ใช้เครื่องยนต์ D-4D ซะด้วย คงจะประหยัดน่าดู เลยนะครับแหม่...

ขอที่มาทีครับ

จะตามไปส่อง

รบกวนขอข้อมูลเพิ่มเติมหน่อยครับ
ผลิตโดยบริษัทอะไรครับ
จำนวนสั่งซื้อกี่คันครับ..ระยะเวลาส่งมอบ
2ข้อนี้จะบ่งบอกว่า..ผู้ผลิตยานยนต์ไทยมีศักยภาพแค่ไหนครับ
ขอบคุณครับ
 

เครื่องโตโยต้าทหารไทยรู้ทางเป็นอย่าดีเลย บางท่านรื้อเครื่องออกหมดแล้วประกอบกลับเข้าไปใหม่ยังได่เลย แต้อยากทราบว่าล็อตนี้กี่คันครับ

ไม่ค่อยจะครือเท่าไรเลยครับ น่าจะออกแบบไหม่โดยไม่ยึดติดกับรูปทรงของ ฮัมวี่

จอดอยู่แถวตึกชินวัตร3 คันหนึ่งครับ ตรงอิซูซุวิภาวดี. สวยสู้ลีโอไม่ได้ครับ555

โดยส่วนตัวผมชอบน่ะ ทั้งรูปแบบตัวรถเอง  และชอบเรื่องการพัฒนากองทัพไทยที่ตอนนี้สามารถสร้างรถหุ้มเกราะออกมาหลายรุ่น เพื่อให้เลือกใช้ในต่างรูปแบบการใช้งานมากขึ้้น

เห็นด้วยกับการพัฒนาและสร้างสิ่งที่ไม่ซับซ้อนแต่จำเป็นไปก่อน อย่างน้อยเราก็ลดการสั่งซื้อจากต่างประเทศไปได้บ้าง

แต่ที่ดีและสำคัญที่สุดก็คือดีกว่าที่เอารถกระบะธรรมดามาใช้ในทหารตอนนี้

แต่อย่างว่าแหละมันคงสวยสู้ลีโอไม่ได้จริงๆ แหละคับ เน๊อะๆๆๆ 55555

ภายนอกดูดีมากๆครับ แล้วเป็นเหมือนแบบฮัมวี่เก่าหรือเปล่าครับ แบบติดป้อมปืนบนรถเหมือนในภาพ

ขนาด GAZ Tiger ยังมีเลย

ขอเทียบดูแบบเล่นๆนะครับ ไม่ว่ากัน

เรื่องออกแบบโดยไม่ยึดติดกับทรงฮัมวี่ผมเห็นด้วยนะครับ

แล้วก็ไม่น่ามากระแนะกระแหนกันในเรื่องที่ไม่เกี่ยวกับลีโอนะครับ (คือแกจะเกรียนเรื่องลีโอ ก็ตอบกลับเรื่องนั้นถ้าแกไม่ได้พูดเรื่องนั้นหรือคอมเมนท์เป็นปกติก็ไม่น่ามาไล่กระทืบกัน ว่าไปตามเนื้อผ้าดีกว่าครับ)

ถ้ามองต่างประเทศการออกแบบรถเกราะรุ่นใหม่ๆไม่ได้สี่เหลี่ยมๆแบบฮัมวี่แล้ว รูปทรงมีความลาดเอียงทำมุมไม่ได้สี่เหลี่ยมทรงฉากแล้ว

เคยมีสมาชิกท่านนึงพูดในบอร์ดนี้นานแล้วว่าทำไมต้องทำกระจกหน้าซะชันขนาดนั้น วิ่งทีกินน้ำมันเป็นบ้า

