ข้อสัณนิษฐาน เกี่ยวกับเผ่าไทย มีหลายข้อครับ แต่ละข้อก็น่าจะมีส่วนจริง เพราะมีหลักฐาน

แม้จะพิสูจน์ไม่ได้ 100%

ดังในรูปที่เจ้าของกระทู้เอามาลง ชนเผ่าไทยมาจากหลายๆเผ่า ซึ่งนั้นอาจจะเป็นยุคกลางของการรวมชาติ

 ในยุคกลาง คนจีนเชื่อว่า คนไทยอพยพมาจากมณฑลยูนนาน(ไทยลื้อ ) และ ก็น่าจะมีส่วนจริง เพราะวัฒนธรรม

ในยูนนานคล้ายคลึงกับไทยมากที่สุด แต่ นั้นมันแค่ประชาชนในภาคเหนือและภาคกลางของไทย

ส่วนฝั่งภาคอิสาน บางส่วนก็คล้ายๆไทยลื้อ บางส่วนก็คล้ายลาว บางส่วนคล้ายเวียดนาม บางส่วนเป็นเผ่าภูไทย

ส่วนในภาคตะวันออก อย่างจันทบุรีน่าจะมีอดีตชาวเวียดนามเยอะ ( อดีตนายก อภิษิต ก็มีเชื้อสายเวียดนาม )

ส่วนอิสานใต้ อย่าง สุรินทร์ บุรีรัมย์ ศรีษะเกษ ก็เป็นชนเชื้อสายกัมพูชา

ส่วนพวกเชื้อสายมอญ ( พม่า ) ก็มีอยู่แพร่หลายในประเทศไทย ( อดีตนางเอก เต๋า สโรชา ก็มีเชื้อสายมอญ )

ส่วนในภาคใต้ตอนล่าง ส่วนมากจะมีเชื้อสายมลายู ภาคใต้ตอนบน มีทั้งเชื้อสายจีน พม่า อินเดีย ผสมปนเปกัน

ส่วนตัวผม ทวดฝ่ายแม่เป็นชาวจีน+มลายู ทวดฝ่ายพ่อเป็นชาวอินเดีย+ไทยพื้นเมือง ( ตัวผมน่าจะเป็น จังฑาล  55++ )

ทีนี้ มาพูดถึงเผ่าไทยยุคต้นๆ คนรัสเซียเค้าเชื่อว่า ชนเผ่าไทย อพยพมาจากเทือกเขาอัลไต ก่อนจะเข้าอยู่ในยูนนาน

และ อพยพจากยูนนาน มาไทยอีกที .. หลักฐานเท่าที่เคยได้ฟัง คนรัสเซีนบอกว่า ลักษณะบ้านเรือนในไทย

คล้ายคลึงกับบ้านของชาวอัลไต รวมทั้งชาวอัลไตนิยมเปิบข้าวด้วยมือคล้ายคนไทย ( ยุคหลังๆ ใช้ช้อนแล้ว )

ดังนั้นเท่าที่พอจะสรุปได้ ประเทศไทยเ เกิดจากการรวมชาติจากหลายๆเผ่า ดังในเพลงชาติที่บอกความความหมาย

" ประเทศไทย รวม เลือด เนื้อ ชาติ เชื้อ ไทย "

เพราะฉะนั้น ไม่ว่าใครก็ตามที่เกิดบนแผ่นดินไทย ย่อมกลายเป็นคนไทยไปโดยปริยาย และ มีความรักชาติเท่ากันทุกคน

นี่เป็น 12 ปันนา น่าจะแถวๆยูนนานนั่นแหละ ขี้เกียจหา  อิอิ

ส่วน นี่เป็นลักษณะบ้านเรือน และชนเผ่า ของเผ่าอัลไต ในรัสเซีย

ที่รัสเซียอ้างว่า บางส่วนของชนเผ่านี่อพยพเข้ายูนนาน 12 ปันนา

ก่อนที่จะอพยพเข้าไทยอีกรอบ

เครดิต

http://topicstock.pantip.com/wahkor/topicstock/2011/05/X10583915/X10583915.html

เป็นบรรพบุรุษสายหนึ่งที่ทำให้ไทยเป็นไทยอย่างทุกวันนี้ หรือจะพูดให้ถูกคือมีบรรพบุรุษร่วมกัน 

บรรพชนเหล่านั้นบางส่วนเลือกที่จะอพยพลงมาที่ประเทศไทยเพื่ออยู่ร่วมกับชนท้องถิ่นที่นี่ 

                       ซึ่งก็มีทั้งมอญ เขมร มลายู แขก ลัวะ ลื้อและเผ่าเล็กๆอีกมากมาย ทั้งหมดหลอมรวมกันเป็นคนไทยในปัจจุบัน

..

