่จรวดวิ่งช่วง re-entry ไปแล้วหรือครับ ยังไงๆซะ มิสไซด์ในระบบ ICBM ยังไงก็ต้องมีช่วงระยะเวลาวิ่งเข้าสู่วงโคจรในอวกาศอยู่แล้วจะเร็วแค่ไหนก็ตาม
ถ้าว่ากันเรื่องระยะยิง DF-41 ถืว่ายิงไกลสุดในตอนนี้
แต่ถ้าว่ากันด้วยความเร็วโคจร ไม่หนีกันมากอย่างTrident II ก็ว่าถึง24มัค
ส่วนการสกัดICBM ในยุคนี้ก็คือการใช้ICBM เล็งเข้าหากันมาตั้งแต่ยุคสงครามเย็น ฐานเรดาห์ FPS กระจายทั่วยุโรป ใกล้จีนสุดที่เกาะใต้หวัน
กรณีตัวอย่าง วิกฤติเกาหลีเหนือ เรือเอจีสไปลอยลำเต็มทะเลญี่ปุ่นและคาบสมุทรเกาหลี
แล้วส่วนใหญ่ขั้นการสกัดICBM เป็นในแง่เชิงการคำนวณ อย่างRT-2UTTKh ใส่MDEC ป้องกันหัวรบสารพัดชนิด เพราะการโคจรในขั้นสุดท้ายก่อนเข้าห้วงอากาศ จริงอยู่ที่ต้องยิงทำลายก่อนที่หัวรบจะแยกตัว แต่ปัจจุบันเป็นแค่การทดลองเชิงตัวเลข
แล้วที่ระยะMWIR เองก็ยังเป็นข้อกังขาว่าSM-3 เองจะเกาะติดเป้าหมายและเข้าทำลายได้หรือไม่ ถึงแม้SM-3จะใช้หัวค้นหาLWIR GPS/INS แต่อย่างที่ว่ากันคือเป็นเคลมกันระหว่างผู้ผลิตว่าสามารถยิงทำลายได้ แต่เราไม่รู้การใช้งานจริงเพราะมีการทดสอบน้อยมาก
ส่วนการทำลายMIRVในปัจจุบัน ก็มีSAM ระยะเพดานยิง20ก.ม. เช่นรัสเซียจะเป็นTor-M2 Buk -2 และสหรัฐก็เป็น PAC-3 เป็นการสกัดขั้นสุดท้ายสุด
"คิดว่าไอ้กันมันจะโง่ปล่อย SM-3 ตอนที่จรวดวิ่งช่วง re-entry ไปแล้วหรือครับ"
คืออ่านไม่แตกหรือครับ ก็ผมก็บอกว่าระบบป้องกันมันป้องกันก่อนที่ยานขนหัวรบจะกลับเข้าสู่ชั้นบรรยากาศ ("midcourse" defese)
ผมถึงแย้งคุณ hong_c ว่าการอ้างว่าไม่มีระบบไหนป้องกันได้มันเป็นการอ้างลอยๆ
ประเด็นคือมันไม่ใช่เกมครับ มันก็ไม่ได้ยิงโดนตลอด หรือระบบเรดาร์หรือระบบหัวรบรวน ผิดพลาด ผลการทดลองก็มี อย่าง groudbase midcourse defense ผลการยิงเป้า ประสบผลสำเร็จ 9 จาก 17 ครั้ง มีรอบนึงเรดาร์ sea based x-band radar สุดเมพรวนซะเอง
ที่สำคัญการทดลองพวกนี้ไม่ได้สมจริงซะทีเดียว เป้าไม่เร็วเท่าของจริงแน่ แล้วเป้าก็ไม่ได้เปิดระบบ decoy หรือ countermeasure
คือแค่ยิงให้โดนก็ดีแล้ว
ขณะที่ผลการทดลองของ aegisesm-3 ถือว่าดูดีมาก แต่ก็มีการพลาดประมาณ 15-20 % ซึ่งก็คือระดับปกติของระบบมิสไซล์ทั่วๆไป
ประเด็นคือหัวรบนิวเคลียร์หลุดมาไม่กี่ลูกก็ชิบหายแล้วครับ
สรุปก็อย่างที่คณ MIG31 บอกนั่นแหละ การยับยั้งสงครามนิวเคลียร์ปัจจุบันก็คือการมีนิวเคลียร์พร้อมรบไว้ซัดกลับอีกฝ่าย (second strike) ทำให้ไม่มีใครกล้าเปิดฉากเพราะถ้าไม่สามารถทำลายกำลังรบนิวเคลียร์ของอีกฝ่ายในระลอกเดียวก็เตียมตัวเละ ยิ่งกว่านั้นก็คือสมัยนี้ระบบตรวจจับสามารถตรวจได้ตั้งแต่เริ่มยิง ทำให้ยิงสวนได้ทันที
อีกอย่าง ความเร็ว 24-25 มัคนี่ไม่น่าใช่ความเร็วโคจรแล้วครับ แต่เป็นความเร็วของ terminal phase มากกว่า
ตอบคุณชื่อ:Woot1980
ไปเอาข่าวมาจากไหน เรื่อง mirv ครับ ขอที่มาด้วย
หรือข้อมูลเปรียบเทียบระหว่าง ICBM จีน กับรัสเซีย มีันเหมือนกันตรงไหน
และข้อมูลเปรียบเทียบ MIRV จีน รัสเซีย ต่างกันตรงไหน มีข้อมูลเทคนิคตรงไหนที่เหมือนกัน
และปัจจุบันนี้ จีนซื้อ s300 อีกหรือครับ จีนซื้อ S300 ล่าสุดเมื่อไรครับ
ส่วนเรื่องS400 อย่าพึ่งเชื่อเลยครับ ก็เหมือน เรื่องSU 35 ใว้ติดตราจีนก่อนค่อยเชื่อ
เห็นลือมาหลายปีแล้ว มีแต่ข่าวลือ
การกล่าวอ้างของผม มาจากข้อมูล ที่มีครับ ลองอ่านที่ผมเขียนใว้
http://pantip.com/topic/30331158
คำถาม
1 us เคยทดสอบ thaad ทำลาย ballistic missile ที่มีระยทำการไกลสุดเท่าไร
2 us เคยทดสอบ Ground-Based Midcourse Defense ผมรวมถึง ที่ยิงจากเรือรบ sm3รุ่นดัดแปลง ด้วย ทั้งสอง รูปแแบการยิง ว่า เคยทดสอบทำลายballistic missile ที่มี midcourse สูงเท่าไรครับ
เอาที่ทดสอบสำเร็จ
และลอง ไปศึกษา การทดสอบground-based midcourse missile interception ของจีน ดูว่าใครนำใคร ใครยังตาม
ล่าสุด จีนพึ่งทดสอบ midcourse missile interception จากข่าว เป็นการทำลาย jl2 รุ่นแรก
http://news.ifeng.com/a/20140723/41280092_0.shtml
ถ้า เป็นการทำลาย jl2 จริง ก็เท่ากับว่าจีนประสบผลสำเร็จ ในการทำลาย slbm ที่ระยะทำการ มากกว่า 8000 กม.
