AK ที่เห็นในภาพสามารถใช้กระสุน 5.56*45 นาโต้ได้ ท่านคิดว่าอันไหนเหมาะกับกองทัพไทย
(แสดงความเห็นได้ ไม่ดราม่า ไม่พูดเรื่องการเมืองนะครับ)
AK-101
AK-102
AK-108
AK-102 ตอนนี้อส.(อาสาสมัครรักษาดินแดน)มีใช้อยู่ครับ
ผมว่า AK-101 เหมาะนะครับ แต่ของแบบนี้มันอยู่กับความเหมาะสมด้วยครับ
เมื่อธันวาคมปี 2553 AK-102 ได้ใช้ใน อส
AK102
http://www.youtube.com/watch?v=uvSvfSRDMCw
คำว่าเหมาะนี่มองในเชิงไหน เพราะก็เป็นปืนที่ดีไว้ใจได้กันหมด
สรุปคือมีไม่มีผมก็ว่าไม่ต่างกันเท่าไหร่ ที่เราซื้อมาให้อส.ใช้น่าจะเป็นเพราะหน่วยนี้ใช้อาร์ก้ากันมาก่อน
สามรุ่นที่จขกท.ว่ามามันก็ตัวเดียวกันนั่นแหละ คือไรเฟิ่ลธรรมดา ลำกล้องสั้นคาร์ไบน แล้วก็รุ่นสุดท้ายต่างกันนิดหน่อย ผมชอบนะ ระบบแก๊สแบบบาลานซ์ลดแรงถีบช่วยเพิ่มความแม่นยำ
ได้ยินแว่วๆ ในคลิปว่า กระบอกละ แสนห้า โห แม่เจ้าแพงๆๆๆ ซื้อ เอ็ม 16 เอ 4 ที่ ทบ.ซื้อไม่ได้กว่ารึ เอ 4 ทบ.ซื้อกระบอกละประมาณ 24,569.05 บาท เองครับ...ถูกกว่า คิมเบอร์อีก
กระบอกละ 150,000 นี่จริงป่ะครับ ถ้าซื้อ 300,000 กระบอก(เห็นว่าเป็นจำนวนทหารไทย) ก็เป็นเงิน 45,000 ล้านบาท
เงินขนาดนี้ ผมละสงสัยจริงๆว่าทำไมเราไม่ออกแบบและสร้างเอง เทคโนโลยีการออกแบบและผลิตในทุกวันนี้ไปไกลมากแล้ว สำหรับการผลิตอุปกรณ์ที่ใช้เทคโนโลยีเมื่อ 50 ปีก่อน ออกแบบใช้คอมพิวเตอร์ การผลิตก็ใช้คอมพิวเตอร์ควบคุมเครื่องจักร เรื่องมาตรฐานการผลิต ISO9000 ISO14000 มีคนไทยที่มีความรู้เรื่องนี้ก็มีมากกว่าเมื่อ 30 ปีก่อนเยอะ
เอาคลิปเยี่ยมโรงงานผลิตปืนตระกูล m16 มาให้ดู(สิทธิบัตรหมดอายุนานแล้ว ใครๆก้ผลิตได้) โรงงานเขาไม่ได้ใหญ่โตคนงานก็ไม่ได้เยอะเลย ใช้เครื่อง CNC(เครื่องกลึงรุ่นใหม่ๆ) ควบคุมด้วยคอมพิวเตอร์เป็นหลัก
โรงงาน mega arms
โรงงาน barnes
ส่วนที่ว่ากระบอกเหมาะสมกว่า ผมว่าปืนคุณภาพใช้ได้ ทนทาน ยิงออก แม่นยำพอควร เหมาะสมหมด จะเหมาะสมกับไทยมากขึ้นถ้าผลิตและออกแบบโดยทหารไทยเอง
ที่ว่ากระบอกละ 150,000บาท มันคือราคาพาณิชย์ครับ เอาง่ายๆปืนสวัสดิการปืนสั้นที่ขายกันราคา 4-5 หมื่น นั่นคือราคาที่ลดภาษีเเล้ว
เเต่ถ้าราคาพาณิชย์อยู่ที่ประมาณ8-9หมื่นบาทเลยทีเดียว บอกยังงี้เเล้วคุณอย่าคิดนะว่าร้านปืนไม่ได้อะไร ร้านปืนมันสั่งมาเป็นล๊อตใหญ่ทีละเป็นร้อยกระบอก ถ้าราคาสวัสดิการ 4-5 หมื่นบาท ราคาต้นทุนประมาณ 35,000 หมื่น ปืนสวัสดิการขายดีมากทุกเดือนไม่มีค้างสต๊อกนานบางทีต้องจองนานจนป.3ขาด ยกตัวอย่างว่า เดือนนึงขายปืนพาณิชย์ได้ 5 กระบอก กระบอกละ90,000บาท เก็บภาษีเเล้วอาจเหลือกำไรเเค่กระบอกละ20,000 บาท 5กระบอกหนึ่งเเสนบาท เเต่ปืนสวัสดิการคนซื้อเยอะ เดือนนึงอาจจะได้10กระบอก เข้าโครงการเสียภาษีน้อยกว่าขายราคากระบอกละ 50,000 บาท กำไร15,000บาท ต่อกระบอก จะได้กำไร150,000 บาท
ไม่รุ้เมื่อไรรัฐจะตาสว่างเสียทีที่ปืนสวัสดิการจะนำเข้ามาโดยรัฐโดยตรงเเล้วขายให้ข้าราชการโดยไม่ต้องผ่านร้านปืนเพราะที่รัฐลดภาษีให้ในการซื้อปืนเเต่ร้านปืนกลับมาupราคาทำกำไรกับข้าราชการ...........
เคยอ่านในบอร์ดนี้แหละครับ มีผู้ให้ความเห็นไว้ว่ายิงแล้วไม่ค่อยแม่นเนื่องจากแรงสะบัดมีมาก อันนี้ก็ไม่ค่อยแน่ใจนะครับเพราะขนาดกระสุนก็เปลี่ยนมาเป็น 5.56 แล้ว
ปัญหาที่ชัดกว่าคือราคาครับ ถ้ากระบอกละ 150,000 จริง ไปเหมาเอเคจากจีนดีกว่ามั้งครับ
ขนาดซื้อทีละร้อยพันกระบอกยังแพงเว่อร์ขนาดนี้ มีทอนหรือเปล่าก็ไม่รู้
มันจะมีราคาพานิชได้ยังไงครับ ปืนยาวยิงกึงauto กระสุนชนวนกลาง มันห้ามจดทะเบียน ยิ่งยิงauto ได้ไม่ต้องพูดถึง มันจะมีราคาพานิชเหรอครับ
อ่อ เข้าใจว่าหน่วยที่ใช้ปืนราคา 150000นี้คือ อส รักษาดินแดน สังกัดกระทรวงมหาดไทยนะครับ น่าจะใช้งบของมหาดไทย จัดซื้อจัดจ้างโดยกระทรวงมหาดไทย กองทัพไม่เกี่ยว ซึ่งก็งง งง ว่า ทำไมไม่หาปืน ที่มีใช้ในเหล่าทัพ หรือ ตำรสจก็ยังดี เพราะ อส ไม่มี หน่วยสรรพาวุธ ซ๋อมบำรุงเอง...