ความคิดผมน่ะน่าเอา ดำ แบบฝึกมาสัก 2 ลำเพื่อฝึกกำลังผลให้คุ้นเคยกับ ร.ดำ ก่อนน่าจะดีกว่าไหม เพราะที่ผมพอทราบมากำลังผลฝ่าย ร.ดำของเราห่างจากการใช้ ร.ดำ มานานมากพอสมควร

ไม่ครับ  

ทร.กำลังจัดหาเรือฟริเกตจากเกาหลีใต้2ลำในวงเงินเกือบ3หมื่นล้าน เรือดำน้ำคงต้องรอจ่ายเงินเรือ2ลำนี้ใกล้หมดก่อนถึงจะพอสู้ไหว ก็คงอีกซักพักใหญ่ๆหละครับอย่างน้อยก็5ปีกว่าจะเริ่มต้นโครงการ ประกวดราคาไอ้โน่นไอ้นี่ไปเรื่อยครบ10ปีพอดีเรือลำแรกแตะน่านน้ำไทย

ถ้าเป็นเรือจีน อาจจะราคาลำละไม่กี่พันล้านบาทก็ได้นะครับ

ผมคิดว่าถ้าราคาไม่แพงนัก ประมาณไม่เกินหมื่นล้านก็เอามาสัก 1 ลำ ทดลองใช้ดู ประเทศอื่นเค้าก็ซื้อของจีนไปใช้ได้ เราก็น่าจะใช้ได้ถึงแม้จะปลอดภัยสู้ของตะวันตกไม่ได้แต่ก็คงใช้ได้ปลอดภัยดีกว่าเรือดำน้ำสมัยสงครามโลกที่เราเคยมี ครับ

ตัวเรือดำน้ำอาจจะไม่แพงครับ แต่สิ่งที่จะเป็นการลงทุนที่สูงตามมาคือระบบสนับสนุนอื่นๆ เนื่องจากว่าหากเราใช้เรือดำน้ำจีน (โดยไม่มีการปรับปรุงระบบใดๆ) เราก็จะต้องใช้ตอร์ปิโดจีน ระบบสนับสนุนท่าเรือ(น้ำ-ไฟ-น้ำมัน)จีน อะไหล่จีน เครื่องฝึกจีน และอื่นๆ อีกมาก ซึ่งหากมีการเปลี่ยนแบบเรือ/ค่ายผู้ผลิตเรือในภายหลังก็จะต้องเปลี่ยนระบบดังกล่าวเกือบทั้งหมด แม้กระทั่งเรือค่ายเดียวกัน 2 รุ่น ยังต้องมีระบบรองรับอื่นๆ เป็น 2 เท่า ตัวอย่างเช่น ทร.เยอรมันที่จำเป็นต้องปลดระวางประจำการเรือชั้น 206A ก่อนเวลา เนื่องจากไม่ต้องการแบบรับค่าใช้จ่ายและระบบสนับสนุนเรือดำน้ำ 2 รุ่นในเวลาเดียวกัน ดังนั้นความคิดที่ว่าเอาของถูกมาฝึกก่อน แล้วค่อยซื้อของดีทีหลัง อาจจะมีความยุ่งยากมากกว่านั้น

เรื่องนี้เคยมีอดีตผู้บังคับการเรือดำน้ำฝรั่งเศส ที่ปัจจุบันทำงานอยู่กับบริษัท DCNS ได้ให้ข้อสังเกตไว้ในงานแสดงอาวุธงานหนึ่งว่าการลงทุนกับเรือดำน้ำเป็นการลงทุนระยะยาว และประเทศที่มีงบประมาณไม่มากมีแนวโน้มที่จะติดอยู่กับเรือดำน้ำรุ่นนั้นไปอีกเป็นเวลานาน และในความเห็นส่วนตัวของผมข้อสังเกตดังกล่าวอาจเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้โครงการเรือดำน้ำไทย "ไม่เกิด" เสียที เนื่องจากบริษัทผู้ผลิตและบริษัทนายหน้าทั้งหลายต่างไม่มีใครยอมใครเพราะรู้ตัวว่าหาก ทร.ตัดสินใจกับเรือดำน้ำแบบใดแบบหนึ่งไปแล้ว แทบจะเรียกได้ว่าหมดโอกาสสำหรับเรือดำน้ำแบบอื่น/ค่ายอื่นเป็นอีกเป็น 10 ปีขึ้นไป เพราะเราคงไม่มีงบประมาณเพียงพอที่จะลงทุนกับระบบสนับสนุนเรือดำน้ำ 2 แบบในเวลาเดียวกันได้

