ในภาพจะเป็น 3 ลำแรกที่มาถึงอินโดนีเซียแล้ว จากทั้งหมด 24 ลำครับ
น่าจับตามองนะครับ เพราะระยะหลังอินโด มีการสั่งซื้ออาวุธเข้ามาจำนวนมาก หลังจากที่พึ่งได้รับมอบ T-50 ที่สั่งซื้อจากเกาหลีใต้มาเมื่อไม่นานนี้
ที่มา
https://www.facebook.com/172244062849976/photos/a.302702263137488.71147.172244062849976/694879257253118/?type=1&theater
แสดงว่าผมเข้าใจผิดมาตลอดคิดว่า อินโดฯ จัดหาเครื่องบิน F-16 C/D Block 25 มือสอง upgrade เป็นประมาณ Block 30-32 เพื่อสามารถ พวก digital Reconnaissance pod ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
Upgrade of 24 F-16C/D Block 25 aircraft and
28 F100-PW-200 or F100-PW-220E engines being granted as Excess Defense Articles. The upgrade includes the following major systems and components:
LAU-129A/A Launchers, ALR-69 Radar Warning Receivers,
ARC-164/186 Radios, Expanded Enhanced Fire Control (EEFC) or Commercial Fire Control, or Modular Mission Computers,
ALQ-213 Electronic Warfare Management Systems,
ALE-47 Countermeasures Dispenser Systems, Cartridge Actuated Devices/Propellant Actuated Devices (CAD/PAD), Situational Awareness Data Link, Enhance Position Location Reporting Systems (EPLRS),
LN-260 (SPS version, non-PPS),
and AN/AAQ-33 SNIPER or AN/AAQ-28 LITENING Targeting Systems
http://www.dsca.mil/major-arms-sales/indonesia-regeneration-and-upgrade-f-16cd-block-25-aircraft
แต่ไม่มีรายละเอียด Update Radar หลัก คงใช้ radar AN/APG-68 ตัวเก่า
F-16C/D 52ID คือ F-16 C/D Block 25 ซึ่งได้รับการปรับปรุงโครงสร้างให้แข็งแรงขึ้นเทียบเท่ากับฺ Block 52 การปรับปรุง Avionic หลัก ๆ คือเปลี่ยน Mission Computer MMC-7000 และ M5 software ตัวล่าสุด มีการติดตั้ง GPS/INS และรองรับ Link-16 แต่เรดาร์ยังคงใช้ AN/APG-68V2 ตัวเดิม ส่วนเครื่องยนต์ก็ยังคงเป็น PW-220 แบบเดืยวกับ F-16 Block 15
ถ้าเทียบกับ F-16 eMLU ของ ทอ. ไทย เรดาร์เราดีกว่าและทันสมัยมากกว่าซึ่งก็คือ AN/APG-68V9 และมีการติดตั้ง IFF เพื่อใช้จรวด AIM-120 ได้อย่างมั่นใจ ความคล่องตัว F-16 eMLU จะทำได้ดีกว่า Block 25 เล็กน้อยเนื่องจากน้ำหนักตัวเปล่าเบากว่าประมาณ 2000lbs แต่ในส่วนของ MTOW F-16 A/B จะด้อยกว่าตัว F-16 C/D อยู่ประมาณ 5000 lbs ครับ
ปัญหาคือจะอยู่ได้นานแค่ไหน
อย่างของไทยเรามีเครื่องอยู่แล้วทำการอัพเกรดยืดอายุการใช้งานและให้คงคุณค่าทางยุทธวิธีรักษาดุลอำนาจ เมื่อเทียบกับเพื่อนบ้าน
แต่อินโดฯนี่เป็นการซื้อมือสองมา เหมือนต้องการสร้างขนาดกองทัพแบบรวดเร็วด้วยเงินที่สมเหตุสมผล
ผมว่าอาจจะมีการคลาดเคลื่อนเรื่องชื่อรุ่นนะ ของ Indonesia ทางอเมริกา ให้เป็นแค่ block 32ID
เพราะ เอา Block 25 มาอัพเกรดหลายอย่าง แต่เรดาห์เป็นตัวเก่ามาก และไม่สามารถที่จะเป็น block52 ได้แน่นอนเพราะไม่มี conformal fuel tanks (CFTs) แบบแนวลำตัว
ทาง http://www.deagel.com/Strike-and-Fighter-Aircraft/F-16C-Block-32_a000540003.aspx ก็จัดให้ข่าว F16 Indonesia จัดอยู่ในหมวด F16 Block32
เพียงแต่ว่า ทางDefense minister Purnomo Yusgiantoroของอินโดนีเซียไปให้ข่าวว่า F16ของเค้ามีการอัพเกรดหลายอย่างที่เทียบเท่า Block52 (แต่ไม่ใช้ทุกอย่าง ดังนั้นจึงได้แค่ Block 32)
http://www.ainonline.com/aviation-news/singapore-air-show/2014-02-07/indonesian-air-force-draws-shopping-list
A $750 million FMS deal to acquire 24 upgraded F-16 Block 32IDs was agreed with the U.S. government in November 2011.
