http://www.dsca.mil/sites/default/files/mas/thailand_10-54_0.pdf

http://www.thaiarmedforce.com/taf-military-news/55-rtaf-news/193-f16-mlu-update-oct-2010.html

หลังจากนั้นอีก8เดือนคือในเดือนกันยายน2010 รัฐบาลสหรัฐได้แจ้งต่อสภาคองเกรสในประเด็นการปรับปรุงช่วงครึ่งอายุ (MLU) ของ F-16 ให้กับทอ.ไทย

DSCA หรือ Defense Security Cooperation Agency (สำนักงานความร่วมมือทางทหารและความปลอดภัย) ซึ่งเป็นหน่วยงานของรัฐบาลสหรัฐที่รับผิดชอบในการขายอาวุธให้กับต่างประเทศ ได้แจ้งต่อสภาคองเกรสเมื่อวันที่ 30 กันยายนน 2553 ที่ผ่านมา ในความเป็นไปได้ที่จะขายอุปกรณ์ที่ใช้ในการปรับปรุงในช่วงครึ่งชีวิตหรือ MLU (Mid-Life Upgrade) ให้กับ F-16A/B Block 15 ของกองทัพอากาศไทยทั้ง 18 ลำ ในระยะเวลา 3 ปี มูลค่าสูงสุดราว 700 ล้านเหรียญสหรัฐ

ทั้งนี้ กฏหมายของสหรัฐมีเงื่อนไขให้รัฐบาลสหรัฐต้องแจ้งต่อสภาคองเกรสเมื่อรัฐบาล สหรัฐตัดสินใจขายอาวุธให้กับประเทศใดและในสัญญามีมูลค่ามากกว่า 50 ล้านเหรียญสหรัฐ แต่ยังมิได้หมายความว่าสัญญาถูกลงนามแล้ว โดยถ้าสภถาคองเกรสไม่เห็นด้วยกับการขายนั้น สภาคองเกรสมีเวลา 30 วันในการคัดค้านการขาย (แต่ในประวัติศาสตร์นั้นการคัดค้านขากคองเกรสเกิดขึ้นน้อยมาก) ซึ่งหลังจากช่วง 30 วันไปแล้ว รัฐบาลสหรัฐและประเทศลูกค้าก็สามารถทำการลงนามในสัญญาได้

โดยในการปรับปรุงเครื่องบินครั้งนี้ เป็นการรื้อออกมาทั้งลำแล้วประกอบกับเข้าไปใหม่ด้วยอุปกรณ์ทันสมัยที่ซื้อมาเปลี่ยนประกอบไปด้วย

- ระบบคอมพิวเตอร์ควบคุมภารกิจ (Modular Mission Computer)
- ระบบเรดาร์แบบ APG-68(V)9 Improved Multimode Fire Control Radar - ระบบพิสูจน์ฝ่ายแบบ APX-113 Combined Interrogator and Transponder
- ระบบจัดการสงครามอิเล็กทรอนิกส์แบบ ALQ-213 Electronic Warfare Management System
- ระบบเป้าลวงอัตโนมัติแบบ ALE-47 Countermeasures Dispenser System - อะไหล่ อุปกรณ์สนับสนุน เอกสาร ข้อมูลทางเทคนิค การฝึกเจ้าหน้าที่และอุปกรณ์การฝึก และอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับการส่งกำลังบำรุง

Media/Public Contact:
Charles Taylor (703) 601-3859 / Paul Ebner (703) 601-3670
Transmittal No:
10-54

WASHINGTON, September 30, 2010 – The Defense Security Cooperation Agency notified Congress Sept. 29 of a possible Foreign Military Sale to Thailand of a three-phased program to upgrade 18 F-16A/B Block 15 aircraft with the Mid-Life Upgrade (MLU) and associated parts, equipment, and logistical support for a complete package worth approximately $700 million.

The Government of Thailand has requested a possible sale of a three-phased program to upgrade 18 F-16A/B Block 15 aircraft with the Mid-Life Upgrade (MLU). Each phase will upgrade six aircraft over a three-year period, with each phase overlapping by one year. The MLU with Modular Mission Computer includes APG-68(V)9 Radar, APX-113 Combined Interrogator and Transponder, ALQ-213 Electronic Warfare Management System, ALE-47 Countermeasures Dispenser System, spare and repair parts, tools and support equipment, publications and technical data, personnel training and training equipment, U.S. Government and contractor engineering and technical support services, and other related elements of logistics support. The estimated cost is $700 million.

This proposed sale will contribute to the foreign policy and national security of the United States by helping to improve the security of a major non-NATO ally.

Thailand needs this MLU program in order to upgrade its aging F-16 fleet and to increase air sovereignty fighter aircraft effectiveness and interoperability with U.S. forces. The proposed sale will enhance the Royal Thailand Air Force’s capability to conduct day, night, and adverse weather air defense operations. Thailand, which already has F-16s in its inventory, will have no difficulty absorbing these upgrades into its armed forces.

The proposed sale of this equipment and support will not alter the basic military balance in the region.

The prime contractor will be Lockheed Martin Aeronautics Company in Fort Worth, Texas. There are no known offset agreements proposed in connection with this potential sale.

Implementation of this proposed sale will not require the assignment of any additional U.S. Government or contractor representatives to Thailand.

There will be no adverse impact on U.S. defense readiness as a result of this proposed sale.

