3. มีสามหัวข้อย่อย

3.1 ชาติแรกที่พัฒนาแนวคิด Strategic Missile (ของข้อ 2) ให้เป็นรูปธรรม คือชาติใด (ระหว่างอเมริกาและโซเวียตรัสเซีย) โดยติดตั้งในเรือดำน้ำใดเป็นลำแรก เมื่อปี ค.ศ. ใด และขีปนาวุธ นั้นชื่ออะไรค่ะ

3.2 ชาติที่สองที่สร้างเรือดำน้ำติดตั้ง Ballistic Missile คือชาติใด (ระหว่างอเมริกาและโซเวียตรัสเซีย) โดยติดตั้งในเรือดำน้ำใดเป็นลำแรก เมื่อปี ค.ศ. ใด และขีปนาวุธ นั้นชื่ออะไรค่ะ

3.3 ผลจากข้อ 3.1 และ 3.2 ทำให้เกิดการสร้างเรือดำน้ำติดตั้งขีปนาวุธข้ามทวีปในอีกบางประเทศ ซึ่งชาติที่ 3 ที่สร้างเรือดำน้ำติดตั้ง Ballistic Missile คือชาติใด โดยติดตั้งในเรือดำน้ำใดเป็นลำแรก เมื่อปี ค.ศ. ใด และขีปนาวุธ นั้นชื่ออะไรค่ะ

1.USS Argonaut อเมริกา WW2

2.เยอรมัน V1 ช่วงก่อน-ต้นWW2

3.1 อันที่จริงต้องตอบว่าเยอรมันนะครับ เพราะพัฒนาแคปซูลลากแบกV2ไปยิงได้ด้วย แต่ถ้าตามตัวเลือกก็โซเวียต เรือชั้นZulu ไม่ทราบว่าชื่ออะไร ติดR-11 Scudที่เป็นSRBM (แต่ถ้านับCruise Missileด้วยก็เรือชั้นWhiskey ติดจรวดR-3)

3.2 เรือUSS George Washington ของอเมริกา ใช้Polaris A-1 ประมาณ1960

3.3 เรือHMS Resolution ของอังกฤษ ใช้Polaris ประมาณ1963(ตามเวลาโครงการ)

ขอรายละเอียดในคำถามข้อ 1 ว่าท่าน OAA หมายความถึงเรือดำน้ำ(ที่ใช้ในภารกิจ)วางทุ่นระเบิดลำแรกของโลก หรือเรือดำน้ำวางทุ่นระเบิดที่ปล่อยจากท่อตอปิโดลำแรกของโลก

ตอบก่อนเลยแล้วกัน ไม่รู้ว่าตรงกับคำถามรึเปล่า

1. เรือดำน้ำเยอรมันชื่อ KRAB ปี 1916 ถูกใช้ในการปิดล้อมกองทัพเรือรัสเซียที่ทะเลดำ เมือง Nikolaev

2. แนวคิด Ballistic missile มาจากประเทศเยอรมัน คือจรวด Aggregat-1 ออกแบบปี 1933

3.1 รัสเซียคือประเทศแรกที่สร้างเรือดำน้ำปล่อยขีปนาวุธข้ามทวีป คือเรือดำน้ำชั้น Zulu class (Project 611) ทำการปล่อยขีปนาวุธ R-11FM (Scud A) ปี 1955

3.2 สหรัฐอเมริกาเป็นชาติที่สอง ด้วยเรือดำน้ำ USS Grayback บรรทุกขีปนาวุธ Regulus ปี 1958

