ถึงวันนี้ก็ยังไม่แน่ว่าจะได้รับการคัดเลือกในโครงการ เครื่องสเตลท์ขนาดกลางและใช้ในทัพเรือ ( สเตลท์ขนาดใหญ่เลือก J-20 ไปแล้ว )
เมื่อถึงเวลาคัดเลือกประมาณ 2020 จะชนะหรือไม่ ยังไง SAC ก็ตั้งใจจะส่งออกอยู่ก่อนแล้ว ยังไงลงทุนพัฒนาไปมากแล้วก็ต้องทำออกมาขายให้ได้
ลักษณะเครื่อง J-31 เป็นแบบ Multirole 2 เครื่องยนต์ ช่วงเวลาเดียวกับที่ F-16 ADF ปลดประจำการพอดี ที่สำคัญราคาที่สื่อทางการทหารประมาณไว้ที่ 80 M USD / ลำ ราคานี้จะทำให้มีโอกาสใกล้เคียงความจริงมากที่สุดของ ทอ.ไทยที่จะมี บ. 2 เครื่องยนต์ สามารถโจมตีทางลึกได้ และเป็น Gen 5 เครื่องใหม่อีกด้วย
จำนวน 18 ลำ ตีกลมๆ 1,500 M USD
อุปสรรค
1. ใช้ระบบ NATO ไม่ได้
2. เข้ากับระบบเครือข่ายที่เรามีอยู่ไม่ได้
3. เจ้าหน้าที่ต้องฝึกอบบรมใหม่หมด
4. การจัดส่งอะไหล่และซ่อมบำรุง
5. อเมริกาจะไม่พอใจแค่ไหน ทำไมไม่เอา F-35 ของเค้า
ส่วนตัวผมคิดว่ายังไงก็ดีกว่า รัสเซีย ซึ่งใกล้เสร็จสมบูรณ์ ไม่นับรวมรุ่นอื่นๆที่ยังเป็นแค่รูปในกระดาษเท่านั้นครับ
ถ้าจีนอยากเปิดตลาดในประเทศที่ใช้ของตะวันตกมานาน ก็น่าจะทำรุ่นมาตราฐานนาโต้ได้แล้ว เหมือนพวกอิสราเอลเป็นต้น ทำให้สามารถใช้อาวุธของนาโต้ได้ หรือเรดาร์หรือระบบอิเล็กโทรนิคต่างๆเข้ากับของของนาโต้ได้
อีกอย่างเครื่องบินจีนถึงตอนนี้ความน่าเชื่อถือต่างๆก็ต้องรอพิสูจน์กันต่อไป เพราะยังไม่มีการใช้งานจริงในการรบเลย และเพิ่งเริ่มประจำการได้ไม่นานไม่กี่ประเทศเท่านั้น
ในส่วนตัวผมมองว่า สิ่งน่าทำให้ความมั่นใจกับเครื่องบินจีนมีไม่มากก็อาจจะมาจากเรื่องส่วนประกอบวัสดุตัวเครื่องที่ยังด้อยกว่าของตะวันตกอยู่ส่วนหนึ่ง อีกทั้งเรื่องเครื่องยนต์ที่อาจจะสู้ของตะวันตกหรือรัชเซียไม่ได้ในเรื่องของความทันสมัย บำรุงรักษาต่ำ ส่วนเรื่องระบบอิเล็กทรอนิกส์ช่วงหลังๆดูจีนจะมีการพัฒนาได้ดีมาก จึงอาจจะมองว่า ราคาตัวเครื่องใหม่น่าจะไม่แพงแต่อาจจะเสียค่าใช้จ่ายในการดูแลสูงครับ
คิดง่ายๆ ว่า ถ้าของจีนเจ๋งจริง เขาจะก๊อปประเทศอื่นทำไม
บางเครื่องจีนผลิตไม่ยังไม่ใช้เองเลย (ฮา) ให้ลูกจ๊อกใช้
