คุณคิดว่าขนาดของกองทัพเรือไทยในปัจจุบัน...มีความสามารถปกป้องอธิปไตยของชาติทางทะเล
ได้มากน้อยแค่ไหนครับ?
......................................................................................................................................................
ส่วนตัวผมคิดว่า...กองทัพเรือของประเทศไทยมีขนาดไม่ใหญ่และไม่เล็กมากจนเกินไป ซึ่งเมื่อเทียบ
กับประเทศเพื่อนบ้านใกล้เคียงแล้วกองทัพเรือไทยมีความสามารถปกป้องอธิปไตยของชาติทางทะเล
ได้ในระดับหนึ่ง เพียงแต่เราต้องพัฒนากองทัพเรือให้มีความทันสมัยเพิ่มมากขึ้นกว่านี้ ที่สำคัญที่สุด
กองทัพเรือไทยของเรายังขาดความพร้อมรบในมิติที่ 3 คือ มิติใต้น้ำ เรายังขาดเรือดำน้ำซึ่งเป็นอาวุธ
ที่ทรงอานุภาพใต้น้ำ ประเทศเพื่อนบ้านรอบๆ ประเทศไทยทยอยมีเรือดำน้ำกันไปจนเกือบจะหมดแล้ว
ถึงเวลาแล้วที่ราชนาวีไทยควรจะมีเรือดำน้ำเหมือนกับประเทศอื่นๆ เขาบ้าง
กองทัพเรือไทย ผมว่าขนาดกำลังดี และไม่ได้ขาดความทันสมัยหรอกครับ แต่ขาดความต่อเนื่อง การถูกล้วงลูกจากผู้มีอำนาจ อย่างเช่นที่ผ่านมา เรามีงบจัดหาเรือฟริเกตใหม่ ทั้งที่ยังพอมีเรือฟริเกตไว้ใช้งาน แต่ไม่มีงบจัดหาเรือดำน้ำ ทั้งที่งบประมาณจำนวนดังกล่าวใกล้เคียงกันในการจัดหา และลำดับความสำคัญของเรือดำน้ำน่าจะมีมากกว่า ส่วนโครงการในการพึ่งพาตนเอง กลับถูกตัดไม่มีงบมาพัฒนาเพิ่ม และผู้ใหญ่ไม่ให้ความสำคัญ ถ้าจะแก้ไขปัญหาของกองทัพเรือ ผมว่าต้องแก้จากคนก่อนครับ
เรื่องเรือฟรีเกตใหม่มีเรื่องให้คุยกันยาวเยอะ ไม่ว่าเรื่องหวยล็อกและความคุ้มค่าต่อตัวเงิน ตอนนี้ก็จะต่อเพิ่มอีกคงหมดเงินไปทำเรื่องอื่นไปอีกนาน เรื่องเรือดำน้ำก็มีแต่คนเสียดายดีลสุดคุ้ม ส่วนตอนนี้ทร.เริ่มออกทะเลเรื่อง NCW ไปไกลเหมือนกันที่ฝันเรื่องการรบร่วมกับทอ.ซึ่งยังหาเจ้าภาพหรือขั้นตอนการทำงานที่ชัดเจนไม่ได้แต่ซื้อของมากองก่อน
ในปัจจุบัน ถ้ามองรวมๆแล้ว ทร. ของไทยถือว่ายังพอรับมือภัยคุกคามไหว เพราะประเทศเพื่อนบ้านส่วนใหญ่จะมีกองเรือผิวน้ำไม่มากนัก ถึงแม้จะมีกองเรือดำน้ำบางแต่ก็จำนวนไม่มากเช่นกัน
ในอนาคต 5 ปีต่อจากนี้ จากพัฒนาการของ ทร. คงจะรับมือภัยคุคามไม่ไหว เพราะ ทร. มีจำนวนเรือเยอะจริงแต่เก่าและขีดความสามารถต่ำ โดยเฉพาะสงครามใต้น้ำถือว่าต่ำมาก ขณะที่เพื่อนบ้านมีการพัฒนาการทั้งจำนวนเรือรบผิวน้ำ เรือดำน้ำ จำนวนมาก
