กองทัพอากาศไทยจะดำเนินโครงการฝึกนักบินขับไล่หลังตั้งรัฐบาลใหม่ - เมื่อ 22 ม.ค.57 น.อ.ประภาส สอนใจดี โฆษกกองทัพอากาศกล่าวว่า กองทัพอากาศคาดว่าจะดำเนินโครงการฝึกนักบินขับไล่ หรือ Lead-In Fighter Trainer (LIFT) มูลค่า 400 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หลังตั้งรัฐบาลใหม่ โดยอากาศยานใหม่จะนำมาทดแทนเครื่องบินฝึก Northrop F-5 และเครื่องบินฝึกโจมตีเบา Aero L-39 Albatros โดยในเบื้องต้นคาดว่าจะซื้อเครื่องบินฝึกจำนวน 16 ลำ การจัดซื้อในโครงการนี้ได้กลายเป็นเรื่องด่วนตั้งแต่กองทัพอากาศได้มีเครื่องบินรบ JAS 39 Gripen จำนวน 12 ลำ เข้าประจำการ ที่ส่งมอบตั้งแต่ปี พ.ศ. 2554 – 2556 ในขณะนี้ใกล้จะถึงขั้นตอนของการประกวดราคานานาชาติ แต่ต้องล่าช้าออกไป เนื่องจากรัฐบาลได้ยุบสภาไปแล้ว จึงต้องรออนุมัติงบประมาณจากรัฐบาลใหม่ โดยสำนักข่าว Jane’s เข้าใจว่าจะมีเครื่องบินรุ่นต่างๆ ที่จะเข้าร่วมประกวดราคาในครั้งนี้ ได้แก่ เครื่องบิน T-50 จากบริษัท Korea Aerospace Industries เครื่องบิน Hawk จากบริษัท BAE Systems เครื่องบิน L159 จากบริษัท Aero เครื่องบิน M-346 จากบริษัท Aermacchi และเครื่องบิน L-15 Falcon จากจีน ส่วนโครงการจัดซื้ออากาศยานอื่นๆ ของกองทัพอากาศก็จะมีการจัดซื้อเครื่องบิน Gripen เพิ่มเติมอีก 6 ลำ และเฮลิคอปเตอร์ Eurocopter EC725 เพิ่มเติมสำหรับภารกิจค้นหาและกู้ภัย/Jane’s
ขอบคุณข้อมูลจาก
https://www.facebook.com/photo.php?fbid=187446971464780&set=a.186726204870190.1073741880.150885401787604&type=1&theater
http://dtad.dti.or.th/index.php?option=com_content&view=article&id=484%3Adefence-news-around-the-world-27-31-jan2014&catid=3%3Adefense-news&Itemid=3
เป็นโครงการที่สำคัญมากอีกโครงการหนึงเลยนะครับเนี่ย
ผู้เข้าร่วมก็ดูมีภาษีดีกันหมดเลย ที่เด่นๆ ก็คงหนีไม่พ้น T-50 กับ M-345 ละมั้ง
มีความคิดเห็นกันอย่างไรบ้างครับนักรบทั้งหลาย
ขอแก้ไขนิดนึงนะครับ
น.อ.ประภาส สอนใจดี โฆษกกองทัพอากาศ..นั้น ความจริงท่านเป็น "ผู้บังคับการกรมนักเรียนนายเรืออากาศ รักษาพระองค์
ส่วนโฆษกกองทัพอากาศคือพลอากาศโท มณฑล สัฌชุกร ครับ และสอบถามแล้ว น.อ.ประภาส ฯ ไม่เคยให้สัมภาษณ์กรณีนี้(ข้อมูลจากท่านท้าวทองไหลครับ)
ข่าวดีนะ แจ่มๆ ส่วนตัวผมเชียร์ m346 หรือ t-50 หรืออะไรก็ได้ที่มันเสร็จเรียบร้อยแล้ว
L-15 นี่เห็นหน้าตาเหมือน m346 (ก๊อปมาเปล่าวะ ฮา) แต่ตอนทำล่าช้าเละเทะจนรัฐบาลจีนไปใช้เครื่อง jl-9 ที่เทคโนโลยี่ใหม่เอี่ยมอ่อง (ฮา) พัฒนามาจากตระกูล mig-21 (เก๋ามาตั้งแต่รุ่นพ่อ)
L-15 ยังเป็นโปรโตไทป์บินๆ กันอยู่เลย
ส่วน m346 ได้รับใบรับรองจากรัฐบาลอิตาลีแล้ว ทอ. อิตาลี อิสราเอล สิงคโปร์ ซื้อกันแล้ว น่าไว้ใจ แถมนาโต้อีกต่างหาก ดีไม่ดีอิสราเอลจะโมฯ ต่ออายุยามแก่เฒ่าชราให้เราได้ใช้บริการอีกต่างหาก
@คุณ fulcrum37 มันก็เป็ดกันทุกเครื่องรวมถึงของจีนเช่นกัน
ผมว่าหวยออกเกาหลีครับ
ตัวเต็งก็คง T-50 กับ M-346 นั่นแหล่ะครับ น่าแปลก L-15 มาแจมกับเขาด้วย