3.3 ฝรั่งเศสเป็นชาติที่สาม ด้วยเรือดำน้ำ Gymnote บรรทุกขีปนาวุธ M1 ปี 1968

3.2 โซเวียตครับ

1.เรือดำน้ำUC-1ของเยอรมัน สร้างหลังKrabของโซเวียตแต่เสร็จก่อน ร่วมรบในWW1ครับ

ขอบคุณที่ร่วมตอบคำถามค่ะ เข้ามาตอบเร็วมาก ทั้งสองท่านตอบถูกเป็นส่วนใหญ่ แต่ยังไม่ตรงคนละนิดหน่อย ประมาณ 1 ข้อ หรือ 1 ข้อย่อย ยังไง ลองตอบอีกครั้งสำหรับข้อที่ยังไม่ถูก ดิฉันจะส่งของรางวัลร่วมสนุกไปให้ทั้งสองท่านค่ะ 

3.1 อันนี้คำถามอาจไม่ชัดเจน ต้องขอโทษด้วยค่ะ  3.2 ชาติแรกที่สร้างเรือดำน้ำ Ballistic Missile ในสงครามเย็น คือชาติใด ระหว่างอเมริกาและโซเวียตรัสเซีย ค่ะ 

ข้อ 1 เป็นเรือดำน้ำประเภทวางทุ่นระเบิด ปฏิบัติภารกิจในการวางทุ่นระเบิดโดยเฉพาะค่ะ ยังไม่มีท่านใดตอบถูกค่ะ 

SSM-N-8 Regulusเป็นsubmarine-launched cruise missile (SLCM)ไม่ใช่submarine-launched ballistic missile (SLBM)ครับ แล้วยิงครั้งแรกจากเรือดำน้ำดีเซลUSS Tunny(SS-282) ในเดือนกรกฎาคม 1953 และใช้ประจำการ แล้วจึงดัดแปลงเรือดำน้ำดีเซลUSS Grayback (SSG-574) ในปี1958 มารับหน้าที่แทน

USS Grayback (SSG-574) ติดตั้งท่อยิงSSM-N-8 Regulus

ส่วนsubmarine-launched cruise missile (SLCM)ของโซเวียตติดตั้งบนเรือชั้นWhiskey ติดตั้งSS-N-3 Shaddockตามที่คุณPhu2000ตอบครับ

กว่าที่อเมริกาจะมีsubmarine-launched ballistic missile (SLBM)ก็ต้องรอจนมีUGM-27 Polarisในปี1960 โดยUSS George Washington (SSBN-598)เป็นSSBNลำแรก แต่เป็นSSBNที่สมบูรณ์คือ สามารถยิงSLBM จากใต้น้ำได้ เรือชั้นZULUต้องลอยลำขึ้นผิวน้ำก่อนจึงจะยิงได้ทำให้เสี่ยงต่อการถูกตรวจพบ แต่โซเวียตก็สามารถทำการยิงจากใต้น้ำได้ใน40วัน(หายใจรดต้นคอเลย)หลังจากที่อเมริกาประสบความสำเร็จจากการทดลองยิงUGM-27 Polarisสำเร็จในปี1960

1. ตามที่ทราบกันดีว่าเรือดำน้ำสามารถวางทุ่นระเบิดได้ด้วย โดยทุ่นระเบิดจะปล่อยจากท่อยิงตอร์ปิโด ถามว่า เรือดำน้ำลำแรกของโลก ที่เป็นเรือดำน้ำวางทุ่นระเบิด (Minelaying Submarine) ชื่ออะไร เป็นเรือของประเทศใด และได้ร่วมรบในสงครามใดคะ
-------Bushnell's Turtle ? อาณานิคมอเมริกัน สงครามปฏิวัติอเมริกัน (แต่จริงๆแล้วไม่น่าใช่ เพราะถือว่าเป็นเรือใต้น้ำมากกว่าเรือดำน้ำ)  
.......ถ้าไม่ถูก ท่านPhu2000 ถูก UC-1 เยอรมัน WWI 
2. ขีปนาวุธ ข้ามทวีป (Ballistic Missile) เป็นอาวุธสำคัญของเรือดำน้ำค่ายโซเวียตรัสเซีย และอเมริกา ในช่วงสงครามเย็น ถามว่าแนวคิดในการสร้าง Strategic Missile มาจากชาติใดเป็นชาติแรก และอาวุธปล่อยนั้น ชื่ออะไร ถูกออกแบบขึ้นในช่วงใดค่ะ
-------ถ้านับจริงๆแล้ว ต้องเป็นเยอรมันตามที่หลายๆท่านว่า  แต่การทดสอบใช้ Nebelwerfer เป็นตัวทดลอง  บนเรือU-511 ในปี1941 ถ้าเอาเป็นBallistic Missileแท้ๆ ก็จะเป็นV2 แบบลากไปกับเรือ 
3. มีสามหัวข้อย่อย

