หน้าแรก    ตั้งกระทู้ใหม่   ตอบคำถาม    เข้าสู่ระบบ      


เปิดตัวเครื่องบินฝึก Alenia Aermacchi M-346 \"Lavi\" ลำแรกของอิสราเอล

โดยคุณ : Lucifer เมื่อวันที่ : 28/03/2014 23:06:54

โดยอิสราเอลสั่งซื้อจากอิตาลีทั้งหมด 30 ลำ มูลค่ารวมประมาณ $1 billion ซึ่งตามแผนอิสราเอลจะได้รับครบจำนวนในปี 2016









ความคิดเห็นที่ 1


             อยากให้ Aermacchi M-346 ชนะในโครงการจัดหาเครื่องบินฝึกใหม่ของทอ. เพราะระดับกองทัพอิสราเอลเลือกเข้าประจำการ น่าจะการันตีถึงความคุ้มค่าได้ และส่วนตัวคิดว่า Aermacchi M-346 เหมาะสมสำหรับเป็นเครื่องบินฝึกมากกว่าอีกหนึ่งตัวเก็งคือ KAI T-50 ของเกาหลีใต้ เพราะสมรรถนะเพียงพอสำหรับเครื่องบินฝึก และราคา, ค่าปฏิบัติการ, ค่าบำรุงรักษาตลอดอายุการใช้งานที่ถูกกว่า

โดยคุณ Lucifer เมื่อวันที่ 23/03/2014 23:29:58


ความคิดเห็นที่ 2


ผมไม่สันทัดเรื่องประสิทธิภาพ แต่ผมว่า รูปร่างของ บ. นี้ น่ารักดี เหมือนรถมินิ อิอิ

โดยคุณ Naris เมื่อวันที่ 24/03/2014 08:59:50


ความคิดเห็นที่ 3


ถูกเกิ๊นน สามสิบลำพันล้าน ทอ เราเอาบ้างดิ

โดยคุณ fulcrum37 เมื่อวันที่ 24/03/2014 10:57:51


ความคิดเห็นที่ 4


1billion$  = 32x1000 ล้านบาท  = 32000  ล้านบาท

ราคาไม่ใช่น้อย  ราคาต่อลำราวพันล้านบาท

โดยคุณ Tumx เมื่อวันที่ 24/03/2014 11:04:35


ความคิดเห็นที่ 5


น่ารักอะ 

โดยคุณ JFiZs-Skydance เมื่อวันที่ 24/03/2014 11:36:46


ความคิดเห็นที่ 6


ลำล่ะ 33.34 ล้านเหรียญ ผมว่าไม่ถูกนะ 

โดยคุณ skysky เมื่อวันที่ 24/03/2014 12:52:56


ความคิดเห็นที่ 7


ถ้าเทียบกับ ดีลใหม่ๆนี่ ผมว่าถูกนะ อย่างน้อยก็ถูกกว่า ฮวอค กับ T-50 ของพวกซาอุ กับ อิรักแหละ

แล้วก็ เทียบปริมาณเครื่องบิน กับเครื่องบินรบ เงินสามหมืนล้าน ได้ สามสิบเครื่อง

นึกๆดูจำนวนแล้ว มันมากกว่ากริเพ่นเกือบสามเท่า ในราคาเท่ากัน

โดยคุณ fulcrum37 เมื่อวันที่ 24/03/2014 13:53:10


ความคิดเห็นที่ 8


มันผลิตเองจะให้แพงเท่ากันก็แย่สิครับ อย่างพวกตุรกีที่เราเห็นซื้อเครื่องบินหรือฮ.ทีไรถูกกว่าเรามาก ก็คือเขาผลิตเองในประเทศ

โดยคุณ tongwarit เมื่อวันที่ 24/03/2014 15:49:20


ความคิดเห็นที่ 9


ตรรกกะนั้นก็ไม่ถูกเสมอไปนะฮะ

ญี่ปุ่น ผลิต F-15 F-16 แบลคฮอคเอง แพงกว่าซื้อเยอะ

แล้วอย่างอิสราเอล ชอบม๊อดอะไรไห้อลังการกว่าต้นฉบับด้วย

โดยคุณ fulcrum37 เมื่อวันที่ 24/03/2014 17:26:20


ความคิดเห็นที่ 10


        ราคานี้ผมเคยเอาลงไปตอบในกระทู้หนึ่งแล้วถึงการแจกแจงแยกจ่าย   1 พันล้านน่ะ  Aermacchi  ได้ไปประมาณ 600  ล้านเหรียญ      หารต่อเครื่องจะยิ่งถูกอีก   ส่วนที่เหลือเป็นค่าเกี่ยวกับอุปกรณ์ภาคพื้นดิน 