ก็เกิดคำถาม ว่า us เคยทดสอบทำลาย ballistic missile ที่ระยะนี้หรือไม่
ผมก็อยากรู้ครับ
ระยะความสูง ของ midcourse ของballistic missile นั้นแปรผันตาม ระยะยิงครับ
ซึ่งรวมถึงว่า ยิ่งมี midcourse สูงเท่าไร ballistic missile นั่น ย่อมมีความเร็วTerminal phase สูงตาม
รออ่านของคุณ hongse_c อีกครับ ชอบจีนเหมือนกัน
1. ถึงคุณ toeytei ก็ถูกต้องครับไม่มีระบบต่อต้านมิสไซด์ใดๆในโลกจะ 100% แต่ที่ผมจี้ดขึ้นหัวสมองนั้นก็เพราะว่ามีใครบอกคนบอกว่ามิสไซด์ตัวที่ว่าเนี่ย มาคุยโอ้อวดว่าไม่ระบบต่อต้านใด้สามารถหยุดมันได้ คือ มัน โอเวอร์อ่ะ
2. ถึงคุณhongse_c (ต้องขอบอกเอาไว้ก่อนนะครับว่าผมไม่ได้แอนตี้อาวุธจากจีน ถ้าสมมุติว่าจีนก็อปปี้อาวุธจากใครมาแล้วโมดิฟายด์ออกมาแล้วดีกว่าคุณภาพยอมรับได้และราคาถูกกว่า ผมก็ยินดีสนับสนุนให้ไทยเราจัดซื้อจัดมามาไว้ใช้ คือต้องบอกเอาไว้ก่อนขี้เกียจต้องมานั่งดราม่า)
http://en.wikipedia.org/wiki/S-300_(missile)
http://thediplomat.com/2014/04/putin-approves-sale-of-s-400-to-china/
เรื่องกระบวนการจัดซื้อจัดหาอาวุธพวกนี้ เค้าไม่ทำกันเอิกเริกแบบดังๆกันหรอกครับแค่พอมีข่าวออกมานิดๆหน่อยๆใครใคร่สนใจติดตามข่าวก็จะได้รับรู้ข้อมูลก่อนคนอื่นเค้า และการเซนต์สัญญาซื้อขายเค้าก็จะมีเพียงแค่เชิญสื่อมวลชนของระหว่างสองประเทศแบบเป็นการส่วนตัว(หรืออาจจะไม่เชิญสื่อเลยด้วยซ้ำถ้าเป็นประเทศที่ออกแนวเผด็จการแค่ให้คณะทูตถ่ายรูปไว้เป็นหลักฐานรู้เห็นกันแค่นั้น) สื่อจากประเทศไทยหรือประเทศอื่นๆที่ไม่เกี่ยวเค้าไม่เชิญให้ไปทำข่าวหรอกครับ ก็เท่านั้น แต่หน่วยงานความมั่นคงระหว่างประเทศของแต่ละประเทศเค้ารูกันในทางในเชิงลึกกันก่อนที่ประชาชนตาดำๆอย่างพวกเราจะรู้
ยกตัวอย่างนะครับ อย่างระบบอาวุธของพม่าที่จู่ๆก็มีขีปนาวุธ สกัดScud เอาไว้ในครอบครอง ประชาชนคนไทยอย่างผมกว่าจะมารู้ก็ปาเข้าไป ปี 2013แล้ว ไม่รู้พม่ากับเกาหลีเหนือมันแอบไปซื้อขายกันตอนไหน
http://www.dvb.no/uncategorized/north-korea/9301
***เอ่อ ขอแก้ข่าวด้วยจากข้อมูลล่าสุด ปูตินได้ทำการอนุมัติขายระบบ S400 ให้กับจีนแล้ว ตั้งแต่เดือนเมษายน ปีนี้ เพราะข้อมูลที่ผมเอ่ยไปจากระทู้ก่อนหน้าที่บอกว่าปูตินระงับการซื้อขาย S400 ผมยกข้อมูลมาอ้างอิงตามที่ผมจำได้มาตั้งแต่ปีที่แล้ว***
หนังสือ Chinese and Russian military cooperation after the cold war ลองเอาไปแปลอ่านดูนะครับคุณhongse_c จะได้ตาสว่างขึ้น อ้อแล้วเวลา search หาข้อมูลควรจะ search หาจากต่างประเทศจากประเทศอื่นที่ไม่ใช่ของประเทศจีน แม้แต่ประชาชนจีนหลายล้านคนถูกรัฐบาลตนเองหลอกให้เข้าใจว่าอาวุธหลายชนิดที่ไปเอาเทคโนโลยีจากคนอื่นมาแล้วมาโมเมล์ว่าเป็นอาวุธที่ตนเองคิดค้นขึ้นมาเอง
China’s military technology acquisitions from Russia.
หนังสือเล่มนี้จะบอกเป็นนัยๆว่าในช่วงยุคหลังสงครามเย็นรัฐบาลรัสเซียถังแตกในเรื่องงบประมาณอุดหนุน แต่ได้ไปขอความร่วมมือจากจีนในเรื่องของเงินทุนสนับสนุน และเป็นที่มาของการแลกเปลี่ยน เทคโนโลยีกันระหว่างสองประเทศ
สรุปเป็นประเด็นดังนี้
ประเด็นที่1 เรื่อง mirv จีนพัฒนาเองจริงหรือ
ก่อนอื่น อ่านบทความรายงานเรื่อง
the origin of mirv
ซึ่งเป็นเอกสารที่มีแหล่งอ้างอิงที่น่าเชื่อถือ ในเอกสารนี้ ไม่ได้พูดถึง ว่ารัสเซีย หรือ โซเวียต ในขณะนั้น ถ่ายทอดเทคโนด้านหัวรบ mirv ให้จีน แต่ประการใด
https://www.google.co.th/url?sa=t&source=web&rct=j&ei=hBDnU5SmNs3d8AXi34CQAw&url=http://fas.org/man/eprint/leitenberg/mirv.pdf&cd=2&ved=0CCEQFjAB&usg=AFQjCNGZeTP05DC1JZlKyNbiV0YuskMunw&sig2=V4bNHfIEiwqk5F3lbTlkuQ
มาลองดูเรื่อง time line กัน
กันยายน 1981 จีนประสบความสำเร็จ ในการส่งดาวเทียม 3 ดวง ด้วยจรวด ลูกเดียว ซึ่งถือเป็นจุดเริ่มต้นของ เทคโนด้าน mirv
ช่วงปี 1985 จีนทดสอบ mirv ครั้งแรก และประสบผลสำเร็จ
พฤษภาคม 1995 จีนทดสอบ df31 รุ่นติดตั้ง mirv ครั้งแรก และสำเร็จ
The London-based International Institute of Strategic Studies (IISS) รายงานว่าจีนพัฒนาอาวุธใหม่ เป็บ small warheads for mirv
Robert S. Norris จากสถาบันดังกล่าว รายงานว่า จีนพัฒนาหัวรบ ที่มี yield-to-weight ratios สูง สำหรับ mirv
โดยช่วงปี 1990 จีนทดสอบหัวรบใหม่นี้ ที่มีyield-to-weight ratios สูง จำนวน 11ครั้ง มีตั้งแต่ ขนาด 100-200kt และ 600-700 kt
โดยจีนได้ติดตั้งหัวรบ mirv กับ df5a
IISS รายงานต่อว่า ปี 2019 จีนมีหัวรบ (อย่างน้อย )mirv 50-70 หัวรบ เพื่อใช้กับ solid fuel icbm ที่มีระยะตั้งแต่ 8000-12000 km
