รอบบ้านเรานี้ (ประเทศไทย) ภัยคุกจากภายนอก (ศึกไกล) ด้านไหนที่น่าห่วงและน่ากลัวที่สุดครับ?
ศักยภาพทางการทหารแข็งแกร่งแต่ไม่มีผลประโยชน์ที่ขัดแย้งกันก็ไม่น่ากลัวครับ
ส่วนตัวผมมองว่า 2 ฝั่งทะเล ทั้งอันดามันและอ่าวไทย อาจจะมีการขัดแย้งขึ้นได้ในอนาคตครับ
ดังนั้น กองทัพเรือ สมควรที่จะเร่งเสริมศักยภาพให้ทัดเทียมเพื่อนบ้านโดยเร่งด่วน รวมไปถึง กองบิน 7 สุราษ ดูแล 2 ฝั่งทะเล น่าจะเสริม Gripen เป็น 18 ลำ
ใช่ครับรอบด้านอย่าได้ไปกลัวเลย ไอ้ภายในนี่สิน่ากลัว เกิดเหตุปะทะขึ้นมาความพร้อมเรามี แต่ดันมีพวกนักการเมืองตัวแสบนี่ดิ เอะอะๆอ้างมิตรภาพ เพื่อนบ้าน การค้าการลงทุน(ของพวกมันเอง) อาวุธดีๆของเราถึงเลยไม่ได้ใช้ ต้องใช้ชีวิตกำลังพลชั้นผู้น้อยไปสังเวยแทน
น่าคิดไหม เคลื่อนกำลังพลประชิดชายแดน สาดกระสุนปืนใหญ่มาขนาดนั้น มีทหารมีชาวบ้านตาย อย่างนี้มันยังคิดถึงมิตรภาพอยู่หรือ???
ผมไม่ได้มาตอบ...แค่จะมาบอกว่าชอบภาพประกอบ มากกกกกก 55556
ไม่การเมืองสิครับ
อย่างที่ท่าน freedom ว่า ภัยคุกคามต้องคำนึงถึงความสัมพันธ์ระหว่างประเทศด้วย ไม่ใช่แค่กำลังทหาร ผมคิดว่าแถวอาเซียน เรายังไม่สามารถไว้เนื้อเชื่อใจกันได้จริงๆ อย่างยุโรป ฝั่งนั้นเขาเจริญกว่าเราเยอะ
ฝั่งเราก็ยังต้องสะสมกำลังทหารกันอยู่ดี จะมีคบเชื่อใจจริงๆ ได้ก็น่าจะสิงคโปร์ เพราะว่าสิงคโปร์ถึงอาวุธจะเยอะ แต่ประเทศเล็ก ทหารก็ไม่แกร่ง ถ้าจะบุกจริงๆ กวาดทีเรียบ เขาคงไม่อยากสู้กับใครหรอกครับ แต่ถ้าอย่างพม่า เขมร เวียดนาม ยังต้องเอากองกำลังคานอำนาจกันไปอีกนานครับ
ที่มีคนแวะด่านักการเมือง อันนี้ผมคิดว่าเราอย่าไประบุเจาะจงอะไร แต่ถ้ามองในมุมกว้าง มันจริงแหละครับว่าประเทศต่างๆ ที่เห็นจับไม้จับมือก็ยังตีๆ กันอยู่ โดยเฉพาะเรื่องการเมืองการทหารระหว่างประเทศมันก็หน้าไหว้หลังหลอกกันไปเรื่อยแหละครับ มันตั้งนานแล้วแหละครับ นึกถึงสงครามเย็นคงเคยเห็นภาพผู้นำประเทศจับมือยิ้มแย้ม คิดว่าเขารักกันมีความสุขกันจริงๆ เหรอครับ? ฝั่งทหารเองก็เหอะ เราก็ยังยิ้มแย้มจับไม้จับมือกับผู้บัญชาการทั้งสองฝ่าย แล้วทำไมยังปะทะกันอยู่เนืองๆ ?