This notice of a potential sale is required by law and does not mean the sale has been concluded.

http://http://news.mthai.com/headline-news/103620.html

5เดือนถัดมาคือวันที่16กุมภาพันธ์ 2011 เราจึงได้รับข่าวดีในเรื่องนี้ เพราะรัฐบาลท่านนายกอภิสิทธิ์ได้อนุมัติเฟสแรกเป็นที่เรียบร้อย 2วันก่อนหน้านี้เครื่องบิน F-16 ADF จากฝูงบิน102จำนวน2ลำประสบอุบัติเหตุระหว่างการซ้อมรบจึงมีข่าวนี้ติดมาด้วยอย่างไม่ตั้งใจ ผ่านมาแล้ว2ปีกับอีก10เดือนผลการสอบสวนยังคงเงียบสนิทเหมือนป่าช้า

งัดงบ เฉียด 7 พันล้าน ซ่อม F-16
วันพุธที่ 16 กุมภาพันธ์ 2554
ทัพอากาศ ชี้ เป็นตาม แผน ซ่อม

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี วานนี้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้ชี้แจงถึงเหตุการณ์เครื่องบินรบเอฟ 16 ของ กองทัพอากาศตกในที่ประชุม จากนั้นพล.อ.ประวิตร ได้มีการเสนอวาระเพื่อพิจารณาเป็นเรื่องลับ ขออนุมัติงบประมาณเพื่อดำเนินโครงการซ่อมแซมและปรับปรุงระบบการบินเครื่องบินรบเอฟ 16  รุ่น A/B 6 ลำ ซึ่งเป็นเครื่องบินรบเอฟ 16 รุ่นเก่า โดยขออนุมัติงบประมาณปรับปรุงซ่อมแซมและโมดิฟายด์ระบบการบิน พร้อมทั้งอาวุธยุทโธปกรณ์ที่ติดตั้งอยู่ในเครื่องบินรบดังกล่าว

ทั้งนี้ ใช้งบประมาณรวมทั้งสิ้นกว่า 6,900 ล้านบาท แยกเป็นค่าปรับปรุงซ่อมแซมเครื่องบินพร้อมอุปกรณ์กว่า 6,562 ล้านบาทและอาคารประกอบโรงซ่อมกว่า 300 ล้านบาท  โดยใช้จ่ายจากงบประมาณรายจ่ายปี 2554  พร้อมทั้งขอผูกพันงบประมาณ 3 ปีตั้งแต่ปีงบประมาณ 2554-2556  ซึ่งที่ประชุมครม.ก็อนุมัติให้ไปตามที่กระทรวงกลาโหมเสนอ

ขณะเดียวกันด้าน พล.อ.ต.มณฑล สัชฌุกร โฆษกกองทัพอากาศ  ชี้แจงกรณี ครม.อนุมัติงบประมาณ เพื่อปรับปรุงสมรรถนะเครื่องบินเอฟ 16 เป็นไปตามพระราชบัญญัติ พ.ร.บ. งบประมาณรายจ่าย โดยเรื่องดังกล่าวเป็นงบที่ ครม.ได้อนุมัติ ตั้งแต่วันที่ 26 มกราคม 2553 ดังนั้น ทอ. จึงได้เสนอครม.ตามโครงการ ตามพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่าย ซึ่งทางครม.ได้อนุมัติงบตามที่ร้องขอให้สามารถก่อหนี้งบผูกพันงบประมาณได้

ขณะที่ มูลค่าเงินที่สูง ทอ.จึงได้แบ่งการปรับปรุงเครื่องบินเอฟ 16 เป็น 3 ช่วง โดยช่วงที่ 1 ดำเนินการ ระยะเวลาปี 2554-2556/ช่วงที่ 2 ในปี 2556-2558 /ช่วงที่  3 ในปี 2558-2560

อย่างไรก็ตาม โครงการดังกล่าว ทอ.ได้ดำเนินการเจรจากับกองทัพอากาศสหรัฐอเมริกา เพื่อดำเนินการปรับปรุงเอฟ 16 ด้วยระบบ การจัดซื้อขายอาวุธระหว่างรัฐบาลต่อรัฐบาลสหรัฐด้วยระบบ(FOREIGN MILITARY SALES) หรือเอฟเอ็มเอส เพื่อปรับปรุงเครื่องบินเอฟ 16 จำนวน 3 ช่วง ครั้งละ 6 ลำ โดยช่วงที่ 1 ใช้งบประมาณ 6,900 ล้านบาท ทั้งนี้ เมื่อครม.ได้อนุมัติงบประมาณแล้วก็สามารถดำเนินการจัดจ้างปรับปรุงเครื่องบินเอฟ 16 ได้ทัน โดยทางทอ.สหรัฐได้ตกลงที่จะดำเนินการปรับปรุงให้เครื่องบินเอฟ 16 ให้ประเทศไทยแล้ว

ทั้งนี้  พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ ยังได้รายงานสรุป ถึงเหตุการณ์เครื่องบินขับไล่รุ่น F16  2 ลำ ตกระหว่างการฝึกร่วมคอบร้าโกลด์ ที่ จ.ชัยภูมิ โดยเครื่องบินรุ่นที่ตก รุ่น ADF ปี 2545 เป็นเครื่องเก่าผ่านการปรับปรุง ส่วนสาเหตุนั้นเป็นอุบัติเหตุระหว่างการฝึกบิน ซึ่งกระทรวงกลาโหมได้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนแล้ว

http://www.defenseindustrydaily.com/thailand-moving-to-upgrade-its-f-16-fleet-06597/

หลังครม.อนุมัติงบประมาณเฟสแรกจำนวน6.900ล้านบาทไปแล้วอีก1ปีนิดๆถึงมีความเคลื่อนไหว เดือนมีนาคม2012 บริษัท Northrop Grumman ขายเรดาร์AN/APG-68v9ให้ประเทศไทยจำนวน6ชุดตามโครงการFMS หมายเลข FA8615-12-C-6047 ซึ่งในดีลนี้จะรวมกับประเทศอื่นๆด้วย ถ้าว่ากันตรงก็คือเรดาร์สำหรับF-16 เฟสแรกจำนวน6ลำนั่นเอง

March 14/12: Radars. Northrop Grumman Electronic Systems in Linthicum Heights, MD receives an $87.8 million dollar firm-fixed-price Foreign Military Sales (FMS) program contract, to provide 43 AN/APG-68v9 radar systems to the Republic of Iraq (22), the Royal Air Force of Oman (15), and the Royal Thai Air Force (6). The 6 Thai radars are enough to cover 1 phase of the 3-phase F-16 modernization program (vid. Sept 30/10 entry).

The AN/APG-68v9 is the standard radar for new F-16C/D aircraft. Northrop Grumman cites external link a 33% increase in air-to-air detection range over earlier versions, plus ground-looking synthetic aperture radar with mapping and 2-foot point target response. They also claim that the radar’s reduced weight, power, and cooling help contribute to 25%-45% lower support costs, though their baseline comparison for those costs isn’t clear.

