กองทัพอากาศเตรียมเข้าร่วมการฝึกผสม AIR THAMAL 2014 ณ ประเทศมาเลเซีย
กองทัพอากาศ และกองทัพอากาศมาเลเซีย กำหนดจัดการฝึกผสม AIR THAMAL 24/2014 ระหว่างวันที่ ๔ – ๑๗ พฤษภาคม ๒๕๕๗ โดยมี นาวาอากาศเอก นภาเดช ธูปะเตมีย์ รองเจ้ากรมยุทธการทหารอากาศ เป็นผู้อำนวยการ กองอำนวยการฝึกผสม AIR THAMAL 24/2014 (ฝ่ายไทย) และนาวาอากาศเอก สุรี บิน โมฮัมมัด ดาอุด เป็นผู้อำนวยการ กองอำนวยการฝึกผสม AIR THAMAL 24/2014 (ฝ่ายมาเลเซีย) ณ ฐานทัพอากาศ Butterworth ประเทศมาเลเซีย
การฝึกผสม AIR THAMAL เป็นการฝึกปฏิบัติการทางอากาศยุทธวิธีผสมระหว่างกองทัพอากาศและกองทัพอากาศมาเลเซีย โดยดำเนินการฝึก เพื่อเตรียม และสนับสนุนการปฏิบัติการ บริเวณชายแดนไทย - มาเลเซีย ภายใต้การกำกับดูแลของคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค เริ่มการฝึกครั้งแรกเมื่อเดือนมีนาคม ๒๕๒๕ เรียกการฝึกว่า AIR THAMAL I โดยวางกำลังอากาศยานที่ร่วมการฝึก ณ ฐานทัพอากาศ Butterworth ประเทศมาเลเซีย และการฝึกครั้งต่อมาทำการฝึก ณ กองบิน ๕๖ หาดใหญ่ ในเดือนมีนาคม ๒๕๒๖ เรียกการฝึกครั้งนี้ว่า AIR THAMAL II ถือเป็นการฝึกกันทุกปี ผลัดเปลี่ยนกันเป็นเจ้าภาพ ครั้นในปี ๒๕๓๗ ได้มีการปรับปรุงวาระการฝึกของทั้งสองประเทศใหม่เป็นการฝึกแบบปีเว้นปี จนกระทั่งในปี ๒๕๔๐ เกิดปัญหาวิกฤติเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีผลให้จำเป็นต้องจัดความถี่ด้านการฝึกเป็นปีเว้นสองปี แต่ยังคงผลัดกันเป็นเจ้าภาพเช่นเดิม ในปัจจุบันการฝึกได้เปลี่ยนเป็นจัดทุกปี โดยยังคงผลัดกันเป็นเจ้าภาพ
AIR THAMAL มีวัตถุประสงค์ เพื่อเป็นการเพิ่มพูนความรู้ ความสามารถ และประสบการณ์ของนักบินในการปฏิบัติการทางอากาศผสมของทั้งสองประเทศ เพื่อให้มีความเข้าใจในขั้นตอนการปฏิบัติส่วน Combined Air Headquarters (CAHQ) และ Combined Air Operations Center (CAOC) เป็นไปในแนวทางเดียวกัน ตลอดจนเป็นการกระชับและเพิ่มพูนความสัมพันธ์ความร่วมมือ และความเข้าใจอันดีระหว่าง เจ้าหน้าที่กองทัพอากาศและกองทัพอากาศมาเลเซีย
ในส่วนของการฝึกการปฏิบัติการทางอากาศร่วมกัน กำหนดการบินประกอบกำลังขนาดใหญ่ (LFE) อาทิ การบินขับไล่ขั้นมูลฐานกับ บ.ต่างแบบ, การบินรบในอากาศกับ บ.ต่างแบบ, การบินตอบโต้ทางอากาศเชิงรุก, การบินตอบโต้ทางอากาศเชิงรับ และการค้นหาและช่วยชีวิตในพื้นที่การรบ โดยจัดอากาศยานต่างๆ เข้าร่วมการฝึก ประกอบด้วย
กองทัพอากาศ
เครื่องบินขับไล่แบบที่ ๑๘ ข/ค (F-5 E/F) จากฝูงบิน ๒๑๑ กองบิน ๒๑ จำนวน ๖ เครื่อง
กองทัพอากาศมาเลเซีย
เครื่องบินขับไล่แบบ HAWK จากฝูงบินที่ ๖ และฝูงบินที่ ๑๕ จำนวน ๖ เครื่อง
เครื่องบินขับไล่แบบ MiG-29 จากฝูงบินที่ ๑๗ จำนวน ๔ เครื่อง
เฮลิคอปเตอร์ค้นหาช่วยชีวิตแบบ SK-61 NURI จากฝูงบินที่ ๓ จำนวน ๑ เครื่อง
นอกจากนี้ยังจัดการปฏิบัติร่วมกันในส่วนอื่น เช่น การสังเกตการณ์การฝึกการค้นหาและช่วยชีวิตในพื้นที่การรบ ของเจ้าหน้าที่กรมปฏิบัติการพิเศษ หน่วยบัญชาการอากาศโยธิน และการปฏิบัติการด้านกิจการพลเรือนร่วมกันในวันที่ ๑๔ พฤษภาคม ๒๕๕๗
