หน้าแรก    ตั้งกระทู้ใหม่   ตอบคำถาม    เข้าสู่ระบบ      


ความคืบหน้า DTI-1G ล่าสุด

โดยคุณ : Phu2000 เมื่อวันที่ : 07/04/2014 10:34:46

ขอตั้งกระทู้ใหม่นะครับ

#BEIJING, -- The Royal Thai Army is considering the purchase of two new types of multiple rocket launcher systems from China, according to the Canada-based Kanwa Defense Weekly.

Kanwa said Thailand is likely to import WS-1B and WS-32 launchers from China, which will be renamed the DTI-1 and the DTI-1G respectively. The striking range of the two systems are 180 and 150km respectively.

In addition to the rocket systems, Thailand has also signed a contract with China to connect its DTI-1G with the Beidou Navigation System, according to the report. The satellite system can ensure an accuracy to within 50 meters of their target.

Thailand originally planned to assemble six DTI-1G multiple rocket launchers domestically under license from Beijing. Now, the Royal Thai Army has decided to introduce one DTI-1 directly from China and assemble another domestically. The number of DTI-1Gs on hand will drop to three.

(PHOTO) Chinese WS-32 400mm Guided MLRS Multiple Launch Rocket System.

จาก Asean Military Defense Review

สรุป

DTI-1GคือWS-32เวอร์ชั่นเปลี่ยนsoftwareบางอย่างของจีนเป็นไทย พร้อมผลิตในประเทศ

- 400mm
- 6ท่อยิง
- ระยะยิง150กิโล
- นำวิถีด้วยระบบดาวเทียม Beidou Navigation System ของจีน คลาดเคลื่อนไม่เกิน50m

แต่เหลือแค่3ระบบเอง น้อยจังแฮะ





ความคิดเห็นที่ 1


ขอลองเทียบระหว่าง Iskander กับ WS-32(DTI-1G)ดูครับ

iskander-m

Ws-32(DTI-1G)

โดยคุณ Nakarin เมื่อวันที่ 31/03/2014 19:00:02


ความคิดเห็นที่ 2


งานนีั้ต้องมานั่งพัฒนาดาวเทียมอีกรอบ ในอนาคตดาวเทียมทางทหารจะมีขนาดเล็กลง ของไทยตอนนี้ก็มีดาวเทียมไทยพัฒน์ขนาดน้ำหนัก 50 kg สร้างขึ้นในประเทศไทย

http://www.space.mict.go.th/knowledge.php?id=thaipat



โดยคุณ sam เมื่อวันที่ 31/03/2014 19:47:35


ความคิดเห็นที่ 3


PINOY  ร้องลั่นเพจ ASEAN DEF เลยฮ่าๆ นี่มันเพจ PINOY ชัดๆ

โดยคุณ FiTaLipz เมื่อวันที่ 31/03/2014 21:18:35


ความคิดเห็นที่ 4


คล้ายๆกับตัวนี้เลย https://www.youtube.com/watch?v=KI8kltrjqVE 

โดยคุณ armmawav เมื่อวันที่ 31/03/2014 21:46:05


ความคิดเห็นที่ 5


ดาวเทียมไม่ต้องพัฒนาเองหรอกครับ คิดว่าไทยทำระบบ navigation system ได้เองทั้งระบบเหรอครับ เราก็ใช้ GPS ของอเมริกาไป