ของ-ไม่น่าเชื่อถือ เพราะในกมล-ของพวกนี้เน้นขายให้ได้ ราคาต่ำกว่าเขาเข้าล่อ ซื้อมาใช้ถึงได้รู่ว่า-ทำอะไรมันไม่มีขาดทุนหรอก วัสดุคุณภาพต่ำ ใช้งานได้ไม่เต็มที่หรืออายุการใช้งานสั้น ไม่ว่าสินค้าเบ็ดเตล็ดหรือจะเป็นอาวุธ ดูรถถังT-69II ดิ ถูกจังเลย มาทีหลังM41ตั้งหลายปีไปก่อนซะแล้ว ส่วนM41ที่กำลังจะปลดอยู่นี่พึ่งเอาไปฝึกที่เมืองกาญยังวิ่งได้อยู่เลย คุณภาพมันต่างกัน
เรียกเจ๊ก ฟังดูไม่ค่อยดีเลยนะครับ
ผมว่าหลังๆจีนก็ปรับปรุงเทคโนโลยีหลายอย่างทันสมัยขึ้นมากแล้ว คือไม่ต้องถึงกับนับ 1ในการเริ่มต้นศึกษาวิจัยเอง แต่จีนใช้วิธีื้ซื้อเทคโนโลยีจากประเทศตะวันตกมาพัฒนาต่อยอดเอง ซึ่งหลายๆประเทศก็เป็นอันดับต้นๆในเรื่องอาวุธที่เราก็รู้จักกันดี เช่นฝรั่งเศส (โซนาร์/เรดาร์/เฮลิคอปเตอร์) อิสราเอลฯ (เครื่องบินรบ LAVI ต้นแบบ J-10เฉิงตู)
สิ่งที่จีนขาดตอนนี้คือ สงคราม
จีนต้องการสงครามเพื่อพิสูจน์ด้านอาวุธสักครั้ง
และ ต้องเป็นคู่ต่อสู้ที่สูสีด้วย
จะไปรบกับ เวียต หรือ ปิน คงพิสูจน์อะไรไม่ได้ ...ต้องกับยุ่นเท่านั้น...ถ้าไม่ติดตรงที่จีนเกรงสหรัฐจะเข้ามาช่วย ผมว่าจีนไม่ลังแลที่จะพิสูจน์ตัวเองกับยุ่น
ไม่ใช่ว่าต้องมีสงครามทดสอบหรอกครับ ประเด็นของจีนคือ
คุณภาพครับ ความแตกต่างระหว่างของที่กองทัพจีนใช้กับของที่จีนขายออกมา รูปร่างหน้าตาภายนอกเหมือนกัน แต่วัสดุที่ใช้และคุณภาพมันแตกต่างราวฟ้ากับเหวเกินไป เพราะจีนจะเน้นราคาที่ถูกกว่าคู่แข่งมาก จนหลายคนสงสัยว่าราคาที่ขายให้นั้นขาดทุน แต่จริงๆ แล้วของที่จีนขายเมื่อเทียบกับคุณภาพแล้วเรียกว่าแพงไปเสียด้วยซ้ำ ยกตัวอย่างที่เห็นได้ชัดก็คือ ดูรถถังT-69 นั่นแหละที่มาทีหลังแต่ตอนนี้ไปเป็นปะการังแล้ว แต่ M41 มาก่อนยังประจำการอยู่ในกองทัพไทยอยู่เลย และอีกตัวอย่างคือการสั่งต่อเรือที่ทำให้ ทร.ถึงกับขอบายจีนไปอีกนาน
เมื่อราว 30 ปีก่อน สินค้าญี่ปุ่นเช่นเครื่องไฟฟ้าและรถยนต์ถูกส่งออกไปขาย ในระยะแรกเป็นสินค้าคุณภาพต่ำราคาถูก เป็นสินค้าเกรดรอง
ราว 20 ปีก่อนสินค้าจากไต้หวัน คือ ของก๊อป ของเลียนแบบ ของเทียบ (หน้าตาเหมือนแต่ด้อยคุณภาพ)
ราว 10 กว่าปีก่อน สินค้าจากเกาหลี คือ ของราคาถูกคุณภาพต่ำ(กว่าญี่ปุ่นหลายช่วง)