3.1 ชาติแรกที่พัฒนาแนวคิด Strategic Missile (ของข้อ 2) ให้เป็นรูปธรรม คือชาติใด (ระหว่างอเมริกาและโซเวียตรัสเซีย) โดยติดตั้งในเรือดำน้ำใดเป็นลำแรก เมื่อปี ค.ศ. ใด และขีปนาวุธ นั้นชื่ออะไรค่ะ

--------โซเวียต, Zulu  Class  หากนับหมายเลขเรือลำแรกของชั้นคือ B-61 แต่ติดตั้งและยิงได้ลำแรกคือB-67  วันที่16 กันยายน 1955  ขีปนาวุธชื่อ R-11FM 
 

3.2 ชาติที่สองที่สร้างเรือดำน้ำติดตั้ง Ballistic Missile คือชาติใด (ระหว่างอเมริกาและโซเวียตรัสเซีย) โดยติดตั้งในเรือดำน้ำใดเป็นลำแรก เมื่อปี ค.ศ. ใด และขีปนาวุธ นั้นชื่ออะไรค่ะ 
---------USS George Washington  ประจำการปี1959  ยิงสำเร็จปี1960 ขีปนาวุธPolaris A1 

3.3 ผลจากข้อ 3.1 และ 3.2 ทำให้เกิดการสร้างเรือดำน้ำติดตั้งขีปนาวุธข้ามทวีปในอีกบางประเทศ ซึ่งชาติที่ 3 ที่สร้างเรือดำน้ำติดตั้ง Ballistic Missile คือชาติใด โดยติดตั้งในเรือดำน้ำใดเป็นลำแรก เมื่อปี ค.ศ. ใด และขีปนาวุธ นั้นชื่ออะไรค่ะ
---------HMS Resolution ประจำการปี 1963 ยิงสำเร็จปี 1968 ขีปนาวุธPolaris A3 

ส่วนRegulus เป็น Cruise Missile ไม่ใช่Ballistic Missile 
 

ตอบกันไปหมดแล้ว 

เรือดำน้ำเยอรมันใน WWI ใช้งานครั้งแรกแถบช่องแคบโดเวอร์ และ วานูอาตู

SLCM เรือดำน้ำโซเวียต (ยิงจากผิวน้ำ) ตามด้วยอเมริกา, อังกฤษ, ฝรั่งเศส

ทหารเรือ เป็นกองทัพเดียวที่ผมอ่านยังไงก็ไม่เข้าใจ ทั้งเรื่องของตัวเืรือและอาวุธ 

รบกวนคุณ OA พอจะมีรายละเอียดของทหารเรือ หรือพื้นฐานของทหารเรือบ้างไหมครับ ที่อ่านแล้วเข้าใจนะครับ ทั้งประเภทของเรือและระบบอาวุธ 

รบกวนคุณ OA และเพื่อนสมาชิกด้วยนะครับ ทหารบกกับทหารอากาศ อ่านข้อมูลยังพอเข้าใจ แต่ทหารเรือ อ่านยังไงก็ไม่เข้าใจเหมือนกับว่าผมยังไม่เข้าใจภาษาของทหารเรือนะครับ..รบกวนด้วยครับขอบคุณมากครับ

