5 มิ.ย.57 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ประชาสัมพันธ์สำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม ได้แจ้งกำหนดการแถลงข่าววันที่ 6 มิ.ย.นี้ ภายหลังการประชุมหน่วยขึ้นตรง สำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม เรื่องความร่วมมือระหว่างกระทรวงกลาโหมไทย - จีน โดยมีรายงานว่า ก่อนหน้านี้กระทรวงกลาโหมจีนได้ทำหนังสือเชิญไทยไปเยือนอย่างเป็นทางการ โดย พล.อ.สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ รองปลัดกระทรวงกลาโหม ทำหน้าที่ปลัดกระทรวงกลาโหม พร้อมผู้แทน ผู้บัญชาการสูงสุด และผู้บัญชาการเหล่าทัพ จะเดินทางไปเยือนกระทรวงกลาโหมสาธารณรัฐประชาชนจีน ในวันที่ 11 - 13 มิ.ย.นี้ เพื่อสานต่อความร่วมมือด้านการทหาร การฝึกศึกษา และการพัฒนาด้านอาวุธยุทโธปกรณ์
แหล่งข่าวจากกระทรวงกลาโหม กล่าวว่า กระทรวงกลาโหมสาธารณรัฐประชาชนจีน ยังพร้อมสานต่อความสัมพันธ์ทางด้านทหาร เนื่องจากที่ผ่านมาประเทศไทย ทำหน้าที่เป็นผู้ประสานในประเด็นข้อพิพาททะเลจีนใต้เป็นอย่างดี เพราะนอกจากจะเป็นปัญหาระหว่างประเทศเวียดนาม และฟิลิปปินส์ ซึ่งเป็นประเทศในภูมิภาคอาเซียน ที่ทุกฝ่ายต้องการให้เกิดการเจรจากันอย่างสันติแล้ว ไทยยังทำหน้าที่เป็นผู้ประสานกับจีนในฐานะประเทศผู้ขัดแย้งนอกภูมิภาคอีกด้วย ทั้งนี้ จีนได้แสดงท่าทีเข้าใจปัญหาการเมืองในประเทศไทย และมองว่าเป็นปัญหาภายในประเทศ จีนไม่เข้ามาแทรกแซง
http://www.naewna.com/politic/106740
เพื่อนกิน .. มักจะมาในยามที่เรามั่งมี
เพื่อนแท้ .. มักจะมาในยามที่เราลำบาก
เพื่อนสวะ .. มักจะคอย ซ้ำเติม และ ย่ำยี หากเราพลาดพลั้ง
..ผมคิดแบบนี้น่ะ .. ขอบคุณ พี่จีนครับ
ส่วนผมมองว่าเป็นโอกาศและจังหวะมากกว่า ที่จะได้แสดงบทพระเอก....
เกมส์ซื้อใจ....
การวางตัวที่เหมาะสม...น้ันคือ หนทางที่ดีที่สุดในเวลานี้.. การเปิดเผยท่าที จนเกินไป อาจสร้างรอยร้าว ให้เกิดขึ้นในอนาคต..
สาวงาม... หย่อมเป็นที่หมายปองของหนุ่ม.. ยามแรก.. อยากได้อะไร เจ้าก็ได้.. ยามยอม.. เจ้าจะขออะไรเราก็ให้ .. เมื่อเจ้าได้สมใจแล้ว.. ยามน้ัน..เจ้าจะเห็น ธาตุแท้..ของ....
มันเป็น..แค่เกมส์พื้นๆ ที่เราควรระมัดระวัง ในการแสดงท่าที โต้ตอบอีกฝ่ายหนึ่ง และควรระมัดระวัง การตอบรับอีกฝ่ายหนึ่งอยากออกนอกหน้าเกินไป..