และระหว่างวันที่ ๑๔ – ๑๖ พฤษภาคม ๒๕๕๗ กองทัพอากาศ ยังได้จัดเครื่องบินขับไล่และฝึกแบบที่ ๑ (L-39 ZA/ART) จำนวน ๒ เครื่องจากฝูงบิน ๔๐๑ กองบิน ๔ พร้อมนักบินและเจ้าหน้าที่สนับสนุนการบิน และเครื่องบินขับไล่และฝึกแบบที่ ๑ (L-39 ZA/ART) จำนวน ๒ เครื่องจากฝูงบิน ๔๑๑ กองบิน ๔๑ พร้อมนักบินและเจ้าหน้าที่สนับสนุนการบิน บินเดินทางแลกเปลี่ยนการวางกำลังของเครื่องบินขับไล่ (FCD) ณ ประเทศมาเลเซีย
อนึ่ง ในวันที่ ๑๖ พฤษภาคม ๒๕๕๗ กำหนดพิธีปิดการฝึก ฯ โดยมี พลอากาศเอก ประจิน จั่นตอง ผู้บัญชาการทหารอากาศ ร่วมเป็นประธานในพิธีฯ ทั้งนี้ ยังได้กำหนดให้มีพิธีประดับเครื่องหมายความสามารถในการบินชั้นกิตติมศักดิ์ของกองทัพอากาศ ให้แก่นายทหารอากาศมาเลเซีย และประดับเครื่องหมายความสามารถในการบินชั้นกิตติมศักดิ์ของกองทัพอากาศมาเลเซีย ให้นายทหารอากาศไทย
เครดิต:https://www.facebook.com/rach2511?fref=nf (คุณ รัชต์ รัตนวิจารณ์)
ขอถามเพิ่มเติมนะครับว่า F-5E/F ของกองทัพอากาศไทย มีไม้เด็ด ไม้ตาย อะไรที่พอจะรับมือกับ Mig-29 ของกองทัพอากาศมาเลเซียได้บ้างครับ......... ขอบคุณครับ
ผมไม่แน่ใจ แต่เคยได้ยินว่า mig 29 ถูกสร้างมาเพื่อต่อกรกับ f 16 น่ะครับ (ผิดขออภัย) ดังนั้นน่าจะถือว่าคนละยุค F 5 น่าจะซดกับ mig 21 มากกว่า
F-5 ของเรามีไม้เด็ดคือ python-4 และหมวกเล็ง DASH ด้วย ซึ่งถ้านับกันว่าในการรบจริงๆ ลูกยาวแทบไม่มีส่วนก็ถือว่าของเราสู้กับรุ่นแรกๆ ได้ และได้เปรียบขนาดที่เล็กกว่า แต่ถ้ารุ่นหลังๆ พวก mig-35 ก็ไม่ไหวเหมือนกัน ยิ่ง F-5 แต่ลำที่เหลือในโลกต่อให้อัพเกรดแค่ไหนก็กรอบ กร๊อบ กรอบแล้ว ดังนั้นที่เคยดึงแรงจีสูงๆ เฉี่ยวๆ เก้า ก็เหลือแค่ห้าอะไรประมาณนั้น
ถ้าเอฟห้าเดิมๆ คือยิงจรวดไม่นำวิถีก็หงายเงิบลูกเดียวล่ะครับงานนี้ เพราะอย่างที่ท่านข้างบนว่าไว้ครับว่า เครื่องมันคนละยุคกัน มิก 29 ออกมาในยุคเดียวกับ f-16
ส่วน f-5 ต้องคู่กับ mig-21 ซึ่งทั้งคู่ถือเป็นเครื่องบินยอดฮิตแห่งยุคเนื่องจากราคาไม่แพง ทำให้พี่เบิ้มของทั้งสองค่ายสามารถนำมาแจกจ่ายโดยไม่เสียดายตังมาก และไมต้องมาเสี่ยงกรณีลูกน้องกลับฝ่าย เช่นนักบินเวียดนามใต้บินเครื่อง f-5 ไปเข้าพวกเวียดนามหน้าตาเฉย ขืนตอนนั้นเมกาเอา phantom ไปให้เวียดนามใต้อาจมีซวย โดยเฉพาะสมัยสงครามเย็นนี่ บินหนีไปอีกประเทศกันบ่อยมาก ไปตัวเปล่านี่จะไม่ว่าเลย เล่นเอาเครื่องบินรบไปด้วย ฮา
...เมื่อวานนี้ (๘ พฤษภาคม ๒๕๕๗) ทหารอากาศไทย และทหารอากาศมาเลเซีย ทำการฝึกร่วมกันภายใต้ชื่อ AIR THAMAL 2014 ณ ฐานทัพอากาศบัตเตอร์เวิร์ด โดย ทอ.ไทย ส่ง เครื่องบินขับไล่แบบที่ ๑๘ ข/ค (F-5 E/F) จากฝูงบิน ๒๑๑ กองบิน ๒๑ อุบลราชธานี เข้าร่วมประลองยุทธเวหา และฝึกร่วมกับ บ.ต่างแบบ กับเครื่องบินขับไล่แบบ MiG-29 จากฝูงบิน ๑๗ ของกองทัพอากาศมาเลเซีย
ภาพโดย ผู้กอง Jar Jirayu
---รัชต์ รัตนวิจารณ์---
https://www.facebook.com/media/set/?set=oa.675339632521200&type=1