แล้วทุกวันนี้ทั้งสามชาติ คือ ผู้ส่งออกสินค้าคุณภาพสูงและราคาที่ไม่ถือถูก (แต่สมเหตุสมผล) แถมยังเป็นประเทศผู้นำทางด้านเทคโนโลยีที่นนำมาใช้ในชีวิตประจำวัน เจาะตีตลาดไปทั่วโลกแม้แต่ยุโรปและอเมริกา แล้วประเทศที่มีครบพร้อมทั้งเงินทั้งทรัพยากรบุคคลากร ที่มากมายมหาศาล ขาดแต่องค์ความรู้และประสบการณ์ ศักยภาพที่มีอยู่ในตัวเองของจีน สามารถทำไปพร้อมๆกันได้ในทุกสาขา ไม่จำเป็นต้องเน้นไปทีละส่วนเหมือนเช่น ญี่ปุ่น ไต้หวัน หรือ เกาหลี ลองคิดดูว่าในช่วงสิบปีที่ผ่านมาจีนเจริญก้าวหน้าได้มากขนาดไหนทั้ง อุตสาหกรรม อวกาศ และอาวุธยุทโธปกรณ์ ที่สำคัญจีนเป็นมหาอำนาจด้วยขนาดของประเทศและเศรษฐกิจ จีนจึงไม่เกรงกลัวข้อกำหนดข้อจำกัดของฝ่ายตต. ทั้งซื้อ ทั้งก๊อป ทั้งจารกรรม เอามาแกะ เอามาวิเคราะห์ เอามาเรียนรู้ เอามาดัดแปลง ปรับปรุงพัฒนาต่อยอด อีกไม่นานหรอกครับ คอยดู
ปล. รถไฟแมกเรฟความเร็วสูง ที่วิ่งให้บริการอย่างจริงจังเป็นสายแรกของโลก ก็ที่เมืองจีน
ผมว่าใครๆก็เชื่อทั้งนั้นล่ะครับว่าอนาคตจีนของมีคุณภาพแน่
แต่มันยังไม่ใช่ภายในสิบปีนี้ เครื่องใช้ไฟฟ้า คอมพิวเตอร์เรื่องนึง แต่อาวุธที่มีความซับซ้อนอย่างเครื่องบินขับไล่ จีนยังตามอีกไกล
ส่วนเรื่องสงคราม มันจะเป็นการยืนยันถึงความน่าเชื่อถือของระบบ ของออกแบบมาตามทฤษฎีเจ๋งแค่ไหนก็ไม่สามารถประกันได้นอกจากผ่านสมรภูมิจริง ไม่จำเป็นต้องไปดวลแอร์ทูแอร์ชิงเจ้าเวหากับเอฟยี่สิบสองอะไรหรอก แค่ปฏิบัติการจริงทางทหาร โจมตีภาคพื้นดินฯลฯ ซึ่งน่าเชื่อถือกว่าการจัดแสดงโชว์ความสามารถมาก เพราะรบจริงต้องไม่มีการกระสุนแป้ก
ดูอย่างราฟาลก็ได้ ดีลกัลอินเดียไม่รู้จะออกลูกผีลูกคน ฝรั่งเศสถึงกระเหี้ยนกระหือรือจะบุกลิเบียให้ได้เพื่อยืดอายุสายการผลิต
ผลคือเวิร์ค แถมได้บราซิลมาเป็นพวกอีก (บวกอเมริกาสาระแนชาวบ้าน)
รถไฟแม็กเลฟของจีน อันนั้นบริษัทเยอรมันสร้างครับ และความจริงเคยเปิดให้บริการที่อื่นมาแล้วแต่ระยะทางสั้น ประเทศไทยถ้ามีเงินและอยากดูเก๋ก็ไปจ้างเขาสร้างได้ครับ แต่ไม่ได้แปลว่าประเทศมีศักยภาพไปแข่งกับยุโรปเมกาได้หรอกครับ ส่วนแมกเลฟของจีนเองยังลูกผีลูกคน กะอีรถไฟฟ้าความเร็วสูงธรรมดายังชนตายเจ็บเพียบเพราะทำไม่ได้คุณภาพ
เทคโนโลยี่หลายๆ อย่างจีนยังตามไม่ทันเช่นเทคโนโลยี่ในการผลิตชิปเป็นต้น (อินเทลไปตั้งโรงงานในจีน แต่ผลิตเฉพาะชิปแบบไม่ไฮเทคมาก เพราะกลัวโดนขโมย)
ถ้าให้คนไทยร่วมวิจัยผมว่าอาจจะปิดตายข้อด้อยของจีนก็เป็นได้
อะไรทำให้คุณ smoke2joice คิดเช่นนั้นครับ?