เดี๋ยว จะเข้ามาเฉลยค่ะ ว่าสรุปแล้วท่านใดตอบถูกมากที่สุดค่ะ

เรียน คุณทอแสง ชาวเรือจะมีศัพท์เฉพาะของวิชาชีพที่ต่างจากอาชีพพอสมควรค่ะ หากเจอหนังสือดีๆจะนำมาโพสแนะนำให้ค่ะ :)

อ่าน นาวิกศาสตร์ น่าจะช่วยได้นะครับ (เดี๋ยวนี้มีไฟล์pdfให้โหลดฟรี)

1. เรือดำน้ำลำแรกของโลก ที่เป็นเรือดำน้ำวางทุ่นระเบิด (Minelaying Submarine) ชื่อ Krab เป็นเรือของประเทศรัสเซีย และได้ร่วมรบในสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง ค่ะ

Krab - เรือดำน้ำวางทุ่นระเบิดลำแรกของโลก เป็นเรือดำน้ำของประเทศรัสเซีย สร้างในรัชสมัยพระเจ้าซาร์นิโคลัสที่สอง ในช่วงตั้งแต่ ทศวรรษที่ 1890 เป็นต้นมา การจัดหาเรือดำน้ำเข้าประจำการในกองทัพเรือรัสเซียก้าวหน้าอย่างมาก จนกระทั่งในปี 1900 มีการจัดตั้งจัดตั้งคณะกรรมการเกี่ยวกับการทดสอบจัดหาเรือดำน้ำเข้าประจำการ  Ivan Grigorevich Bubnov เป็นประธาน ทำให้กองทัพเรือจักรวรรดิรัสเซีย มีทั้งเรือดำน้ำที่ต่อเองในประเทศ โดย Bubnov เป็นวิศวกรเอกอันดับต้นๆ และเรือดำน้ำจากต่างประเทศ เช่น เรือดำน้ำจากบริษัท Lake Torpedo Boat ประเทศอเมริกา สำหรับเรือดำน้ำ Krab ถูกสร้างขึ้นใน ปี ค.ศ. 1912 ตัวเรือออกแบบโดย มิคาอิล เอ็น นาลีตอฟ (Mikhail N. Naletov) เป็นเรือดำน้ำขนาดเล็กระวางขับน้ำ 560 ตันใต้น้ำ / 760 ตัน เหนือน้ำ ใช้ระบบขับเคลื่อนเบนซิน – ไฟฟ้า ระยะการลาดตระเวน 1,700 ไมล์ทะเล ที่ความเร็วเรือ 8.5 นอต เหนือน้ำ 82 ไมล์ทะเล ที่ความเร็วเรือ 4 นอต ใต้น้ำ ระบบอาวุธของเรือ ประกอบด้วย ท่อยิงตอร์ปิโด ขนาด 450 ม.ม. 4 ท่อยิง ซึ่งในจำนวนนี้ เป็นท่อยิงแบบ Drzewiecki drop collar สองท่อ ท่อยิงสามารถ วางทุ่นระเบิดได้ 60 ลูก นอกจากนี้ยังติดตั้งปืนดาดฟ้าเรือขนาด 75 ม.ม. 1 กระบอก

เรือดำน้ำ Krab ได้ร่วมรบในสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง โดยออกปฏิบัติการในทะเลดำ (Black Sea) ด้วยการวางทุ่นระเบิดเป็นหลัก แต่หลังจากนั้น รัสเซียถอนตัวจากสงครามเนื่องจากเกิดจลาจลในประเทศ เรือดำน้ำ Krab ถูกกองกำลังเยอรมันยึดไว้ในเดือนพฤษภาคม 1918 แต่เยอรมันพ่ายแพ้สงครามโลกครั้งที่สอง Krab จึงถูกยึดต่อโดยอังกฤษในเดือนพฤศจิกายน ปีเดียวกัน และถูกส่งกลับไปยังรัสเซีย โดยตัวเรือถูกทำลายเป็นเศษเหล็กไปในวันที่ 26 เมษายน 1919 ที่เมืองสวาสโตโพล (Sevastopol)