      แต่ขอบอกก่อนครับว่า    จริงๆระบบเอวิออนิคเกือบทั้งหมดบริษัทอิสราเอลได้ไป   และต้องจ่ายเพิ่มอีกไม่น้อยกว่า 600  ล้านเหรียญ    ทำให้ราคาโครงการจริงๆน่ะ  1200  ล้านเหรียญเลยนะ     หารด้วย 30  เครื่องก็เกือบ  40  ล้านเหรียญนะครับ

     รู้สึกกระทู้ก่อนที่เพื่อนๆลงเอาไว้จะเป็นการจัดหาของโปแลนด์หรืออะไรนะจำไม่ได้    ล่อไปซะเกือบ  47 - 48  ล้านเหรียญต่อเครื่องเลย     แต่คงไม่ใช่แค่เครื่องเปล่า

  จริงๆแล้ว  M-346  นี่แพงกว่า  T/A-50  มากพอควรทีเดียว    และเมื่อเอาส่วนต่างราคาของเครื่องทั้งสองแบบมาหาร ตลอดอายุการฝึก 20 ปี    จะชดเชยค่าปฎิบัติการที่แพงกว่าของ  T/A-50  ไปแล้วนะ     ดังนั้นราคารวมค่าใช้จ่ายตลอดอายุการใช้งาน  20 ปีของเครื่องทั้งสองแบบไม่ได้แตกต่างกันเลย      แต่ T/A-50  จะได้เครื่องที่มีเรด้าร์ใช้งานด้วย    และมีสมรรถนะสูงกว่าทุกอย่าง  ทั้งน้ำหนักบรรทุก  และ มีความเร็วเหนือเสียงด้วยครับ

 

   ดีลเรื่องราคานี่ดูท่าจะสบสนกันพอดู   ผมว่ารออีกสัก  1-2 ปี   ถ้าการเมืองสงบเมื่อไหร่   ทอ.ประกาศจัดหาปั๊บ   เดี๋ยวก็จะเสนอราคากันมาเองครับ    แล้วตอนนั้นเราก็จะได้รู้ว่า  M-346   T/A-50   Hawk T2/128   มีราคาค่าตัวต่อเครื่องกันเท่าไร    ค่าใช้จ่ายตลอด 20 ปีเท่าไหร่    เมื่อรวมกันทั้งค่าเครื่องค่าใช้จ่ายปฎิบัติการ   หารตลอด 20 ปี   แล้วแบบไหนถูกกว่าหรือพอๆกัน   ถ้าพอๆกันก็ต้องมาดูเครื่องทั้ง 3 แบบว่าใครให้ของมาดีที่สุดล่ะครับ

 

โดยคุณ neosiamese2 เมื่อวันที่ 25/03/2014 00:23:13


ความคิดเห็นที่ 11


ตามข่าวที่มีออกมาทอ.ไทยเตรียมงบประมาณในการจัดหาบ.ฝึกไว้ราว 400 ล้านเหรียญ โดยมีความต้องการทั้งหมดราว 16 เครื่อง แต่ข่าวจากงานสิงคโปร์แอร์โชว์ เจ้าหน้าที่ระดับสูงของแอร์มัคคีได้ประเมินไว้ว่าจะสามารถเสนอโครงการนี้ด้วยบ.ฝึก M-346 จำนวน 8 เครื่อง !!!

โดยส่วนตัวค่อนข้างให้น้ำหนักกับบ.เกาหลีมากกว่า(เล็กน้อย) เนื่องจากช่วงที่ผ่านมาเห็นว่า SAAB ของสวีเดนได้เข้าไปมีส่วนร่วมในการพัฒนาระบบอาวุธร่วมกับเกาหลีใต้มากขึ้นเรื่อยๆ รวมทั้งโครงการเรือฟริเกตสมรรถนะสูงของทร.ไทย น่าจะมีช่องทางที่จะช่วยให้เราเข้าไปมีส่วนร่วม เพื่อผลประโยชน์ในการพัฒนาอุตสาหกรรมอาวุธของเราต่อไป

โดยคุณ TWG เมื่อวันที่ 25/03/2014 08:03:42


ความคิดเห็นที่ 12


น่าสนใจครับ ระหว่าง M346 ที่ประหยัดค่าใช้จ่ายในการใช้งาน กับ T50 ที่มีสมรรถนะทางการรบที่ดี

 