จากยอดจำนวนสั่งซื้อทั้งหมด 24 ลำ มูลค่า 750 ล้านดอลล่าร์สหรัฐฯ(ประมาณ 2.4 หมื่นล้านบาท) คุ้มค่านะ
ของ ทอ.ไทย 19,0000+16,0000 ล้านบาท ได้ JAS 39 CD มา 12 ลำ (แต่เป็นของใหม่)
ถ้าเงินเราน้อย น่าจะสั่ง JAS 39 AB มา และ UP รุ่น CD สัก 24 ลำ เอาไว้ที่ก่องบิน 7 อีก 6 ลำ ที่เหลือ 18 ลำ แทน F5 E,F ที่กองบิน 21 น่าจะดี วงเงินไม่น่าเกิน 20,000 ล้านบาท ดีกว่า UP F5 E/F เสียอีก
จากยอดจำนวนสั่งซื้อF-16 upgrade block 30/32 ทั้งหมด 24 ลำ มูลค่า 750 ล้านดอลล่าร์สหรัฐฯ(ประมาณ 2.4 หมื่นล้านบาท)
โครงการซื้อ jas39 19,000+16,000 ล้านบาท = 12 ลำ
ส่วนตัวมองว่ามันไม่ถูกต้องที่เอาจำนวนเครื่อง หาร ด้วยวงเงิน
ราคาดังกล่าวมั้นมีรายระเอียดอีกเยอะ เช่น Radar ภาคพื้นดิน , Data link และสถานีควบคุม ,Saab 340 AEW&C
จากยอดจำนวนสั่งซื้อทั้งหมด 24 ลำ มูลค่า 750 ล้านดอลล่าร์สหรัฐฯ(ประมาณ 2.4 หมื่นล้านบาท) เป็นการจัดซื้อที่คุ้มค่ามากครับ และจะยิ่งคุ้มค่ามากขึ้นถ้าสามารถไปทำdealซื้อเรดาห์AGP68v9 จากสิงค์โปร์มาได้ (เพราะสิงค์โปร์จะทำการupgradeเรดาห์ตัวเองเป็นแบบAESA) เพราะตัวเครื่องและระบบคอมพิวเตอร์upgadeมารอไว้แล้ว
แต่การจัดซื้อนี้ที่มันดูคุ้มค่าเพราะทางUSเสนอขายตัว F16 block25 ตัวเก่าให้ในราคาถูกมาก คือเป็นการอนุเคราะห์ ไม่ใช้ว่าใครๆก็จะได้ราคานี้
อย่าลืมประเมิน "อายุการใช้งาน" ที่เหลือด้วยสิครับ เหมือน F-16 ADF ที่ทอ.ได้มานั่นไงครับ มาทีหลังแต่ปลดก่อนฝูง 103 เสียอีก F-16 C/D block 25 ของทอ.สหรัฐ น่าจะถูกใช้งานมาไม่น้อยเลยทีเดียว อย่างน้อยก็คงต้องมี 2,500-3,000 ชม. ถ้าเป็นตัวที่เสริมความแข็งแรงโครงสร้างมาแล้ว ก็จะมีอายุใช้งานเหลือแค่ 4-5,000 ชม. ประมาณ 20-25 ปี เกินครึ่งอายุมาเล็กน้อย และคงไม่มีโอกาสอัพเกรดในอนาคต (เพราะไม่คุ้ม)
ในขณะที่ Jas-39 C/D ที่ทอ.จัดหามาเป็นเครื่องใหม่ มีอายุการใช้งานอีก 8,000 ชม. หรือราว 40 ปี ไหนจะรวมทั้ง SAAB 340 AEW และ SAAB 340 เปล่าอีกลำ ระบบเครือข่ายเรดาร์และดาต้าลิ้งค์ ที่สำคัญคือ "ซอร์สโค๊ด" ของซอฟแวร์ ที่จะทำให้เราสามารถนำไปปรับปรุงพัฒนาต่อยอดเองได้ในอนาคต โดยไม่ต้องขออนุญาต ไม่ต้องถูกมัดมือ "ฟัน" ค่าปรับปรุงซ่อมแซม ลองคำนวนดูใหม่นะครับว่าดีลไหนคุ้มกว่ากัน...???
