ถ้าเป็นเรดาร์ APG-68(V)9 รุ่นเดี่ยวกันกับที่เราซื้อมาทำ  F16  MLU ล่ะก็ น่าสนใจครับ  คือในเมื่อไทยเรางบประมาณน้อยแต่มีพื้นที่ประเทศกว้างขวาง จำเป็นต้องมีเครื่องบินประจำการมาก ( 5 ฝูง)  ดังนั้นถ้าได้เรดาร์เก่าของสิงค์โปร์ 60 ชุดก็น่าจะนำมาใช้กับ F16  ที่เหลือดังนี้

F16 A/B อีก 18 เครื่อง

F16 ADF ทั้ง 14 เครื่อง ถ้ายังสามารถต่ออายุจาก 8000 เป็น 12,000 ชั่วโมงได้ก็ทำ MLU ไปเลย

อีกอย่างนึงผมมองไปที่อินโดนีเซียที่มี F16 A/B รุ่นเดี่ยวกับเรา 8-10 เครื่อง ซึ่งผมมองว่า เค้ามี F16C/D มือสองแล้ว 48 เครื่อง ดังนั้น F16A/B คงจะเป็นส่วนเกิน ถ้าเราขอซื้อแบบแลกเปลี่ยนกับสินค้าเกษตรมา ทำ MLU  แล้วรวมกับ F16A/B 6 เครื่องที่เราได้จากสิงค์โปร์ ก็สามารถเอาไปแทน F5E/F ได้

      ทั้งหมดเราก็จะมี F16A/B MLU 4 ฝูง รวมๆก็ 64 เครื่องโดยประมาณ (อาจจะเก่าไปนิดแต่ก็เป็นรุ่นเดียวกันประหยัดในการซ่อมบำรุง) รวมกับ Jas39 C/D อีก 1 ฝูง 12+6 ก็น่าจะพอดี

       คราวนี้หลังจากมีประจำการด้วย F16 A/B MLU 4 ฝูง และ Jas39 C/D 1ฝูง  แล้วเมื่อถึงเวลาปลดประจำการ F16 ก็ราวสัก 15-20 ปี  ผมคิดว่าด้วยงบประมาณที่น้อยที่สุดจะทำดังนี้  ซื้อ F35 ใหม่ 1 ฝูง , ปรับปรุง Jas39 C/D เป็น NG , ซื้อ Jas39 C/D มือสอง 3 ฝูง upgrade เป็น NG

       ทั้งหมดผมมองว่าใช้งบน้อยที่สุด  ประสิทธิภาพดีพอสมควรไม่เสียเปรียบเพื่อนบ้านมากนัก  ความง่ายในการส่งกำลังบำรุง  และมีความเป็นไปได้ในทางปฏิบัติในการคงฝูงบินไว้ 5 ฝูง ครับ

ผมว่าADFน่าจะอัพไม่ไหวแล้วนะครับ...

F-16 ADF เราไม่อัพเกรดอะไรเพิ่มแล้วครับ เพราะตามแผน F-16 ชุดแรกที่จะปลดประจำการก็คือ F-16 ADF นี่แหละ

f-16 นอกจาก18 ลำที่กำนดไว้ก็ไม่มีเพิ่มแล้วแหละครับ 

เพราะอัพเกรดทีก็น้องเครื่องบินใหม่ ฝูง 102 ที่เป็นรุ่น adf ก็อย่างที่สมาชิกท่านอื่นว่าไว้คือเก่าเกินแกง ขณะที่ฝูง 103 กว่าเราจะค่อยๆทะยอยๆอัพเกรดฝูง 403 เสร็จหมดผมว่าก็เก่าไม่คุ้มแล้ว เพราะถึงตอนนี้จะทะยอยอนุมัติงบประมาณสำหรับอัพเกรดเป็นเฟสๆละสามลำ แต่ยังไม่แล้วเสร็จซักลำเลย

ถ้าทำ F-16 MLU แค่ 1 ฝูง 18 ลำ แล้วที่เหลือ F-16 A/B อีก 1 ฝูง จะปล่อยไปจนปลดเลยหรือครับ ซึ่งถ้าเป็นอย่างนั้น ฝูงที่ต้องหามาทดแทนก่อนเพื่อนก็คือ F-16 ADF จากนั้นก็ F-5 แล้วก็ F-16 A/B 