หนทางแก้ไข
1.ทร. ควรได้รับงบประมาณเพิ่มขึ้น อย่างน้อยจาก 30,000 ล้าน เป็น มากกว่า 40,000 ล้านบาท
2.ลดจำนวนเรือและประเภทโดยรวมลง เช่น จาก 100 ลำเหลือ 60 ลำ (เรือ่งจำนวนนี่สมมุติน่ะครับ) แต่เรือที่เหลือต้องอเนกประสงค์ คือทำได้หลายหน้าที่
3.เพิ่มประสิทธภาพของเรือรบ เช่น เรือใหม่ที่ทันสมัยกว่ามีขีดความสามารถรบได้ทั้ง 3 มิติ ผิวน้ำ ใต้น้ำ อากาศ ส่วนเรือเก่าก็ต้องเพิ่มประสิทธิภาพให้สามารถทำการรบได้ทั้ง 3 มิติ เช่นกัน
4.จัดหาเรือดำน้ำเข้าประจำการให้เร็วที่สุด อย่างน้อย 4 ลำ
5.จัดหาอากาศยานทั้งปีกตรึง ปีกหมุน เพิ่มขึ้นให้เพียงพอกับความต้องการ โดยเฉพาะที่ประจำเรือรบ เรือบรรทุกเครื่องบิน เช่น ฮ. ปราบเรือดำน้ำที่มีขีดความสามารถโจมตีเรือผิวน้ำ ฮ.ลำเลียงที่มีขีดความสามารถติดอาวุธนำวิถีโจมตี เครื่องบินขึ้นลงทางดิ่ง AV8B มือสอง และควรซื้ออากาศยานที่มีประสิทธิภาพเต็มตามที่ออกแบบ ไม่ใช่ซื้อตัวอากาศยานแต่อุปกรณ์ไม่ครบ
แค่ 5 ข้อก็น่าจะทำให้ ทร. ไทยสามารถรับมือภัยคุกคามจากภายนอกได้พอสมควร ครับ
av-8b เลิกคิดเถอะครับ เป็นไปไมไ่ด้ และหากอนาคตจะได้จริงก็คงจะเก่าจนไม่มีอะไหล่แล้ว
เครื่องบินขับไล่หรือโจมตีอื่นๆ ผมไม่คิดว่ากองทัพเรือควรมี เนื่องจากงบฯ น้อย เอาไปซื้อเรือให้เพียบพร้อมก่อน
ให้กองทัพอากาศดูแลปฏิบัติการทางอากาศแทน และถ้า กห จะเอางบฯ ไปซื้อเครื่องขับไล่ให้กองทัพเรือ ผมมองว่าเอาไปให้กองทัพอากาศซื้อเครื่องบินเหอะ ทอ. เครื่องยังไม่เต็มฝูงเลย
AV-8Bถ้าซ่อมกินตัวก็มีอีกเป็นสิบๆลำที่เป็นอะไหล่ได้นะครับ(เหลือจริงๆเป็นร้อย) และผมคิดว่าเขาก็น่าจะขายให้ เพราะก็เคยมีเรื่องนี้ตอนจะปลดมาทาดอร์แล้วแต่เราไม่มีเงิน ลำนึงยังถูกกว่าซีฮอว์กมือหนึ่งอีก
คือถ้าเขาจะขายก็คือหมดสภาพ ทีนี้เราซื้อมาใช้แป๊บเดียวก็เจ๊ง อย่างล็อตแรกเราซื้อมาแป๊บเดียวก็เจ๊ง สมัยนั้นยังมีอะไหล่ แต่เราไม่มีเงิน ส่วนตอนนี้อะไหล่ไม่มีแล้วครับ ขนาด Harrier II ของอังกฤษยังโดนเมกาเหมาไปเป็นอะไหล่ให้ av-8b II เลย
อีกสาเหตุที่ไม่มีใครขาย av-8b เพราะตอนนี้ผู้ใช้แฮริเออร์ทุกประเทศกำลังรอ f-35b อยู่ ซึ่งอีกนานกว่าจะผลิตมาทดแทนได้หมด