           ผมก็ชอบในเรื่องบรรพบุรุษของของชนเผ่าไทแต่เดิมมาเหมือนกันครับ    ผมซื้อหนังสือประวัติศาสตร์ลาว(ที่พิมพ์ขายในไทย)  แต่แต่งโดยนักวิชาการลาว    ทางนั้นไม่เชื่อเรื่องแนวคิดว่าคนไทยมาจากเทือกเขาอัลไตครับ    ทางลาวเขาเชื่อแนวคิดว่าคน ไท ไต ลาว   มีถิ่นกำเนิดดั้งเดิมที่ลุ่มแม่น้ำโขงตอนกลางมาโดยตลอด   แล้วมีบางส่วนบางเผ่าอพยพขึ้นเหนือไปที่ราบตงง้วน  และบางส่วนก็อพยพลงมาทางใต้ของแม่น้ำโขงมายังแม่น้ำเจ้าพระยาด้วย    และมีหลายชนเผ่ามาก    ผมจะลองไปหาที่ตู้เก็บหนังสือดูก่อนครับ   มันเยอะมากต้องรื้อ      เห็นทางนั้นจะอ้างอิงเรื่องอาณาจักรน่านเจ้ามากที่เดียว    ดูเหมือนจะชื่นชมอาณาจักรน่านเจ้าเป็นพิเศษ    จะว่าไปน่านเจ้าเปรียบได้กับจักรวรรดิ์โดยชาวไท ไต ลาว  อาณาจักรแรกที่เป็นจักรวรรดิ์ที่ยิ่งใหญ่    ก่อนจะตามมาด้วยอาณาจักรอยุธยาครับ

     เมื่อสองปีก่อนก็เพิ่งซื้อหนังสือประวัติศาสตร์ล้านนามาอ่านด้วยครับ    น่าสนใจมากเพราะมีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่าประเทศไทย (เหมือนลาวที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่าเรา)     เห็นจากหนังสือเล่มนั้นเล่าว่าที่เดิมพื้นที่ของเชียงใหม่ไม่ใช่ดินแดนของคนไทย   แต่คนไทยอพยพลงมา   พื้นที่เดิมมีทั้งชาวพื้นราบ  ชาวเขาเผ่าต่างๆอยู่แล้ว    และมีอาณาจักรหริปุนชัยเดิมตั้งอยู่    ก่อนที่จะถูกพระยามังรายเข้าครอบครองครับ   แล้วตั้งเวียงกุมกาม (ก่อนย้ายไปเชียงใหม่เพราะน้ำท่วม  จนเมืองแทบล่ม)      และชาวไท ไต ลาว  ที่ตามมาอยู่ทีหลังนั้นมีอารยธรรมสูงกว่า  ร่ำรวยกว่า   การศึกษาดีกว่า    และใจกว้างที่เปิดรับชนพื้นเมืองท้องถิ่น(ที่เป็นคนพื้นราบ) ให้แต่งงานและรับราชการด้วย    ส่วนคนพื้นเมืองเดิมก็ดูเหมือนจะชอบนโยบายนี้   และยินดีจะรับเอารูปแบบวัฒนะธรรมและภาษาจากชาว ไท ไต ลาว ไปใช้เป็นของตนเอง    และก็ถูกกลืนโดยวัฒนธรรมชาวไท  ไปในที่สุดครับ  (ยกเว้นพวกชาวเขาที่ยังรักษาวัฒนะธรรมเดิมเอาไว้) 