Work will be performed in Linthicum Heights, MD, and is expected to be complete by March 3/15. The ASC/WWMK at Wright Patterson AFB, OH manages this contract (FA8615-12-C-6047).

http://www.taithailand.com/News/News2012/news13112012.html

ในวันที่ 13 พฤศจิกายน 2012 พล.อ.อ.มานิต สพันธุพงษ์ กรรมการผู้จัดการบริษัท อุตสาหกรรมการบิน จำกัด รับเอกสารประจำเครื่อง บ.F-16 จากนาวาอากาศเอก กฤษฎา สุพิชญ์ ผู้บังคับการกองบิน 4 ในพิธีส่งมอบ บ.F-16 เครื่องแรกเข้ารับการปรับปรุงขีดความสามารถตามโครงการ F-16 Mid Life Update โดยมีตัวแทนจากกองทัพอากาศ บริษัท Lockheed Martin Aero และบริษัท อุตสาหกรรมการบิน จำกัด เข้าร่วมพิธี ณ ศูนย์ซ่อมบำรุงอากาศยานตาคลี บริษัท อุตสาหกรรมการบิน จำกัด จ.นครสวรรค์

ในโครงการนี้จะใช้เครื่องจากฝูงบอน403ที่ใหม่ที่สุดทั้งหมด แต่เนื่องจากในวันที่18 ตุลาคม 2010 เครื่องบิน1ลำได้ประสบอุบัติเหตุไปเสียก่อนจึงเหลือแค่เพียง17ลำ มีการคาดหมายกันว่าจะโยกเครื่องบินจากฝูงบิน103จำนวน1ลำเพื่อปรับปรุงแล้วเข้าประจำการแทน แต่ก็เป็นเพียงการคาดหมายนะครับ

ผมพยายามเปลี่ยนปีให้เป็นค.ศ.เหมือนกันทั้งหมดนะครับจะได้เขาใจง่ายหน่อย

http://www.thairath.co.th/content/pol/331994

ถัดมาอีกเพียง4เดือน(12 มีนาคม.2013)ก็มีข่าวดีอีกครั้งเมื่อครม.อนุมัติเฟส2เป็นที่เรียบร้อย ถึงตอนนี้เครื่องบิน6ลำของเราเข้ารับการปรับปรุงอยู่ จนถึงปัจจุบันผมไม่แน่ใจว่าเสร็จเรียบร้อยแล้วหรือยัง น่ายินดีที่การปรับปรุงทั้งหมดทำในประเทศ จึงเสียค่าใช้จ่ายน้อยลงบ้างและคนของเราได้รับความรู้ใหม่ๆมากขึ้น

ครม.อนุมัติ5.9ล้านบาท อัพเกรดF-16 เอ/บี เฟสสอง

ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีอนุมัติงบประมาณพัฒนาศักยภาพเครื่องบินขับไล่เอฟ-16 วงเงิน 5,700 ล้านบาท...

เมื่อวันที่ 12 มี.ค.2013 พล.อ.ต.มณฑล สัชฌุกร โฆษกกองทัพอากาศ กล่าวถึงกรณีที่คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติงบประมาณผูกพันข้ามปี 2556-2558 โครงการพัฒนาขีดความสามารถเครื่องบินแบบ 19 ว่า โครงการดังกล่าวเป็นการพัฒนาขีดความสามารถเครื่องบินขับไล่ เอฟ -16 เอ/บี ระยะที่ 2 วงเงิน 5,700 ล้านบาท ตามที่กองทัพอากาศ โดยกระทรวงกลาโหมเป็นผู้เสนอ

สำหรับโครงการดังกล่าวถือเป็นแผนงานระยะยาวในการพัฒนายืดอายุการใช้งานของเครื่องบินรบที่ประจำการที่ฝูงบิน 403 กองบิน 4 อ.ตาคลี จ.นครสวรรค์ และที่กองทัพอากาศได้รับการอนุมัติจากคณะรัฐมนตรีในภาพรวมเมื่อปี 2554 เพื่อ MLU (Mid-life update) เครื่องบินรุ่นดังกล่าว จำนวน 1 ฝูง 18 ลำ ทั้งนี้ถือเป็นโครงการต่อเนื่องที่ต้องใช้งบประมาณผูกพันข้ามปี ซึ่งตามระเบียบแล้วหากวงเงินเกินกว่า 1 พันล้านบาท ต้องขอความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรี              

โดยคณะรัฐมนตรีในสมัยนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นนายกรัฐมนตรี ได้อนุมัติโครงการรวมงบประมาณ 19,000 ล้านบาท ซึ่งระยะแรกใช้งบประมาณปี 54-56 จำนวน 6 ลำ จำนวน 6,900 ล้านบาท ในครั้งนี้เป็นการอนุมัติในระยะที่ 2 ปีงบประมาณ 56-58  อีก 6 ลำ จำนวน 5,900 ล้านบาท และจะเสนอในระยะที่ 3 อีก 6 ลำในปีงบประมาณ 58-60 ทั้งนี้กองทัพอากาศได้ว่าจ้างบริษัท TAI ให้ดำเนินการปรับปรุงภายใต้โครงการ MLU จำนวน 18 ลำ โดยการดำเนินงานอยู่ภายใต้การดูแลของบริษัท Lockheed Martin ซึ่งเป็นผู้จัดหาอุปกรณ์ให้กับ TAI  

พล.อ.ต.มณฑล กล่าวว่า ตามรายละเอียดของเอกสารที่แจ้งต่อสภาคองเกรสระบุว่า กองทัพอากาศไทยร้องขอการขายชุดอุปกรณ์ในการทำ MLU ให้กับ เอฟ -16 เอ/บี ทั้ง 18 ลำ โดยการดำเนินงานจะแบ่งการลงนามในสัญญาเป็น 3 เฟส เฟสละ 1 ปี รวมมูลค่าทั้งหมด 700 ล้านเหรียญสหรัฐฯ และมีรายนามอุปกรณ์ที่แจ้งต่อคองเกรส เช่น ระบบคอมพิวเตอร์ควบคุมภารกิจ, ระบบเรดาร์แบบ APG-68(V)9 , ระบบพิสูจน์ฝ่าย, ระบบจัดการสงครามอิเล็กทรอนิกส์, ระบบเป้าลวงอัตโนมัติ, อะไหล่ อุปกรณ์สนับสนุน เอกสาร ข้อมูลทางเทคนิค การฝึกเจ้าหน้าที่และอุปกรณ์การฝึก และอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับการส่งกำลังบำรุง.