ตอนนี้มีคนใช่อยู่แค่สามประเทศคือ อิตาลีกับสเปนคนละสิบกว่าลำ ที่เหลือเป็นของเมกาหมด ซึ่งทุกลำอยู่ได้อีกสิบปีก็น่าจะใกล้หมดสภาพแล้ว ดังนั้นถามว่าสเปนกับอิตาลีจะขายทิ้งทำไม? เนื่องจากเอฟสามสิบห้ายังไม่ได้รับ ส่วนไทยจะซื้อมาเตรียมเจ๊งอีกรอบจริงๆ เหรอ? ส่วนเมกาไม่ต้องถาม ขนาดของอังกฤษยังเหมาไปเป็นอะไหล่แล้ว
ต่อให้เป็นร้อยๆ เครื่องก็ไม่ได้แปลว่าเขาจะขายนิครับ นอกจากเขาโละทิ้งจริงๆ ซึ่งให้ฟรียังแม่น่าว่าจะคุ้มค่าซ่อม
ต้องมาพิจารณาดูว่า AV-8B ตอนนี้ถ้าซื้อมือสองมาจะใช้ได้อีกกี่ปี คุ้มหรือไม่สำหรับการซื้อมาแล้วมาซ่อมในราคาที่สูง สมมุติท่านจะซื้อมา 20 ลำเพื่อใช้ได้แค่ไม่กี่ลำ และระยะเวลาที่ใช้ได้อีกไม่กี่ปี แล้วทิ้งอีก 10 กว่าเครื่องเป็นอะไหล่ แต่ราคาที่เขาขายให้เราในราคา 20 ลำน่ะคับ เขาไม่ได้ขายราคาอะไหล่ให้น่ะคับ คุ้มหรือไม่ แล้วถ้าต่อไปอะไหล่ไม่มี เราต้องไปซื้อมาอีกกี่ลำเพียงเพื่อะไหล่
เขาขายอาวุธเป็นล็อตน่ะคับ ไม่ได้ขายเป็นเครื่อง อย่างวันนี้เราต้องการอะไหล่ตัวนี้ เครื่องที่เป็นอะไหล่ไม่มีแล้วเราต้องไปซื้อมาอีก 1 ล็อต (ซึ่งก็ไม่แน่ว่าเขาจะขายให้หรือเปล่าด้วย) ซึ่งต่อไปเพื่อให้เครื่องยังใช้งานได้ เครื่องที่ใช้เป็นอะไหล่จะมากกว่าเครื่องที่ใช้ปฏิบัติการได้อย่างแน่นอน
ถ้าใช้แล้วคุ้ม (นอกจากเท่ห์ว่าประเทศตัวเองมีเรือบรรทุกเครื่องบิน) อังกฤษคงไม่ขายให้อเมริกาทั้งหมดหรอกคับ
เรื่อง"การอนุมัติ"น่ะครับ...ผมว่าอเมริกาขาย เพราะตอนเราสนใจก็มีรายชื่อAV-8Bโผล่มาด้วยแต่ไม่มีเงินไปจัดหา
สำหรับอะไหล่ คุยกับอเมริกาในอดีตยังไงในปัจจุบันก็คงยังเป็นแบบนั้นครับ คือถ้ามีเงินพอเขาก็ขายให้ ซึ่งแม้จะไม่ถือว่าถูกมากๆแต่ยังถูกกว่าราคาเครื่องเต็มๆอยู่พอสมควร(อย่างที่ืทร.ขอซ่อมA-7แต่ไม่มีตังค์หลังวิกฤตเศรษฐกิจ)
ส่วนอังกฤษเขาจะมีเรือQEอยู่แล้ว แถมอยู่ในช่วงตัดลดงบประมาณขนาดเรือฟริเกตยังแบกจรวดไปแค่ไม่กี่ลูก คงต้องขายต่ออยู่ล่ะครับในเมื่อเขาไม่สนใจจัดหาอะไหล่เพิ่มเติม แต่แฮร์ริเออร์ไม่ใช่แค่จากอเมริกา ยังมีจากอิตาลีและสเปนเจ้าเก่าเจ้าของAV-8S