หลายท่านไปสับสนกับเรือดำน้ำชั้น Karp ปี 1905 ซึ่งเป็นเรือของจักรวรรดิรัสเซียเช่นกัน เรือชั้นนี้ออกแบบโดย D’Equevilley-Montjustin นักออกแบบเรือดำน้ำหน้าใหม่ไฟแรงของยุคนั้น ให้กับบริษัท Germania ประเทศเยอรมันนี จำนวน 4 ลำ (โดยในแรกเริ่ม แล้ว ไซมอน เลค แห่ง Lake Torpedo Boat ประเทศสหรัฐอเมริกา คือผู้ที่ Germania ติดต่อให้ทำงานนี้ แต่มีปัญหาเกี่ยวกับสัญญาระหว่างประเทศ ทำให้ต้องเปลี่ยนตัววิศวกรออกแบบเรือ) ซึ่งเรือดำน้ำสามลำแรกของชั้น รวมถึง Karp เรือลำแรกของชั้น รัสเซียซื้อไปประจำการ ลำสุดท้าย Kobben เป็นของประเทศนอร์เวย์ค่ะ  เรือดำน้ำชั้น Karp ประจำการในกองเรือทะเลดำ (Black Sea Fleet) เช่นเดียวกับ เรือดำน้ำวางทุ่นระเบิด Krab และถูกทำลายเรือเป็นเศษเหล็กที่เมือง สวาสโตโพล (Sevastopol)ในวันที่ 26 เมษายน 1919 เช่นเดียวกัน

เรือดำน้ำ Karp ติดตั้งตอร์ปิโด ขนาด 450 ม.ม. สี่ท่อยิง และปืนดาดฟ้าเรือ เช่นเดียวกับ Krab แต่ไม่ได้ระบุไว้ว่าสามารถใช้วางทุ่นระเบิดได้ด้วย หรือออกปฏิบัติการวางทุ่นระเบิด ค่ะ

ภาพเรือดำน้ำวางทุ่นระเบิด Krab และ มิคาอิล นาลีตอฟ (Mikhail Naletov) ผู้ออกแบบเรือ ค่ะ

จริงๆถึงKrabจะเริ่มโครงการและเริ่มต่อก่อน แต่ต่อเสร็จ ขึ้นระวางประจำการ และปฏิบัติการได้เต็มรูปแบบหลังจากUC-1นะครับ

เรือดำน้ำ Type UC-1 เป็นเรือดำน้ำวางทุ่นระเบิดของเยอรมัน ติดตั้งท่อสำหรับวางทุ่นระเบิดขนาด 100 ซ.ม. จำนวน 6 ท่อยิง วางทุ่นระเบิดได้ 120 ลูก โดยเรือลำแรกที่ปล่อยเรือลงน้ำ คือ UC-11 เมื่อวันที่ 11 เมษายน 1915

หากนับวันประจำการ ต้องไปเช็คว่าเรือลำใดขึ้นระวางประจำการก่อน คำถามที่นำมาถาม ใช้แหล่งข้อมูล หนังสือ Submarine: Weapons and Warfare ของ ด.ร. Paul E. Fontenoy ประกอบกับ หนังสือ Submarine of Russia and Soviet Navies ของ Norman Polmar และเว็บไซด์ Russian Submarine ของรัสเซีย ซึ่งระบุตรงกันว่า Krab คือ เรือดำน้ำวางทุ่นระเบิดลำแรกของโลกค่ะ ซึ่งคิดว่า น่าจะคิดจากช่วงเวลาการสร้างเรือ ว่าใครสร้างก่อน ซึ่งหมายถึงการออกแบบและจุดประสงค์การสร้างเกิดขึ้นก่อน หรืออาจจะนับจากวันที่ปล่อยเรือลงน้ำ ซึ่งหมายถึงเรือลำนั้นสร้างเสร็จ พร้อมใช้งานได้ก่อน เพราะ Krab ปล่อยเรือลงน้ำ ก่อน UC-11 ถึง 3 ปี ค่ะ