--- แก้ไขเพิ่มเติม ---
ขอเพิ่มเติมว่าประเด็นของผมไม่ได้จะบอกว่าเรือดำน้ำจีน ตอร์ปิโดจีน อะไหล่จีน เป็นของไม่ดีนะครับ แค่อยากจะสื่อว่าการจัดหาเรือดำน้ำจากที่ใดที่หนึ่ง ถึงแม้ว่าจะมาแค่ลำสองลำ ก็จะต้องมีการลงทุนอื่นๆ ตามมา ซึ่งเป็นการลงทุนระยะยาวและไม่สามารถเปลี่ยนไปเปลี่ยนมาได้ง่าย ดังนั้นจึงต้องมองเรื่องความคุ้มค่าและการใช้งานในระยะยาวด้วย
 

ทร. มีปัญหาด้านงบประมาณในการจัดซื้อเรือดำน้ำทำให้โอกาสซื้อเรือดำน้ำใหม่จากประเทศตะวันตกเป็นไปได้ยาก ทางเลือกในการมีเรือดำน้ำจึงเหลือน้อย แถมความจำเป็นต้องมีเรือดำน้ำก็สูงมาก  ดังนั้นถ้ากำหนดว่าจะมีเรือดำน้ำใน 10 ปี ผมคิดว่าทำได้คือ 

1. เรือดำน้ำใหม่จากจีน เพราะราคาถูก คุณภาพพอยอมรับได้  เจ้าของยินดีขาย สามารถต่อรองแลกเปลี่ยนกับสินค้าของไทยได้ (ทำให้สามารถขอจากรัฐบาลได้ง่าย) สามารถต่อรองในการปรับปรุงเล็กน้อยๆเพื่อให้ใช้กับระบบของไทยได้  (อิงระบบนาโต้) เช่น ระบบสื่อสาร ระบบส่งถ่ายข้อมูลต่างๆ ซึ่งตรงนี้ผมว่าสวีเดน กับเยอรมันช่วยเราได้ และผมว่าจีนน่าจะยินดีเพราะจะได้ความรู้จากประเทศตะวันตกด้วย

2. เช่าเรือดำน้ำเก่าจากมิตรประเทศที่อยากขายเรือให้เรา เช่น สวีเดน เกาหลีใต้  ซึ่งแน่นอนว่าในอนาคตถ้าซื้อเรือใหม่ก็จะต้องมาจากประเทศนี้ด้วย

ถ้าจำไม่ผิด ยุโรป (ไม่แน่ใจว่า NATO หรือ EU) มีข้อห้ามเรื่องการขายอาวุธและการถ่ายทอดเทคโนโลยีอาวุธให้จีนนะครับ เนื่องจากเหตุผลเรื่องสิทธิมนุษยชน เหมือนสมัยตอนที่ต่อเรือ ตกก.ชุด ร.ล.ปัตตานี จากจีน แต่ใช้ระบบอำนวยการรบของ ATLAS ถึงแม้ลูกค้าที่สั่งซื้อจะเป็นไทย แต่ตอนนั้นติดตั้งได้แค่ hardware ในจีน ต้องมาลง software หลังจากที่เรือออกพ้นน่านน้ำจีนไปแล้ว

ดูแล้วท่านมีโม คงไม่อยากได้เรือจีน... ของเกาหลี น่าจะยอมรับได้ท้ังเรื่องราคาและคุณภาพ 

ไอ้เรื่องถ่ายทอดเทคโนโลยี่ให้ ถ่ายมาก็ไม่มีเงินลงทุน ไม่มีเงินสร้างอยู่ดี เพราะลงทุนไปก็ขาดทุน สำหรับเรือดำน้ำ scale มันน้อย