M346 ช่วงนี้ขายดี ส่วน T50 เป็นเครื่องความเร็วเหนือเสียง เครื่องยนต์เป็นแบบเดียวกับ F18 ทีนี้ถ้าเราจะจัดหาก็ต้องดูว่า อะไรเหมาะสมและคุ้มค่ากับเรามากที่สุดในระยะยาวครับ

 

นอกจากนี้ข่าวจากเว็บไซต์ต่างประเทศคาดว่าภายในสิ้นปีนี้ เกาหลีใต้จะเซ็นสัญญาซื้อเครื่องบินเติมน้ำมันและเครื่องบินขับไล่ ซึ่ง บ.ขับไล่ น่าจะเป็น F35 ของอเมริกา เพราะต้องการรับถ่ายทอดเทคโนโลยีสเตลท เพื่อไปพัฒนาเครื่องบินของเกาหลีเองเป็นสำคัญ ขณะเดียวกันเกาหลีใต้ก็หวังว่าจะได้ขาย T50 ให้อเมริกาคืนบ้าง จากโครงการจัดหาเครื่องบินฝึกใหม่ของอเมริกัน ประมาณ 300 กว่าลำ ซึ่ง Lockheed Martin ก็ช่วยชงให้อยู่เต็มที่ แต่คู่แข่งเยอะ อันนี้ก็น่าติดตามกันต่อไป แต่ถ้าทำสำเร็จ ผมว่า T50 ก็จะมีอนาคตที่สดใสเลยครับ ส่วนค่ายอิตาลีก็จะส่งแข่งขันด้วย แต่เห็นว่าจะเป็นรุ่น T-100 ซึ่งพัฒนาขึ้นจาก M346 นั่นเองครับ นอกจากนี้ยังมี บ.ฝึก ที่ Saab & Boeing ร่วมกันพัฒนาอีก และยังเจ้าเก่าอย่าง BAE อีกครับ

 

สำหรับไทยเรา ผมว่าข้อเสนอด้านการถ่ายทอดเทคฯ จะเป็นประโยชน์ต่อเรามากที่สุดครับ จะเครื่องของค่ายไหนก็ได้ แอบหวังว่าจะมีม้ามืดมายื่นข้อเสนอการถ่ายทอดเทคฯ และ ร่วมผลิตและพัฒนาเครื่องบินฝึกกับ TAI ในไทยเรา แต่คิดว่าคงยากครับ เพราะงบฯ เราจำกัดหรือเปล่า

 

ปล. ภาพ บ. ขับไล่ JF17 ของ ปากีสถาน ซึ่งร่วมผลิตและพัฒนากับจีนครับ

JF17


โดยคุณ Oversea เมื่อวันที่ 25/03/2014 18:02:35


ความคิดเห็นที่ 13


ข่าวล่าสุด เกาหลีตกลงซื้อแล้วครับ F35 จำนวน 40 เครื่อง สำนักข่าวรอยเตอร์ :-D

ส่วนคลิปข้างล่างคือ Scorpion ของ Textron Airland ขึ้นบินทดสอบครั้งแรก เมื่อธันวาคม ปีที่แล้วนี่เอง จากคอนเซปท Lower cost tactical jet ราคาอยู่ที่เครื่องละ 20 ล้านดอลล่าสหรัฐ น่าสนใจครับ

 

โดยคุณ Oversea เมื่อวันที่ 25/03/2014 22:52:18


ความคิดเห็นที่ 14


   ใช่ครับท่าน  TWG  ที่ประเมินการขายดีลที่ผ่านมาล่าสุดของ  M-346  งบของเราจะได้  8  เครื่องกว่าๆ     ถ้าทอ.ต้องการ  16  เครื่องก็แทบหมดหวังแล้วครับ   เครื่องละเกือบ  50  ล้านเหรียญแล้ว  ก็ตก  1400 - 1500  ล้านบาทต่อเครื่องเลยทีเดียว    แบบนี้ผมว่าถมเงินไปจัดหา   Jas-39  มือสองดีกว่าครับ   น่าจะได้ครบฝูง  16-18 เครื่องเลยทีเดียว

   ดีลการจัดหาของอินโด  T/A-50  ตกเครื่องละ  25 ล้านเหรียญ   16  เครื่อง ก็ 400 ล้านเหรียญพอดีๆ   

และการจัดหาคราวนี่คงจะเป็นฝูงแรก  และต้องทดแทนฝูง 2 ด้วย   รวมถึง  alphajet และฝูงโจมตีที่ขาดไปอีก 1 ฝูง   ด้วยจำนวนไม่น้อยที่จะต้องจัดหาต่อเนื่อง   ผมว่าเราสามารถต่อรองการถ่ายทอดเทคโนโลยี  เช่น  ประกอบเครื่องโดย  TAI  ได้

