เนื่องจากในอนาคตอันใกล้ทางกองทัพคงจะต้องจัดหาเครื่องบินลำเลียงทางทหารมาประจำการเพิ่มผมเลยขอเสนอ cn-295 เหตุผลไม่ใช้ว่าเป็นเครื่องที่สมรรถนสูงสุดหรือดีสุด แต่เพราะมันน่าจะคุ้มค่ามากที่สุด ด้วยราคาที่สมเหตุสมผล และขณะนี้ก็มียอดสั่งซื้อจากต่างประเทศเข้ามาอย่างต่อเนื่องน้ันแสดงให้เห็นแล้วว่า รุ่นนี้น่าจะเป็นรุ่นที่มีอะไหล่รองรับไปอีกนานพอสมควร ....
ไม่เอาC-130Jเหรอครับ เพราะเราใช้เครื่องตระกูลนี้มานานแล้ว ซื้อบ.tankerก็KC-130Jนี่แหละง่ายดี
ว่าแต่แพงกว่ากันกี่บาทหว่า
ทั้งจำนวนที่มีและสักยภาพ ดูแล้วน่าจะพอๆกับ G.222 ที่เพิ่งทำการปลดแลกออกไป
ถ้าคิดในแง่ของภารกิจย่อยมีเยอะมันก็น่าจะคุ้ม แต่ถ้าไม่..ก็คงไม่คุ้มที่มีหลากแบบ
เพราะต้องมีทีมเซอวิสเพิ่มอีกส่วน ในส่วนราคา เฮอร์คิวลิส ก็คงต้องแพงกว่านับเท่าตัว
ไม่ว่าน้ำหนักที่บรรทุกใด้มากกว่า และมีถึง 4เครื่องยนต์ ...การจัดหาก็คงมองที่ภารกิจเป็นส่วนสำคัญ
c-295 โหลดของได้ 9.25 ตัน สำหรับ c-130j โหลดของได้ 20 ตัน อัตราโหลดของ c-295 มากกว่า g-222 อยู่นิดหน่อย น่าจะมาช่วยแบ่งเบา c130 ของเราได้ และด้วยมีขนาดที่เล็กกว่าน่าจะนำไปใช้ได้ค่อนข้างหลายภาระกิจ ด้วยราคาที่ถูกกว่าหลายเท่าตัว โดย c-130j ตกเครื่องหนึ่งประมาณ 100 ล้านเหรียญหรือประมาณ 3300 ล้านบาท แต่ c-295 ตกลำละ 36 ล้านเหรียญ หรือประมาณ 1000 ล้านบาท ด้วยที่ใช้สองเครื่องยนต์ อัตราสิ้นเปลื่องต่อเที่ยวย่อมประหยัดกว่า c-130
พี่จีน..ยังซื้อใช้
เครื่องหมายเลข01ในภาพเป็นเครื่องบินของคาซัสถานนะครับไม่ใช่ของจีน
http://en.wikipedia.org/wiki/File:CASA_C-295M_Kazakhstan_Air_Force_093.jpg
ขอบคูณครับ..เอารูปมาจากเวปจีน เห็นมีดาวแดง นึกว่าของจีน
ตัวนี้ หลายคนในนี้เชียร์อยู่ครับ
C-130J = 1 ลำ ตกลำล่ะ 3,300 ล้านบาท
CN-295 = 1 ลำ ตกลำล่ะ 1,000 ล้านบาท
เอางบ C-130J มาซื้อตัวนี้ เราจะได้ 3 เครื่อง แถมตัวเล็ก ภารกิจยืดหยุ่น+ได้หลายลำอีก
ตอนแรกผมนึกว่าเอามาทำภารกิจขนาดเดียวกับC-130เดิมที่ค่อนข้างจะเก่าแล้ว(แต่เพิ่งปรับปรุงไป)น่ะครับ เลยจะเอาC-130Jที่ใกล้เคียงกับของเดิม
ส่วนภารกิจที่ขนาดรองลงมาเพื่อลดภาระของC-130(ลำเลียงขนาดเดียวกับG222)ก็คงเป็นCN-295นี่ล่ะครับ