http://www.defenseindustrydaily.com/thailand-moving-to-upgrade-its-f-16-fleet-06597/

วันที่10 มิถุนายน 2013 Northrop Grumman ขายเรดาร์AN/APG-68v9ให้ประเทศไทยจำนวน16ชุดตามโครงการFMS หมายเลข FA8615-13-C-6018 ตรงนี้แหละครับที่เป็นประเด็นคาใจว่าทำไมต้อง16ชุดด้วย(ผมถึงต้องมานั่งไล่ไปแต่ละดีล)

ถ้านับตามดีลต่างๆจะเห้นว่าเราสั่งเรดาร์ไปแล้ว6ตัวสำหรับเฟสแรก และมีการนำเครื่องทยอยเข้ารับการปรับปรุงแล้วเช่นกัน แต่ทำไมในเฟสที่2ถึงมีการสั่งเรดาร์16ชุดหรือ16ตัว ถ้าสำหรับเครื่องบินอีก2เฟสที่เหลือเพียงแค่12ชุดก็น่าจะเพียงพอแล้วนี่นา แสดงว่าเราจะเหลือเรดาร์ใหม่เอี่ยมราคาแพงจำนวน4ชุดเพื่อเป็น??? (อะไหล่ ,ติดกับเครื่องบินลำอื่น ,คนสั่งของนับเลขผิด ,ไม่รู้เหมือนกันเฟ้ย) เรดาร์16ชุดราคา51.4ล้านเหรียญ หารแล้วออกมาที่ชุดละ3.2125ล้านเหรียญพอดี

ข่าวในภาษาอังกฤษก็ยังงงว่าบอกว่าเราลดจาก18เหลือ16หรือเปล่า (แต่ของเก่าที่สั่งไปแล้วรอบหนึ่งเอ็งไม่เอามานับรวมวะ)  ผมยังสงสัยอีกเรื่องหนึ่งก็คือเรดาร์ AN/APG-66ของเก่าจะเอาไปทำอะไรต่อ??? ตอนตามข่าวเรือฟริเกตสมรรถนะ(เกือบ)สุงก็ปวดหัวไปรอบแล้วถึงตอนนี้ก็ยังไม่รู้สเป็กเรือทั้งหมดจริงๆ มาเจอเรื่องนี้อีกก็ไม่รู้สินะงงดีแท้ เข้าใจครับว่าเรื่องความลับทางราชการสำคัญมาก แต่บางเรื่องมันก็เปืดเผยได้นี่นาประเทศอื่นๆเขาก็ทำกัน บ่นไปอย่างนั้นแหละขอนิดหนึ่งก่อนนอนก็ยังดี

June 10/13: Radars. Northrop Grumman Electronic Systems in Linthicum Heights, MD receives a maximum $115 million firm-fixed-price contract to provide 38 AN/APG-68(V)9 radar systems: 16 for the Royal Thai Air Force and 22 for the Republic of Iraq. This foreign military sale also includes spares for F-16 operators Egypt, Morocco, and Pakistan.

The 16 radars seems to cover the next 2 phases of Thailand’s modernization program, and leads one to wonder the 2-plane Feb 14/11 crash (q.v.) brought eligible F-16 numbers down from 18 to 16, or if Thailand is stopping short of 18 for other reasons.

This is a sole-source buy, as it must be, and $51.4 million is committed immediately. Work will be performed in Linthicum, MD, and is expected to be complete by Dec 20/17. The USAF Life Cycle Management Center/WWMK at Wright-Patterson AFB, OH, acts as the FMS agent for these orders (FA8615-13-C-6018).

เฉลี่ยแล้วราคาปรับปรุงต่อลำตกอยู่ที่ประมาณไม่เกิน39ล้านเหรียญ คือมูลค่ารวมไม่เกิน700ล้านเหรียญแต่อาจต่ำกว่านั่นก็ได้ หลังการปรับปรุงเสร็จแล้วคงต้องดูกันอีกทีว่าเครื่องบินมี LINK-16ไหม(ต้องมีสิ) และจะใช้สื่อสารอะไรยังไงและกับใครเพื่อให้สามารถทำภาระกิจได้อย่างสมบรูณ์แบบ รวมไปถึงอาวุธติดตัวด้วย IRIS-T หรือ AIM-9X จะได้รับการจัดหามาใช้กับเครื่องบิน รอดูครับอีกไม่นาน6ลำแรกคงแล้วเสร็จออกมาบินโชว์ได้ 

อุปกรณ์สำคัญชิ้นหนึ่งในการปรับปรุงก็คือเรดาร์ AN/APG-68(V)9 ซึ่งจะเป็นหนึ่งในระบบเรดาร์ที่ทันสมัยที่ สุดของกองทัพอากาศไทย โดยเรดาร์แบบ APG-68(V)9 นั้นมีระบบสร้างภาพความละเอียดสูงของพื้นดิน (Synthetic Aperture Radar: SAR) เพิ่มพิสัยในการตรวจจับให้มากขึ้นอีก 33% และลดค่าใช้จ่ายในการปฏิบัติการลง 25% - 45% เป็นต้น ซึ่งนอกจากจะช่วยเพิ่มความคล่องตัวในการปฏิบัติการเป็นอย่างมากแล้ว ยังทำให้ F-16 จากฝูง 403 ของกองทัพอากาศไทยที่จะเข้ารับการปรับปรุงช่วงครึ่งชีวิตนี้สามารถใช้อาวุธ ปล่อยที่ทันสมัยได้หลายแบบขึ้น

ท่อนบนก๊อปเขามาทั้งดุ้นครับ  http://www.thaiarmedforce.com/taf-military-news/55-rtaf-news/534-first-f-16-go-to-mlu.html