ตอนนี้การออกแบบเราเริ่มจากเอารูปฮัมวี่เป็นฐานเลย ซึ่งเป็นพื้นฐานที่เก่ามากๆ บางอย่างอาจจะไม่ได้เหมาะสมที่สุดแล้วในการตอบสนองความต้องการใช้งาน (จริงอยู่ที่เราอาจต้องการมาทดแทนฮัมวี่โดยตรง คือต้องการฮัมวี่คันใหม่แต่ไม่มีตังซื้อของนอกนั่นแหละ แต่ผมว่ามองไปที่อนาคตก็สำคัญ) ถ้าเป็นเรื่องเร่งด่วนต้องการรถมาทดแทนมีเวลาในการวิจัยออกแบบไม่มาก ก็อาจจจะจำเป็นที่ก๊อปๆฮัมวี่ไปก่อน แต่ผมอยากให้มีการพัมนาในรุ่นหลังๆที่ผลิตใช้งานเอง ดีไม่ดีได้เจาะตลาดต่างประเทศถ้ามีการพัฒนาจริงจังทำการสอบถามติดตามการใช้งานจริงแบบที่ชัยเสรีทำ 

ผมเห็นด้วยนะครับ ว่าไม่มีเหตุผลที่จะต้องออกแบบให้หน้าตาเหมือนฮัมวี ขนาดก็ไม่ได้เท่ากันซักหน่อย ไม่ได้สลับชิ้นส่วนกันได้อะไร รถเกราะแม้แต่ของประเทศสหรัฐฯ เดี๋ยวนี้ก็ไม่ได้กระจกตั้งเด่ขนาดนั้นแล้วครับ ผมคิดว่าเรายึดติดกับรูปลักษณ์เกินไป คือตั้งๆ อย่างนี้มันดูลุยดูสมบุกสมบัน ความจริงมันเป็นมรดกตกทอดมาจากสงครามโลกนั่นแหละ 

ส่วนตัวผมก็คิดว่าฮัมวี่ยังเท่ห์กว่าพวกรถเกราะรุ่นใหม่ๆ ที่มาทดแทน แต่ถ้าคิดตามหลักตามเหตุผลแล้วละก็ เลิกเหอะกระจกตั้งๆ น่ะ

แล้วที่กระแนะกระแหนลีโอเทพลีโออะไรในกระทู้นี่ ผมว่าไม่สร้างสรรค์เลยครับ คูณ yukiฯ แกก็ไม่ได้พูดเรื่องลีโอเลย แล้วรถที่พูดถึงก็ไม่ใช่รถถัง คือคุณๆ ล้อเลียนเพื่อความเมามันส่วนตัวโดยที่มันไม่ได้ช่วยเสริมอะไรให้กระทู้เลยครับ จะถกเถียงว่าหน้าตาดีแล้วอะไรก็เปล่า แค่จะเสียดสีตามล้างตามผลาญ ผมว่าอย่างนี้ไม่ดีหรอกครับ 

เวลาผมดีเบทกับใคร (หลายๆ คนไม่เห็นนานละ สงสัยเลิกเล่นบอร์ดนี้) ดีเบทยาวเฟื้อยเป็นหน้าๆ แต่จบผมก็จบ ไม่มีการลากมาเล่นต่อกระทู้อื่น หรือตามกระแนะกระแหนทุกที่ที่เขาไป ถ้าผมทำคงทุเรศตัวเองล่ะครับ

ถึงจะคิดว่าเขาเกรียน แต่ถ้ามันอยู่ในกรอบที่ยอมรับได้ เราก็ไม่ได้มีสิทธิ์อะไรจะไปรังแกเขา แต่ถ้าเขาเกรียนเกินขอบเขต แอดมินเขาก็จัดการเองครับ โดนไปหลายทีแล้วมั้งเนี่ย ล่าสุดก็เพิ่งโดนไปสามวัน

ชอบประตูทั้ง5บานมากโดยเฉพาะด้านท้ายที่แยกเปิดได้แบบCR-Vรุ่นเก่า ภายในสีดำก็ชอบพวงมาลัยโตโยต้าวีโก้ตอนนี้มีairbagทุกรุ่นแล้วนะ(เค้าโฆษณาอยู่) กระจกหน้าถ้าลาดเอียงลงมาซัก10-15องศาและโมหน้ารถให้เนียนอีกหน่อยผมก็พอใจแล้ว ออกรุ่นขับ2ขายประชาชนทั่วไปได้เลยนะนั่นแต่ต้องทำราคาและตลาดเอาเองนะ