มีการจัดตั้งกลุ่ม CLMV (Cambodia, Laos, Myanmar และ Vietnam) มีความร่วมมือกันทางภาครัฐ และภาคธุรกิจ เช่นการท่องเที่ยว การลงทุน
มีความพยายามจะดึงดูดแหล่งเงินทุนจากภายนอก ซึ่งมีความได้เปรียบในด้านทรัพยากรธรรมชาติ ที่มีอยู่จำนวนมากและด้านแรงงาน
ด้านท่องเที่ยว คมนาคม ยกเลิกวีซ่าและปรับปรุงเส้นทางคมนาคม มีเที่ยวบินตรง โดยได้รับการสนับสนุนเป็นอย่างดีจากจีนและญี่ปุ่น
แล้วไทยอยู่ตรงไหน ????
พูดตรงๆธุรกิจท่องเที่ยว การจัดการ คมนาคม เรามีความเป็นมืออาชีพมากกว่าประเทศเหล่านี้หลายสิบเท่า ไหนจะทำเลที่ตั้งอีก
พูดง่ายๆ เค้าไม่เอาเรา การประชุมที่เวียตนามครั้งล่าสุด เค้าให้เราร่วมในฐานะผู้สังเกตุการณ์เท่านั้น
มันเป็นความจริงที่ต้องยอมรับ รอบบ้านเรา ยังมองเราด้วยความระแวง
น่ากลัวที่สุดถ้ารบกันแล้วเราจะหนัก...มาเลย์เซีย แต่โอกาสเป็นไปได้น้อย....
ส่วนโอกาสจริงๆที่มีโอกาสจะรบ....กัมพูชากับพม่าตามลำดับ.......10 ปี นี้ยังนอนหลับฝันดีได้สบายครับ ถ้าเราไม่หน่อมแน้ม...
เรื่องเศรษฐกิจและความเป็นอยู่ เราอยู่อย่างสบายครับ ถ้าไม่ทำตัวเอง.....ยังไงเขาก็อิจฉาคนไทย....มีอย่างที่ใหน...คนต่างชาติบางคนบอกว่า "ไทยมีปัญหาเรื่องการเมือง ประเทศไทยก็ยังน่าอยู่...????)
ในความคิดผม ประเทศรายล้อมเรา ยังไม่น่าเป็นห่วงเท่าไหร่ บางครั้งก็อาจะมีการปะทะกันตามชายแดนบ้าง แต่ถ้าจะให้เกิดเป็นสงครามระหว่างประเทศ มีการรบกันเต็มรูปแบบนี้เป็นไปได้ยาก ในส่วนตัวจะเรียกว่าแทบเป็นไปไม่ได้เลย เนื่องจากประเทศในกลุ่มเหล่านี้ถึงแม้บางประเทศจะมีศักยภาพมากกว่าบางประเทศ แต่ยังไม่ถึงขั้นเป็นมหาอำนาจที่กล้าฝ่า (UN) ยกทหารไปยึดอีกประเทศหนึ่ง ซึ่งหากมีประเทศใดกล้าหาญชาญชัยทำก็เท่ากับนำประเทศไปสู่หายนะ และอย่างยิ่งโดยเฉพาะประเทศส่วนใหญ่ในแถบนี้จะมีแบคเป็นมหาอำนาจหนุนหลังแทบทั้งสิ้น จะหนุนมากหนุนน้อยนั้นแล้วแต่ว่าประเทศไหนมีผลประโยชน์มากแค่ไหน