แต่จากการที่F-16 MLU ติดเรดาร์ใหม่ที่มีประสิทธิภาพสุงมากขึ้น จึงพอจะใช้งานจรวดMeteorได้อย่างเต็มความสามารถของเขาได้เลย ขณะที่JAS 39 C/D ของเราเรดาร์มีระยะตรวจจับไม่ไกลเท่าไหร่ นอกจากในอนาคตเปลี่ยนไปใช้เรดาห์ Vixen 1000ESเหมือนNGแบบนี้จะแจ่มว้าวไปเลยครับ

ข้อมูลทั่วไปประมาณนี้ครับ

The AN/APG-68 radar is a long range (up to 296 km)[1] Pulse-doppler radar designed by Westinghouse (now Northrop Grumman) to replace AN/APG-66 radar in the F-16 Fighting Falcon. The AN/APG-68(V)9 radar system consists of the following line-replaceable units:

    Antenna
    Modified Dual Mode Transmitter (MDT)
    Modular Receiver/Exciter (MoRE)
    Common Radar Processor (CoRP)

Specifications

    Frequency: Starting Envelope frequency around 9.86 GHz.
    Under AIS Testing as high as 26 GHz
    Range: 296.32 km, 184 miles
    Search cone: 120 degrees × 120 degrees
    Azimuth angular coverage: ±10 degrees / ± 30 degrees / ± 60 degrees

ตัวเลขไม่เป็นทางการพอเชื่อถือได้

APG-69 V9- range 90-105 km vs 5m^2

APG-68 v9 - 130-150km vs 5m/s

ผมใส่ไว้ในบล๊อกตัวเองไว้ด้วยนะครับ ตัดความเห็นส่วนตัวออกไปเรียงตามวันเวลาคล้ายๆกัน ถ้ามีข้อมูลเพิ่มเติมจะมาอัพเดทใหม่ วันนี้หนาวมากสุดยอดเลย

http://thaimilitary.blogspot.com/2013/12/thailand-f-16-mid-life-upgrade-mlu-f.html

ผมมีปัญหาเรื่องเดียว ว่า JHMCS  helmet mounted มันมาด้วยหรือเปล่า (เพราะถ้าขาดเจ้านี้ไป การต่อสู้ระยะใกล้จะเสียเปรียบอย่างมาก หรือว่าเราจะไปซื้อหมวกจากเจ้าอื่นมาใส่   )

เพราะเอกสาร จาก DSCA ที่ยื่นเข้าไปอนุมัติจัดซื้อมันไม่มีเรื่องนี้

แต่ในขณะที่ประเทศอื่นเวลาจัดซื้อ JHMCS  helmet mounted  มันยังต้องระบุเลยทั้งของซาอุและคูเวต

Saudi Arabia – F-15SA Aircraft

338 Joint Helmet Mounted Cueing Systems (JHMCS)

Kuwait – Joint Helmet Mounted Cueing Systems (JHMCS)

WASHINGTON, June 28, 2012 – The Defense Security Cooperation Agency notified Congress June 26 of a possible Foreign Military Sale to the Government Kuwait of 43 Joint Helmet Mounted Cueing System Cockpit Units and associated equipment and support. The estimated cost is $51 million.

ตามที่TAFบอก กฏหมายของสหรัฐมีเงื่อนไขให้รัฐบาลสหรัฐต้องแจ้งต่อสภาคองเกรสเมื่อรัฐบาล สหรัฐตัดสินใจขายอาวุธให้กับประเทศใดและในสัญญามีมูลค่ามากกว่า 50 ล้านเหรียญสหรัฐ  คูเวตซื้อหมวก43ใบเป็นเงิน51ล้านเหรียญเลยมีในเวป ส่วนเราอาจจะซื้อไปแล้วซัก24ใบราคาเลยไม่ถึง แต่ผมคิดว่าน่าจะมีการจัดหาาในภายหลังมากกว่านะครับ ต้องดูในเพส3ว่าแจ้งอะไรบ้าง(ขนาดเฟส1ยังมีค่าปรับปรุงสถานที่300ล้านบาทเลย)

แต่.....   ตอนเราซื้อจรวด ESSM ราคา18ล้านเหรียญยังมีรายงานในเวบนี้เลยนี่นา  ผมก็ยังงงอยู่เหมือนกัน

WASHINGTON, August 8, 2012 – The Defense Security Cooperation Agency notified Congress August 7 of a possible Foreign Military Sale to the Government of Thailand for nine Evolved SEASPARROW Missiles (ESSM) and associated equipment, parts, training and logistical support for an estimated cost of $18 million.

The Government of Thailand has requested a possible sale of nine Evolved SEASPARROW Missiles (ESSM); three MK25 Quad Pack canisters; and four MK783 shipping containers; spare and repair parts; support and test equipment; publications and technical documentation; personnel training and training equipment; U.S. Government and contractor engineering; technical and logistics support services; and technical assistance and other related elements of logistical and program support. The estimated cost is $18 million.

http://www.dsca.mil/sites/default/files/mas/thailand_12-34_0.pdf

ของไทยเราแบ่งการขออนุมัติจากรัฐบาลไทยเป็น3เฟส แต่ที่DSCAยื่นขออนุมัติจากรัฐสภาอเมริกามันมีแค่ 1 set รวมทั้ง 3เฟส 700 M $US นะครับ น่าจะหมายความว่าไม่มีการขอซื้ออะไรมากกว่านี้แล้ว  หรือเปล่า

และถ้าจะมองว่า จะมีการจัดซื้อหมวกต่างหากนอกรอบเพราะราคาไม่ถึงเกรณ์ (ตามวิสัยประเทศไทยที่มีการหมกเม็ดเรื่องงบ โดยการกระจาย)   แต่ที่ประเทศอเมริกา ที่เป็นการจัดซื้อรัฐต่อรัฐที่ต้องผ่านสภา ทางอเมริกาไม่น่าจะเล่นด้วยเพราะอาจจะโดนสภาเล่นงานเอาง่ายๆไม่เหมือนไทย

แล้วอีกอย่างหมวก 18-20ใบ  ใบละ 1 M US$  ทำไมต้องจัดซื้อแยก    ทั้งที่จัดซื้อรวมไปในการยื่นขอหนเดียวมันง่ายกว่าเยอะ

หรือว่าไทยจะใช้หมวกจากเจ้าอื่น ?  เช่น JHMCS II. จาก Elbit Systems อิสราเอล

The Government of Thailand has requested a possible sale of a three-phased program to upgrade 18 F-16A/B Block 15 aircraft with the Mid-Life Upgrade (MLU). Each phase will upgrade six aircraft over a three-year period, with each phase overlapping by one year. The MLU with Modular Mission Computer includes APG-68(V)9 Radar, APX-113 Combined Interrogator and Transponder, ALQ-213 Electronic Warfare Management System, ALE-47 Countermeasures Dispenser System, spare and repair parts, tools and support equipment, publications and technical data, personnel training and training equipment, U.S. Government and contractor engineering and technical support services, and other related elements of logistics support. The estimated cost is $700 million.