จากการประสบความสำเร็จ ทำให้จีน ได้พัฒนาหัวรบ mirv 200-300 kt สำหรับ
df31/df31a/df41/jl2 เป็นต้น
ช่วงปี 1999 มีประเด็นที่ยังต้องถกเถียงกัน ว่า จีนขโมเทคโน หัวรบของ us
มีการกล่าวหาจาก cia ดังนี้
1 จีนขโมยเอกสารการออกแบบ ยานนำกลับ หรือ reentry vehicles ของ Trident II / W88
2 จีนขโมย เทคโนด้าน NEUTRON BOMB
3ส่วนโปรแกรมของระบบ การออกแบบอาวุธ
อัยการ us ได้ดำเนินคดี กับนักวิทศาสตรชาวไต้หวัน ที่ทำในโครงการ w88 หลังจากมีการดำเนินคดีหลายปี นักวิทยาศาสตร คนดังกล่าว ได้รับการปล่อยตัวเพราะ หลักฐานไม่เพียงพอ
อ้างอิงตามรูปด้านล่างครับ
สรุป มีตรงไหน ที่ จีนซื้อมาจาก รัสเซีย
ต่อมาพิจารณา
http://books.google.co.th/books?id=rzY5b49oWTUC&pg=PA170&lpg=PA170&ots=_DTswM1xtU&focus=viewport&dq=Who%27s+buy+technology+multiple+independently+targetable+reentry+vehicle+(MIRV)+to+china&hl=th&output=html_text
จากเอกสาร เขาบอกว่า รัสเซียถ่ายทอดเทคโน ด้านหัวรบ จรวด และอีกเพียบ โดยอ้างว่า ข้อมูลมาจาก western sources เท่านั้น
และ western sources ที่เขาว่า คือแหล่งไหนหรือ แล้วแบบนี้จะเชื่อถือได้หรือ การอ้างแหล่งอ้างอิงต้องอ้างอย่างชัดเจน ไม่ใช่อ้างลอยๆ ลองเปรียบเทียบ กับการอ้างแหล่งอ้างอิงของผม
ไม่เป็นไร เรามาแกะ สะกดรอยเอาเอง
เรื่องแรก เขาบอกว่า จีนรับเทคโน ด้านการขับเคลื่อน และระบบนำวิถี มาจาก ss18 แต่ ss18 มีหัวรบ แค่ mrv และหัวรบเดี่ยว เท่านั้น
ไม่มี mirv แต่อย่างไร ไม่เป็นไรมาตามต่อ
เขาบอกว่ายังมี ss24 ซึ่งเขาบอกว่าพ่วง mirv มาด้วย และ ss24 มีmirv 10 หัวรบด้วย ถ้าดูตรงนี้ บางคนอาจบอกว่า จีนซื้อแน่ แต่พิจารณาก่อน
ss4 ioc (initial operating capability) ปี 1987 แต่ปี 1985 จีนทดสอบ mirv ครั้งแรก และประสบผลสำเร็จ แล้ว จีนจะซื้อเพื่ออะไร ?
และพอดู ปัจจุบัน จีนมี df41 ที่เป็น solid-fueled road-mobile ด้วย ก็แปลก คนซื้อเขามาดูจะล้ำหน้ากว่า เขา น่ะ
ดังนั้น คงไม่ต้องพูดถึง ss25 แล้ว เอกสารนี้อ้าง เวลาขัดกับเอกสารที่มีความน่าเชื่อกว่า คงพอบอกได้ว่าควรเชื่อใคร
2 ประเด็นที่2 เรื่อง df41
จากข้างบน ผมอธิบายชัดเจนแล้วว่า ทำไมผมถึงบอกว่า ปัจุบัน ยังไม่มีอะไรต่อต้าน df41 ได้ ถ้าท่านไหนเห็นต่าง ก็ควรตอบคำถาม ที่ผมถาม 2 ข้อข้างบนได้ ถ้าคำตอบ ว่าทดสอบจริง ว่าเคยยิงทำลาย ขีปนาวุธ ที่มีพิสัยทำการมากกว่า df41 ได้ เมื่อนั้น df 41 ก็มีผู้ทำลายได้ครับ
แต่ถ้ายังไม่มีการทดสอบยิงจริง ที่ระยะนี้ จะมาบอกว่า ทำลายได้ บอกได้ครับ แต่ใครจะเชื่อ เพราะไม่มีข้อมูลเทคนิคประกอบ
3ประเด็นที่3 เรื่องs400
เรื่องนี้ ก็เหมือนเรื่อง จีนซื้อ su35 และ lada นั้นแหละ เท่าที่ผมจำได้ รัสเซียปล่อยข่าว มาแล้ว 7 ปี
จนมันเป็นเรื่องตลกไปแล้ว ลองอ่านดู
http://defence.pk/threads/russia-will-sign-a-contract-with-china-for-delivery-of-su-35-fighters-soon.322332/page-2
ถ้าจีนจะซื้อ s400 จริง ผมว่า จีนซื้อsu 35 และlada ก่อนดีไหม
เอาเป็นว่า ผมไม่เชื่อน่ะครับ นอกจากได้เห็น su35และ lada ติดตราจีนก่อน ผมถึงเชื่อ และจะเชื่อเรื่อง s400ด้วย
ต่อมา
จีนได้พัฒนาระบบที่เหมือนกับ thaad หรือชื่อเล่นว่า Chinese THAADหรือ hq19 ทำงานครอบคลุมตามรูป ด้านล่าง
ข้อมูลเพิ่มเติม
http://defence.pk/threads/hq-19.297427/
และรูปจาก cctv เป็นการทดสอบการยิง ระบบต่อต้านขีปนาวุธ ระยะสูง หรือ thaad รุ่น hq19 และประสบความสำเร็จ
ลองพิจารณาครับ ด้วยเหตนี้ ยังนึกไม่ออก จีนจะซื้อ s400 ทำไม
สุดท้าย คุยกับผม ไม่ดราม่าหรอกครับ ผมคุยที่ข้อมูล โต้แย้งด้านเทคนิค หนักเบา เบาบ้าง ก็อยู่ในเกม ซึ่งถือเป็นการแลกเปลี่ยนกัน
ขอบคุณครับ
รูปไม่ครบเอาใหม่
พื้นฐานระบ abm
แหล่งอ้างอิง
โฉโฉ รูปเป็น png เลยไม่สามารถแสดงได่้ ใว้พรุ่งนี้ เพิ่มให้ครับ
<<< the origin of mirv
ซึ่งเป็นเอกสารที่มีแหล่งอ้างอิงที่น่าเชื่อถือ ในเอกสารนี้ ไม่ได้พูดถึง ว่ารัสเซีย หรือ โซเวียต ในขณะนั้น ถ่ายทอดเทคโนด้านหัวรบ mirv ให้จีน แต่ประการใด >>>
ตอบ ก็ถูกต้องแล้วนิครับเอกสารฉบับนี้เมื่อได้อ่านจนหมดมาตั้งบ่ายของวันนี้ (อุตสาทนอ่าน) ดูแล้วก็ไม่ได้อ้างอิงหรือเอ่ยถึงจีน เพราะมันเป็นเอกสารที่แสดงข้อมูลเปรียบเทียบวิทยการ ของอาวุธ MIRV ระหว่าง 2 ประเทศ คือ สหรัฐอเมริกา กับ สหภาพโซเวียต เท่านั้น ในช่วงยุคสงครามเย็น ซึ่งไม่ได้เกี่ยวกับจีนแน่ๆอยู่แล้ว หยิบยกมาทำไม??????????????