เพื่อน ๆ สมาชิกพอจะมีลิ้งให้อ่านหรือโหลดอ่านบ้างไหมครับ 

ทั้งการแบ่งแยกประเภทเรือ หน้าที่ของเรือ ระบบอาวุุธ ฯลฯ ผมก็เคยอ่านนะครับ แต่ไม่เคยจะจำได้ซะที เหมือนอ่านแล้วแต่ยังไม่เข้าใจ มันเลยทำให้ผมจำไม่ได้ ยังไงรบกวนเพื่อนสมาชิกด้วยนะครับ ขอบคุณล่วงหน้าครับ

นาวิกศาสตร์ มีให้อ่านออนไลน์ ได้ค่ะ เดี๋ยวไงจะไปค้นไฟล์ พจนานุกรมศัพท์ทหารเรือ ส่งไปให้คุณทอแสงลองศึกษาดู ถ้าศึกษาจากพวกสารานุกรม พจนานุกรมทางด้านนี้ ก็จะทำให้เข้าใจได้เร็วขึ้นค่ะ

คิดว่า คุณ Pu2000 คิอ ผู้ที่ตอบถูกครบคนแรก จะมาเฉลย ข้อ 2 และ 3 เพิ่มพรุ่งนี้คะ เย็นแล้ว ขอกลับบ้านก่อนค่ะ 

เฉลยข้อที่ 2 : แนวคิดในการสร้าง Strategic Missile มาจาก เยอรมัน เป็นชาติแรก และ ขีปนาวุธ นั้น ชื่อ V-2 (หรือ Aggregat 4)  ถูกออกแบบขึ้นในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง

เยอรมันเป็นประเทศที่เริ่มต้นทั้งในเรื่องการทดลอง และการให้แนวคิดเกี่ยวกับ Strategic Missile หรือ ขีปนาวุธทางยุทธศาสตร์ ซึ่งสามารถโจมตีเป้าหมายได้ในระยะไกล และติดหัวรบปรมาณู หรือหัวรบนิวเคลียร์ อาจกล่าวได้ว่า V-2 คือ ขีปนาวุธข้ามทวีป (Ballistic Missile) แรกของโลก ถึงแม้ระยะยิงของอาวุธจะไม่ได้ไกลมากขนาดข้ามทวีปได้ โดยมีระยะยิงเพียง ประมาณ 185 ไมล์ สามารถโจมตีเกาะอังกฤษได้สบายๆ แต่ไม่สามารถยิงไกลข้ามทวีปไปโจมตีอเมริกาได้ ผู้ที่มีส่วนสำคัญในการพัฒนาอาวุธนี้ คือ นายพล Walter Dornberger และนักวิทยาศาสตร์ ชื่อ Wernher von Braun ประสบความสำเร็จในการทดลองยิงครั้งแรก เมื่อวันที่ 3 ตุลาคม 1942 ที่ Peenemunde  

อย่างไรก็ตามเยอรมันไม่มีโอกาสใช้อาวุธนี้โจมตีประเทศอังกฤษตามแผนการ กองกำลังสัมพันธมิตรขึ้นฝั่งที่นอร์มันดี บริเวณทางเหนือของฝรั่งเศสและเบลเยี่ยม ในเดือนมิถุนายน 1944 และรุกคืบเข้ายึดฐานยิงขีปนาวุธ V-2  

เยอรมันไม่ได้พัฒนาอาวุธ V-2 ต่อไปอย่างเป็นรูปธรรม เพราะแพ้สงครามโลกครั้งที่สองเสียก่อน ชาติที่นำแนวคิดการสร้างขีปนาวุธ นี้มาพัฒนาใช้จริง คือ ประเทศรัสเซียและสหรัฐอเมริกา ในช่วงสงครามเย็น โดยก่อนหน้าการพัฒนาอาวุธ V-2 เยอรมันได้คิดค้นอาวุธปล่อย V-1 ซึ่งรัสเซีย และอเมริกาได้นำมาพัฒนาต่อยอดเป็นจรวดร่อน (Cruise Missile) ด้วยเช่นกัน