     นโยบายของรัฐทางล้านนาในการเปิดกว้างต่อชนพื้นเมืองเดิม    และความนิยมชมชอบคน ไท ไต ลาว  ของชนพื้นเมืองเดิมในที่ราบเชียงใหม่   จะว่าไปก็คล้ายๆคนไทยในประเทศไทยปัจจุบันก็ชื่นชมวัฒนธรรมตะวันตกที่สูงกว่าของเรา   และรับมาใช้เป็นของตนเอง  เช่นวิถีชีวิต   ภาษาที่พูด ไทยคำ อังกฤษคำ    และอยากมีวิถีชีวิตแบบฝรั่งที่ร่ำรวยกว่า  การศึกษาสูงกว่า  ความมั่นคงทางการเมืองและเศรษฐกิจที่เหนือกว่า    ด้วยวิธีคล้ายๆกันนี้มั๊งครับที่ชาวไท ล้านนา จึงสามารถกลืนชนพื้นเมืองเดิมเข้าเป็นส่วนเดียวกันได้แบบแยกไม่ออก 

   ส่วนอาณาจักรคนไท ในลุ่มน้ำเจ้าพระยาตอนั้นเป็นอาณาจักรทาราวดี     ในหนังสือประวัติศาสตร์ลาวบอกว่าอาณาจักรทาราวดีเองก็เป็นหนึ่งในอาณาจักรชาวไท    ทาราวดีนี่ตั้งก่อนอยุธยาครับ    เห็นบอกว่าผู้นำของอาณาจักรชาวไท  3 อาณาจักรทางตอนใต้ (ลาวโคตรบูรณ์  โยนก  ทาราวดี)  เป็นคนไท ไต ลาว ครับ     

  แต่มีหนังสือและข้อมูลทางประวัติศาสตร์บางเล่มบอกว่า   คนในอาณาจักรทาราวดี  ไม่ใช่คนไท ไต ลาวครับ   เพราะวัฒนธรรมแตกต่างออกไป 

       จากเนื้อหาของหนังสือประวัติศาสตร์ล้านนาและประวัติศาสตร์ลาว     เลยทำให้ผมคิดว่า  แบบนี้มีทางเป็นไปได้ว่า  ประชาชนแต่เดิมส่วนใหญ่ของทาราวดี  ไม่ใช่คนไท   แต่คนไท  มาทีหลัง   และสามารถผสมกลมกลืนไปกับชาวพื้นเมืองได้ด้วยวิธีการที่ทางล้านนาทำ    และชนชั้นผู้ปกครอง  ขุนนาง  และทหารน่าจะเป็นคนไทแท้ๆ

  เดี่ยวจะไปหาชื่อหนังสือที่ผมกล่าวอ้างมาให้ครับ   ต้องไปรื้อ

 ส่วนประวัติศาสตร์ทางฝั่งรัฐฉาน  หรือ  ชาวไทใหญ่  (พวกนี้เรียกคนไทยในประเทศไทยว่า "ชาวใต้  คนใต้น่ะ")   มีประวัตินานมากทีเดียว   ก็มีการกล่าวถึงอาณาจักรคน ไท ไต ลาว  ทางตอนเหนือมากเช่นกัน   รวมถึงน่านเจ้าด้วย    เรื่องพวกไทใหญ่สามารถค้นหาได้ทางเน๊ตเยอะเลยครับ    

นักวิชาการลาวให้คนไท ไต ลาว  ที่อยู่เหนือแม่น้ำโขงขึ้นไปเป็นกลุ่ม ไท-ลาว ตอนบน   และกลุ่มที่อยู่ต่ำกว่าแม่น้ำโขง  จะเป็นพวกกลุ่มตอนใต้   

   หาข้อมูลด้านนี้แล้วสนุกปนเศร้าดีครับ   ไม่น่าเชื่อว่ากลุ่มชน ไท ไต ลาวนี่จะมีมากขนาดนั้นและเคยครอบครองพื้นที่กว้างใหญขนาดนั้นมาก่อน    เสียดายรวมกันไม่ค่อยติด  และมักจะรบกันเองระหว่างกลุ่มอาณาจักรชาวไท  ด้วยกัน    แบบในหนังสือประวัติศาสตร์มาเลเซียเล่มหนึ่งที่เคยอ่าน(ตีพิมพ์เป็นภาษาไทย)   บอกว่าช่วงที่ไม่ถูกชาวไท  กดขึ่   มักจะเป็นช่วงที่อาณาจักรที่ใช้ภาษาไท  ทำการรบพุ่งกันเอง   หรือติดพันการรบกับพม่า  

