พิธีเปิดอาคารกองบัญชาการกองเรือดำน้ำ
วันนี้ (7 กรกฎาคม 2557) เวลา 11.00 น. พลเรือเอก ณรงค์ พิพัฒนาศัย ผู้บัญชาการทหารเรือ เป็นประธานในพิธีเปิดอาคารกองบัญชาการกองเรือดำน้ำ บริเวณหน้าท่าเรือแหลมเทียม การท่าเรือสัตหีบ ฐานทัพเรือสัตหีบ อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี โดยมี พลเรือเอก พิจารณ์ ธีรเนตร ผู้บัญชาการกองเรือยุทธการ ให้การต้อนรับ
แนวความคิดการจัดหาเรือดำน้ำของไทย เริ่มมีขึ้นครั้งแรกในสมัย พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว โดย พลเรือเอก พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอาภากรเกียรติวงศ์ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ ซึ่งขณะนั้นทรงดำรงตำแหน่งเสนาธิการกระทรวงทหารเรือ ได้เสนอ “โครงการจัดสร้างกำลังรบทางเรือ พ.ศ.2453” โดยกำหนดให้มี “เรือ ส.” (สับมารีน หรือ SUBMARINE) จำนวน 6 ลำ ต่อมารัฐบาลอนุมัติให้กองทัพเรือ จัดหาเรือดำน้ำจากประเทศญี่ปุ่น จำนวน 4 ลำ ขึ้นระวางประจำการ ใน พ.ศ.2480 ทำให้กองทัพเรือไทยเป็นที่น่าเกรงขามในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และปฏิบัติภารกิจตลอดช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 กระทั่งปลดระวางประจำการ รวมระยะเวลาถึงปัจจุบันกว่า 70 ปี
กองทัพเรือมีแนวความคิดที่จะจัดหาเรือดำน้ำอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งสมัยที่ พลเรือเอก ประพัฒน์ กฤษณจันทร์ เป็นผู้บัญชาการทหารเรือ ได้กำหนดเป้าหมายในการพัฒนากองทัพเรือให้มีขีดความสามารถในการปฏิบัติการครบทั้ง 3 มิติ และสามารถจัดตั้งกองเรือดำน้ำพร้อมกับตั้งคณะกรรมการศึกษาคุณลักษณะเรือดำน้ำที่เหมาะสม ที่ผ่านมาได้เคยเสนอโครงการจัดหาเรือดำน้ำมาแล้ว 3 ครั้ง ทั้งเรือดำน้ำชั้น A19-T (สวีเดน) เรือดำน้ำชั้น GAL (อิสราเอล) และล่าสุดในปี พ.ศ.2553 พลเรือเอกกำธร พุ่มหิรัญ ผู้บัญชาการทหารเรือ ในขณะนั้น ได้อนุมัติโครงการจัดหาเรือดำน้ำชั้น 206A (เยอรมนี) จำนวน 6 ลำ พร้อมกับได้อนุมัติหลักการจัดตั้งกองเรือดำน้ำและขั้นตอนการดำเนินงาน เพื่อเตรียมการรองรับการมีเรือดำน้ำ รวมทั้งให้แก้ไขอัตราเฉพาะกิจกองเรือยุทธการ บรรจุกำลังพลในกองเรือดำน้ำตั้งแต่ 1 เมษายน 2554 ต่อมาใน พ.ศ.2555 เมื่อ พลเรือเอก สุรศักดิ์ หรุ่นเริงรมย์ ดำรงตำแหน่ง ผู้บัญชาการทหารเรือ ก็ได้อนุมัติแนวทางการเตรียมความพร้อมสำหรับการจัดหาเรือดำน้ำโดยแบ่งความพร้อมเป็น 3 ด้านได้แก่ การเตรียมการด้านองค์ความรู้ การเตรียมการด้านโครงสร้างพื้นฐาน และด้านการเสริมสร้างสมรรถนะการปฏิบัติการใต้น้ำ จึงได้เกิดเป็นโครงการศึกษาเกี่ยวกับเรือดำน้ำร่วมกับมิตรประเทศที่มีความเชี่ยวชาญและเป็นผู้ใช้เรือดำน้ำมาอย่างยาวนาน โดยกองทัพเรือ ได้จัดส่งกำลังพลจำนวน 18 นาย ไปศึกษาอบรมหลักสูตรความรู้ด้านวิทยาการและเทคโนโลยีเรือดำน้ำ ณ สหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี และส่งกำลังพลจำนวน 10 นาย ไปศึกษาอบรมหลักสูตร international Diesel Submarine ณ สาธารณรัฐเกาหลี
นอกจากอาคารกองบัญชาการกองเรือดำน้ำที่ได้ทำพิธีเปิดในวันนี้แล้ว กองทัพเรือ ยังได้ ก่อสร้างอาคารสำคัญต่าง ๆ หลายอาคาร อันเป็นโครงสร้างพื้นฐานโดยเฉพาะอย่างยิ่ง การก่อสร้างอาคารฝึกศูนย์ยุทธการเรือดำน้ำ สำหรับการเตรียมการด้านองค์ความรู้ การปฏิบัติการเรือดำน้ำและดำรงการสืบทอดองค์ความรู้ในอนาคต โดยมีเครื่องฝึกศูนย์ยุทธการเรือดำน้ำ (Submarine Command Team Training:SCTT) เป็นอุปกรณ์สำคัญในจำลองระบบศูนย์ยุทธการของเรือดำน้ำและสภาพแวดล้อมได้เสมือนจริง สามารถใช้ในการฝึกปฏิบัติการเรือดำน้ำและทีมงานศูนย์ยุทธการ รวมทั้งการฝึกองค์บุคคลที่ประจำอุปกรณ์ต่าง ๆ เช่น โซนาร์ ระบบควบคุมการนำเรือ และระบบอำนวยการรบ เป็นต้น ทั้งนี้เครื่องฝึกฯ ที่จัดหาใหม่นี้ยังสามารถต่อเชื่อมและฝึกร่วมกับเครื่องฝึกปราบเรือดำน้ำของกองการฝึก กองเรือยุทธการที่ใช้ราชการอยู่เดิม ได้เสมือนเป็นระบบเดียวกันอีกด้วย
กองประชาสัมพันธ์ สำนักงานเลขานุการกองทัพเรือ
https://www.facebook.com/prthainavy
พิธีเปิดอาคารกองบัญชาการกองเรือดำน้ำ
ตอนนี้ก็รอเรือดำน้ำกันครับ (ช่วยกันท่องในใจว่า จงมาๆ) แต่การเตรียมความพร้อมในการก่อตั้งกองเรือดำน้ำผมคิดว่าในทางนึงเป็นก็เป็นการกดดันให้มีการจัดหาเรือดำน้ำมาใช้ในกองทัพเรือซะทีเหมือนกันนะครับ
ขอข้ามไปพิธีปล่อยเรือดำน้ำลำแรกลงน้ำเลยได้มั้ย....555