L-15 พัฒนาร่วมกัยระหว่างบริษัทจีนกับทางรัสเซียที่เป็นสำนักออกแบบ Yak-130 ดังนั้นจึงหน้าตาไม่หนีกันมากครับ แต่ L-15 จะเป็นเครื่องฝึกความเร็วเหนือเสียง yak-130 เป็นเครื่องฝึกความเร็วต่ำกว่าเสียงครับ ผมว่าคราวนี้ L-15 คงเสนอราคาน่าจะต่ำที่สุดในเครื่องที่เสนอตัวเข้ามาคราวนี้นะ
ครั้งก่อนตอนจัดหา L-39 ผมยังคิดว่า Hawk จะชนะเลย แต่ติดที่ราคา จนกลายเป็นว่า L-39 เข้าวิน งานนี้ผมว่า ทอ.คงต้องการ M-346 มากกว่า แต่ก็คงเจอปัญหาเดิมๆ......เงิน......อาจจะเปลี่ยนแปลงไปกว่าที่คิด ..........ว๊าก ก ก .....L-15 เข้าวิน
ว่าแต่ 400 ล้านเหรียญสำหรับ 16 เครื่อง ตกเครื่องละ 25 ล้านเหรียญ ว่ามะมันราคาเครื่องเปล่าของ........T/A-50.....หุหุหุหุ..........
จาก wiki ระบุว่าอินโดนีเซียจัดหา TA-50 จำนวน 16 เครื่องในราคา 400 ล้านเหรียญ หรือ 25 ล้านเหรียญพอดีๆ
Indonesia had been considering the T-50, along with four other aircraft to replace its BAE Hawk Mk 53 trainer and OV-10 Bronco attack aircraft.[70] In August 2010, Indonesia announced that T-50, Yak-130 and L-159 were the remaining candidates for its requirement for 16 advanced jet trainers.[71] In May 2011, Indonesia signed a contract to order 16 TA-50 aircraft for US$400 million. The aircraft is to feature weapons pylons and gun modules, enabling light attack capabilities.[4][72] The Golden Eagles are to replace the Hawk Mk 53 in Indonesian Air Force service.[73] Indonesia's version has been designated T-50i. Deliveries began in September 2013.[74] The last pair of T-50i aircraft were delivered on 25 January 2014.[75]
ส่วนดีลสิงคโปรจัดหา M-346 จำนวน 12 ลำนั้น ตัวโครงการทั้งโครงการซึ่งมี
1. เครื่องบินฝึก 12 เครื่อง
2. ศูนย์ฝึกใหม่
3. อะไหล่
ราคาโครงการ 410 ล้านเหรียญ ตกเครื่องละ 34.2 ล้านเหรียญ แต่ทาง Aermacchi บอกว่าจะมีส่วนได้จากโครงการนี้ 340 ล้านเหรียญ ซึ่งน่าจะเป็นการขายเครื่อง M-346 เปล่าๆให้ หรือตกเครื่องละ 28.3 ล้านเหรียญ
เวปอ้างอิง http://www.flightglobal.com/news/articles/singapore-confirms-order-for-m-346-trainer-347885/
ดังนั้นจากราคาอ้างอิงตรงนี้มีแนวโน้มจะเป็น TA-50 มากกว่า M-346
ส่วนกรณี M-346 จำนวน 30 เครื่องที่ขายให้อิสราเอลนั้น ทั้งโครงการมีมูลค่า 1,000 ล้านเหรียญ แต่ทาง Alenia Aermacchi ประกาศว่าตนมีส่วนแบ่งในโครงการ 600 ล้านเหรียญ หรือตกเครื่องละประมาณ 20 ล้านเหรียญเท่านั้น ส่วนอีก 400 ล้านเหรียญที่เหลือน่าจะเป็นส่วนศูนย์ฝึกและอื่นๆ
July 19/12: M-346 Deal Finalized. Italy and Israel sign a set of 2-way defense deals. Israel will get 30 M-346 trainers, for delivery beginning in mid-2014. It’s a $1 billion deal, with Alenia’s share announced at around $600 million. Israel will join Italy and Singapore as M-346 operators.