1. F-16 ADF จะเอารุ่นไหนมาแทน Jass-39 A/B มือสอง อัพเกรด C/D

2. เครื่องฝึก เกิดโครงการ TX อเมริกา เครื่องของ Saab / Boeing ชนะขึ้นมา ก็น่าสนใจมากสำหรับไทยเราเลย

3. F-5 จะเอารุ่นไหนมาแทน Jass-39 C/D มือสอง อัพเกรด C/D+ 

4. F-16 A/B ที่ไม่ทำ MLU สงสัยเล็งช่วงเวลานั้นเป็น F-35A แน่ๆ 

jas-39 c/d (gripen) เค้าเอามาแทน F-5 ครับ ซึ่งจะเอามาแทน F-16 หลังจาก ปลดไปแล้ว เป็นไปไม่ได้ครับ ซึ่งตัวเลือกที่แทนได้ น่าจะเป็น F-35 A หรือไม่ก็ อาจจะไปเล่น 2เครื่องยนต์เลยก็ได้ครับ เพราะกว่าจะปลดอีกสิบกว่าปี กว่า f-16 ฝูง ADF ปลด ซึ่งตอนนั้นSaab อาจจะทำ เครื่องรุ่นใหม่แล้วก็ได้ครับ ส่วนเรดาห์ เราอาจจะไม่ได้มาหรอกครับ เพราะ งบ ทอ. ก็ไม่ได้มากมายครับ แถม ที่ MLU เราซื้อของใหม่ไปแล้วครับ แล้วอนุมัติไปแล้วด้วยน่าจะยากครับแต่ผมก็อยากได้น่ะครับ มันยัง ดีๆอยู่เลย อิจฉา ประเทศที่รวยอย่างเค้าง่ะ เศร้า งบทางกลาโหมเราได้น้อยที่สุดในอาเซียน เศร้าใจจังครับแค่ GDP 1.6กว่าเองครับถ้าขึ้นให้น่าจะเท่ากับ พม่าเลยก็ดีนะครับ GDP 5 เปอร์ไปเลย งบได้เพิ่มขึ้น อีก อีก 2 เท่าตัวรวมเป็น 3 เท่าตัวของปัจจุบัน เท่านี่ ทหารก็ ได้อาวุธเพิ่มขึ้นอีกมากโขเลยครับ จาก ปี 57 1.84 แสนล้านก็จะกลายเป็น 5.52 แสนล้าน ทำให้ จาก เดิม กองทัพบก ได้91,597,556,300 บาท กองทัพเรือได้ 32,216,788,200 กองทัพอากาศได้ 33,619,111,000 บาทกลายเป็น ทบ. 274,792,668,900 บาท ทร.ได้ 96,650,364,600 บาท ทอ.ได้ 100,857,333,000 บาท ซึ่งทำให้ สามารถทำให้พัฒนากองทัพได้มากโขเลยครับ

สำหรับการจัดหาเครื่องมาแทน F-16 ADF อีก 10 ปีข้างหน้า ถือว่าไม่นานเลยนะครับ 

1. ตั้งธงจะเอา F-35A ถ้ามีเงินก็คงไม่มีปัญหา ถึงตอนนั้นน่าจะส่งมอบกันได้เยอะแล้ว แต่ปัญหาอีกอย่างคือ น่าจะต้องเผื่อเวลาจองพอสมควร ถ้าล่าช้ากว่าที่คิดไว้ จะทำอย่างไร

2. จะเอาแบบ 2 เครื่องยนต์ ซึ่งต้องการมานาน จะได้จังหวะซะที แต่มองไม่ออกเลยจริงๆว่าจะเป็นรุ่นไหน บ. 2 เครื่องยนต์รุ่นใหม่ๆก็ล้วนเป็น Stealth ทั้งนั้น ราคาแพงเกินไป หรือจะเอา มือสอง F/18 E/F

3. กรณีสุดท้าย งบน้อยจริงๆ ( ที่สำคัญถ้าเป็นงบผูกพันนานซัก 6-8 ปี ก็จะไปเจอกับช่วงเวลาของการปลด F-5 อีก ) จะหา F-16 block 52 มือสองแทน 