   เจอสองเล่ม

1.    ความเป็นมาของชนชาติลาว   การตั้งถิ่นฐานและสถาปนาอาณาจักร

      แต่งโดย   บุนมี   เทบสีเมือง     แปลโดย   ไผท   ภูธา

หนังสือเล่มนี้กล่าวถึงตำนานขุนบรม (พีล่อโกะ)  แห่งน่านเจ้าที่ส่งบุตรธิดา 7 พระองค์มาตั้งเมืองทางใต้  

2.  ประวัติศาสตร์ล้านนา

    ศาสตราจารย์  สรัสสวดี  อฺองสกุล

   ในหนังสือเล่มแรกกล่าวถึงตำนานขุนบรมดังนี้ครับ

ขุนบรมมีโอรส 7 พระองค์และมีธิดา 7 พระองค์  ต่างมารดากัน   แล้วให้ทั้งหมดแต่งงานกัน    แล้วให้ลงไปก่อตั้งเมืองทั้ง 7 ขึ้นในทางตอนใต้   มีรายชื่อดังนี้

1.  ขุนลอ   ปกครองเมืองชวา(หลวงพระบาง)

2.  ขุนผาล้าน   ปกครองเมืองหนองแส

3.   ขุนจุสง   ปกครองเมืองจุลนี   ในเขตตังเกี๋ย

4.  ขุนคำผง   ปกครองโยนก หรือ เชียงแสน

5.  ขุนอิน    ปกครองล้านเพีย หรือ อยุธยา

6.  ขุนกรม   ปกครองคำม่วน หรือ โคตรบูร

7.  ขุนเจีอง  ปกครองเมืองพวน หรือ เชียงขวาง

โดยมีคำสั่งว่าให้พี่น้องรักกัน   ถ้าใครไปแย่งยึดเมืองก็สาปแช่งให้พอนาศ

  จากหนังสือเล่มนี้  ถึงได้รู้ว่า   อยุธยามีชื่อเล่นว่า   " ล้านเพีย "     

  เพีย(ภาษาอีสาน)แปลว่า ที่ราบ  ทุ่งราบ  หรืออะไรที่ราบเรียบเสมอกัน   ล้านเพีย   ก็คือ  ดินแดนล้านทุ่งราบนั่นเอง     ล้อกันดีนะ   ล้านนา  ล้านช้าง   ล้านเพีย        

แสดงว่าอยุธยานี่ตั้งมาก่อนอาณาจักรสุโขทัยเสียอีก   ตั้งแต่น่านเจ้ายังไม่ล่มสลายเลยด้วย   

    หนังสือเล่มแรกดูจะชื่นชมอาณาจักรน่านเจ้าเป็นอย่างมาก  (เขาใช้คำว่าอาณาจักรลาวตอนเหนือ ที่อยู่แม่น้ำโขง)    เลยมีเรื่องราวของน่านเจ้า  เยอะหน่อย   และมีเรื่องอาณาจักรก่อนหน้านั้นด้วย  คือ  อ้ายลาว  และหัวเมือง 6-7 หัวเมือง  เช่น  นครลุง  นครปา  และ นครเงี้ยว  เป็นต้น        ถ้าไปอ่านประวัติศารสตร์รัฐฉาน   ก็กล่าวถึงอาณาจักรเหล่านี้ด้วยเช่นกันครับ  

   น่านเจ้า   เมืองหลวง คือ หนองแส  (ทะเลสาปเอ๋อไห่)    ต่อมาชนชาวไป๋เข้ามายึดครองต่อ  แล้วเปลี่ยนเป็น  ต้าหลี่      ที่มีความสัมพันธ์กับจีนมานาน (จำหนังจีนโทรทัศน์สมัยก่อนได้   อ๋องแห่งต้าหลี่  เสด็จ มาเยื่อน ฮ่องเต้   อะไรประมาณนี้)  

  เอาภาพสวยๆจากเวปท่องเที่ยวเมือง  ต้าหลี่  มาให้ดูครับ     และประวัติตามเวปตัวอย่าง

http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%95%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B8%B5%E0%B9%88

http://xpress.nationmultimedia.com/part2payanark.php

http://www.ilovetogo.com/Article/29/1880/Contacts.aspx?mid=31

บอกตรงๆว่า   หนองแส   นี่ โคตรสวยเลย 

" แบบในหนังสือประวัติศาสตร์มาเลเซียเล่มหนึ่งที่เคยอ่าน(ตีพิมพ์เป็นภาษาไทย)   บอกว่าช่วงที่ไม่ถูกชาวไท  กดขึ่   มักจะเป็นช่วงที่อาณาจักรที่ใช้ภาษาไท  ทำการรบพุ่งกันเอง   หรือติดพันการรบกับพม่า  "