แต่มีการลงนามของทางกระทรวงกลาโหมอิสราเอลกับบริษัทภายในประเทศ 2 บริษัทคือ Elbit และ IAI ในการสนับสนุนโครงการนี้อีก 603 ล้านเหรียญ เพื่อสำหรับการสร้างศูนย์ฝึก และ ค่าใช้จ่ายการปฎิบัติการของศุนย์ฝึกตลอด 20 ปี รวมถึงระบบ avionics สำหรับเครื่องฝึกใหม่ทั้ง 30 เครื่องด้วย
Sept 10/12: TOR Agreement. The Israeli Ministry of Defense reaches a $603 million agreement with the IAI/Elbit TOR consortium, which will operate and maintain the Future Trainer Program’s M-346 jets and associated facilities. Overall, the workshare breaks down to about $420 million for Elbit, and (by inference) $183 million for IAI.
Elbit has received an initial $27 million interim purchase order to get things moving, and the full contract will be signed in the next few weeks, once the government finishes lining up the financing. During the program’s Establishment Phase, Elbit Systems will set up the support and maintenance infrastructure, as well as the simulators and the rest of the ground training array. They will also provide the jets’ advanced avionics systems. Total value for this phase is $110 million over 3 years.
During the operational phase, Elbit Systems will provide about $310 million (current dollars) of support services over the agreement’s 20-year lifespan. Elbit Systems .
ดูเหมือนว่าโครงการนี้ของอิสราเอลจะมีการจัดหาเครื่องจากอิตาลี และระบบ เอวิโอนิคต่างๆจะมาจากบริษัทภายในประเทศ และมีการลงนามความร่วมมือกันในด้านตลาดค้าอาวุธ รวมถึงการต่างฝ่ายจัดหาของจากกันและกันด้วย ดังนั้น 20 ล้านเหรียญต่อเครื่องที่ Aermacchi ได้ไปนั้น น่าจะไม่มีการรวมราคาระบบ avionics ต่างของเครื่องเลย จะใช้ของอิสราเอลทั้งหมด ซึ่งผิดกับทางสิงคโปร์ที่ซื้อหมดล้วนๆ ดังนั้น จะกล่าวว่า M-346 ที่ขายให้อิสราเอลมีราคาแค่ 20 ล้านเหรียญต่อเครื่องนั้นไม่น่าจะถูกต้องครับ ต้องไปดูว่าระบบ เอวิโอนิคต่างๆที่ติดตั้งในเครื่องที่เป็นของ Elbit และ IAI นั้นมีมูลค่าทั้งหมดเท่าไร จึงจะหาราคาค่าตัวจริงๆของ M-346 ที่ขายให้อิสราเอลได้
เห็นว่าโครงการนี้ดราม่ากันมาก เพราะข้อมูลในตอนแรกเห็นว่าทางเกาหลีเสนอความร่วมมือในระดับสูงกับอิสราเอล ถึงขนาดที่ว่าเกาหลีตัดสินในจัดหาเรด้าร์ EL/M-2032 มาใช้กับ TA-50 และ ทำการร่วมกันโมดิฟายด์เรด้าร์ EL/M-2032 ให้แรงยิ่งขึ้น (แรงกว่าเดิม 60% จากระยะตรวจจับเดิม 130 Km. กลายมาเป็นประมาณ 200 Km.) เพื่อใช้กับ FA-50 ที่เกาหลีใต้สั่งซื้อชุดแรกอีกด้วย และมีการถกเถียงกันอย่างมากในการจัดหา M-346 คราวนี้ ซึ่งมาจบที่ M-346