เพราะยังไง.. อเมริกา ก็ยังเป็นมิตรแท้ ที่คนไทยยังไว้ใจได้ดี กว่า จีน อย่างแน่นอน
ความสัมพันธ์ระหว่างไทย จีน ทางด้านการทหาร มีมานานแล้วครับ แต่ที่เปิดเผยและชัดเจนที่สุด ก็สมัยท่านพลเอกชวลิต ยงใจยุทธ ช่วงนั้นถือว่ามีความใกล้ชิดมาก เช่น ประมาณปี 2530 มีผู้นำระดับสูงของจีน ร่วมตรวจพลสวนสนามที่ พล.ร.9 ซึ่งน่าจะเป็นการสวนสนามด้วยยานยนต์ครั้งแรกเลยก็ว่าได้ แต่ในระดับนานาชาติ คงต้องมีการสงวนท่าทีไว้บ้าง เพราะ เราก็ยังมีปัญหาด้านความไว้วางใจกับเพื่อนบ้าน (บางประเทศ) และปัจจุบันจีนก็มีปัญหากับประเทศรอบ ๆ กับทะเลจีนใต้เกือบทุกประเทศเหมือนกัน จีนคงต้องการเพื่อนสนิท ซึ่งตรงนี้คงต้องคิดกันให้หนัก แต่ในระดับนโยบายของการเดินทางเยือนจีน น่าจะมีการพูดคุยหรือความร่วมมือในเรื่องบางเรื่องเพื่อคลายความกังวลก็อาจเป็นได้ครับ
สรุปว่าจีนยังไม่ทิ้งเรา แต่ถ้าไปเยือนรัสเซียด้วยนะ งานนี้ไทยเราคงมีเฮ(ในทางบวกแน่นอน) อันนี้จินตนาการเอง เพราะ 2 ประเทศอย่างจีน-รัสเซียเคยเตือนสหรัฐและอียูแล้วว่าอย่าแทรกแซงกิจการภายในประเทศ 555+
แค่การไปเยือน...มันหมายถึงเพื่อนแท้ตรงไหน?
เทียบกัน จีน กับอเมริกา ก็ไม่แตกต่างเท่าไหร่....มันเป็นเรื่องของชาติมหาอำนาจ กับชาติที่เล็กกว่าซึ่งเอาเข้าจริงๆผลประโยชน์มันต้องลงล็อค มันถึงจะจูบปากกันได้สนิทใจ ที่ว่าเขาใจป๋า ลดแลกแจกแถม เขามองผลประโยชน์ในอนาคตไว้แล้วเหมือนที่ท่านสมาชิกอีกท่านบอกนั่นแล..ว่าเหมือนจีบสาว มีช่วงโปรฯ ช่วงหมดโปรฯ เป็นธรรมดา
เพราะถึงจะโซซัดโซเซยังไง...พี่ไทยก็ยังเป็นขาใหญ่ในอาเซียน..ในแง่ปัจจัยพื้นฐานต่างๆ ตอนนี้เราก็เหมือนคนที่ร่างกายแข็งแรง แต่กำลังป่วย พอหายก็กลับมาแข็งแรงเหมือนเก่า เทียบกับบางชาติชาติอื่นอาจเป็นคนพิการด้วยซ้ำ
อันที่จริงกลาโหมสหรัฐเคยวิเคราะห์ไว้ ว่าหากสหรัฐต้องมีสงครามในภูมิภาคอาเซียน ควมาสูญเสียที่กองทัพสหรัฐจะได้รับนั้นจะมากกว่าตะวันออกกลางหลายเท่า อาวุธของประเทศในอาเซียนก็มีจำนวนและความทันสมัยที่จัดว่าอันตรายต่อการปฏิบัติงานมาก รวมถึงภูมิประเทศที่มีทั้งป่าทึบ ภูเขาสูง ทะเลเปิด หมู่เกาะน้อยใหญ่
ดังนั้น การเข้ามามีอิทธิพลในภูมิภาคนี้ได้ย่อมหมายถึงการลดความเสี่ยงของตนเองหากมีความจำเป็นต้องปฏิบัติการ ไหนจะเรื่องเศรษฐกิจที่มีผลประโยชน์มากมายในภูมิภาครอให้มหาอำนาจทั้งหลายตักตวง..แล้วใครละจะเป็นสะพานเชื่อมอาเซียนได้ดีเท่าไทย ผมไม่ได้คลั่งชาตินะแต่ ใน 10 ประเทศมันมองไม่ออกจริงๆ แม่แต่อเมริกาที่ควรจะมีท่าทีมากกว่านี้กับสถานการณ์ในไทยยังวางตัวแบบกั้กๆ เลย
ถ้าจำเป็นจริงก็แก้ขัดพอได้ครับ ในช่วงปีที่ถูกแช่แข็ง พอปลดล็อกก็กลับไปเหมือนเดิม
คงไม่ถึงขั้นล้มของเดิมหรอกมั้งครับ แต่อาจจะได้ดีลในจุดที่เรายังไม่มีจริงๆ
หรือในจุดที่เราต้องการได้knowhow ด้วย อย่างพวกจรวดต่างๆ