และการสนับสนุนอะไหล่ของอเมริกาผมก็ไม่คิดว่าน่าเป็นห่วงนะครับถ้ามีเงินพอ เหมือนSM-1กับMk.13อะไรพวกนั้น คงได้ใช้เกิน15ปีแน่ (นับช่วงที่อเมริกาปลดแล้วแต่สเปนและอิตาลียังไม่ได้F-35Bด้วย)
สุดท้ายก็ต้องแล้วแต่งบประมาณอยู่ดีครับ คือถ้ามีเงินก็ซื้อ ไม่มีเงินก็ไม่ต้องซื้อ
เรื่อง AV8B จำนวน 8-12 เครื่อง (ใช้จริง 6-8 เครื่อง) มีความสำคัญท้ายๆ คือไม่มีก็ได้แต่ถ้ามีได้ก็ดี เพราะ AV8B ยังไงก็มีขีดความสามารถสูงกว่า ฮ.โจมตีมากๆ และมันจะเติมเต็มให้กับเรือจักรีฯและกองเรือรบของไทยอย่างมาก จริงอยู่ว่าเราอาจจะประจำการได้สัก 15 ปีจนเป็นประเทศสุดท้ายที่ประจำการ แต่จะเป็น 15 ปีที่ทรงคุณค่าทางยุทธศาสตร์ทางทะเลถ่วงดุลประเทศเพื่อนบ้าน ส่วนเรื่องค่าปฏิบัติการและอะไหล่ ผมคิดว่าไม่มีปัญหา อย่าว่าแต่ 15 ปี ต่อให้สัก 30 ปีก็หาได้เพราะอุปกรณ์พวกนี้ผลิตตามคำสั่งเป็นล๊อตๆ แต่แน่นอนราคาอาจจะแพงแต่ถ้าเทียบกับอะไหล่ F35B ยังไงของ AV8B น่าจะถูกกว่า หลายคนคงไม่เชื่อว่าเครื่องจักรจำพวก Turbine บางตัวมีอายุมากกว่า 50 ปีก็ยังหาซื้อได้ อะไหล่ก็ยังซื้อได้ ขอเพียงผู้ผลิตยังไม่เจ๊งเท่านั้นเอง
ส่วนกรณี F35B ผมมองว่าเกินความจำเป็นสำหรับ ทร. เอางบไปให้ ทอ. จัดหา F35A ดีกว่าจริงๆ ครับ
เอาอย่างนี้ลองเปรียบเทียบจำลองสถานการณ์ดูครับ
เหตุการณ์ข้อพิพาทระหว่างไทยกับประเทศ XX เกี่ยวกับแหล่งพลังงานกลางทะเล
ฝ่ายประเทศ XX ส่งกองเรือประกอบด้วย เรือบรรทุก ฮ. 1 ลำ เรือฟริเกตอเนกประสงค์ 4 ลำ เรือดำน้ำ 3 ลำ เข้าพื้นที่
ฝ่ายไทยจึงส่ง เรือจักรีฯบรรทุก AV8B 6 เครื่อง ฮ.ปราบเรือดำน้ำและลำเลียงพล 6 เครื่อง เรือชั้นนเรศวร 2 ลำ เรือสุโขทัย 2 ลำ เรือดำน้ำชั้น U209 2ลำ เข้าพื้นที่
ภาระกิจทางอากาศ ประเทศ XX ส่ง Su30 บินลาดตระเวนคุ้มกันกองเรือตัวเอง ขณะที่ไทยส่ง Jas39C/D ลาดตระเวนคุ้มกันกองเรือ
เวลา 0001 น. ฝ่ายไทยตรวจพบสัญญาณ SU30 มุ่งหน่าตรงมาที่กองเรือในระดับต่ำ จึงส่ง JAS39 4 เครื่องเข่าสกัดกั้น
เวลา 0002 น. ฝ่ายไทยไทยตรวจพบสัญญาณ SU30 อีกทิศทางในระยะห่างกองเรือในระยะ 100 กิโลเมตร ซึ่ง Su30 สามารถใช้อาวุธนำวิถีโจมตีเรือได้แล้ว แต่เกินกว่าจะยิงด้วย ESSM ทร. จึงให้ AV8B ติดอัมรามเข้าสกัดกั้นขระเดียวกัน JAS39 อีก 4 เครื่องก็ขึ้นบินจากฐานบินเข้ามาช่วยในเวลา 10 นาที (ผลคือ AV8B ตก 2 เครื่อง แต่ SU30 ไม่สามารถใช้จรวดโจมตีเรือได้)