ราคาเฉลี่ยลำละ31.25ล้านเหรียญ ก็ต้องบอกว่าอเมริกาขายของได้เก่งเหมือนกันนะ เพราะเพิ่มเงินอีกหน่อยไปเอาF/A-50แบบฟิลิปปินส์ได้เลย ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าเครื่องบินเขามีการปรับปรุงโครงสร้างเครื่องมากถึงขนาดไหนเวลาจะเป็นเครื่องพิสูจน์
แต่ในกรณีของอินโดเป็นการขยายขนาดฝูงบินจริงๆล่ะครับ ถ้ารวมการสร้างฐานทัพอากาศและสถานทีภาคพื้นดินรองรับ ไปจนถึงอาวุธประจำตัวเครื่องบินในหลากหลายภาระกิจ อาวุธป้องกันฐานทัพต่างๆเบ็ดเสร็จครบตามแผนทุกอย่างน่าจะเอาเลข2คุณเข้าไป ผมเป็นเขาจะขอเสี่ยงซื้อF/A-50 มาประกอบเองขั้นสุดท้ายในประเทศ เพราะอินโดมีโรงงานรองรับอยู่แล้วเป็นโอกาสที่ดีก่อนจะถึงเครื่องบินที่เขาผลิตเองร่วมกับเกาหลีใต้ในอีก10ปีข้างหน้า
แต่บางทีโรงงานเขาอาจจะงานล้นมือก็ได้มั้งครับ เครื่องิบนขนส่งและเฮลิคอปเตอร์ก็ตั้งหลายรุ่นกำลังจะได้ดอร์ฟินปราบเรือดำน้ำอีก10ลำขึ้น ประเทศที่เศรษฐกิจกำลังขาขึ้นก็แบบนี้แหละครับ เราเองก็เคยก็ช่วงหนึ่งอดีตอันแสนหอมหวาน
ดีล อินโดฯ จะจบที่ 670 ล้านเหรียญสหรัฐ ครับ
Blue Temple Vipers: Indonesia Adding F-16s
Jul 15, 2014 17:00 UTC by Defense Industry Daily staff
Latest update [?]
First fighters delivered – and the terms of the contract are made clear.
July 14/14: Delivery. The USAF’s Ogden Air Logistics Complex at Hill AFB, UT delivers the first 3 F-16 Block 25s (1 F-16C and 2 F-16Ds) to Indonesia, under a $670 million, 24-plane refurbishment program.
Aircraft began delivery from storage at the 309th AMARG in Tucson, AZ to the Hill AFB depot in May 2013. Each plane requires 15,000 man-hours to upgrade the avionics, while overhauling the wings, landing gear, and other components on each aircraft. Ogden ALC is scheduled to deliver the other 21 planes by the end of 2015. Sources: USAF, “Hill AFB plays key role in delivering F-16s to Indonesia”.