เพราะตัวนี้สามารถเลือกใช้ได้ตามลูกค้าจะเลือก จะไปใช้ glonass ของรัสเซียก็ได้

โดยคุณ toeytei เมื่อวันที่ 31/03/2014 22:43:01


ความคิดเห็นที่ 6


สรุปไม่แน่ใจว่าไทยเอาตัวไหนกันแน่นะครับ 

เพราะ WS-32 เป็นแบบรถ 6 ล้อ 4 ท่อยิง 

หรือเป็นตามรูปประกอบในข่าว คือ WS-2 เป็นรถ 8 ล้อ 6 ท่อยิง

แต่ถ้าไปดูใน youtube แล้วจะแต่คลิปของ WS-2 ไม่มีคลิปของ WS-32 

จากในคลิปความรุนแรงของหัวรบน่ากลัวทีเดียวครับ

โดยคุณ Ricebeanoil เมื่อวันที่ 31/03/2014 23:08:25


ความคิดเห็นที่ 7


WS-2 เท่าที่อ่านดูก็ไม่มีอะไรต่างกันมาก ยกเว้นตัวรถที่ใหญ่กว่า ตามจำนวนท่อยิง

อย่างWS-2กับ3จะเหมือนกันที่รถยิงแต่ต่างกันที่ระบบนำวิถีระหว่างรุ่น2B/C/D กับรุ่น3A ในรุ่น3A อัพเดทเป้าหมายแก้ไขเป้าหมายขณะโคจรได้

ส่วนรุ่น32 ต่างกันเรื่องระยะยิงที่เหลือราว150มม. น้ำหนักลูกจรวดเบาลง ระบบนำวิถีอัพเดทเป้าหมายด้วยจีพีเอส

แต่ถ้าดูจากโมเดลรถยิงของรุ่น32 จะคล้ายแท่นของDTI ที่ใช้รถวอลโว่นั้นแล

โดยคุณ MIG31 เมื่อวันที่ 01/04/2014 09:03:27


ความคิดเห็นที่ 8


  ขอบคุณมากครับท่าน  MIG31  ช่วยอธิบายให้หายงงได้ดี   เพราะ WS-2/3 นี่มีรุ่นย่อยเยอะมาก   ก็ว่า WS-1 นี่มีรุ่นเยอะแล้วนะ  

สรุป  DTI-1G   ก็คือ  WS-32  หรือจะเรียกว่า  WS-2 รุ่น light  ก็ได้  ขนาดจรวด 400 mm.   ไม่ใช่ 302 mm. แบบ WS-1   ระยะยิงใกล้แค่ 150 Km.   แต่คราวนี้พัฒนาใช้ 6 ท่อยิงและระบบ software ของไทยเราเอง  

  ตกใจนึกว่าจะขอซื้อเพื่อผลิต  WS-3A  เอง     ถ้าเป็นอันนี้โหดแท้เลยระยะยิง  400 Km.   

โดยคุณ neosiamese2 เมื่อวันที่ 01/04/2014 12:35:43


ความคิดเห็นที่ 9


น่าสนใจว่าไทยเรากำลังเดินตามตรุกรีรึเปล่า ตรุกรีเองมีการจัดหาและร่วมมือกับจีน เด่นๆเหมือนเราเช่น จรวดหลายลำกล้องขนาดหนัก(300มม.)และขนาดกลางเช่น(122มม.) ก็คือกลุ่มWS-1/2 SR-4เป็นต้น

แต่ที่ตรุกรีทำคือรวมถึงการจัดหาและพัฒนาระบบ B-611 ซึ่งเป็นขีปนาวุธทางยุทธวิธีระยะยิง150-400ก.ม.ของจีน ของตรุกรีชื่อYildirim-I  แต่รุ่นส่งออกมีระยะยิง150ก.ม.

ซึ่งรุ่นเก่า(B611)มีระยะคลาดเคลื่อนจากเป้าต่ำกว่า150เมตร ในขณะที่Iskander มีระยะคลาดเคลื่อนราวต่ำว่า10เมตร

ทำให้จีนพัฒนาจรวดทางยุทธวิธีแบบฺB611 ออกมาหลายรุ่น หลายชื่อ ที่น่าสนใจก็เช่น SY-300และBP-12 ที่น่าจะใหม่สุด

ในขณะที่หลายชาติจะมีMLRS ขนาดหนักระยะยิง90-180ก.ม. ก็จะนำขีปนาวุธทางยุทธวิธีเช่นIskander  เข้ามาประจำการในแนวหน้า โดยเฉพาะการยิงทำลายระบบป้องกันทางอากาศของข้าศึก กองบัญชาการ เป็นต้น เนื่องจากจรวดกลุ่มSRBM มีความแม่นยำสูงกว่า หัวรบรุนแรงกว่า และในหัวรบมีการนำทางที่หลากหลาย (ขนาดจรวด600มม.)