เวลา 0002 เวลาเดียวกัน ที่ไทยส่ง AV8B 4 เครื่อง ฮ. 4 เครื่อง ติด Harpoon เข้าโจมตีกองเรือประเทศ XX ระหว่างทางตรวจพบ ฮ. โจมตีเรือ จึงให้ AV8B 2 เครื่องแยกจากฝูงเข้า ทำลายฮ. โจมตีเรือ ประเทศ XX ด้วยจรวดอัมรามและไซไวเดอร์
เวลา 0003 น. AV8B ที่เหลือ 2 เครื่องอยู่ห่างจากกองเรือประเทศ XX 100 km(นอกระยะยิงของเรือรบ) ได้ยิง harpoon 4 นัด 3 นัดถูกสกัดได้ 1 นัดยิงถูกเรือบรรทุก ฮ. บริเวณคลังอาวุธทำให้เรือบรรทุก ฮ. สียหายอย่างหนัก
เวลา 0004 น. ฮ. 4 เครื่อง ยิง Harpoon 8 ลูก เข้าโจมตีกองเรือประเทศ XX ผลถูกสกัดได้ 4 นัด อีก 4 นัดยิงถูกเรือรบทั้ง 4 ลำได้รับความเสียหายอย่างหนัก
เวลา 0005 น. ตรวจพบเรือดำน้ำในน่านน้ำประเทศ XX จึงส่งสังเกตการณ์อยู่ห่างๆ ส่วนเรือดำน้ำฝ่ายไทยก็ลาดตระเวนรอบๆกองเรือรบของไทย
เวลา 0006 น. ประเทศ XX ประกาศหยุดยิงเพื่อการเจรจา
จะเห็นได้ว่า AV8B มีคุณค่ามากกว่า ฮ.ตีมากครับ
ไม่ต้องมารบกับเราหรอกไอ้ประเทศ XX น่ะ ถ้ามีของแล้วส่งมาแค่นี้ เพราะจริงแล้ว ประเทศ xx นั้นมี จำนวน Su (18) ก็มากกว่าเรา jas (12) อีกทั้งเขายังมี F-18 (8) อีก และข้อสมมุติของท่านมีแต่เรามียิง ของเขาออกมาให้เรายิงอย่างเดียวเลยอ่ะ ของเขาคงมีแต่ตัวเครื่องไม่มีอาวุธ(เหรอ) แต่ตอนนี้เอาความเป็นจริง เขามี ด.น้ำ แต่เราไม่มี U209 น่ะ (ถ้ารบกันจริงน่ะ ผมย้ำคำว่ารบกันจริง ต่อให้มี AV-8 ไป เราจะได้เปรียบอย่างที่ท่านว่าขนาดนั้นเลยเหรอ เรือเราบรรทุก AV-8 ได้สูงสุดกี่ลำ จะเอา AV-8 ไปต่อกรกับ Su30 เนี่ยน่ะ ขนาดทุกวันนี้ยังถกเถียงกันอยู่เลยว่า Jas ที่มาใหม่น่ะจะเอา Su ไหวหรือเปล่าอยู่เลย ถ้าเอา AV-8 ไปสู้มีหวัง?)
ณ สถานการณ์ปัจจุบัน การจะรบกัน (จะยิงกันแต่ละนัด) นี่มันง่ายกันขนาดนั้นเลยเหรอ อย่างข้อพิพาทต่างๆ ประเทศเรากับประเทศเพื่อนบ้านติดกันทางทิศตะวันออกที่เราก็รู้ว่าเป็นใคร มีข้อพิพาทกันมาตลอด กองเรือเราดีกว่าเขาเป็นพะเรอเกวียน (ต่อให้ไม่มี AV-8) เราสามารถใช้กองเรือเราไปยึดเอาได้ไหม (ขนาดปัญหาข้อพิพาทระหว่าง จีน เวียดนาม มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ จีนยังไม่ส่งเรือไปยึดเกาะพิพาทเลย เพราะอะไร?)
