หน้าแรก    ตั้งกระทู้ใหม่   ตอบคำถาม    เข้าสู่ระบบ      


กองทัพอากาศไทย VS กองทัพอากาศมาเลเซีย...ใครเหนือกว่ากันครับ?

โดยคุณ : Navylaws เมื่อวันที่ : 23/02/2014 23:19:48

กองทัพอากาศไทย VS กองทัพอากาศมาเลเซีย...ใครเหนือกว่ากันครับ?
ตอนนี้ ทอ.ไทย ได้รับมอบเครื่องบินรบกริพเพนครบ 12 ลำแล้ว และทาง
ทอ.มาเลเซียก็มี SU 30 18 เครื่อง อยากทราบว่า.....หากเกิดกรณีพิพาท
ระหว่างไทยและมาเลเซีย จนถึงขั้นที่ต้องใช้กำลังทางอากาศทั้งหมดที่มี
อยู่ในการทำสงคราม...ใครได้เปรียบเสียเปรียบ และใครเหนือกว่ากันครับ





ความคิดเห็นที่ 1


เกมบุก มาลาเซียเป็นต่อ

เกมรับ  ไทยเป็นต่อ

ถ้า 16 mlu เสร็จ เกมบุกไทยจะดีขึ้นมาก

โดยคุณ kkk006 เมื่อวันที่ 22/02/2014 09:16:20


ความคิดเห็นที่ 2


ถ้าเอาเพียวๆตัวต่อตัว ไม่รวมองค์ประกอบอื่นๆ SU-30 กินขาด เพราะขนาดซ้อมรบร่วม F-15E ยังร่วงหมดฝูง นับประสาอะไร กับ Jas-39 ล่ะครับ

โดยคุณ oleomano เมื่อวันที่ 22/02/2014 09:52:18


ความคิดเห็นที่ 3


แต่ถ้าความสามารถเฉพาะตัวไม่แน่

โดยคุณ kittinra เมื่อวันที่ 22/02/2014 09:57:45


ความคิดเห็นที่ 4


เอาใหม่ดูไม่สมจริง เกิดพิพาทจริง ทัพบกประจันหน้าอยู่ชายแดนเตรียมพร้อมปืนใหญ่ ทัพเรือพร้อม คงรบกันทางทะเลประทะกันทางอากาศในทะเล ณ ขณะนี้ Su-30MKM+F-18 บินมาเข้าเขตน่านน้ำไทย18+8 พร้อมกองเรือรบและเรือดำน้ำตามหลัง หยาดขึ้นบินพร้อม sabb340 2 ลำ และกองทัพเรือเรือไทยเตรียมพร้อมป้องกัน แบบนี้ suเป็นผู้รุก หยาดเป็นผู้รับด้วยระบบทั้งหมด +aim 120 , iris T , RBS-15F อยู่ไหมครับ

สำหรับผมเชื่อว่าไทยรับมืออยู่

โดยคุณ lfazuru เมื่อวันที่ 22/02/2014 10:28:45


ความคิดเห็นที่ 5


เจอ Buk M2E ไป 100 ระบบ ซ่อนตามป่าแล้วยิง ร้องจ๊ากกก!!!!!!!!!!!!!!!!


โดยคุณ repeatafterme เมื่อวันที่ 22/02/2014 12:12:34


ความคิดเห็นที่ 6


ซ้อมรบเมื่อไหร่เหรอครับที่ f-15 e ร่วงหมดฝูง

 

แต่ความจริงเวลาซ้อมรบเขาจะกำหนดคอนดิชั่นมาแล้วแต่ว่าการฝึกนั้นๆเปา้หมายคืออะไร ซึ่งคนภายนอกไม่รู้ เพราะเขาไม่เปิดเผยครับ

อย่างกรณีที่ยูโรไฟตเตอร์สามารถสอยเอฟยี่สิบสองในการซ้อมรบเขาก็ไม่มีการเปิดรายละเอียด

เลยคาดการณ์กันว่ายิงได้ในการรบระยะประชิด

โดยคุณ toeytei เมื่อวันที่ 22/02/2014 15:15:52


ความคิดเห็นที่ 7


ไอ้การซ้อมรบทางอากาศระหว่างอินเดียกับสหรัฐฯ ที่สหรัฐฯ แพ้กันจนเป็นตำนานไว้เชียร์ซู สาเหตุที่สหรัฐฯ แพ้เพราะความซ่าล้วนๆ ครับ สหรัฐฯ ต่อให้อินเดียพอสมควร แรกเลย สหรัฐฯ มี f15c สี่เครื่อง ติดตั้ง aesa สองลำ ส่วนอินเดียมีปนกันมั่วไปหมด 12 ลำ ทั้ง su-30, mirage 2000, mig-27 และ mig-21 โดย mig-27 เล่นเป็นเครื่องโจมตีเอสคอร์ตโดย mig-21 โดยจำนวนเครื่อง 3 ต้อ 1 นั้นอินเดียขอมา 