ในขณะที่MLRS ขนาด300-400มม. ถึงมีการนำวิถีแต่ยังมีความคลาดเคลื่อนในระยะไกล  จากที่ยิงไปตกคลุมพื้นที่เป็นตารางกิโลเมตร ก็ตกเป็นกลุ่มใกล้กันมากขึ้น ขนาดWS-2B ตกห่างจากเป้าหมายถึง450เมตร....พูดง่ายๆว่าให้จรวดที่ยิงออกไปเป็นกลุ่มตกใกล้เป้าหมายให้มากที่สุด แต่ไม่แม่นยำเท่าจรวดทางยุทธวิธีเป๊ะๆนั้นเอง.....อีกทั้งน้ำหนักหัวรบก็เบากว่า

ด้วยเหตุข้างต้นแม้แต่รัสเซียที่พัฒนาMLRS ขนาดหนักยังไม่พัฒนาระยะยิงไกลกว่า90ก.ม. แต่เน้นตกใกล้เป้าหมายให้มากที่สุด ในระยะยิงไกลออกไปก็เป็นSRBM นั้นเอง


โดยคุณ MIG31 เมื่อวันที่ 01/04/2014 13:47:14


ความคิดเห็นที่ 10


ต่อไปก็คงเป็นพิสัยไกลเหมือน SCUD แล้วล่ะครับ เพราะว่าต่อไปไทยก็คงให้จีนวิจัยอีกอยู่ดี

โดยคุณ udom34 เมื่อวันที่ 01/04/2014 19:40:08


ความคิดเห็นที่ 11


       ขอบคุณมากอีกครั้งหนึ่งครับท่าน MIG31   นึกว่าใช้ระบบนำวิถีแบบปรับแต่งการโคจรได้ระหว่างทางจะทำให้มีความแม่นยำพอในระยะ 400 km.   แต่ยังตกห่างถึง 450 m  ทีเดียว    ดังนั้นก็ต้องซัลโวเป็นชุดสินะครับเวลายิงจริง    แบบว่ายิงหมดแม๊ก 6 นัดเลยแล้วให้หัวรบอัมภัณฑ์แตกออกมาตกคลุมพื้นที่เป้าทั้งมหด     เหมาะสมกับยิงถล่มเมืองอุตสาหกรรม (ประชาชนตายเพียบแน่ๆ)    สนามบิน    ที่ตั้งทหารที่อยู่กันทั้งกองพล  ทั้งกรม   ศูนย์บัญชาการ (นักข่าวสงครามมีหนาว)  ท่าเรือ   ชุมทางรถไฟ   

    แต่ถ้าต้องการแม่นเป๊ะๆ   SRBM   แท่นหนึ่งยิง 2 ลูก    ดูดีกว่าสคัดเยอะเลยนะครับ    ถ้าทบ.สนใจพวกนี้ในอนาคตก็น่าจะเป็นเรื่องดีมาก    เวียตนามก็มีแล้วด้วยสคัด 

 

     

โดยคุณ neosiamese2 เมื่อวันที่ 01/04/2014 19:59:54


ความคิดเห็นที่ 12


ปัญหาคือ DTI-1G จะเป็นจรวดขนาด 400 มม.จริงหรือเปล่าก็ไม่รู้ เพราะข้อมูลยังไม่แน่ชัดเลย

โดยคุณ Nakarin เมื่อวันที่ 07/04/2014 10:34:46