ประวัติศาสตร์ ที่เขียนโดยทางโน้น อ่านแล้วจะเอาความจริงต้องหาร 4 น่ะครับ .. ผมเองก็มีเชื้อสายมลายู พอจะรู้จากคำบอกเล่า

ของรุ่นพ่อรุ่นแม่มาบ้าง มันไม่ได้เป็นเหมือนที่เขาเขียนหรอกครับ ถ้าเขียนโดยนักวิชาการลาว ยังมีส่วนจริงและน่า

เชื่อถือกว่าเยอะเลย ... ประเทศไทยให้สิทธิการนับถือศาสนาเท่าเทียมกัน .. นามสกุลเดิมของแม่ผมยังเป็นภาษา มลายู เลย

   ลิ้งค์เพลงปีใหม่ไท สิบสองปันนาครับ

http://www.youtube.com/watch?v=B6UJzb4A1tA

วัฒนธรรมหลายอย่างเหมือนไทยครับ    ตัวอักษรในสิบสองปันนาใช้อักษรธรรมล้านนา   และสำเนียงการพูดนี่ คนเมืองจาวเจียงใหม่เลย.......แต่ผมคนกรุงเทพนะครับ...55555

   จริงๆมีเพลงวัยรุ่นของสิบสองปันนาด้วย    มีทั้งซับไตเติ้ลไทย  จีน  อัษรล้านนาด้วย    ผม save ไว้แต่ไม่ได้ทำเวปลิ้งค์เอาไว้เลยหาไม่เจออีก      สำเนียงไทยทางเหนือฟังออก   ถ้าชอบลองหาดูตาม youtube ก็มีให้ดูให้ฟังเพียบเลยครับ

  ข้อยเปนลูกหลานไตลื้อ  เกิดอยู๋กินในห้องเมิ้งลื้อสิบสองปันนา...........

ในเมิ้งมีไฮ่นาโหลงหลาย    ก่อหย่างหลายเป็นปา  ก้อล่าล้า  เต็มกอง

ในหนองเลี้ยงมีปา   ในนาปลูกมีข้าว    .......   ย้าวเฮือนข้าวเต็มไต่   ไฮ่เต็มถุน  กนเมืองอยู่สุขลำบานใจ๋

ข้อยเยือมใจ๋  ได้มาเกิดอยู่กิ๋น  เมิ้งสิบสองปันนา.....

   ข้อยเปนลูกหลานไตลื้อ  เกิดอยู๋กินในห้องเมิ้งลื้อสิบสองปันนา

ในเฮือนมีปู่ย่าตานาย   ปี้น้องหลายเคือยาว    อ้านน้าอยู่เมิ้งลาว

ป้ออ๋าวอยู่เมิ้งไทย   ปี้ไปอยุ่เมิ้งมาน   ลูกหลานก้อหลายสะหายก้อมาก   กนฮู้จักก้อมากโหลงหลาย   เปิ้นเสดายได้มาเกิดอยู่กิ๋นเมิ้งสิบสองปันนา

  เนื้อเพลงวงสตริงวัยรุ่นในสิบสองปันนาน่ะครับ    พอจะแปลออกกันได้บ้างเน้อ.....มาอยู่เชียงใหม่ 3 ปีแล้วววว....เจ้า

ส่วนตามลิ้งค์นี้จะเป็นเพลงจากรัฐฉาน  

http://www.youtube.com/watch?v=jXYoBGiNydQ

ยุคสมัยก่อน ไทยใหญ่ ( รัฐฉาน ปัจจุบัน ) ,ไทยลื้อ ( 12 ปันนา ยูนนาน ),  ล้านนา ( เชียงใหม่ เชียงราย ) ,

และ แคว้นอัสสัม ( อินเดีย ) ลาวพวน ( ลาว ) ... จะว่าไปแล้วพวกนี้อดีตเป็นชาติพันธ์เดียวกัน ใช้ภาษาเดียวกัน