จะผลิตขายให้ประเทศอื่น ก็ลำบาก ตัดใจซื้อของดี ใช้กันยาวๆ สัก 30 ปี ก็น่าจะโอเค เอาเงินลงทุนที่จะต้องสร้างโรงงานผลิตไปพัฒนาจรวดรุ่น ต่างๆ ของ dti ดีกว่า  

จัดไปครับ  เยอรมัน  ถ้าราคาสูงไป ก็ เกาหลี  ส่วนตัวที่กำลังน่าสนใจมากๆ ก็ saab แต่ยังไม่รู้ว่าค่าตัวเท่าไร ถ้าแพงกว่า เกาหลีไม่มาก ก็ถือว่า น่าสนใจมาก.... ฝากท่าน มีโม บอกต่อด้วย... ถ้าเรือดำน้ำ  ของจีน ก็ให้จีนเค้าใช้ไปก่อน  ไทยนะ..ไม่เหมาะหรอก ถ้าเทียบราคาต่ออายุการใช้งานแล้ว ยังไง ก็สู้ของ เยอรมัน เกาหลี Saab ไม่ได้  ยกเว้น รัฐบาลถังแตก จริง ๆ ได้อะไร ก็รับๆๆๆไว้ แล้วกันครับ

ผมคิดว่าถ้าเราอยากได้จริงๆ

เป้าหมายแรก  ขอเช่าซื้อเรือดำน้ำที่ประจำการอยู่แล้วจากทางสวีเดน 1 ลำ  ทางสวีเดนน่าจะยอมเพราะก่อนหน้านี้ยังยอมให้สหรัฐเช่าฝึกปราบเรือดำน้ำเลย

ถ้าไม่ได้ก็เป็นเป้าหมายที่สอง  เช่าซื้อเรือดำน้ำเกาหลีใต้ U209  1 ลำ  ซึ่งทางเกาหลีมีรุ่นนี้ 9 ลำ  แบ่งมาให้ไทย 1 ลำ (เพื่อหวังเป็นลูกค้าอีกในอนาคต) คงไม่เสียหาย  อีกอย่างเกาหลีมีรุ่นใหม่กว่าอยู่แล้วคือ U214  จึงยิ่งไม่น่าหวง U209 เก่ามากนัก

เข้ามายืนยันอีกรอบนะครับ ว่าผมไม่ได้คิดว่าของจีนไม่ดี แต่ต้องการจะสื่อว่าการจัดหาเรือดำน้ำเป็นการลงทุนระยะยาว และแนวคิดที่ว่าจะซื้อเรือจีน 1 ลำ มาฝึกก่อนปีนี้ อีก 2 ปีซื้อเรือเกาหลีอีกลำ อีก 2 ปีซื้อเรือฝรั่งเศส อีก 2 ปีซื้อเรือสวีเดน มันไม่เวิร์คครับ ถ้าซื้อเรือจีนก็ต้องอยู่กับระบบจีนไปอย่างน้อย 10 ปี (กรณีเรือมือ 2) หรือ 20-30 ปี (กรณีเรือใหม่) ซึ่งถ้าหารราคาออกมาแล้วอาจจะคุ้มก็ได้

ส่วนทางเลือกเรื่องการเช่าซื้อก็น่าสนใจนะครับ ถ้าเขาสนใจจะให้เราเช่าซื้อด้วย ในกรณีสวีเดนที่เคยให้สหรัฐฯ เช่าเรือไปฝึกปราบเรือดำน้ำ คือสวีเดนให้เช่าพร้อมกำลังพลประจำเรือด้วย ไม่ได้ไปแค่เรือเปล่าๆ แต่การจะเช่าแค่ตัวเรือหรือเช่าทั้งเรือทั้งคนก็คงขึ้นอยู่กับการเจรจาครับ

ไม่สนใจสำนี้กันบ้างหรือครับ เรือ ส. ชุดแรกก็มาจากประเทศนี้นะครับ เผื่อว่าพี่น้องจะคลานตามกันมาก็ได้นะครับ

ถามว่าสนมั้ยตอบว่าสนครับ แต่คาดว่าคงไม่มีปัญญาซื้อเพราะของญี่ปุ่นขึ้นหิ้งไปแล้วว่าแพงกว่าเจ้าอื่นๆครับ