ขอเข้าประเด็นละกัน คือเห็นด้วยแหละถ้าประเทศไทยจะมี AV-8 เพราะมันดีกว่ามี ฮ.อย่างแน่นอน (มันมาพร้อมกับค่าปฏิบัติการที่สูงกว่าแน่นอน) อย่างที่ท่านว่านั้นแหละ คงไม่มีใครบ้ามาบอกว่า บ.โจมตีห่วยกว่า ฮ.โจมตี หรอกว่ามะ แต่ถ้าผลการคำนวณมันมีแค่นี้มันก็คงจริงอย่างที่ท่านว่า แต่ความเป็นจริงไม่ใช่แค่นี้สิ ทุกอย่างมันต้องอยู่กับความเป็นจริงด้วย
ค่าตัว AV-8 มือสอง "ราคาเท่าไหร่ ถ้าซื้อแล้วเขาขายให้ไหม แล้วถ้าขายเมื่อไหร่ (ถ้ารอ F-15 ก็ต้องอีกหลายปี) ถ้าขายให้มันอยู่ในสภาพไหน แล้วซื้อมาต้องซื้อกี่ลำ ใช้ได้กี่ลำ ใช้เป็นอะไหล่กี่ลำ แล้วถ้าซ่อมบำรุง (แพง)ใช้ได้กี่ปี ความคุ้มค่า ค่าปฏิบัติการ ฯลฯ" (เราเป็นประเทศที่มีตังค์จนล้นกระเป๋าขนาดนั้นเลยเหรอ) ถ้าซื้อมาแล้วมีความจำเป็นมากน้อยแค่ ผมไม่ขอยกตัวอย่างแค่อังกฤษประเทศเดียว เอาเป็นว่าตอนนี้ประเทศที่มีเรือบรรทุกเครื่องบิน (จริงๆ) มีกี่ประเทศ ขนาดญี่ปุ่นเขายังออกเรือใหม่ (Izumo) DDH-183 ซึ่งเป็นเรือบรรทุก ฮ.เลย เกาหลีก็มีแค่เรือบรรทุก ฮ.แค่นั้น ทั้งที่เขามีสภาวะเสี่ยงสงครามมากกว่าเรามากๆๆๆๆ
ปล.เราไม่ได้รวมประเด็นว่าจะต้องเอา F-35 น่ะ (เอามาประจำเรือ 911 ซึ่งบอกว่าเป็นไปไม่ได้) ประเด็นที่พูดกันตอนนี้แค่ AV-8
ถ้าจะต้องกลับมาเลือก AV-8 ผมว่า ทร.จัดซื้อ f-18 มือสอง ไม่ดีกว่าหรือครับ สายการผลิตอะไหล่ยังพอมีอยู่เนื่องจากยังมีผู้ใช้อีกหลายประเทศ ฮ.ซีฮอว์ค บนเรือจักรี ยังมีแค่ 2 ลำ อยู่เลย ทั้งที่อัตราต้องมี 6 ลำ เน้นการกู้ภัยดีกว่า การเอาไปตีกัน ทะเลาะกันครับ และปรับปรุงเรือจักรีฯ ติดตั้ง mk-41 ยิง essm ได้ เพื่อการป้องกันภัยเรือ หมู่เรือ และตอบโต้ระยะใกล้ได้ จะไม่ดีกว่าหรือครับ
ทำไมจีนจะไม่ส่งเรือไปครับ เขาไม่ได้ส่งไปยึดเอาดื้อๆเลยแต่ก็ส่งไปขู่แถวนั้นประจำ
เรื่องMk.41+ESSMยังไงก็คงแพงกว่าหาบ.มือสองมาใช้ล่ะครับ
Izumoมันก็เรือบรรทุกเครื่องบินเบาsea controlนั่นแหละครับ(เพราะยาวพอที่จะนำเครื่องขึ้นแบบSTOได้) แต่ญี่ปุ่นจัดเป็นDDH
เรื่องขายให้ผมไม่ห่วงครับ ในเมื่อเราเคยจะจัดหาอยู่แล้ว แม้แต่A-7เขาก็เสนอซ่อมให้แต่ไม่มีเงินซ่อม(เพราะตอนนั้นหลังวิกฤติเศรษฐกิจพอดี)
เรื่องค่าใช้จ่าย...ผมถึงบอกว่า "ถ้ามีโอกาสและงบประมาณเอื้ออำนวย" ไงครับ เพราะแนวโน้มงบประมาณกองทัพเรือก็เพิ่มขึ้นทีละนิดๆ
กลับไปอ่านให้ดีก่อนน่ะคับว่าผมแสดงความคิดเห็นยังไง ผมไม่ได้บอกว่าจีนไม่ส่งเรือไป แต่ผมบอกว่ามีประเทศใดกล้าที่จะส่งไปยึดเกาะพิพาทหรือไม่ ต่างฝ่ายต่างส่งเรือไปลาดตะเวนทั้งนั้น ขนาดฟิลิปปินส์ที่เรือรบเป็นรอง ยังหามือสองมาเพื่อไปลาดตระเวนเลย การลาดตระเวนไม่ใช่แค่การขู่ แต่เป็นการแสดงให้เห็นว่าพื้นที่ดังกล่าวเป็นของเขา ดังนั้นประเทศอื่นก็ต้องส่งเรือรบไปลาดตระเวนเช่นกัน แต่ยังไม่มีประเทศใดกล้าเปิดฉากยึด ยิง เลย เพราะ?