โดยการสั่งซื้อ ครั้งนี้ อินโดฯ ก็จะทำการยืดอายุใช้งาน F-16 เดิม อีก 6 ลำ เพื่อให้มีฝูง F-16 รวม 30 ลำ
What did solve Indonesia’s problem was an offer from the Americans to augment their remaining F-16s with 24 used and refurbished USAF planes.
F-16C/D block 25 aircraft with AN/APG-68 radars and the MIL-STD-1760 databus offer big improvements over the current F-16A/B Block 15 Air Defense Fighter’s AN/APG-66 radar. The APG-68 radar has better aerial performance, and many more ground and maritime surveillance options. The radar & databus combination also allow the fighters to carry a much wider range of weapons, including AIM-7P or AIM-120 AMRAAM medium-range air-to-air missiles, and a wider set of ground attack weapons. At the 2011 East Asia Summit, Indonesia accepted.
Once the second-hand F-16s arrive, Indonesia’s 6 remaining F-16 Block 15s (3 F-16A, 3 F-16B) will be put through a Falcon-UP program in order to refurbish their airframes, and bring the entire fleet of 30 to the same standard.
เป็น F-16 ที่มาจาก ที่เก็บ 309th Aerospace Maintenance And Regeneration Group
โดยเคยมี F-16 จาก โรงเก็บนี้ ที่ขายให้ ทอ.ปากีสถาน
There are four categories of storage for planes at AMARG:
AMARG employs 550 people, almost all civilians. The 2,600 acres (11 km2) facility is adjacent to the base. For every $1 the federal government spends operating the facility, it saves or produces $11 from harvesting spare parts and selling off inventory.[11] Congressional oversight determines what equipment may be sold to which customer.
An aircraft going into storage undergoes the following treatments:
The Group annually in-processes an undisclosed number of aircraft for storage and out-processes a number of aircraft for return to the active service, either repainted and sold to friendly foreign governments, recycled as target or remotely controlled drones[12] or rebuilt as civilian cargo, transport, and/or utility planes.[13] There is much scrutiny over who (civilians, companies, foreign governments) can buy what kinds of parts. At times, these sales are canceled. The Air Force for example reclaimed several F-16s from AMARG for the Strike Fighter Tactics Instructor Courses which were originally meant to be sold to Pakistan, but never delivered due to an early-90's embargo.
OO-ALC เป็นผู้ทำการ ปรับสภาพ ให้กับ ฝูง F-16 ของ ทอ.อินโดนีเซีย
OGDEN AIR LOGISTICS COMPLEX
Posted 5/8/2013 Printable Fact Sheet
|
||||||||||||||
|
The Ogden Air Logistics Complex, with headquarters at Hill Air Force Base, Utah, provides war-winning expeditionary capabilities to the warfighter through world-class logistics, support, maintenance, distribution and engineering management for actively flying, mature and proven weapon systems. It is one of three complexes assigned to the Air Force Sustainment Center.
Mission
The Ogden Air Logistics Complex provides logistics, support, maintenance and distribution for the nation's premier fighter aircraft: the F-35 Lightning II, F-22 Raptor, F-16 Fighting Falcon and A-10 Thunderbolt. In addition, it maintains the C-130 Hercules, T-38 Talon and other weapon systems, as well as the Minuteman III ICBM. The complex is one of the leading providers of software, pneudraulics, secondary power systems, composites and ICBM rocket motors for the Department of Defense. The complex is also the Air Force's Landing Gear Center for Industrial and Technical Expertise, handling all Air Force landing gear and a majority of other DoD landing gear. Personnel in remote locations perform aircraft, missile and electronics maintenance, regeneration and storage.
Personnel
The Ogden Air Logistics Complex employs more than 7,500 military, civilian and contract personnel at Hill AFB in 155 different job series. The complex also extends to nine remote locations in the United States and Japan. The scope of responsibility includes cost, schedule and quality of depot repair; and maintenance, repair, overhaul and modification of Air Force aircraft, the Minuteman ICBM system, and a variety of commodities, software, and aircraft storage and regeneration.