วงเงิน700ล้านเหรียญคือมากที่สุดไม่เกินนี้(อาจไม่ถึงก็ได้) ถ้าว่ากันตามเอกสารก็คือกองทัพอากาศไทยซื้อของมาเท่าที่เห็นนี่แหละ ยังขาดอีกหลายอย่างเช่น

-Joint Helmet Mounted Cueing System

-Night Vision Goggles

-AIM-9X SIDEWINDER Missile

-GBU-31V1 Joint Direct Attack Munitions (JDAMs) kit

-tactical data link terminals

-Dual Mode/ Global Positioning System Laser-Guided Bombs

-Enhanced PAVEWAY III

-CBU-105 Sensor Fused Weapons with Wind-Corrected Munition Dispensers (WDMD)

-Embedded Global Positioning System Inertial Navigation Systems

บางตัวคงไม่ต้องมีมั้งครับผมเอาของไต้หวันอัพเกรดมาใส่เปรียบเทียบ ส่วนจรวดอัมรามใช้ของเก่าไปก่อน :)

โทดทีครับ พอดีไปแก้ไข้กระทูหลังจากที่ท่าน Superboy ตอบแล้ว   แก้ว่า

หรือว่าไทยเราจะไปถอย JHMCS II. จาก Elbit Systems อิสราเอล

เห็นโพสเรื่อง option อื่นๆในการโม F16 แล้วก็เห็นของอินโดนีเซียที่ โมมาก็มีบางรายการที่ดูน่าสนใจ(ที่ไทยเราไม่มีในข่าว)เช่น

AN/AAQ-33 Sniper or AN/AAQ-28 LITENING advanced surveillance and targeting pods

Raytheon’s AN/ALR-69 Radar Warning Receivers

จะว่าไป DSCA ของอินโดนีเซียเนี่ยละเอียดมากขนาดมีเจ้านี้

LAU-129A/A Launchers that can fire AIM-120 AMRAAM air-to-air missiles, something its current F-16s can’t do.

หวังว่าของเราคงไม่ได้ตกหล่นไปนะ ไม่งันยิงไม่ได้จะเป็นเรื่องเอา

JHMCS นี่สงสัยครับว่าเราจะเอามาใช้คู่กับอะไรระหว่างaim-9x หรือIRIS-T(อันนี้ต้องขออนุญาติไหม)
ส่วนAMRAAM นี่มาอยู่แล้วเพราะคงต้องมาทำหน้าที่แทนฝูงADFที่ใกล้ปลดด้วย แต่คงได้แค่C-7
CBU-105นี่ไม่ได้เกิดแน่นอนครับ

เท่าที่ผมลองsearch Googleดู ผมว่า JHMCS น่าจะใช้ได้ทั้ง  Aim-9x และ   Iris-T

เพราะที่ กรีกใช้ JHMCS บนF16+Iris-T สเปน ใช้ JHMCS กับ F18 + Iris-T

ของอเมริกา ใช้ทั้งบน F15 F16 F18 + Aim-9x

ของไทยน่าจะใช้ Iris-T + F16   เพราะเรายังไม่เคยสังซื้อ Aim-9X เลย(มาเลย สิงคโปร์ สั่งไปเยอะแระ)    แต่น่าจะมี Iris-T 200 ลูก(ถ้าคนเขียน wiki ไม่มั่ว)

มีคนคุยด้วยดีใจ หลังจากเป็นเว็บบอร์ดเกือบร้างไปเป็นอาทิตย์  เรามานั่งไล่ตัวเลขกันหน่อยนะครับ กองทัพอากาศตั้งงบไว้ปรับปรุง700ล้านเหรียญ ตีว่า 21,000ล้านบาท

เฟสแรกอนุมัติ 6,900ล้าน สำหรับเครื่องบิน6ลำและสถานที่ซ่อมบำรุง   มีการซื้อเรดาร์จำนวน6ชุดเท่าเครื่องบินพอดีเปีะ

เฟส2อนุมัติ 5,700 น่าจะสำหรับเครื่องบินอย่างเดียว  มีการซื้อเรดาร์16ชุด ขณะที่เหลือเครื่องบินไม่ได้ปรับปรุงอีกแค่12ลำ 

เราจะเหลือเงิน 21,000-6,900-5,700 = 8,400ล้านบาทสำหรับเฟส3ถ้าใช้เต็มวงเงิน  และเราไม่ต้องซื้อเรดาร์เพิ่มแล้วเพราะมีเหลือบานตะไท ทีนี้เราจะใช้มันทำอะไรหละครับสำหรับเงินที่เหลืออยู่???