จะทะยอย เฉลยไปเรื่อยๆค่ะ ขอโทษด้วยที่ช้าหน่อย เพราะงานเยอะ รบกวนขอที่อยู่คุณ Phu2000 ด้วยค่ะ ดิฉันจะส่งของรางวัลไปให้ ส่งเป็นอีเมล์มาก็ได้ค่ะ (คำตอบ ไม่ได้เน้นว่าจะตรง 100 เปอร์เซ็น เพราะเป็นการเทียบลำดับช่วงเวลาจากเอกสารต่างๆ ท่านใดตอบใกล้เคียงที่สุดก่อน ถือว่าได้ค่ะ และหากมีเอกสารแย้ง ต่างจากของดิฉันก็โพสได้ค่ะ จะได้เป็นการร่วมตรวจสอบ แหล่งข้อมูลไปด้วยกัน เพราะการค้นเรื่องใดก็ตามเชื่อถือแหล่งข้อมูลเดียวไม่ได้อยู่แล้วค่ะ :) )

V-1 Missile : หลายท่านสับสนระหว่างอาวุธปล่อย V-1 และ ขีปนาวุทธ V-2 แม้ว่ารูปร่างของมันและแนวคิดในการออกแบบจะค่อนข้างต่างกันมาก อาวุธปล่อย V-1 มีชื่อเต็มว่า Vergeltungswaffen-1 รู้จักแพร่หลายในชื่อ Flying Bomb, Buzz Bomb และ doodlebug  เป็นต้นกำเนิดของ จรวดร่อน (Cruise Missile) ในปัจจุบัน  

V-1 ใช้ระบบขับเคลื่อน Jet ติดตั้งหัวรบดินระเบิดหนัก 850 กิโลกรัม หรือ 1,870 ปอนด์ เคลื่อนที่ด้วยความเร็วประมาณ 580 กิโลเมตร (360 ไมล์) ต่อชั่วโมง ระยะยิงไกล 240 กิโลเมตร หรือ 150 ไมล์ เยอรมันโจมตีกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษด้วยอาวุธนี้มากกว่าแปดพันลูกในระหว่างวันที่ 13 มิถุนายน 1944 ถึง 29 มีนาคม 1945 ประมาณสองพันสี่ร้อยลูกโจมตีเป้าหมายได้สำเร็จ นอกจากนี้เยอรมันยังได้ใช้ V-1 โจมตีประเทศเบลเยี่ยม แต่จำนวนไม่มากเท่าที่ใช้โจมตีอังกฤษ  

V-1 ขนาดยาว 8 เมตร หรือ 25 ฟุต ส่วนหางที่ติดตั้งระบบขับเคลื่อนเจ็ต สร้างเป็นปีกยาวออกไปทั้งสองด้าน ระยะห่างระหว่างปีกทั้งสองด้าน ประมาณ 5.5 เมตร สามารถปล่อยจากเครื่องบิน หรือฐานยิงแบบ catapult ramp ได้ (เป็นฐานมีลักษณะเหมือนท่อรางวางบนพื้นดิน อาวุธจะถูกยิงเคลื่อนออกจากฐานขึ้นไปในอากาศ) ฐานยิงมีอยู่หลายแห่ง เช่น ที่บริเวณ Pas-de-Calais ชายฝั่งทางเหนือของประเทศฝรั่งเศส และพื้นที่บางแห่งที่เยอรมันยึดครองได้ในยุโรปตะวันตก   

ภาพที่สอง คือ ซากฐานยิง V-1 แบบ catapult ramp ในสมัยสงครามโลกครั้งที่สอง ค่ะ