Units
The 309th Aerospace Maintenance and Regeneration Group, located at Davis-Monthan AFB, Ariz., provides aerospace depot maintenance, aircraft regeneration, storage and preservation, and aircraft parts reclamation and disposal in support of the DoD, NASA and other government agencies.
The 309th Aircraft Maintenance Group performs depot repair, modification and maintenance support on the F-35 Lightning II, the F-16 Fighting Falcon, F-22 Raptor, C-130 Hercules, T-38 Talon and A-10 Thunderbolt. Teams deploy worldwide to perform aircraft battle damage repair, crash damage repair and field-level depot maintenance. A separated unit maintains T-38 aircraft at Randolph AFB, Texas.
The 309th Commodities Maintenance Group is the Technical Repair Center for landing gear, wheels, brakes, secondary power systems, hydraulics and pneudraulics, and composites. The group maintains, repairs, manufactures and modifies armament, power systems, gas turbine engines, auxiliary power units, secondary power units, and fuel accessories and controls. In addition the group also does structural sheet metal, aircraft canopies, flight controls and heavy machining work.
The 309th Electronics Maintenance Group repairs, overhauls and modifies electronics, avionics, radar, laser guidance systems, instrumentation, photonics, electrical systems and components, and ground power, oil and air-cooled generators. It supports programmed depot maintenance and modification of aircraft weapon systems and provides worldwide re-supply support for component parts, and manages the Support Center Pacific, Kadena AB, Japan.
The 309th Maintenance Support Group is the facilities manager for projects in the Complex maintenance infrastructure program, and manages military construction program projects. Group laboratories analyze and test chemicals, materials, wastes and weapons systems components to help customers sustain and improve their processes. The group is the technical source of repair for the Air Force metrology and calibration program on assigned systems and components.
The 309th Missile Maintenance Group provides depot-level maintenance and support to America's land-based Intercontinental Ballistic Missile force and to the Air Launched Cruise Missile force. Four geographically separated units provide on-site depot-level maintenance, repair and modifications of 450 Minuteman III launch facilities and 45 missile alert facilities spread across five states. The group plans and directs repair of ICBM operational ground equipment, transportation and handling equipment, reentry systems and unique support equipment. It controls movement, provides storage for the Minuteman III and Peacekeeper weapon system boosters, and performs static firing and depot-level maintenance for the Minuteman III weapon system. Accountable assets are tracked for the New Strategic Arms Reduction Treaty by the group. The group also provides and conducts propellant lab analysis, tests missile integrated systems, repairs shelters and radomes, and performs Radar Cross Section characterization testing of aircraft and flight hardware.
The 309th Software Maintenance Group operates the USAF Software Technology Support Center, and sustains weapon system software, avionics hardware and other mission-critical computer resources. This includes engineering design, prototype fabrication, and limited production, testing and generation of engineering data. The group develops PC-based flight line specialized support equipment and develops avionics-related hardware.
Point of contact
75th Air Base Wing Public Affairs; 7981 Georgia St.; Bldg. 1102, Suite 115; Hill AFB, UT 84056; DSN 777-5201 or 801-777-5201; e-mail: 75abw.pa@hill.af.mil.
ตามข้อมูลในส่วนเรดาร์ มีออฟชั่นใน จับเป้าหมายในทะเล ได้ด้วย
ข่าวต่อไป คงต้อง ติดตามว่า ทอ.อินโดนีเซีย จะจัดหา อาวุธนำวิถีอะไรมามาด้วย เพื่อ ติดตั้งให้กับ ฝูง F-16
จะมี Harpoon Missile เป็น ASM ให้กับ F-16 C/D IN ชุดนี้ด้วยหรือเปล่า ?
ในเบื้องต้น AIM-120 คงมาด้วยแน่นอน
เห็นอินโดฯได้ F16 มือสองแล้ว ผมก็อยากเห็น ไทยได้ jas39 มือสอง สักฝูงมาใช้งานบ้าง