ตัวรถมีขนาดเล็กกว่าฮัมวี่คงใช้งานทั่วไปมากกว่าออกแนวหน้าสุดนะครับ  แต่อยากเห็นรถคันเล็กๆมาแทนซูซูกิคาริบเบี้ยนคันจิ๋วมากกว่า มีรุ่นเปิดประทุนไว้วิ่งตามฐานทัพต่างๆคงเท่ห์ไม่หยอก(ทนร้อนหน่อนเน่อ)

สังเกตุไหมครับว่า ใช้งานทางทหารขนาดเล็ก ส่วนมากออกแบบมาแนว ฮัมวี่เกือบหมด ตั้งแต่ สรอ ยัน จีน  มันคงมีเหตุผลบางอย่างที่ออกแบบมาแนวนี้ ไม่แน่ใจว่าเพราะมันเป็นรถใช้งานอเนกประสงค์ ซึ่งต้องสามารถปรับเปลี่ยน ต่อเติมได้หลายแบบหรือเปล่า ตั้งแต่ใช้ ลาดตระเวณ ส่งกลับสายแพทย์โ€‹ ติดอาวุธหนักต่างๆ ติดเกราะ บรรทุก ฯลฯ นอกจากนี้ปัจจัยต่างๆเช่น การเข้าออกของกำลังพลต้องทำได้รวดเร็ว ทัั้งๆ ที่ใส่เครื่องสนามต่างๆ การมองเห็น ผมว่าหลายๆชาติวิจัยมาแล้วล่ะ ว่าแบบนี้เหมาะ เพราะเห็นทำตามกันเป็นพรวนเชียว  

ปล แต่ขอถามนึดหนึ่งครับ รถ สายยุทธการ นี่กระจกเป็นกระจกกันกระสุนหรือเปล่า 

ระบบท่อไอเสีย  ไทยแลนด์สไตล์    ผลพวงจากน้ำท่วม 

มองๆ แล้วมันถอดเป็นรถเปิดประทุน ได้เลย 

สมมติตัวเองให้เป็นคนขับนะครับ........ข้อดีของการทำกระจกหน้าตั้งฉาก เห็นๆ เลยคือเราสามารถชะเง้อมองขอบหน้าของรถได้ทั่วถึง เหมาะสำหรับการขับในที่แคบๆ ถ้าเป็นกระจกเอียงตามปกติจะทำได้ยาก หัวจะเขกกระจก จึงต้องทำคอนโซลให้ยื่นออกมาเพื่อกันการเข้าไปชิดกระจก.......ประการต่อมาพอกระจกตั้งฉาก รูปที่สามจากบนจากบนจะเห็นได้ว่าคอนโซลจะบางมาก ผลพลอยได้คือการเข้า-ออกจากตัวรถจะมีอะไรกีดขวางน้อย มีประโยชน์เวลาสละรถ

ถัาลองขับวีออสจะพบว่าพื้นที่ใต้กระจกหน้ากับคอนโซล แทบใช้ประโยชน์อะไรไม่ได้เลย เสียพื้นที่โดยเปล่าประโยชน์ แต่จำเป็นต้องเอียงเนื่องจากรถถูกออกแบบให้ใช้ความเร็วค่อนข้างเยอะ ในขณะที่ฮัมวี่ไทย จะไม่เน้นเรื่องความเร็ว เน้นอึดๆ ประโยชน์ใช้สอยมักจะสวนทางกับความสวยงามเสมอ