จนต่อมามีการแบ่งแยกออกเป็นหลายๆประเทศ ทำให้ต้องพลัดพรากจากกัน ( กรณีเดียวกับ เกาหลี เหนือ - ใต้ )

ในคลิปลิ้งค์ ที่ท่านนีโอลงมา ผมเคยดูนานแล้วครับ .. ปัจจุบัน ทางรัฐบาลทุกประเทศ เขาก็กลัวการกลับมารวมชาติ

ของกลุ่มชาติพันธ์ที่กล่าวมา อย่างจีนนี่ ส่งคนจีนแผ่นดินใหญ่มาอยู่เพียบ การเรียนการสอน ก็เปลี่ยนเป็นหลักสูตร

ภาษาจีน ทำให้ภาษาไทยใหญ่เริ่มล้มหายตายจาก เพราะไม่มีใครใช้ .. อีกอย่าง วัฒนธรรมของไทยลื้อที่อยู่แบบ

เรียบง่าย ต้องแข่งขันกับชาวจีนที่เชี่ยวชาญเชิงค้าขาย สุดท้ายการอยู่แบบเรียบง่ายก็สู้ไม่ได้ ทุกคนต้องเข้าสู่ระบบเศรษกิจ

จีนสามารถทำลายวัฒนธรรมไทยลื้อได้อย่างง่ายดาย ทุกวันนี้ ไทยลื้อแทบจะไม่เหลือความภูมิใจในชาติพันธ์ของ

ตัวเองแล้วละครับ ทุคนมุ่งแต่จะทำมาหากินและแข่งขันทางวัตถุ .. ในแคว้นอัสสัมของอินเดีย ก็โดนเหมือนกัน

http://www.gotoknow.org/posts/460065

จะเหลือก็แต่ รัฐฉานของพม่าเท่านั้น ที่ยังต่อสู้ต่อไป .. และแนวโน้มว่ารัฐฉาน จะได้แยกเป็นเอกราชเร็วๆนี้

ยิ่งเมื่อไหร่ก็ตาม ที่ อองซาน ซูจี ขึ้นเป็นผู้นำ .. ชาวรัฐฉาน จะเรียกร้องเอกราชทันที .. เพราะ .. พ่อของ อองซาน ซูจี

ป็นผู้ ทำสัญญา ว่า เมื่อครบ 50 ปี จะให้อกราชกับรัฐฉาน  .. พ่ออองซานตายไปแล้ว ทีนี้ลูกก็ต้องรับผิดชอบคำสัญญา

.. จบครับ  อิอิ

  ใช่ครับท่าน  soda77   หวังว่าเมื่อทางอ่องซานชนะ   น่าจะมีการเรียกร้องให้นำสนธิสัญญา   "ปะโหลง (ปางหลวง)"  กลับมาพิจารณากันอีกครั้ง     ถ้าเกิดขึ้นจริง   ทางรัฐฉานคงแตกออกมาเป็นเอกราช  หรือ ไม่ก็เป็นเขคปกครองพิเศษอะไรทำนองนั้น   รวมถึงเขตปกครองทางใต้อย่างตะนาวศรีและมอญด้วย  

   R-9  road  สมบูรณืเมื่อไหร่   ผมจะลองไปเยี่ยมเมือง  เมาะลำเริงและเมาะตะมะ  ดูบ้างครับ    

ขอบคุณมากครับท่าน  soda77   คุยแล้วสนุกดีเรื่องนี้

ผมชอบดู กีฬาตะกร้อ .. วันนั้นถ่ายทอดสด เปิดดูพอดี

ดูทีแรก คิดว่า ทำไมนักตะกร้อไทยติดธงชาติอินเดีย พอโฆษกบอกว่าทีมอินเดียกำลังแข่ง

ผมขยี้ตาดู .. อินเดียอะไรวะ ทำไมหน้าตามันคนไทยชัดๆ ก็เลยวิ่งไปเปิดกุเกิ้ลหาดู ก็เลยกระจ่าง

.. แบบนี้ ก็หมายความว่า กีฬาตะกร้อเล่นกันแพร่หลายมานานแล้ว ถึงขนาด ไทยอาหม ในอินเดีย

ยังเอาติดมือไปเล่นตั้งกือบสองร้อยปีที่แล้ว