<<< ช่วงปี 1999 มีประเด็นที่ยังต้องถกเถียงกัน ว่า จีนขโมเทคโน หัวรบของ usมีการกล่าวหาจาก cia ดังนี้
1 จีนขโมยเอกสารการออกแบบ ยานนำกลับ หรือ reentry vehicles ของ Trident II / W88
2 จีนขโมย เทคโนด้าน NEUTRON BOM
3ส่วนโปรแกรมของระบบ การออกแบบอาวุธ
อัยการ us ได้ดำเนินคดี กับนักวิทศาสตรชาวไต้หวัน ที่ทำในโครงการ w88 หลังจากมีการดำเนินคดีหลายปี นักวิทยาศาสตร คนดังกล่าว ได้รับการปล่อยตัวเพราะ หลักฐานไม่เพียงพอ
สรุป มีตรงไหน ที่ จีนซื้อมาจาก รัสเซีย >>>
ตอบ ใช่ครับตามข้อมูลที่คุณยกมาเทคโนโลยีบางอย่าง” ขโมยมาจากสหรัฐ “ ที่เราเถียงกันเนี่ยเถียงกันด้วยเรื่องประเด็นที่จีนคิดค้นพัฒนาอาวุธขึ้นมาเองไม่ใช่เหรอ อย่าหลงประเด็นสิครับ แต่ก็ขอบคุณนะครับคุณ hongse_c ดีแฮะอยู่ๆก็ช่วยหาหลักฐานมาเพิ่มว่าจีนไปขโมยเอาเทคโนโลยีของประเทศอื่นมา แล้วมาโมเมล์ว่าเป็นอาวุธที่คิดขึ้นเองเป็นเทคโนโลยีของตัวเอง
<<<จากเอกสาร เขาบอกว่า รัสเซียถ่ายทอดเทคโน ด้านหัวรบ จรวด และอีกเพียบ โดยอ้างว่า ข้อมูลมาจาก western sources เท่านั้นและ western sources ที่เขาว่า คือแหล่งไหนหรือ แล้วแบบนี้จะเชื่อถือได้หรือ การอ้างแหล่งอ้างอิงต้องอ้างอย่างชัดเจน ไม่ใช่อ้างลอยๆ ลองเปรียบเทียบ กับการอ้างแหล่งอ้างอิงของผม >>>
ตอบ ในหนังสือท้ายเล่ม มันจะมี Note reference (คือแหล่งข้อมูลอ้างอิงมันอยู่นั้นแหละครับ) ลองไปค้นอ่านดูครับ
แล้วไอ้ว่าแหล่งข่างจากตะวันตกมันลอยๆไม่มีความเชื่อถือแล้วของคุณแหล่งข่าวจากไหนครับและน่าเชื่อถือได้ยังไง
แหล่งข่าวเพิ่มเติมที่อ้างว่ามีการช่วยเหลือเทคโนโลยีจากรัสเซียถึงประเทศจีน
http://cryptome.org/jya/cndocs-gertz.htm
PDF]The Limits of Chinese–Russian Partnership
<<< เขาบอกว่ายังมี ss24 ซึ่งเขาบอกว่าพ่วง mirv มาด้วย และ ss24 มีmirv 10 หัวรบด้วย ถ้าดูตรงนี้ บางคนอาจบอกว่า จีนซื้อแน่ แต่พิจารณาก่อนss4 ioc (initial operating capability) ปี 1987 แต่ปี 1985 จีนทดสอบ mirv ครั้งแรก และประสบผลสำเร็จ แล้ว จีนจะซื้อเพื่ออะไร ?>>>
ถาม ตรงส่วนไหนของเอกสารที่ระบุว่า รัสเซียส่งอาวุธ ss-24 มาให้จีนในปี 1987 คุณไปดึงข้อมูลมาจากไหนในหนังสือครับ
<<< 3ประเด็นที่3 เรื่องs400เรื่องนี้ ก็เหมือนเรื่อง จีนซื้อ su35 และ lada นั้นแหละ เท่าที่ผมจำได้ รัสเซียปล่อยข่าว มาแล้ว 7 ปี
จนมันเป็นเรื่องตลกไปแล้ว ลองอ่านดู
http://defence.pk/threads/russia-will-sign-a-contract-with-china-for-delivery-of-su-35-fighters-soon.322332/page-2
ถ้าจีนจะซื้อ s400 จริง ผมว่า จีนซื้อsu 35 และlada ก่อนดีไหม
เอาเป็นว่า ผมไม่เชื่อน่ะครับ นอกจากได้เห็น su35และ lada ติดตราจีนก่อน ผมถึงเชื่อ และจะเชื่อเรื่อง s400ด้วย >>>
ตอบ ข่าวลืออะไรล่ะ อ่านซะข้างล่างนะ คนในวงการเกือบทั้งโลกเค้าเชื่อกันเกือบหมดแล้วก็คงจะเหลือแต่คุณคนเดียวนะแหละที่ไม่เชื่อ ก็ตามใจคุณมันเรื่องของคุณ และในเวป การทั้งตั้งกระทู้ถามกันไปมาของปากีสถาน ที่บอกว่ามันเป็นเรื่องตลก เข้าไปอ่านดูแล้วไม่เห็นมีอะไรว่าบ่งชื้ว่าเป็นเรื่องตลก แค่ว่าอีกคนนึงถามแบบอุทานขึ้นอย่างประหลาดใจว่าจีนจะซื้อ SU-35 หรือก็เท่านั้นเอง
ข้อมูลจากเวปต่างๆที่จีนต้องการจะซื้ออาวุธจากรัสเซีย ถ้าลิ้งค์กันไม่เจอเดี๋ยวจะหาให้
http://thediplomat.com/2014/05/china-russia-military-ties-deepen-with-naval-drill-in-east-china-sea/
http://thediplomat.com/2013/09/russia-to-sell-china-su-35-multirole-fighter-jets/
http://thediplomat.com/2012/03/chinas-sukhoi-submission/
http://www.scmp.com/news/china/article/1199448/china-buy-russian-fighters-submarines
http://defence.pk/threads/hq-19.297427/
<<<และรูปจาก cctv เป็นการทดสอบการยิง ระบบต่อต้านขีปนาวุธ ระยะสูง หรือ thaad รุ่น hq19 และประสบความสำเร็จลองพิจารณาครับ ด้วยเหตนี้ ยังนึกไม่ออก จีนจะซื้อ s400 ทำไม>>>
ตอบ ก็ไม่รู้สินะว่าจีนจะซื้อ S400 ไปทำ อะไร แต่ข่าวมันไม่ได้ออกมาจากฝั่งรัสเซียฝ่ายเดียว มันออกมาจากทางฝั่งจีนด้วยและระริกระรี้อยากจะได้ระบบอาวุธที่ว่าแบบตัวสั่น แต่ที่แน่ๆ ระบบของ S400 สมรรถนะมันเหนือกว่าทั้ง S300 และ HQ-9 อย่างแน่นอน
http://en.wikipedia.org/wiki/S-400_ (SAM)
แม้แต่คนในเวปไซด์ปากีสถานที่คุณอ้างมานะมันพูดคุยกันมาตั้งแต่เมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2014แล้วครับ ก่อน ปูตินอนุมัติในเดือนเมษายน 2014 http://thediplomat.com/2014/04/putin-approves-sale-of-s-400-to-china/
เพราะฉะนั้นไปถือเอาความเชื่อถือข้อมูลพวกนี้ได้เหรอ????