แล้วอย่างกรณีพิพาทเรากับประเทศเพื่อนบ้าน ไม่ว่าจะเป็นกรณีทางบก หรือเส้นทับซ้อนทางทะเล ทำไมเราไม่เอาทหาร หรือแสนยานุภาพเข้าไปยึดล่ะ ในเมื่อเรามีกองกำลังที่เหนือกว่าเขามาก เพราะอะไร? เพราะว่าสภาวการณ์ปัจจุบันต่อให้เรามีอาวุธที่เหนือกว่าแค่ไหน อยากจะใช้แค่ไหน แต่มันทำได้ง่ายขนาดนั้นเลยเหรอแค่นั้น
และทั้งหมดทั้งมวลที่ผมสื่อคือ มันคุ้มค่าหรือไม่กับการลงุทนซื้อ AV-8 มือสองมาประจำการ ต่อให้เขาขายให้เรา แล้วราคาเท่าไหร่ แล้วถ้าขายเมื่อไหร่ (ถ้าต้องรอให้เขาปลดประจำการ ก็คือเขาต้องรอรอ F-15 เข้าประจำการ ก็ต้องอีกหลายปี) ถ้าขายให้มันอยู่ในสภาพไหน แล้วซื้อมาต้องซื้อกี่ลำ (มันถึงจะคุ้มค่า) ใช้ได้กี่ลำ ใช้เป็นอะไหล่กี่ลำ แล้วถ้าซ่อมบำรุง (แพง)ใช้ได้กี่ปี ความคุ้มค่า ค่าปฏิบัติการ ฯลฯ
ส่วน Mk.41+ESSM กับ ฮ.ขับไล่ เอามาเทียบกันไม่ได้ เพราะหลักการทำงานต่างกันอย่างสิ้นเชิง ท่านมีแต่เรือ บ.ขับไล่ ไม่แต่ไม่มีระบบป้องกัน ท่านจะเอา บ.ไปขวางพวกจรวดนำวิถีเหรอครับ ไม่งั้นกองเรือบรรทุกเครื่องบินสหรัฐเขาไม่มีกองเรือป้องกันเป็น 10+เรือดำน้ำอีกด้วย
อันบนผมไม่เถียงครับ
แต่เรื่องMk.41กับESSM....แล้วเราไม่มีเรือคุ้มกันเหรอครับ? มีเรือ4ลำพร้อมESSM 128ลูกเต็มที่ผมก็ว่าพอแล้วนะครับ ค่าอัพเกรดSTIRบน911+Mk.41+ค่าลูกจรวดมันจะแพงกว่าบ.มือสองเยอะครับ ผมไม่คิดว่าทร.จะต้องเอา911ออกไปแล่นดุ่ยๆกับเรืออีกลำสองลำจนต้องติดESSMฝห้ด้วยนะครับ มีซาดรัลไว้ป้องกันตัวเองก็เหลือเฟือ เรือเราไม่ใช่เดอโกลล์หรือคุซเนตซอฟที่ต้องมีจรวดรยะใกล้-กลางไว้ยิงหลายๆลูกนะครับ(เรือสเปนกับอิตาลีก็ไม่มี) ราคาอะไหล่ต่างๆการจัดหาพวกลูกจรวดสำหรับเรืออีก1ลำนอกจากเรือคุ้มกันแล้วมันไม่น่าคุ้มนะครับ แบบนั้นในเมื่อเรามีเรือที่ขนบ.ได้อยู่แล้วเอาเงินไปซื้ิของที่มันทำได้เฉพาะตัวไปจะคุ้มกว่าเยอะ แล้วสมียทร.มีเงิก็ไม่เคยคิดจะตั้งยุทธศาสตร์เป็นเชิงรับล้วนๆนะครับ