 

ประการที่สอง เงื่อนไขและกฎกติกาในการแข่งขัน อินเดียมีระบบ awac สหรัฐฯ ไม่มี   อินเดียสามารถใช้จรวด homing ทำให้ fire and forget ได้ ส่วนสหรัฐฯ ทำการจำกัดความสามารถนี้ ให้ใช้เรดาร์เครื่องอย่างเดียว แถมยังถูกจำกัดระยะของ amraam ไว้แค่ 32 km

ถ้าเล่นอย่างนี้แล้วอินเดียแพ้ อินเดียคงต้องล้างบางทอ. กันใหม่แล้วล่ะครับ

โดยคุณ tongwarit เมื่อวันที่ 22/02/2014 16:38:42


ความคิดเห็นที่ 8


ถ้าเกิดกรณีพิพาท จขกท นับ f-16 อีกครึ่งร้อยของเราด้วยก็ได้นะครับ มาเลย์เอา mig-29 กับ f-18 มาได้เลยบ่ยั่น

โดยคุณ tongwarit เมื่อวันที่ 22/02/2014 16:44:21


ความคิดเห็นที่ 9


  กองทัพอากาศประเมินไว้ว่า กองทัพอากาศไทยมีศักยภาพเป็นที่ 2 ในภูมิภาคอาเซียน เป็นรองแค่กองทัพอากาศ สิงคโปร์ 

  สาเหตุใหญ่ที่ทำให้เป็นเช่นนั้นคือในภูมิภาคนี้มีแค่ไทยกับ สิงคโปร์ เท่านั้นที่มีเครื่อง AEW&C ซึ่งทำให้มีความได้เปรียบกองทัพอากาศประเทศอื่นๆอยู่มาก เพราะระยะตรวจจับของเรดาร์ Erieye นั้นไกลถึง 450 Km บวกกับระบบ Datalink ทำให้เครื่อง Jas-39 ของเรามีความได้เปรียบสูงมาก เพราะเราจะรู้ตำแหน่งเครื่องข้าศึกได้ก่อนที่เครื่องของเราจะเข้าระยะเรดาร์ของเครื่อง Su ด้วยซ้ำ 

    ผมไม่แน่ใจว่าเรดาร์ของ Su ไกลเท่าไหร่แต่ไม่น่าจะเกิน 120 Km อีกอย่างที่ไม่แน่ใจก็คือ Datalink ของ AEW&C ของเราสามารถล็อคเป้าให้เครื่อง Jas ยิงแทนได้ เหมือนที่ AWAC ของอเมริกา คอยล็อคให้ F-15 รึเปล่าถ้าทำได้ เราก็จะยิงลูกยาวที่มีใส่เครื่อง อะไรก็ตามที่บินเข้ามาโดยที่ข้าศึกไม่รู้ตัวด้วยซ้ำ แบบนี่ Jas-39 แค่ 6 ลำที่พก AMRAAM ลำละ 4 ลูก ก็อาจจะสอยเครื่องข้าศึกได้ถึงมากสุดก็ 24 ลำในทางทฤษฏี ยิ่งถ้าต่อไป มี Mateor ก็ยิงจะได้เปรียบจัดเลย

โดยคุณ GT500 เมื่อวันที่ 22/02/2014 17:23:33


ความคิดเห็นที่ 10


เอาโจทย์แบบไหนล่ะครับ ทอ มาเลขนมาหมดทุกเครื่องบิน ทอไทยขนjas f16 f5 alphajet l39.  ความพร้อมรบของทั้งสองฝ่ายเป็นอย่างไรบไทยบินได้หมดไหม บมาเลบินได้กี่ลำ

โดยคุณ skysky เมื่อวันที่ 22/02/2014 21:55:35


ความคิดเห็นที่ 11


ยุทธศาสตร์ของกองทัพไทยคือการตั้งรับและป้องปราม ด้วยศักยภาพที่เทียบเท่าหรือเหนือกว่าภัยคุกคามโดยรอบ การที่ทอ.เลือกจัดหา Jas-39 C/D + SAAB 340 AEW "Argus" นั้นก็เพราะเล็งเห็นว่ามีสมรรถนะสูงเพียงพอที่จะรับมือได้ อีกทั้งยังเหมาะสมกับงบประมาณที่ได้รับ และมีความสามารถในการดำรงความพร้อมรบสูง โดยได้ศึกษายุทธวิธีการรบสมัยใหม่จากพันธมิตรเช่น ทอ.สหรัฐ ทอ.สิงคโปร์ และทอ.สวีเดน โดยประเมินภัยคุกคามทางอากาศที่มีความเป็นไปได้ ในกรณีนี้คือ Su-30 MKM  ซึ่งทอ.ไทยได้เลือกที่จะให้น้ำหนักในการป้องกันจากระยะไกล BVR

ประเมินคุณสมบัติขีดความสามารถของ Su-30 MKM จากข้อมูลที่พอจะหาได้

- ระบบเรดาร์ N011M มีพิสัย 300 กม. (ระยะตรวจจับเป้าหมายที่มี RCS 0.3 sq.m. : <80 km.)