   เห็นท่านผบ.ทอ   ให้สัมภาษณ์นิตยสารทางทหารเล่มหนึ่งว่าจะทำการปลด  F-16 ADF  น่ะครับ    ส่วนฝูง 103  จะทำ  MLU  เพราะฝูงนี้ผ่าน falcon up  และ  falcon star ไปแล้ว (ยืดอายุโครงสร้างว่าง่ายๆ)     ถ้าทำ MLU  ตามแบบฝูง 403  จะไม่มีการเปลี่ยนเครื่องยนต์ใหม่ครับ   ใช้เครื่องยนต์เดิิม     ซึ่งเครื่องยนต์ของฝูง 103 ก็เก่าพอดูทีเดียว    แต่ถ้าจะเอาเครื่องยนต์ของฝูง ADF  มาเป็นอะไหล่สำรองให้ฝูง 103   ไม่รู้ว่าจะใช้ได้นานแค่ไหน     เพราะราคา MLU ฝูง 403  ตกเฉลี่ยลำละกว่า 1000  ล้านบาททีเดียวครับ   ซึ่งถ้าต้องจัดหาเครื่องยนต์ใหม่ด้วยแล้ว   คงไม่คุ้มค่าการ MLU

   แต่  APG-68 V9  มือสองจากสิงคโปร์นี่น่าสนใจนะครับ   น่าจะทำให้การ   MLU  น่าจะถูกลงได้พอดูนะครับ    แหมม  รวยขนาดนั้นน่าจะเปลี่ยนเครื่องยนต์ใหม่ด้วยเลย   ขายต่อถูกๆให้เรา....55555   ล้อเล่น

กริพเพนมาแทน f-16 ทำไมจะไม่ได้ละครับ? ไม่ได้ต่างอะไรกันเท่าไร นอกจากน้ำหนักบรรทุก และ รุ่น e/f ก็บรรทุกได้เยอะขี้นด้วย

f-16 เองก็เป็นการอัพเกรดมาจาก f-5 นั่นแหละ ของกองทัพเราจะเหมือนซื้อเครื่องบินอยู่สอง gen สับๆ เป็นสองยุคไปเรื่อยๆ 

เช่นมี f84 กับ f86 ซ้อนกัน จากนั้นทยอยปลด f84 ซื้อ f5 แล้วสลับฝูงประจำการเอาลำใหม่มาไว้ฐานสำคัญแทน ไปเรื่อยๆ

ผมยังหวังว่าเราน่าจะได้เรดาห์ชุดนี้จากสิงค์โปร์มาแบบไม่เสียเงินสด โดยอาจจะขอเป็นค่าเช่าใช้พื้นที่ ในการจอด ฝึกบินของนักบินสิงค์โปร์ที่อยู่ในประเทศไทย แบบที่เราเคยได้ F16 มา 7 ลำ ถ้าเราติดต่อไปทางสิงคโปร์น่าจะไม่ขัดข้องเพราะเก็บเรดาห์ไว้ก็ไม่เกิดประโยขน์  ถ้าเราได้เรดาห์มาในรูปแบบนี้ โอกาศที่เราจะทำ MLU เพิ่มกับเครื่องบินที่เหลือ ก็น่าจะใช้งบประมาณไม่มาก เพราะMLU เราก็ทำในประเทศไทย เสียค่าแรงไม่มาก เพียงแต่ต้องสั่งชิ้นส่วนบ่างอย่างเข้ามา โดยอาจจะไม่ต้อง MLU 100 % เหมือนล๊อตแรก โดยเน้นไปที่เอาเรดาห์ APG68V9 ที่น่าจะได้มาเอามาใช้งานให้ได้ จะมีหวังไหมเนี่ย

เราสั่งซื้อ F16

ปี 2542   แบบ A 15 เครื่อง แบบ B 1 เครื่อง    -> คงเอาไปทำ MLU แล้ว

ปี 2538   แบบ A 12 เครื่อง แบบ B 6 เครื่อง  -> อายุไม่ต่างกับชุดแรกมากนัก  น่าจะเอาไปทำ MLU ได้ถ้าเราได้เรดาห์มาแบบให้เปล่า