และโครงการ HQ-19 มันเป็นแค่โปรเจกร์ครับมันยังไม่มีตัวตน ไอ้ที่คุณเห็นในเวปปากีสถานมันเป็น HQ-9
และเท่าที่ทราบมาว่าจีนถูกกระแนะกระแหนจากฝ่ายทางฝั่งอเมริกา ที่ว่า จีนคงจะเอาเทคโนโลยีของ S-400 ไปต่อยอดเอาไปใส่ใน HQ-19 โปรเจกร์ต่อไปที่จีนจะสร้างนี่แหละ
แล้วที่ตลกแบบสุดๆคือ หน่วยงานวิเคราะห์ของสหรัฐให้ข้อมูลมาว่าเจ้าตัว DF-41 ใช้พื้นฐานเทคโนโลยีมาจาก SS-25 ของรัสเซีย
ไม่รู้ว่าจริงรึเปล่าแต่ของแบบนี้ถ้าไม่มีมูล หมามันไม่ขี้หรอกครับ (โดยเฉพาะนกรู้อย่างสหรัฐ)
http://tiananmenstremendousachievements.wordpress.com/2014/02/08/chinas-df-41-icbm-with-12-warheads-and-range-to-cover-entire-usa/
ยืนยันให้อีกคนครับว่าจีนซื้อ SU-35จำนวน 24 เครื่อง กับเรือดำนํ้าลาด้า 4 ลำจากรัสเซียครับ แต่ว่าใช้ชื่อว่าเรือ Amur ครับ
อันนี้ข่าวจากเว็บ Rosoboronexport ของทางรัฐบาลรัสเซียเองเลยนะครับหวังว่าคงไม่มีใครบอกว่าไม่จริง
~~แหล่งอ้างอิงข้างบน
http://cns.miis.edu/archive/country_china/coxrep/wdepdat.htm
http://cns.miis.edu/archive/country_china/coxrep/doctrine.htm
http://cns.miis.edu/archive/country_china/coxrep/testpos.htm
http://cns.miis.edu/archive/country_china/coxrep/wbmdat.htm
http://cns.miis.edu/archive/country_china/coxrep/wdsmdat.htm
http://cns.miis.edu/archive/country_china/coxrep/wwhmdat.htm
รู้จักกับ
CNS at the Monterey Institute of International Studies is the largest nongovernmental organization in the United States devoted exclusively to research & training to stop the proliferation of weapons of mass destruction (WMD).
ที่นี่เป็นสถาบันการศึกษา ด้านอาวุธทำร้ายล้างสูง ดังนั้นข้อมูลที่ออกมาเป็นข้อมูลที่การวิเคราะแล้ว ไม่ใช้ข้อมูล การข่าว ที่ยังไม่มีข้อสรุป
~~คุยกันต่อ เอาทีละประเด็น
1. จาก//ตอบ ใช่ครับตามข้อมูลที่คุณยกมาเทคโนโลยีบางอย่าง” ขโมยมาจากสหรัฐ “ ที่เราเถียงกันเนี่ยเถียงกันด้วยเรื่องประเด็นที่จีนคิดค้นพัฒนาอาวุธขึ้นมาเองไม่ใช่เหรอ อย่าหลงประเด็นสิครับ แต่ก็ขอบคุณนะครับคุณ hongse_c ดีแฮะอยู่ๆก็ช่วยหาหลักฐานมาเพิ่มว่าจีนไปขโมยเอาเทคโนโลยีของประเทศอื่นมา แล้วมาโมเมล์ว่าเป็นอาวุธที่คิดขึ้นเองเป็นเทคโนโลยีของตัวเอง
//
***ไม่ได้อ่านละเอียดหรือครับ ลองอ่านอีกครั้ง ที่ผมพิม และขอยกมาว่า
“มีการกล่าวหาจาก cia ดังนี้” และสุดท้ายผลคือ “ได้รับการปล่อยตัวเพราะ หลักฐานไม่เพียงพอ”
***นั้นหมายความว่า ยกฟ้อง เพราะจีนไม่ได้ขโมยไงครับ เป็นการกล่าวหาของ CIA ที่ไม่มีมูล.............อันนี้เข้าใจน่ะครับ
2.จาก //ตอบ ในหนังสือท้ายเล่ม มันจะมี Note reference (คือแหล่งข้อมูลอ้างอิงมันอยู่นั้นแหละครับ) ลองไปค้นอ่านดูครับ
แล้วไอ้ว่าแหล่งข่างจากตะวันตกมันลอยๆไม่มีความเชื่อถือแล้วของคุณแหล่งข่าวจากไหนครับและน่าเชื่อถือได้ยังไง
แหล่งข่าวเพิ่มเติมที่อ้างว่ามีการช่วยเหลือเทคโนโลยีจากรัสเซียถึงประเทศจีน
http://cryptome.org/jya/cndocs-gertz.htm
PDF]The Limits of Chinese–Russian Partnership//
**ขอตอบประเด็นแรกก่อน Note reference อยู่ไหนครับ ผมหาไม่เจอ ถ้าเจอก็ช่วยลงหน่อย
***เมื่อวานพิมจาก tablet ไม่ค่อยสะดวก แต่วันนี้สะดวกแล้ว จึงเอาแหล่งอ้างอิงมาให้แล้วครับ ด้านบน จากชื่อสถาบันคงมั่นใจกับข้อมูลได้น่ะครับ
**จาก //http://cryptome.org/jya/cndocs-gertz.htm//
***ประเด็นนี้ผมสงสัยมาก คุณรีบอ่าน หรือครับ จากเวปเป็นข่าว ที่เป็นการคาดว่า ทั้งนั้น ไม่น่าจะใช้เป็นหลักฐานได้เลย
ทำไมถึงใช้เป็นหลักฐานไม่ได้มาลองพิจารณา กันที่ละประโยค และย่อหน้า
จาก //http://cryptome.org/jya/cndocs-gertz.htm//
----”
China: Missile Technology Search
”
“
(S) Beijing may be trying to buy advanced technology associated with Moscow's SS-18/SATAN heavy ICBM. Although neither Moscow nor Kiev is likely to sell a complete SS-18 to Beijing, either might sell SS-18-related military technology or a booster for use as a space launch vehicle.