ผมเป็นคนตั้งกระทู้ขึ้นมา  รูปถ่ายจากโทรศัพย์พี่ของผมครับ เป็น ทหาร ค่ายไหนผมขอไม่บอกน่ะครับ ล็อตนี้พี่บอกว่ามาเยอะพอสมควร บริษัทในประเทศเป็นผู้ผลิตเอง พี่ผมบอกว่า ดีกว่ารุ่นก่อนอย่างมาก ประหยัด มีเกราะที่หนากว่าเดิม  และพี่บอกอีกว่า มีรุ่นที่ติดปืนกลด้านบน และติดตรวจโทล์อีกด้วยครับ (บอกได้แค่นี้ล่ะครับ) อุตสาหกรรมทหารของไทยมีอะไรที่ทำได้กว่านี้แต่ไม่เคยได้รับการสนับสนุนเท่านั้นเอง

สังเกตที่กระจกคันเเรกกับคันสุดท้ายในภาพที่อยู่ไกลๆมีกระดาษสีฟ้าติดอยู่คันเเรกติดเลข336เเต่ตัวหนังสืออ่านไม่ออกไม่รู้ว่าเป็นนัมเบอร์ของรถคันนั้นหรือปล่าวถ้าใช่นี่ล๊อตนี้อย่างน้อยก็336คันละครับ

เสาAหรือเสาหน้ามันตั้งดิ่งไปหน่อยหนะครับ ถ้าได้เอียงนิดๆแบบซูซูกิในภาพ(ที่เปิดกระจกหน้าไปข้างหน้าได้)น่าจะดีกว่านิดหน่อย ไม่ใช่ว่าไม่ดีนะแต่มันเถรตรงเกินไป ถ้าทำกระจกเอียงอีกซักนิดตามภาพแล้ววิ่งทดสอบใช้งานจริงแบบยาวๆ จะเห็นว่ามีผลดีและประโยชน์ในการใช้งานทั่วไปมากกว่า ทั้งความเร็วรถแรงต้านจากลมรวมไปถึงอัตราการกินน้ำมัน รวมถึงการทรงตัวและแรงวูบเมื่อโดนรถใหญ่สวนด้วย กระจกรถที่ลาดเอียงเพิ่มเพียงเล็กน้อยอาจช่วยให้ก้อนหินใหญ่หรือวัตถุที่วิ่งเข้ามาใส่เปลี่ยนมุมกระทบลดแรงกระแทก หมายถึงกระจกอาจปลอดภัยรวมทั้งคนขับและผู้โดยสารภายในรถด้วย (ทั้งกระจกธรรมดาและกันกระสุนครับ) ว่าแล้วก็หันไปเชียร์ทีมกระต่ายแก้วกันดีกว่า

มันเป็นเวอร์ชั่นสามของรถกระบะดัดแปลงสิน่ะครับ

ดีขึ้นกว่าเดิมครับ อย่างน้อยก็หลังคาแข็ง มีแอร์ 

ตัวรถไม่น่าจะกันกระสุน น่ะครับรวมถึงกระจกด้วย

ส่วนใหญ่ใช้เป็นรถธุรการกองร้อยครับ พาผบ.ร้อยไปรับคำสั่ง

จุดอ่อนเดิมๆ ของรถพวกนี้คือ ระบบไฟครับ ระบบของรถเป็น 12 volt. แต่ต้องแปลง เป็น 24 volt บางเส้นเพื่อใช้กับวิทยุ

ระบบไฟจึงรวนบ่อยๆ อีกจุดก็แผงหน้าปัดครับ ตอนหลังคาอ่อนน้ำเเข้าบ่อย

ต้องมาดูว่าเวอร์ชั่นใหม่ จะปรับปรุงเป็นยังไงบ้าง

ส่วนจุดอ่อนสากล ของรถกระบะกับรถบรรทุกของไทยส่วนใหญ่ก็คือช่องระบายอากาศของน้ำมันเฟืองท้าย เวลาลุยน้ำทีไรเข้าทุกที เปลี่ยถ่ายบ่อยมากครับ