 

โดยคุณ neosiamese2 เมื่อวันที่ 26/03/2014 22:40:09


ความคิดเห็นที่ 15


T-50 ผมว่ามีอนาคตที่คึกคักดีเชียว จากองค์ประกอบหลายๆอย่าง เช่น มีเครื่องหลายแบบทั้ง T-50, TA-50 และ FA-50 ซึ่งก็ปรับปรุงจาก T-50 และอินโดนิเซียกับฟิลิปปินส์ก็ใช้ นอกจากนี้ยังมีลุ้นในโครงการของอเมริกาด้วย และยังมีโครงการ KFX รองรับในอนาคตอีก K-pop นี่เค้าสง่า

KFX จาก Defense.PK


โดยคุณ Oversea เมื่อวันที่ 27/03/2014 06:25:31


ความคิดเห็นที่ 16


เรื่องค่าใช้จ่ายในการปฏิบัติการนั้น ผมมองว่าหากเอาสมรรถนะของเครื่องยนต์เป็นตัวตั้ง ก็ค่อนข้างแน่นอนว่า T-50 น่าจะมีค่าใช้จ่ายที่สูงกว่า แต่หากเราตัดประเด็น F/A-50 , T/A-50 ออกไป เพื่อเปรียบเทียบแบบยุติธรรม คือ เอาแต่รุ่นฝึกเปลี่ยนแบบ LIFT (ที่มีค่าใช้จ่ายต่ำกว่ารุ่นที่ใช้ปฏิบัติการรบได้) เมื่อพิจารณาว่า M-346  มี 2 เครื่องยนต์ ในขณะที่ T-50 มีเครื่องยนต์เดียว แถมยังเป็นเครื่องตระกูล F-404 เช่นเดียวกับ RM-12 ของ Jas-39 C/D ทำให้ผมคิดว่าค่าใช้จ่ายตลอดอายุการใช้งานไม่น่าจะต่างกันมากมายอย่างที่หลายท่านบอก ในส่วนสมรรถนะทางการฝึกบิน ผมมองว่า T-50 น่าจะเหมาะในการฝึกเปลี่ยนแบบไปสู่เครื่องบินขับไล่สมรรถนะสูงอย่าง F-16 AM/BM และ Jas-39 C/D ได้ดีกว่า M-346 ซึ่งบินได้ง่ายกว่า น่าจะเหมาะกับนักบินในระดับการฝึกขั้นกลางได้ดีมากกว่า สุดท้ายก็คงอยู่ที่คณะกรรมการจัดหาของทอ.ว่าจะให้น้ำหนักไปในทางใดมากกว่ากัน แต่ดูจากแนวโน้มในช่วงหลังมานี่ผมว่าอาวุธเกาหลีใต้ดูมีอนาคตที่สดใสในกองทัพไทยมากกว่าอิตาลีนะครับ

โดยคุณ TWG เมื่อวันที่ 27/03/2014 14:23:59


ความคิดเห็นที่ 17


    KFX  ตอนนี้พัฒนารุ่น C-103ia  ไปมากแล้วจะใหญ่กว่า  C-100  คือเกือบ  17 m     เป็นรุ่น 2 เครื่องยนต์    และสามารถบรรทุก  AIM-120  ได้  6  นัดใน  weapon bay  เกาหลีคงต้องการมันเพื่อเป็น  F-22  เวอร์ชั่นเกาหลี (ก้เมกาไม่ขายให้ใครนี่นา)

   ส่วน  KFX C-100  มันมีขนาดพอๆกับ  KFX-E  ที่ท่าน  superboy  นำเสนอ   จะใช้เครื่องยนต์เดียว    อนาคตยังไม่ชัดเจน     เพราะมันจะไปชน  F-35  ของอเมริกาจังๆ    ตอนนี้คงต้องเกรงใจหุ้นส่วน    เพราะเดี๋ยวจะขาย  T/A-50  ในโครงการ  T-X  ไม่ได้

แต่เกาหลีลงทุนซื้อ  F-35   40  เครื่อง    คงได้ศึกษาเทคโนโลยัเสตลธ์กันเต็มที่ล่ะ    จะส่งผลดีเมื่อเราต้องจัดหาเครื่องยุคที่ 5   เพราะมีตัวเลือกเพิ่มขึ้นมา คือ  KFX C-103 ia   และ  KFX-E   

จะว่าไปถ้าสนใจ  KFX   KFX-E    เครื่องฝึก  T/A-50   ก็ยิ่งน่าสนครับ

โดยคุณ neosiamese2 เมื่อวันที่ 28/03/2014 23:06:54