”
**เขาใช้ว่า -Beijing may be trying- และ “Although neither Moscow nor Kiev is likely to sell” และ”either might sell” ….......แต่ละวลี เป็นการคาดเดาทั้งนั้น เช่น “อาจจะพยายาม” “แม้จะไม่” และ “ขายอย่างใดอย่างหนึ่ง”
แค่ย่อหน้านี้ ก็ไม่อยากอ่านต่อแล้ว เพราะมันแค่ข่าวกรอง ที่ไม่สำเร็จ ภาษาข่าวเขาเรียกว่า ยังไม่พิสูจน์ เป็นแค่การคาดเดาเท่านั้น
ย่อหน้าอื่นๆ ก็คล้ายๆ กัยเอาข่าวความร่วมมือปกติ มาใส่ความคาดการลงไป มีแต่อาจจะ หรือไม่ เต็มไปหมด มาที่ย่อหน้าสำคัญ ที่ทำให้คุณ Woot1980 เชื่อว่าจีนซื้อ MIRV จากรัสเซีย ยังไงมาดูกัน
“
(S) Even though Beijing claims it is pursuing SS-18 technology for its SLV program, any Chinese interest in the SATAN missile has military implications. Its inquiries are taking place as China is updating its strategic missile forces. Beijing is working on an improved version of the CSS-4 ICBM and seems to be planning to incorporate MIRV technology into its missile force.
”
***เริ่มต้นบอก “Even though Beijing claims it is pursuing SS-18 technology for its SLV program, any Chinese interest in the SATAN missile has military implications.” แต่
สำคัญอยู่ที่ประโยคนี้ “Beijing is working on an improved version of the CSS-4 ICBM and seems to be planning to incorporate MIRV technology into its missile force. ”
***ขยายความ
ดูดีๆ “seems to be planning to incorporate MIRV technology”
**ถ้าเป็นข้อมูลที่มั่นใจ ทำไมใช้คำว่า “seems to be planning”.........................สรุปก็ยังไม่มั่นใจสิ่งที่ตนเขียนใช่ไหม??
***ดังนั้นแล้ว จาก //http://cryptome.org/jya/cndocs-gertz.htm// เป็นการข่าวที่มาจากการคาดเดาเท่านั้น โดยดูได้จาก
1.รูปประโยค และการใช้คำ
2.ไม่บอกรายละเอียดเจาะจง เช่นมีเทคโนอะไรบ้าง บอกแบบกว้างๆ และไม่บอกการส่งของ ว่าเมื่อไร
*************อันนี้คงเข้าใจน่ะครับ
3.”ถาม ตรงส่วนไหนของเอกสารที่ระบุว่า รัสเซียส่งอาวุธ ss-24 มาให้จีนในปี 1987 คุณไปดึงข้อมูลมาจากไหนในหนังสือครับ”
**ลองอ่านให้เข้าใจก่อนครับ ผมบอกว่า “ss4 ioc (initial operating capability) ปี 1987 “
คงเข้าใจคำว่า IOC น่ะครับ และ”แต่ปี 1985 จีนทดสอบ mirv ครั้งแรก และประสบผลสำเร็จ แล้ว จีนจะซื้อเพื่ออะไร ”
***ไม่ได้บอกตรงไหนว่าส่งss24เลยครับ บอก IOC ปีไหน เทียบกับ ปีที่จีนทดสอบ MIRV …......แค่เท่านั้น
4.กรณี S400
***ผมเอาไปเทียบเคียงกับกรณี SU35 และlada เพราะมีอะไรคล้ายๆ กัน
ดังนั้นขอตอบ คุณ 461 ด้วยเลย
ขอยกตัวอย่างกรณี Su33
จากข่าว //Russia to Deliver Su-33 Fighters to China//
http://www.kommersant.com/p715509/China_jet_fighters_export/
ข่าว 23 ตุลาคม 2006
ขอยกมาเลย
“Russia’s state exporter of weapons, Rosoboronexport is completing negotiations to ship to China up to 50 Su-33 jet fighters for a total worth of $2.5 billion. If the deal is ever clinched, it will be the second biggest contract for export of Russia’s armaments.
Till late this year, China will buy in Russia two Su-33 jet fighters on trial for the aircraft carrier that is currently constructed. The deal value is around $100 million, sources close to negotiations said. Bound by the very tough confidential agreements on military cooperation, Rosoboronexport doesn’t comment on the talks.
But the sources say the contract will be sealed in December in Beijing. The aircraft will be constructed by Komsomolsk-on-Amur Production Association and tested by China at the ground range and at Varyag aircraft carrier that was acquired in Ukraine in 1999 and which construction is being completed now. Russia uses Su-33 only at Admiral Kuznetsov aircraft carrier.
China intends to come up with its own aircraft carrier by 2010, equipping it with foreign jets. But it will probably attempt to design its own variant of Su-33 by using Russia's technology.
The agreed option provides for delivery of 12 more Su-33 jets. The consignment may widen to 48, stepping up the budget to $2.5 billion. Should it happen, it would be the second biggest military and technological contract of Russia, trailing in size only the $3-billion agreement for Su-30MKI license assembly in India.
& #8220;Theoretically, China can make aircraft. They have mastered license assembly of J-11, the actual Su-27SK. The question is how much it will cost and how efficient it will be in operation,” said Konstantin Makienko, an expert of Strategy and Technology Center.”
**คุ้นๆ กับ Rosoboronexport ไหมครับ
**จากข่าว จริงๆ แล้วมันมีข่าวก่อนหน้านั้นอีกถ้าจำไม่ผิดน่าจะปี2003 แต่มาปี 2006 ถึงมีข่าวว่า completing negotiations แล้ว
และ พอปี 2009 รัสเซียบอกยกเลิกซะงั้น
มาเทียบกับ Su35
ผมขอเรียบเรียงข้อมูลจากจากปี
16/11/2010 มีข่าวนี้ Russia ready to sell Su-35 fighter jets to China