เวปลิ้งบางส่วน (มันเยอะมาก)
http://www.defenseindustrydaily.com/israels-skyhawk-scandal-05105/
http://www.globes.co.il/en/article-1000725663
ถ้าใช้ AN/APG-67 v4 กับ TA-50 ก็ได้ครับ ประสิทธิภาพจะดีกว่า EL/M-2032 นิดหน่อย คือประมาณ 150 Km. ส่วนระบบเอวิโอนิดภายในจะเป็นของเกาหลีเป็นหลัก แต่ก็รองรับ NATO และของทุกอย่างในคลังของเราเช่นกันครับ
ฝูงถัดไปที่จะมาทดแทน Alpha jet และฝูงโจมตีที่ขาดไปอีก 1 ฝูง รวมอีก 2 ฝูงบิน ถ้าได้ FA-50 จะแจ๋วมากๆเลยครับ ประมาณ 30 ล้านเหรียญต่อเครื่อง น่าเล่น( ดีลการจัดหาของ ทอ.เกาหลีใต้ต่อเครื่องประมาณนี้) ส่วนดีลของฟิลิปปินส์นั้นสูงมาก 464 ล้านเหรียญสำหรับแค่ 12 เครื่องเท่านั้น หรือเกือบ 40 ล้านเหรียญต่อเครื่องทีเดียว
คิดว่าไม่ใช่แค่ตัวเครื่องครับ น่าจะเป็นการรวมระบบฝึก ศูนย์ฝึก การเมนเทนแนนซ์ตลอด 20 ปี และอะไหล่ เพราะในเวป philippins defense forum เห็นบอกว่าทางเขาต้องมาดำเนินการตั้งต้นใหม่ทั้งหมดในเรื่องการใช้เครื่องบินขับไล่ ทั้งการฝึก LIFT ด้วย เพราะขาดการประจำการด้วยเครื่องบินขับไล่มานานทีเดียว
จากดีล M-346 ของสิงคโปร์ที่ตกเครื่องละ 28.3 ล้านเหรียญนี้ ไม่มีระบบเรด้าร์ครับ แต่ 25 ล้านเหรียญนี้รวมระบบเรด้าร์และ ECM แล้วด้วยแถมบินด้วยความเร็วเหนือเสียงและกำลังเครื่องยนต์ที่แรงกว่า บรรทุกมากกว่า แต่ถ้าเป็น T-50 ตัวเปล่าไม่มีเรด้าร์ ก็ราคาแค่ 20-21 ล้านเหรียญเท่านั้น
แต่ถ้าเพิ่มอีกนิดเป็น 30 ล้านเหรียญจะได้เรด้าร์แรงพอๆ APG-68 V4 ประมาณ 200-220 Km. และเป็น Fighter แท้ๆด้วยครับ ราคาน่าต่อประสิทธิภาพเล่น
สอบถามนิดนึงครับ เรดาที่เราถอดจาก f-16 ก่อนทำmou เราต้องส่งกลับหรือเราเทอนอะไหล่กับของใหม่หรือไม่ครับ
ถ้าหากเรายังเก็บอยู่ เราสามารถซื้อแต่ตัวเครื่องแล้วใส่เรดาตัวนี้แทนได้หรือไม่
ผมคิดว่าภารกิจหลักของบ.ฝึกไม่น่าต้องใช้เรดาที่แรงมาก บางครั้งอาจทำการโจมตีภาคพื้นก็ตาม
mou= memorandum of understanding บันทึกความเข้าใจร่วมกัน
mlu= midlife upgrade อัพเกรดกลางชีวิต
เรดาร์ไม่น่าจะคืนน่าจะไว้เป็นอะไหล่ เดานะครับ
แวบมาถามหน่้อยครับ หาไม่เจอ
เจ้าgun pod ของM-346มันรุ่นอะไร? แล้วถ้าจัดหาในการติดตั้งอาวุธนำวิถีระยะใกล้จะใช้AIM-9Mหรือต้องจัดหาAIM-9Xหรือใช้Iris-Tพร้อมtargeting pod ได้?