ถ้าใช้เต็มวงเงินจริงๆผมก็เดาส่งไปมั่วๆก่อนว่าตามรายการที่เรียงไว้ให้นั่นแหละ หรือไม่อย่างนั้นก็เป็นเงินส่วนที่ไปซื้ออุปกรณ์และอาวุธจากประเทศอื่นๆจึงไม่มีในรายงานของอเมริกา  แต่ไม่น่าเป็นไปได้ประเทศไทยน่าจะอัพเกรดตามเขาเปีะๆทั้งหมด เรื่องนี้จึงเป็นปริศนารอเฟส3อนุมัติและจัดหาอีกที

เรื่องซื้อของใหม่เอี่ยมจากอเมริกาผมว่าสภาคองเกรสไม่มีปัญหานะครับ เขายิ่งไม่มีเงินอยู่ด้วยเราเองก็เป็นลูกค้าที่ดีมาโดยตลอด ยกเว้นหนังโหลดกับเพลงเถื่อน :)

ปล.  เราเก็บเรดาร์เก่าไว้ใส่T-50จากเกาหลีใต้ในอีก10ปีไหวไหมครับ

ปล.2  ของเราไม่มีตกหล่นหรอกครับเพราะมีคำจำกัดความที่รวมทุกอย่างไว้หมดแล้ว หมวกของท่านคิตตี้อาจจะอยู่ในส่วนsupport equipmentก็ได้นะเออ :)

spare and repair parts, tools and support equipment, publications and technical data, personnel training and training equipment

"spare and repair parts, tools and support equipment, publications and technical data, personnel training and training equipment"

ถ้าคิดแบบมองโลกในแง่ดี มันก็สามารถแอบเอาอะไรมาใส่ในหมวดนี้ก็ได้  เช่นหมวก

แต่ถ้ามองในแง่ความเป็นจริง (ถ้าการรายงานต่อสภาของอเมริกาไม่มีการหมกเม็ด)  การเขียน support equipment อยู่ในหมวด spare and repair parts, tools  ก็ต้องหมายถึงอุปกรณ์ที่ใช้ในการช่วยซ่อมบำรุง  เช่น เครื่องมือตรวจวัด  เครื่องมือวิเคราะห์อาการเสีย  หรือจะเป็น software ช่วยวิเคราะห์

ก็ได้แต่หวังว่า งบจัดเต็มMLUลำละ 40 M US$  มันน่าจะมีอะไรแอบแฝงมากกว่าที่เห็นใน DSCA

ก็หวังไว้กับการจัดซื้อที่นอกเหนือจาก อเมริกา จึงไม่ปรากฏใน DSCA  แต่อาจจะอยู่ในเฟส3ของไทย ^ ^ 

(อะโทดที ฝันไกลไปหน่อยเพราะ 700 M US$ มันยื่นกับอเมริกานิหว่า   มันก็ต้องมีแต่ของที่จัดซื้อจากอเมริกา)

เรื่องหมวกผมมองแบบคนประหยัด งบน้อย  เลยคิดว่าตอนนี้ ทอ. อาจจะลองเอาหมวก DASH ที่ใช้กับ F5E มาทดสอบใช้กับ F16 จำนวน 6 ลำแรกที่ทำ MLU เสร็จแล้วอยู่ก็ได้  หากใช้ดีก็จะได้ไม่ต้องซื้อ หรือซื้อในจำนวนเงินที่ถูกลงมาหน่อยครับและมีผลดีจะได้ไม่มีแบบหมวกมากเกินไป

เป็นไปได้ที่สั่ง JHMCS จาก Elbit โดยตรง หรือไม่ ถ้าจำไม่ผิดอะไรก็ตามที่ทยอยซื้อทีละไม่เกิน 20 ล้าน USD
ทาง DSCA จะไม่รายงานต่อสภาครับ(เข้าใจว่า AIM-9,AGM-65,GBU ก็ทำแบบนี้)

- LAU-129A/A มีมาตั้งแต่สมัย ADF แล้ว
- Night vision เรามี AN/AVS-9 ที่ใช้กับ F-16 A/B และสามารถใช้กับ JHMCS ได้
- AN/ALR-69 มีแล้ว เปลี่ยน Management System ใหม่เอา

ส่วนเรื่อง Sniper  กับ LITENING เหมือน ทอ. ยังลังเลอยู่นะครับ ยิ่งมี LITENING G4 ออกมาติด F-16 MLU
ของ ทอ. Denmark ด้วยยิ่งทำให้น่าสนใจไปใหญ่

Iris-T เท่าทีมีเอกสารอ้างอิงใน ตปท. คือ 40 นัดครับ และน่าจะเอามาใช้งานกับ MLU ด้วยนะ

-ESSM ราคา18ล้านเหรียญยังมีรายงานโผล่ไปที่สภาเลย ทฤษฎีที่ว่าเราทยอยซื้อปีหละนิดหละหน่อยจึงมีความน่าเชื่อถือน้อยลงไปอีก

-Iris-T 200นัดน่าจะเป็นเป้าหมายในอนาคตมากกว่า แต่น่าจะรวมทั้งลูกจริงและลูกซ้อมลูกโชว์อะไรทำนองนั้น ซึ่งโอกาสไปถึงเป้าน่าจะยากเต็มที

-Link16 กับฐานเรดาร์ภาคพื้นและเครื่องบินAEW ถ้าดูจากนาทีนี้ก็ค่อนข้างชัดเจนว่าไม่มีการหาเครื่องบินAEWเพิ่ม แต่จะใส่Link-16ให้กับSAAB340 AEW ที่มีอยู่2ลำแล้วใช้งานไปก่อน ผมก็คิดว่าดีครับถ้ามันเยี่ยมเลยจ๊อดค่อยจัดหามาประจำการจริงๆก็ได้ แต่ดูจากตารางเวลาแล้วคงจะหลังจากเครื่องบินทั้ง18ลำปรับปรุงเสร็จเรียบร้อยแล้วแน่ๆเลย

มาดูดีลของโรมาเนียกันบ้างครับ เขาซื้อF-16 Block15 MLU 12ลำ จากฮอลแลนด์เฉพาะราคาเครื่องเปล่าน่าจะอยู่ที่10ล้านเหรียญ(ตรงนี้ไม่แน่ใจเท่าไหร่) และได้ขอจัดซื้ออุปกรณ์ดังต่อไปนี้มาใช้กับเครื่องบินตัวเอง $457 million.ถือเป็นการลงทุนหนักมากน่าจะเป็นเพราะไม่เคยมีอุปกรณ์มาก่อนเลย แต่ทำไมAIM-9Mหละ

WASHINGTON, Nov 8, 2013 – The Defense Security Cooperation Agency notified Congress today of a possible Foreign Military Sale to Romania of weapons, equipment, and support for 12 F-16 MLU Block 15 for an estimated cost of $457 million.