http://en.ria.ru/military_news/20101116/161359301.html
6/03/2012 มีข่าวเหมือนเดิม Russia Close to Sign Su-35 Fighter Deal With China
สังเกต ชักเหมือนกรณี Su33 สุดท้ายก็มีข่าว ว่ารัสเซียยกเลิก อีก
ผ่านมา 4 ปี มีอะไรคืบหน้าบ้าง มีใครในกองทัพจีนออกมายอมรับบ้าง ก็มีแต่ข่าวจากฝรั่ง หรือข่าวจากจีน โดยทั้งหมดอ้างอิงจาก Rosoboronexport ทั้งนั้น
***มีสำนักข่าวไหน อ้างอิงจาก PLAAF บ้าง คุณ Woot1980 และคุณ461 ช่วยหามาให้ผมที ผมก็อยากรู้
******สรุป ผมไม่เชื่อ ซึ่งอาจจะซื้อจริงก็ได้ แต่ผมจะเชื่อ ก็ต่อเมื่อ Su35 s400 พวกนี้ ติดตราจีนเท่านั้น แล้วค่อยเชื่อครับ ยังไม่รีบเชื่อ
5.จาก “และโครงการ HQ-19 มันเป็นแค่โปรเจกร์ครับมันยังไม่มีตัวตน ไอ้ที่คุณเห็นในเวปปากีสถานมันเป็น HQ-9”
***ผมว่าผมรู้จัก HQ9 ดีน่ะ อ่านเพิ่มเติมhttp://www.thaifighterclub.org/detail.php?questionid=18728
และดูคลิป Launch double hit ซึ่ง หาดูได้ยากน่ะครับ
http://www.youtube.com/watch?v=Vog6d4CBSw8&list=PLjk2TVk3pd9Z-TO0BBqP_5_iQifZutuf7&index=2
***คิดว่าผมจะแยกไม่ออกหรือ ว่าHQ9 กับ HQ19 และที่สำคัญ รูปนั้นแคปมาจาก CCTV ซึ่งเขาบอกเองว่าเป็น HQ19 ผมแคปไม่เป็น แต่ผมได้ดูอยู่
6.จาก”และเท่าที่ทราบมาว่าจีนถูกกระแนะกระแหนจากฝ่ายทางฝั่งอเมริกา ที่ว่า จีนคงจะเอาเทคโนโลยีของ S-400 ไปต่อยอดเอาไปใส่ใน HQ-19 โปรเจกร์ต่อไปที่จีนจะสร้างนี่แหละ”
***คนที่ไม่รู้ก็พูดได้ แต่ถามว่า S400 อยู่ที่รัสเซีย แล้วจีนจะมาเอาไปอย่างไร
7.จาก “http://tiananmenstremendousachievements.wordpress.com/2014/02/08/chinas-df-41-icbm-with-12-warheads-and-range-to-cover-entire-usa/”
**เป็นเวปblog ไม่มีข้อมูลอ้างอิงใดๆ และที่สำคัญอ่านชื่อเวปซิครับ
นี่ ข้อมูลเป็นทางการของ us พูดถึง df41
http://www.defense.gov/pubs/2014_DoD_China_Report.pdf
ตัดมาบางส่วนดังรูปข้างล่าง
และ
China confirms new generation nuclear-capable ICBM that can target US
Read more: http://www.smh.com.au/world/china-confirms-new-generation-nuclearcapable-icbm-that-can-target-us-20140801-zzj93.html#ixzz3A3ZLY6sx
8.เรื่องเทคโนจรวด จีนไม่ได้เป็นรอง us หรือ รัสเซีย ยกตัวอย่าง
Ground-Based Midcourse Defense
http://news.ifeng.com/a/20140723/41280092_0.shtml
โดยจีนทดสอบครั้งแรก 11 มค 2010
ต่อมา 11 กย2012
ต่อมา27 มค2013 และล่าสุด กค. 2014
โดยแต่ละครั้ง ใช้kinetic kill vehicle หรือ KKV ที่มีความเร็วมากกว่า 20M
คลิปการทดสอบครั้งที่ 2
http://www.youtube.com/watch?v=eFff2-gZ0sM
แล้ว Ground-Based Midcourse Defense หรือ GMD มีความสำคัญอย่างไร ดูรูปข้างล่างก็จะเข้าใจ
อ่านเพิ่มเติม
http://pantip.com/topic/30356781
http://pantip.com/topic/30331158
ท่าน hongse_c ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญอาวุธแห่งบอร์ดพันทิป ทราบไหมว่า Rosoboronexport เป็นหน่วยงานลูกของ Rostec
Rostec ที่เป็นหน่วยงานแม่ ชื่อเต็มๆคือ Russian Technologies
Rosoboronexport ที่เป็นหน่วยงานลูก ชื่อเต็มๆคือ Russian Defense Export
ให้เดาใจท่าน hongse_c แห่งบอร์ดพันทิป ท่านคงคิดว่ารัสเซียพยายามเต้าข่าวใส่ร้ายจีนให้ประมาณว่า จีนยังตามหลังรัสเซีย จีนยังเป็นลูกน้องกลายๆ เพราะท่านคิดแบบนี้หรือเปล่าครับข่าวที่มาจากฝั่งรัสเซียว่าจีนซื้อ Su-35 กับเรือ Amur มันจึงควรจะเป็นเรื่องโกหกในใจท่าน ไม่ว่าใครจะยกอะไรมาก็ไม่จริงทั้งนั้น ใช่แบบนี้หรือเปล่าครับ
ขอตอบ คุณ 461 ครับ
จาก//~~ให้เดาใจท่าน hongse_c แห่งบอร์ดพันทิป ท่านคงคิดว่ารัสเซียพยายามเต้าข่าวใส่ร้ายจีนให้ประมาณว่า จีนยังตามหลังรัสเซีย จีนยังเป็นลูกน้องกลายๆ เพราะท่านคิดแบบนี้หรือเปล่าครับข่าวที่มาจากฝั่งรัสเซียว่าจีนซื้อ Su-35 กับเรือ Amur มันจึงควรจะเป็นเรื่องโกหกในใจท่าน ไม่ว่าใครจะยกอะไรมาก็ไม่จริงทั้งนั้น ใช่แบบนี้หรือเปล่าครับ //
ประเด็นดังนี้
1.ที่จริง ผมเล่นเวปนี้ ก่อน ที่จะเล่น pantip ครับ
2.ถึงผม จะโปรจีนด้วยสายเลือด แต่ผมมีเหต และผลเพียงพอ ที่จะรับฟังข้อมูลใหม่ๆ ที่ถูกต้อง
ถ้าคุณอ่าน ที่ผมพิมข้างบนอย่างละเอียด ก็น่าจะเข้าใจ
ผมได้ ยกกรณี Su33 มา ซึ่งคุณ น่าจะเห็นอะไรที่คล้ายกันไหม ข่าว su 33 ก็มาจาก ~~Rosoboronexport แต่ผลเป็นอย่างไร ประวัตศาสตร์ ไม่หลอกใครครับ ข้อมมูลมีบันทึกใว้ ดังที่ผมแสดง
ส่วนกรณี Su35 ก็คล้ายกันมากๆ นับเวลา มากกว่า 4 ปี มีอะไรคืบหน้าบ้าง
และ ผมพิมชัดเจน ข้างบน ขอยกมา
"~~******สรุป ผมไม่เชื่อ ซึ่งอาจจะซื้อจริงก็ได้ แต่ผมจะเชื่อ ก็ต่อเมื่อ Su35 s400 พวกนี้ ติดตราจีนเท่านั้น แล้วค่อยเชื่อครับ ยังไม่รีบเชื่อ"
*** แปล คือผมไม่เชื่อด้วยเหตผลตามที่บอก ซึ่งอาจจะชื้อจริง ก็ได้ ผมจะเชื่อก็ต่อเมื่อ เครื่องมาจีน และติดตราจีน ถ่ายรูปให้เห็นเท่านั้น
ซึ่ง ไม่มีตรงไหน ที่ผมบอกว่าข่าวเท็จ หรือ ข่าวลวง ตรงไหนที่ผมบอกว่า มีคนปล่อยข่าว อ่าน ดีๆ น่ะครับ
และ
ส่วนตัว ผมเคยเขียนใว้ใน pantip ตังแต่มีข่าวใหม่ๆ ว่า ถ้าจีนมีเงินต้องซื้อ Su35 เหตผล เพราะ ทั้ง 2ประเทศ ต้องอุดหนุนอุตสาหกรรม อาวุธ ซึ่งกันและกัน
แต่นั้นเป็นสิ่งที่อยากให้เป็น
แต่ความเป็นจริง wait and see ครับ...
