มีหมวกก็ไม่ได้ปลอดภัยเท่าไหร่หรอกครับ

ยิ่งถ้าเป็น m-16 หรือ อาก้าโอกาสเข้านี่แทบจะตลอดนอกจากระยะไกลจริงๆ

สรุปว่ามีหมวกก็ทำตัวแบบไม่มีหมวกเถอะครับ

ขอบคุณครับที่ตักเตือน ปรกติผมจะระมัดระวัง

เพียงแต่ผมอยากให้แน่ใจว่านี้มันคือหมวกชนิดที่ป้องกันได้จริงๆ เพราะผมไปลองสวมหมวกของอีกคน นํ้าหนักเย  หนักเกือบสองโล และด้านในก็คนละสีกัน(สีครีม) กังวลหนะครับ ว่านี้ของกองทัพจริงๆไหม

รับมาจากไหนอะครับ?

ท่านครับ มีหมวกก็ใช้ว่าจะปลอดภัย อย่างที่ท่านข้างบนว่า กัน m16 ak ไม่ได้ และหากเขาไม่ยิงหมวกแต่ยิงเข้าหน้าท่านนะเสร็จเลย แล้วสีหมวกท่านผมว่าท่านต้องไปพ้นสี น้ำเงิน แล้วเขียนคำว่า  press ลงไปหน่อย อันนี้ของผู้สื่อข่าวต่างชาติครับ 

ขอบคุณสำหรับคำแนะนำเพิ่มเติมครับ ผมติดตามตั้งแต่ยังไม่รุนแรง เหตุการณ์ที่ปะทะผมพยายามป้องกันตัวเองเสมอ สำนึกเสมอว่ามีโอกาสโดนทุกเมื่อที่เข้าพื้นที่ ไม่เคยเดินทะเล่อทะล่างแม้แต่ครั้งเดียว เพราะผมกลัวเจ็บเช่นกัน แต่เพราะนี้เป็นงานเลย "ต้องการป้องกันตัวที่สุดเท่าที่ทำได้" และที่ผมสงสัยคือหมวกที่ได้มามันเป็นของจริงหรือเปล่าเท่านั้นเองครับเพราะได้ไปลองจับของช่างภาพอีกท่านมันหนักกว่าแต่ด้านในหมวกเป็นสีครีม(ไซค์ใหญ่สุดของฝรั่ง ของผมประมาณ21-23 นิ้ว)

เลยกังวลจนต้องเข้ามารบกวน ว่านี้ผมได้รับของที่ควรแก่การไว้ใจไหมเท่านั้นเองครับ

ขอบคุณครับ



ปล.หมวกนี้ผมได้รับมาจากร้านหนึ่งในเน็ท ไม่ทราบผมเอ่ยชื่อได้ไหมครับ?


 

- -* กระสุน ไม่ชัวนะครับ แต่กระสุนที่ยิงจากปืนที่มีเกลียวในลำกล้อง จะมีผลกับของที่ทำจากไฟเบอร์ครับ เวลาลูกกระสุนหมุนมันจะพันกับไฟเบอร์ ทำให้ลดแรงกระทำต่อวัตุเยอะเลยครับ  เช่น ลองยิงใส่ต้นกล้วยที่เป็นเส้นใย  สัก 2 ต้นซ้อนกัน ดู ครับ

หมวกเคฟล่า โดนรถถังเหยียบยังไม่พังเลยครับ -*- ไม่แน่ใจว่าเป็นที่การยุบตัวของดินหรือปล่าว เพราะลองกับพื้นดิน

 

หมวกมันช่วยเพิ่มความปลอดภัยได้ครับ เช่นทำให้วิถีกระสุนเปลี่ยนได้เมื่อเจาะทะลุหมวก แต่ก็ขึ้นอยู่กับมุมปะทะด้วย แต่ที่ชัดเจนคือช่วยเรื่องกันสะเก็ดระเบิดต่างๆได้ อีกอย่างต่อหมวกกันกระเสาะเจาะไม่เข้า ถ้าโดนยิงจากปืนแรงสูงก็น็อกหงายครับ สลบ เจอพลังงานจลน์กระแทก ถ้าดวงซวยการสะบัดของหัวก็อาจจะกระทบกระดูกต้นคอ 

สรุปก็คือมีดีกว่าไม่มีนั่นแหละ แต่ก็ไม่ได้แปลว่าปลอดภัยจากกระสุนปืน

ถ้าของแท้กันกระสุนลูกซอง .22 สะเก็ดระเบิดได้แน่นอน ส่วน 9 มม.ขึ้นไปอยู่ที่ระยะยิงจำไม่ได้แล้วว่าต้องกี่หลา ผมว่าใส่ไว้ก็ดีครับแต่เปลี่ยนสีตามที่ท่านบนบอกหน่อยก็ดี

ถ้าทนร้อนกับทนหนักหัวได้ ก็แนะนำให้ใส่ตลอดครับ สะเก็ดระเบิดกันได้แน่ๆ ส่วนกระสุนปืนไม่แน่ใจครับ ส่วนใหญ่มักจะแฉลบหรือเปลี่ยนวิถี แต่เพราะมันแฉลบเนี่ยแหละตอนอยู่กองพันเลยไม่ได้เอามาลองยิงดู กลัวกระสุนเปลี่ยนวิถีมาโดนคนยิง

แต่เคยพูดคุยกันกับนายทหารที่เป็น ฝ3 เค้าบอกผมว่ากระสุนของ เอหนึ่งน่าจะกันได้ แต่กระสุนของเอสองขึ้นไปไม่น่าจะกันได้ในกรณีท่ี่โดนยิงแล้วกระสุนมันไม่แฉลบน่ะครับ

แต่ที่เคยเห็นจะๆคาตาก็คือตอนที่วางระเบิดทีเอ็นที ประมาณครึ่งปอนด์ แล้วตรงนั้นมันมีก้อนหินบนพื้นเยอะ ปรากฏว่าหลังกดระเบิดมีก้อนหินขนาดเท่ากำปั้นกระเด็นลอยไปโดน พลปืนกล. ทางด้านท้ายทอย หมวกเคฟล่าบุบเป็นรอยกระแทกสักครึ่งมิล พอคลำรู้สึกได้ แต่น้องพลทหารไม่เป็นไรมาก แต่ก็อ๊วกพุ่งมึน จนต้องนอนพักไปประมาณสักครึ่งชั่วโมงเห็นจะได้ 

อีกประการหนึ่งคือ ใส่แล้วจะได้ยินเสียงรอบข้างโดยเฉพาะด้านหน้า ชัดกว่าเดิมมาก ไม่รู้ท่านอื่นๆใส่แล้วเป็นเหมือนกันหรือเปล่า

แต่ตอนใส่ต้องลองปรับสายดีๆน่ะครับให้มันกระชับกับศรีษะแล้วก็คาง ถ้าไม่พอดีก็ต้องพึ่ง ฟองน้ำก้อน เอามาตัดแล้วยัดตามซอกให้พอดีครับ. อย่าลืมพ่นสีฟ้า กับคำว่า PRESS. ด้วยน่ะครับ ไม่งั้นจะกลายเป็นทหารยูเอ็นไปได้

ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาแนะนำในการจัดการกับหมวกใบนี้นะครับ

ปล.ผมแก้ไขทุกอย่างตามที่แนะนำแล้วครับ