ปล.เขารอF-35Bไม่ใช่เหรอครับ ไม่ใช่F-15
เรือฟริเกตใหม่ดีลนี้ได้ของแถมเป็นการปรับปรุงท่าเรือและอู่ต่อเรือให้มีความทันสมัยมากขึ้น
ในส่วนตัวนั้นยังอยากให้กองทัพเรือมีเครื่องบินประเภทSTOVL ประจำการบน ร.ล.จักรีนฤเบศร์ อยู่ครับ แต่คงเป็นไปได้น้อยในปัจจุบัน เพราะทั้งงบประมาณและตัวเครื่องบินที่มีตัวเลือกน้อย จึงมองว่ากองทัพเเรือน่าจะเน้นไปที่เอลิคอปเตอร์ที่มีขีดด้านการไล่ล่าค้นหาเรือดำน้ำมาประจำเรือและจัดหา UAV ที่มีขีดความสามารถในการใช้อาวุธโจมตีภาคพื้นแบบที่ใช้งานบนเรือประเภทนี้ได้มาใช้งานดีกว่าดดยอาจจะใช้วิธีทะยอยจัดหา พร้อมทั้งปรับปรุงติดแท่นยิ่ง ESSM เพิ่มเติมเมื่อมีงบอำนวยเพราะเรือได้ออกแบบเตรียมที่สำหรับติดแท่นยิงแนวดิ่งไว้อยู่แล้ว แค่นี้ก็เพียงพอสำหรับ ร.ล.จักรีนฤเบศร์ อีกทั้งการที่กองทัพเรือมีแผนที่จะใช้ JAS-39C/D ของกองทัพอากาศนั้นก็น่าจะเสริมการสนับสนุนทางอากาศได้อยู่ แต่ว่าไม่รู้ว่าจะสนับสนุนได้มากน้อยเพียงใดหากสมมุติเกิดภาวะสงครามขึ้นเพราะเครื่องบินมีจำนวนไม่มากและภาระของกองทัพอากาศก็ต้องมีซึ่งอาจจะไม่เพียงพอต่อการสนับสนุนกองเรือได้เต็มที่มากนักครับ
ผมเห็นว่าทอ.ไม่สามารถคุ้มกันกองเรือได้ตลอดเวลาหรอกครับ เนื่องจากพื้นที่รับผิดชอบของตัวเองยังมีอีกมาก และจำนวนบ.เพื่อนบ้านที่มีโอกาสปะทะกับเรามีจำนวนพอที่จะบินเข้าได้จากทั้งสองด้าน(ในกรณีเกิดการยิงกันจริง) ถึงเครื่องของทอ.จะบินมาก็คงไม่ต่ำกว่าครึ่งชั่วโมง ถ้าทร.มีบ.ประจำกองเรือ(ซึ่งบ.มือสองถูกกว่าบ.บนฝั่งมือหนึ่งอย่างF/A-18อยู่แล้ว)ก็สามารถใช้แก้ขัดไปก่อนเพื่อไม่ให้ข้าศึกเข้าสู่ระยะยิงของอวป.ต่อต้านเรือ ทั้งในกรณีที่เจอกับเรือผิวน้ำและอากาศยาน การป้องกันกองเรือที่ดีที่สุดคือการจม/ยิงอีกฝ่ายให้ตกก่อนจะปล่อยอวป.มาครับ
อ้อ แต่ถ้าทอ.มีบ.เหลือเฟือขนาดแบ่งมาคุ้มกันกองเรือได้ตลอด(และมีtankerด้วย) ก็ไม่ต้องมีก็ได้ครับ