ผมเห็นชอบกับท่าทีของทางการไทยในขณะนี้ อเมริกาเองเสียอีกที่ต้องทบทวนท่าทีของตนเอง
1) ไทยไม่โต้ตอบ หรือแสดงท่าทีแข็งกร้าวต่อคำแถลงของอเมริกา แต่ "ขอให้เข้าใจ และเชื่อมั่น... "
2) ไม่โต้ตอบทางวาจา/สื่อ แต่การกระทำชัดเจนว่า เมื่อท่านไม่อยากสุงสิงกับเรา เราก็ไม่ว่า แต่ชีวิต/เศรษฐกิจ/การพัฒนาเพื่อคนไทยต้องดำเนินต่อไป กับใครก็ตามที่มีความสนใจและประสานผลประโยชน์ลงตัวกับไทย
อเมริกาต่างหากที่ตอนนี้ ยักตื้นติดกึก ยักลึกติดกัก เพราะการร่วมมือต่างๆกับไทยจะชะลอลงไป ทั้งเพนตากอนและไวท์เฮาส์รู้ดี แต่การปฏิบัติ "อย่างเป็นทางการ" ก็ต้องเป็นอย่างที่เราเห็นๆกัน.... แต่ทางลึก/ทางลับ ประตูยังเปิดอยู่... ชิมิ
อเมริกา.. เค้าก็ทำยังงี้..ทุกครั้งละครับ... ยังไม่ชินอีกหรอ... เรื่องการเมืองระหว่างประเทศอย่าใช้อารมณ์เป็นตัวกำหนดนโยบายเด็ดขาด..อันตราย.. มากๆ
ดูๆ ไปแล้ว มีโอกาสไม่น้อย ที่รถถังเรา.. อาจจะ เป็น สัญชาติจีน หรือไม่ก็ รัฐเซีย ... หรือเปล่า..
ส่วนท่าน soda77 เรื่องเจิ้งเห่อ.. ผมไม่แน่ใจว่าท่านต้องการสื่ออะไร กับเพื่อนสมาชิก.. ถ้าดูตามเอกสารเป็นเรื่องความสัมพันธ์ไทย-จีน กว่า 600 ปี
- เท่าที่ผมทราบ.. เจิ้งเห่อ น้ัน เคยเคลื่อนทัพเรือ มายังกรุงศรีอยุธยา น้ันหลายคร้ังด้วยกัน.. ด้วยเหตุที่ พื้นที่ตรงน้ันของเราเป็นเมืองท่า ค้าขายมาแต่โบราณกาล.. ต้ังแต่สมัยยุคทราวดี เมื่อ เจิ้งเห่อ มาถึง ด้วยนิสัยใจคอ แบบ ไทย คือ อ่อนน้อม เป็นมิตร ทำให้ เจิ้งเห่อ น้ันไม่คิดจะยึด หรือทำลาย เนื่องจากเรา ไม่ได้มีท่าที ก้าวร้าว เหมือนกับเมืองอื่นๆ ที่ผ่านมา และเราก็ยินดีที่จะส่งเครื่องราชบรรนาการ ต่างๆ ไปให้ทางพระเจ้าเมืองจีน.. และบางเอกสาร ยังมีการกล่าวอ้างด้วยว่า ด้วยที่พระเจ้าอู่ทอง สามารถสถาปนากรุงศรีอยุธยา ได้ และปลดแอก จาก เขมร และสุโขทัย ในสมัยน้ัน ด้วยกำลังทหาร ของเจิ่งเห่อ สนับสนุน อยู่ ด้วยพบเอกสาร ที่เราได้ส่งราชทูตเดินทางไปยังเมืองจีน ก่อนที่เจิ่งเห่อจะยกทัพเรือมาแถวนี้
ยุคของเจิ่งเห่อ ก็คล้ายกับจีนในช่วงนี้ .. เป็นช่วงที่จีนพร้อมที่จะแสดงแสนยานุภาพ และขยายอำนาจ ไปสู่ดินแดนที่ จีนไม่เคยเดินทางไปถึง..
เห็นด้วยกับท่าน sam ครับ... หากช่วงนี้พี่จีนเล่นบทพระเอก เอาใจเราเป็นพิเศษ เราก็เก็บเกี่ยวให้ได้มากที่สุดกับสิ่งที่เขามี เช่น เราอาจจะซื้อรถถังจีน (Type 90 หรือ MBT 2000) ในราคามิตรภาพ ซักจำนวนหนึ่งพร้อมถ่ายทอดเทคโนโลยี่ (บางท่านร้องยี้... ไม่เข็ดอีกหรือ กับ Type-69-II ) แต่เราต้องเริ่มทันที! กับอุตสาหกรรม "ต้นน้ำ" เช่น รง.ถลุงเหล็ก.. ฉะนั้น ความหมายของผมก็คือ เมื่อถึงวันนั้น เราจะได้เทคโนฯเขา(ซึ่งไม่ขี้เหร่) บวก วัสดุเรา(ซึ่งถ้าเราผลิตเองได้แล้ว จะเอาเกรดดีแค่ไหน เราเลือกได้..)