**แค่ความเห็นส่วนตัวของผมคนเดียว คงไม่ทำให้ deal ล่มหรอก
ขอหลักฐานเกี่ยวกับ su-33 จาก rosoboronexport หรือ Rostec ไหมครับ เนื้อข่าวที่คุณให้มาไม่ใช่จากตัวต้นฉบับจากจาก Rosoboronexport เลยนะครับ
ก็มีข่าวอยู่นี่ครับว่า รัสเซีย ยกเลิก การขาย SU-33 ให้กับ จีน ด้วย กลัวจีน Copy อีก เพราะ SU-33 นี้ เป็น บ. สำหรับใช้ บนเรือบรรทุกเครื่องบิน ตามสัญญา จีนจะจัดหา จำนวน 50 ลำ แต่เบื้องต้น พอสุดท้าย จีน ขอรับ จำนวน 2 ลำ เพื่อทดลอง ก่อน โดยก่อนหน้านี้ จีน ได้ละเมิด ข้อตกลงในเรื่อง ทรัพย์สินทางปัญญา ในดีล SU-27 ที่ต้องใช้ระบบเรดาร์ และอุปกรณ์ รวมถึงเครื่องยนต์ ของรัสเซีย จึงให้ ไลเซ่นต์ ไป แต่สุดท้าย จีน ใช้ของตัวเอง
http://en.ria.ru/russia/20090310/120493194.html
13:58 10/03/2009
MOSCOW, March 10 (RIA Novosti) - Russia has refused to sell its Su-33 carrier-based fighters to China over fears that Beijing could produce cheaper export versions of the aircraft, a Russian daily said on Tuesday.
The Moskovsky Komsomolets newspaper said that China and Russia had been in negotiations on the sale of 50 of the Su-33 Flanker-D fighters, to be used on future Chinese aircraft carriers, since 2006, but that the talks collapsed recently over China's request for an initial delivery of two aircraft for a "trial."
Russian Defense Ministry sources confirmed that the refusal was due to findings that China had produced its own copycat version of the Su-27SK fighter jet in violation of intellectual property agreements.
In 1995, China secured a $2.5-billion production license from Russia to build 200 Su-27SKs, dubbed J-11A, at the Shenyang Aircraft Corp.
The deal required the aircraft to be outfitted with Russian avionics, radars and engines. Russia cancelled the arrangement in 2006 after it discovered that China was developing an indigenous version, J-11B, with Chinese avionics and systems. The decision came after China had already produced 95 aircraft.
This time, Russia refused the Chinese offer even after Beijing had offered to buy 14 Su-33 aircraft, saying that at least 24 jets should be sold to recoup production costs.
However, the Moskovsky Komsomolets said that the Su-33 deal may be reviewed later because China desperately needs carrier-based aircraft to equip its first indigenous 48,000-ton aircraft carrier, due to be built by 2011. Beijing has also announced plans to build a nuclear-powered aircraft-carrier by 2020.
Chinese media recently quoted China fleet commander Adm. Xu Hongmeng as saying: "China will very soon have its own aircraft carrier."
The Su-33 is a carrier-based multi-role fighter, which can perform a variety of air superiority, fleet defense, air support and reconnaissance missions. The aircraft entered service with the Russian Navy in 1995 and are currently deployed on board the Nikolai Kuznetsov aircraft carrier.
Russian Su-33 naval fighters are significantly cheaper than any similar foreign models, such as the French Rafale-M, or the U.S F-35C or the F/A-22N Sea Raptor
~~จาก //ขอหลักฐานเกี่ยวกับ su-33 จาก rosoboronexport หรือ Rostec ไหมครับ เนื้อข่าวที่คุณให้มาไม่ใช่จากตัวต้นฉบับจากจาก Rosoboronexport เลยนะครับ//
*** ขอ link เหตการที่ผ่านมานาน ทั้ง link ที่ให้ เป็น http://www.kommersant.com Russia's Daily online ซึ่งอ้าง rosoboronexport แล้ว แต่กับไม่เชื่อ
ไม่เป็นไร ถึงข่าว เก่าๆจะหายาก แต่ก็พอมีข่าว ที่เกิดช่วงนั้น คือข่าวจาก RIANOVOSTI http://en.ria.ru/
ที่อ้าง rosoboronexpor เหมือนกัน คงน่าเชื่อถือพอน่ะครับ
http://en.ria.ru/russia/20061101/55289379.html
***มาดูความน่าเชื่อถือ RIANOVOSTI กัน
ขอยกข่าว ซื้อSu35 ที่เป็นปัจจุบัน เร็วๆ นี้
http://rostec.ru/en/news/2929
มาจาก Rostec คงพอใจน่ะครับ
มาดูเนื้อข่าว ตามรูปด้านล่าง ดูที่ขีดเส้นใต้เลย
----ข่าวจากรัสเซียที่น่าเชื่อถือ ก็มาจากแหล่าง http://www.kommersant.ru/ หรือไม่ RIANOVOSTI http://en.ria.ru/
ยังไม่เชื่อ แล้วจะเชื่อใคร
****และผมถามไปแล้วด้านบน ไม่มีใครตอบ
ขอแหล่งข่าว ข้อมูลอ้างอิง ที่ว่าจีนซื้อ หรือเซ็นสัญญาซื้อ Su35 จากสื่อจีน ที่อ้าง แหล่งข่าวจาก PLAAF
เน้นสื่อจีนแผ่นดินใหญ่ และไม่เอาสื่อจีนที่อ้างแหล่งข่าวจากสื่อรัสเซียน่ะครับ
ปล.คุณ~~juldas โพสไปแล้ว http://en.ria.ru/russia/20090310/120493194.html
เวลาข่าว 10/03/2009
ดูวันเวลา ของข่าวก็จะพอเข้าใจคัรบ
แสดงว่ารัสเซียไม่ได้เต้าข่าว แต่มีกรณีละเมิดสัญญาจากฝั่งจีนก่อนเลยยกเลิกไปใช่ไหมครับ
จาก //~~แสดงว่ารัสเซียไม่ได้เต้าข่าว แต่มีกรณีละเมิดสัญญาจากฝั่งจีนก่อนเลยยกเลิกไปใช่ไหมครับ//
ผมไม่เคยบอกว่ารัสเซียเต้าข่าว แต่ข่าวมีที่มา เน้นว่ามีที่มา และมันก็ลึกล้ำ เพราะเป็นเรื่องการเมือง ระหว่าง PLAAF กับ PLANAF และ ระหว่าง Chengdu Aircraft Industry Group กับ Shenyang Aircraft Corporation ด้วย
และ กรณี su 33 นั้น ไม่มีการระเมิด สัญญาแต่อย่างใด เพราะยังไม่มีการทำสัญญา
แต่ล่ม เพราะ อะไร ผมก็ไม่รู้ แต่ที่รู้ๆ แน่ จนท.รัสเซีย บอก RIANOVOSTI ตามlink และเน้นตามที่ขีดเส้นใต้ เขาใช้คำว่า "over fears "
ตัวอย่าง กรณี J11ด้าน patent นั้นเขาคุยกันครอบคลุมแค่ไหน ผมไม่ทราบ แต่ J11 ทั้ว A และ B จีนก็ไม่เคยคิดจะขายให้ผู้อื่น
ท่าน hongse_c มาสร้างสรรค์ความรู้จริงๆโปรจีนของแท้
แต่แนวนี้ค่อนข้างหนักข้อมูลไม่ลึกถึงจริงๆ ก็แค่ว่ากันไปตามบอร์ดตามจินตนาการ