ปี 2528   แบบ A 18 เครื่อง แบบ B 8 เครื่อง -> สภาพน่าจะพอลุ้น ลำไหนสภาพดีก็เอาไปทำ MLU

จากสิงค์โปร์ ให้เปล่า  แบบ A 3 เครื่อง แบบ B 4 เครื่อง

แบบ ADF 16 เครื่อง 

ต่อให้เป็นของเหลือใช้เขาไม่มีใครเอามาแจกฟรีกันหรอกครับนอกจากว่าตัวเองจะได้ประโยชน์ เช่นพันธมิตรแข็งแกร่งขึ้น หรือภูมิภาคมั่นคงขึ้นแล้วเราได้ประโยชน์

ผมว่าสิงค์โปร์เค้าหัวการค้าน่ะครับ ดังนั้นเรดาร์เก่าเค้าไม่เก็บไว้แน่ๆแต่ต้องขายให้ได้ประโยชน์สูงสุดในทุกด้าน  ซึ่งก็คงไม่พ้นขายให้ไทยแน่นอน โดยอาจแลกกับการเช่าสนามบิน ค่าบริการต่างๆ  สินค้าอาหารต่างๆ  และยังได้ไทยเป็นพันธมิตรที่แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น เพราะไทยคงจะหวังรออาวุธมือสองจากสิงค์โปร์ไปเรื่อยๆ เช่น F16  เรือรบ ปืนใหญ่ F15 ฯลฯ

มองดูเราก็มี F16 A/B รอ mini MLU ประมาณ 24 เครื่องน่ะครับ

คิดว่า ทอ.ไม่น่าจะมีแผนการในการจัดหา F-16 แล้วนะครับ ต่อให้สิงคโปร์จะนำเสนอขายให้เราเป็นมือสองก็ตาม (แต่ถ้ายกให้ฟรีๆเหมือนครั้งก่อนก็ OK อยู่) คิดว่าทอ.น่าจะพุ่งไปที่ Grippen อย่างเดียว

(โดยส่วนตัวอยากให้มองข้ามไปถึงเครื่องบิน stealth หรือ generation ที่ 5 ไปเลยจะดีกว่า)

สิงคโปร์มองไปที่ F-35 แล้วครับ แต่ว่า F-16C/D ก็ยังใช้อยู่ จึงมีการอัพเดทให้ทันสมัยสุดๆต่อไป ส่วนเรดาร์ส่วนตัวเชื่อว่าน่าจะมีการเสนอขายมิตรประเทศที่สนใจครับ ไม่แน่หนึ่งในนั้นอาจจะมีกองทัพอากาศเราอยู่ด้วยแต่เราจะสนใจหรือไม่อีกเรื่องหนึ่งเพราะกองทัพอากาศก็ได้จัดหาของใหม่มาแล้วสำหรับ F-16A/B ที่จะทำการ MLU นอกจากว่าจัดหามาจำนวนหนึ่งสำหรับสำรองการใช้ครับ

เห็นด้วยกับท่าน Rayong กับท่าน เด็กทะเล นะครับ แล้วก็คิดว่า ยังไงก็ควร ทำ MLU กับฝูง โคราชด้วย ส่วนตัวอยากให้ฝูงนี้ทำมากกว่าฝูง ตาคลี ซะอีกโดยการติดถังเชื้อเพลิงแนบไปกับลำตัว ดังภาพด้านบนครับที่นี้ก็ไม่ต้องห่วงเรื่องเชื่อเพลิงที่จะใช้ อัดกับพวกเครื่อง 2 ย. มากนัก

ดีไม่ดี 102,103 อาจจะได้ไปต่อนะครับ ^^  

แต่ถ้าปรับปรุง Mini MLU F-16 ทั้ง 2 ฝูง  F-5 สุด Love ก็คงหมดโอกาส Upgrade แล้วครับ 

ถังน้ำมัน cft ผมว่าเกินความจำเป็นครับ เท่ห์ (หรือเปล่า?) อย่างเดียว

ตัว cft drag สูงกว่าเครื่องเปล่าๆ อยู่แล้วครับ คิดว่าประเทศไทยพื้นที่ไม่ได้กว้างขวางขนาดถัง cft จะจำเป็น