- อวป. R-77M1 Adder (Active Radar Homing) ระยะยิงไกลสุด 160 km.

- ขนาดหน้าตัดที่สะท้อนสัญญาณเรดาร์ RCS 5 sq.m.**

คุณสมบัติและขีดความสามารถของ Jas-39 C/D + Argus S-100B

- ระบบเรดาร์ Erieye ของ Argus มีพิสัย 450 กม. (ระยะตรวจจับเป้าหมายที่มี RCS 5 sq.m. : 180 km.)

- ระบบเรดาร์ PS-05/A ของ Jas-39 C/D มีระยะตรวจจับเป้าหมายที่มี RCS 5 sq.m. : 120 km.

- อวป. AIM-120 C5*** (Acative Radar Homing) ระยะยิงไกลสุด >100 km.

- ระบบ Datalink แบบ 2 ทาง ระหว่าง Jas-39 กับ AEW รวมถึง อวป. AMRAAM (mid course update)

- RCS ของ Jas-39 C/D : 0.3 sq.m.****

ทอ.จะใช้ยุทธวิธีที่นำเอาจุดเด่นของ Jas-39 C/D + Argus + AMRAAM และข้อจำกัดของ Su-30 MKM + R-77M1 มาใช้เพื่อความเหนือกว่า โดยใช้ระบบเรดาร์ของ Argus ในการตรวจจับและติดตามเป้า Su-30 จากระยะ 180 km. และส่งข้อมูลเป้าให้กับ Gripen ที่บินอยู่ข้างหน้าในระยะห่างจากเป้าหมาย 90-100 km. (ซึ่งเรดาร์ของ Su-30 จะยังไม่สามารถตรวจจับเพื่อปล่อย R-77 ได้) และทำการปล่อยอวป. AMRAAM ไปสู่เป้าหมาย โดย Gripen สามารถบินกลับออกมาเพื่อไม่ให้เข้าไปในระยะตรวจจับและยิงอาวุธของ Su-30 โดยปล่อยให้ระบบเรดาร์และดาต้าลิงค์ของ Argus ทำการนำส่งข้อมูลให้ AMRAAM เข้าสู่เป้าหมาย (mid course update)

แต่...หาก Su-30 MKM สามารถหลุดรอดจาก AMRAAM มาได้ล่ะก็ งานนี้ Argus และ Gripen ก็ต้องพึ่งพาระบบ ECM ของตัวเองเพื่อเอาตัวรอดจาก R-77 ให้ได้ !!!

ในกรณีที่ทั้สองฝ่ายหลุดรอดเข้ามาต่อกรกันในระยะสายตา WVR ตรงนี้ Gripen จะเสียเปรียบด้านสมรรถนะทางการบินค่อนข้างมาก ทางที่ดีก็ควรใช้ Iris-T ออกไปจัดการตั้งแต่ระยะ 20 km. แล้วรีบเผ่นโดยเร็วที่สุดจะดีกว่าครับ

** RCS ของ Su-30 MKM มีข้อมูลแตกต่างกันตั้งแต่ 5-25 sq.m. ผมเลือกใช้ค่าที่ต่ำที่สุด

*** มีข้อมูลบางแหล่งระบุว่าทอ.ไทยได้รับมอบ AIM-120 C5 รวมทั้ง C7 แต่ตัวหลังไม่มีการยืนยัน

**** RCS ของ Jas-39 C/D ตามข้อมูลของ SAAB ระบุว่ามีขนาด 0.1 sq.m. แต่บางแหล่งประเมินว่า 0.3-0.5 sq.m.

ปล.ในกรณีของ F-16 AM/BM นั้นก็ใกล้เคียงกัน ทอ.เลือกระบบเรดาร์ APG-68V9 เพราะมีขีดความสามารถเพียงพอที่จะคงความได้เปรียบเหนือ Su-27 / Su-30 ของเพื่อนบ้าน แต่ในอนาคตก็หวังว่าทอ.จะจัดหาเครื่อง AEW เพิ่มเติมเพื่อสนับสนุนฝูง F-16 AM/BM รวมทั้ง AIM-120 C7 (หรือข้ามไป D) และ Meteor ที่มีสมรรถนะสูงมากขึ้นอีกมาก มาประจำการต่อไป

โดยคุณ TWG เมื่อวันที่ 23/02/2014 13:53:25


ความคิดเห็นที่ 12


kitty70 เมื่อวันที่ 23/02/2014 23:19:48