เวอร์ชั่นนี้ดูดีขี้นเรื่อยๆ คล้ายๆ ชัยเสรีที่แต่ละเวอร์ชั่นจะดูดีขี้นเรื่อยๆ

ผมเองเห็นด้วยว่าเอียงเล็กน้อยระดับ jeep wrangler ก็โอเค คือวิ่งแค่ยี่สิบสามสิบก็รู้สึกแรงต้านที่มากกว่าแล้วครับเวลากระจกตั้งขนาดนั้น แถมเห็นว่าภาคใต้เหยียบกันเป็นร้อย ร้อยยี่ร้อยสี่ อะไรเทือกนั้น ดังนั้นผมว่ารู้สึกต่างกันชัวร์ๆ เรื่องมุมมองที่ดีกว่าถ้ากระจกตั้งตอนแรกก็คิดอย่างนั้นเหมือนกันแต่นึกๆ ดูคือเสา A ถ้ามันตั้งตรงมันจะบังทัศนวิสัยมากกว่าเดิมเสียอีกเวลาไม่ได้กำลังชะเง้อมองใกล้ๆ ตัวรถในมุมต่ำ

รุ่นเก่าเวอร์ชั่นหลังคาแข็งกับแอร์ก็มีไม่ใช่เหรอครับ

เรื่องที่ว่ากระจกตั้งแล้วดัดแปลงเป็นหลายเวอร์ชั่นผมว่าไม่เกี่ยวนะครับ เพราะข้างหน้ามันก็เหมือนกัน ต่างกันเฉพาะเลยไปข้างหลัง

จะคลายฮัมวี่หรือไม่คล้ายไม่สำคัญเท่ากองทัพอุดหนุนของไทยทำเองนี่แหละครับ ค่อยๆพัฒนากันไปเรื่อยๆเดี๋ยวมันก็ดีขึ้น

หน้าตาดูโอเคเลย ดีกว่าตัว MUV4 ของไทยรุ่งเพราะ headroom เยอะหน่อย ฐานล้อน่าจะยาวกว่าเยอะด้วย ทำให้บรรทุกของหรือติดตั้งอะไรได้มากหน่อย

เหมือนทางบริษัท ชัยเสรีให้ข้อมูลมานะครับว่า น่าจะเป็นของบริษัท SSS หรือ 3s ครับ

เยี่ยมมากเลยครับ พวกม้างานแบบนี้ เราเริ่มสร้างใช้เองแล้ว :-D ก็เหลือเพียงเครื่องยนต์เท่านั้นที่ยังคงต้องรอกันต่อไป ส่วนตัวแล้วอยากให้ภาคอุตสาหกรรม มาดูว่ากลาโหมเขาทำกันยังบ้าง เพราะในปัจจุบันเราต้องนำเข้าเครื่องยนต์เครื่องจักรของต่างชาติ มาใช้ในภาคอุตสาหกรรมเป็นเงินมหาศาล อย่างปี ๒๐๑๑ มูลค่าการนำเข้าถึง ๖๐๕,๐๐๐ ล้านบาท (หกแสนห้าพันล้านบาท) จากรายงานของบีโอไอ (http://www.boi.go.th/tir/issue_content.php?issueid=99;page=42) ผมว่าภาครัฐน่าจะช่วยภาคเอกชนให้มากกว่านี้ เราจะได้ไม่ต้องนำเข้าเครื่องจักรเครื่องยนต์มากเกินไป

กระทรวงอุตสาหกรรม ก่อตั้งมาตั้งแต่ ปี ๒๔๘๕ แต่ตอนนี้เครื่องสูบน้ำเราก็ยังต้องซื้อยี่ห้อต่างชาติใช้อยู่ คิดแล้วก็เศร้านะครับ ยังไงก็ตามกระทรวงอุตสาหกรรมและวิศวกรไทย ผมว่ามีความสามารถมาก แต่ไม่ได้รับการสนับสนุนเท่าที่ควร ผมว่าเรื่องนี้น่าคิดเหมือนกัน ขออภัยที่ออกนอกเรื่องครับ แต่รถสวยมาก ผู้ผลิตน่าจะตั้งชื่อรุ่นให้บ้างนะครับ :-D

ชื่อ รยบ 1/4 ตัน ไงครับ