แต่อย่างน้อยเชื่อว่าในกลุ่มแถบนี้เราก็ไม่ใช่มีศัตรูไปเสียทั้งหมด นั่นมันหมายถึงมองโลก Drak เกินไป เรายังมีประเทศที่เรียกว่ามิตร เช่น สิงคโปร์ เนื่องจากสิงคโปร์เองก็ไม่แตกต่างจากเราเท่าไหร่ที่มีประเทศเพื่อนบ้านที่ไม่ค่อยจะเป็นมิตรเท่าไหร่ จึงต้องเสริมอาวุธที่ทันสมัยไว้มาก แต่กลับขาดเรื่องจำนวน ดังนั้นเท่าที่ผ่านมาจะเห็นว่าทางไทยและสิงคโปร์จะมีการร่วมมือทางการทหารมากกว่าประเทศเพื่อนบ้านอื่นๆ เช่นกัน
แต่การสร้างดุลยภาพทางการทหารก็ต้องเกิด เราก็ต้องพัฒนาทางการทหารของเราให้พร้อมรบอยู่เสมอ และถ้าเรามีความพร้อมมากกว่าจะยิ่งดีมากยิ่งขึ้นไปอีกเช่นกัน
คิดเหมือนหลายๆคนครับ .. ไทย กับ สิงคโปร์ ตกที่นั่งคล้ายๆกัน คือ มีแต่เพื่อนบ้านอิจฉา
อาจจะเป็นเพราะ ประเทศ สิงคโปร์ กับ ไทย ตั้งอยู่ในทำเลที่ดีที่สุดก็ได้ ( คล้ายๆ ร้านส้มตำที่ได้ทำเลดีๆย่อมขายดี )
อีกอย่างที่แขกจีนฝรั่ง เขาชอบคนไทยอยากอยู่ไทย เพราะดีเอ็นเอคนไทยมีความเป็น เฟรนด์ลี่ มากที่สุด
อีกอย่าง .. ลูกผสม ไม่ว่า แขก-ไทย จีน-ไทย ฝรั่ง-ไทย ญี่ปุน-ไทย ผลผลิตที่ออกมา หน้าตาดีกว่าผสมกับสายพันธ์อื่นๆ
ดู มาริโอ้ ณเดช ญาญ่า ใหม่ดาวิกา เป็นตัวอย่าง อิอิ
.. ด้วยเหตุนี่กระมัง ที่ทำให้ประเทศในภูมิภาคเอเชียใต้ ถึงได้อิจฉาตาร้อน โดยเฉพาะประเทศรอบๆบ้านรวมไปถึงปินส์
อย่างสิงคโปร์ นี่ พวกมาเลย์ อินโด เขาก็อิจฉาคล้ายๆกัน .. ประมาณว่า ประเทศเอ็งเล็กนิดเดียว เจือกได้ทำเลทอง
ผมคิดว่า ประเทศที่รบด้วยแล้วน่ากลัวที่สุดตอนนี้คือ
อันดับ 1 พม่า มีทหารมาก พรมแดนติดกันมีมาก พัฒนาการด้านอาวุธไล่จี้กองทัพไทยมาติดๆจนเกือบทันแล้ว
อันดับ 2 มาเลเซีย เทคโนโลยีด้านอาวุธพัฒนาไปเกินหน้ากองทัพไทยไปแล้วแถมมีแนวร่วมตามแนวชายแดนเสริมอีก แต่ขนาดกองทัพและความพร้อมรบยังสู้ไทยคงไม่ได้
อันดับ 3 เวียดนาม มีกองทัพขนาดใหญ่ ขวัญกำลังใจทหารดี อาวุธถือว่าพอๆกับไทย(อนาคตอาจดีกว่าไทย) แต่อยู่ห่างจากไทย จะรบกันได้เพราะสัญญาใจค้ำคอคงรบกับไทยไม่เต็มที่นัก
ส่วนประเทศอื่นอย่าง ลาว กัมพูชา ไม่ขอนับ เพราะห่างชั้นกันมาก จะมีก็จะเป็นตัวจุดประกายให้กับอันดับที่ 3 เค้าครับ ส่วนอินโดฯ สิงค์โปร์ ก็ห่างไกลจากไทยและไม่มีข้อพิพาทต่อกัน