ป.ล. ก็รู้ครับว่าต้องใช้เวลาและปัญหามากมาย แต่ถ้าไม่เริ่ม ก็ไม่เกิด ส่วนตัวผมว่าเราดูดีกว่าเกาหลีเยอะ (องค์รวม) เค้ายังพัฒนาจากประเทศที่ย่ำแย่ ยากจน คนเป็นโปลิโอมากมาย(ในตอนนั้น) มาเกรียงไกรในเวทีอุตสาหกรรมโลกได้เลย เอาใจช่วยไทยแลนด์ครับ..
เค้ามาดูเรื่องผลประโยชน์ทางการค้านั้นแหละ ช่วงนี้เราซื้อของเมกากับยูโรปยาก พี่จีนก็เลยมารอเสียบ เรื่องมีอยู่แค่นี้ไม่ต้องคิดเยอะครับ
ประเด็นคือประโยคที่ท่าน pornpoj บอกว่า "อเมริกา คือ มิตรแท้" นี่แหละครับ ลองไปอ่านคำสัมภาษณ์ของ "นางซูซาน ไรซ์" ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติ ของปธน.บารัค โอบามา ที่ยอมรับว่ารัฐบาลสหรัฐ(ที่โกหกมาตลอด)ได้ให้การสนับสนุน "ความช่วยเหลือทางการทหาร" ให้แก่ฝ่ายต่อต้านรัฐบาลซีเรีย โดยประโยคเด็ดก็คือ "เราจำเป็นต้องทำทุกวิถีทางเพื่อให้แน่ใจว่าความเป็นไปในซีเรีย จะดำเนินไปในทิศทางที่สอดคล้องกับผลประโยชน์ของอเมริกา" นี่เหรอครับการกระทำของ มิตรแท้....!!!
ไม่มีมิตรแท้และศัตรูที่ถาวร สำหรับการเมืองระหว่างประเทศ... ผลประโยชน์ของประเทศใครประเทศมันเท่าน้ัน คือ มิตรแท้ที่ถาวร
...เรื่องความสัมพันธ์ไทยอเมริกา ไม่ต้องซีเรียส..เดียวก็กลับมาปกติ.. ส่วนความสัมพันธ์ไทย-จีน ก็ดำเนินไปเป็นปกติอย่างนี้มาต้ังนานแล้ว
คนที่กลัวจีนจะเข้ามายึดครองดินแดนแถบนี้มากที่สุด...ไม่ใช้อเมริกา นะครับ... แต่คนที่กลัวที่สุดก็คือ กองทัพไทย ต่างหาก เพราะที่ผ่านมาในอดีต จีน พยายามขยายอิทธิพลในหลากหลายรูปแบบ โดยใช้ การทูตและเศรษฐกิจ นำ แต่กองทัพ มองเกมส์พวกนี้ออกตลอด แต่คนที่ไม่เคยมองสิ่งเหล่านี้ออกเลย ก็คือรัฐบาล... ถนนเชื่อมต่อระหว่าง ไทย-จีน มีการพยายามที่เชื่อมเส้นทางต่างๆ เหล่านี้ มากว่า 50 ปีแล้ว แต่หน่วยงานที่ออกมาโต้แย้งตลอด ก็คือ กองทัพ ... เพราะอะไร ก็ลองกลับไปคิดดูกันเอาเองนะครับ....
ณ ปัจจุบันนี้ ผลประโยชน์ของประเทศเรา ยังเอื้ออำนวย ที่จะต้องผูกมิตร กับโลกเสรีอยู่ แต่ถ้า อนาคต องค์ประกอบหลายอย่างเปลี่ยนไป เราก็อาจต้องไปจูบปาก พี่เบิ้มคนใหม่ อย่างจีน ก็ได้ เพื่อความอยู่รอดของลูกหลานไทย... ..
แต่ถ้าเรารีบจูบปากเร็วไป.. ก็ให้นึกถึง ตอนสงครามมหาเอเชียบูรพา.. ผลแห่งการเลือกข้างผิด..เราต้องชดใช้ด้วยการเสียดินแดน...
จริงแล้ว เรา เลือกได้ นะ.. ถ้หาก ไม่ขาดความต่อเนื่อง แต่นี้ เอา แต่ซื้อเอง....