The Government of Romania has requested a possible sale of weapons, equipment, and support for 12 F-16 MLU Block 15 aircraft that will be procured through a third party transfer from Portugal. Articles and services will include:

• 13 Embedded Global Positioning Systems/Inertial Navigation Systems (EGPS/INS) with GPS Security Devices, Airborne
• 3 AN/ALQ-131 Electronic Countermeasure Pods
• 30 AIM-120C Advanced Medium Range Air-to-Air Missiles (AMRAAM)
• 5 AIM-120C Captive Air Training Missiles (CATMs)
• 60 AIM-9M Sidewinder Missiles
• 4 AIM-9M CATMs
• 48 LAU-129 Launchers
• 10 GBU-12 Enhanced Guided Bomb Units
• 18 AGM-65H/KB Maverick Missiles
• 4 AGM-65 CATMs
• 15 Multifunctional Information Distribution System/Low Volume Terminals
• 2 Multifunctional Information Distribution System Ground Support Systems

Also included are spare and repair parts, support equipment, tanker support, ferry services, repair and return services, software development/integration, test and equipment, supply support, personnel training and training equipment, publications and technical data, U.S. Government and contractor technical services, and other related elements of logistics and program support. The estimated cost is $457 million.

"that will be procured through a third party transfer from Portugal. Articles and services will include:"

ของโรมาเนียมันน่าจะเป็นการขออนุมัติการขาย(โอนของ)จากโปรตุเกต

ของทั้งหมดจึงเป็นของเก่าที่โปรตุเกตมีและมอบให้ในราคามิตรภาพ รวมทั้ง Aim-9m ที่โปรตุเกตคงจะไม่ได้ใช้แล้ว

The US DSCA announces Romania’s official request to clear an initial transfer of key weapons and electronics that “will be procured through a third party transfer from Portugal,” as part of their F-16 MLU re-sale. Articles and services would include

ผมจำตัวเลขผิดไปหน่อย สรุปคือ 14 ล้าน USD ESSM 18 ล้าน USD เขาข่ายนะครับ  
ถ้าเราไม่ใช้วิธีทยอยซื้อแล้วจะอธิบายเรื่อง AIM-9M-9 ได้ยังไง กรณีนั้นไม่เคยมีเอกสาร
 DSCA ออกมาเลยครับ

แปลไทย Arms Export Control Act (บัญญัติควบคุมการส่งออกอาวุธ)

ในกรณีที่มีหนังสือข้อเสนอที่จะขาย การป้องกันหรือบริการตามที่ได้บัญญัติไว้ 
โดยมีมูลค่า 50,000,000 $หรือมากกว่า หากเป็นการออกแบบใด ๆ และการให้บริการการก่อสร้าง
มูลค่า $ 200,000,000 หรือมากกว่า หรืออุปกรณ์ป้องกันที่สำคัญ ซึ่งมีมูลค่า 14,000,000 $ 
ก่อนที่หนังสือข้อเสนอดังกล่าวจะดำเนินการต่อไป ควรให้ประธานนาธิบดี ส่งหนังสือไปยัง
โฆษกประจำทำเนียบขาว เพื่อให้สภาผู้แทนราษฎรและประธานของคณะกรรมการเกี่ยวกับความสัมพันธ์
ระหว่างประเทศของวุฒิสภารับรอง เกี่ยวกับข้อเสนอดังกล่าวในการขายที่มีข้อมูลที่ระบุไว้...

ขอบคุณท่านLogieng มากครับ ในที่สุดก็ได้รู้ตัวเลขที่แท้จริงเสียที เคยคุยเรื่องนี้กันมานานแล้วว่าตกลงมันเท่าไหร่กันแน่ แต่14ล้านมันน้อยมากเลยนะจรวดสมัยนี้ก็ราคาแพงเหลือเกิน

ก็พอสรุปเอาเองได้ว่าเงินที่เหลือจาก8,400ล้านบาทอาจจะทยอยแบ่งมาซื้อของใช้ที่ไม่ได้มีอยู่ในรายการปรับปรุง 1คำสั่งซื้อได้หมวก14ใบก็โอเคหละครับไม่ว่ากัน

น้องใหม่รบกวนสอบถามนิดครับ อ่านๆไปรู้สึกว่าปรับปรุงตกลำละ 40 ล้าน$ ถ้าซื้อใหม่ไม่คุ้มกว่ารึครับ

ราคามันไม่น่าต่างกันมาก ยังงว่าเอางบปรับปรุงเพิ่มอีกนิดซื้อใหม่ c/d ไปเลย หรือ jas 39 ใหม่

มันน่าจะเวิคกว่าไหม รบกวนพี่ๆแนะนำทีครับ

ราคาน่าจะแพงกว่าพอสมควรนะครับ ปี2008โมรอคโคซื้อF-16C/D Block52 จำนวน24ลำ มูลค่ารวมทั้งโครงการอยู่ที่2.4พันล้านเหรียญ ส่วนF-16IQของอิรัคจำนวน18ลำสั่งในปี2011ราคาทั้งโครงการอยู่ที่2.3พันล้านเหรียญ

ราคารวมอะไหล่บางส่วนอุปกรณ์และอาวุธติดตัวรวมทั้งการอบรมด้วย ราคาเครื่องเปล่าน่าจะป้วนเปี้ยนที่70ล้านเหรียญต่อลำนะ กริเพนก็ราคาประมาณนี้ครับที่เราซื้อ12ลำก็ประมาณ1.1พันล้านเหรียญ เข้าใจว่าเครื่องเปล่าน่าจะอยู่แถวๆ60ล้านเหรียญ แต่ถ้าจะเอามาใช้จริงๆต้องซื้ออาวุธและอุปกรณ์เพิ่มเติมอยู่ดีแหละครับ อัพเกรดแบบนี้ทุกประเทศก็ทำกันขึ้นอยู่กับว่าใส่อะไรบ้างเท่านั้นเอง

แอบอ่านอยู่ครับ ในกรณี F-16 ของอิรัก ขอยกเว้นไว้กรณีนึง ราคามันแรงเกินประสิทธิภาพ

ส่วนกระเปาะ Sniper  กับ LITENING ยังไม่มีข้อสรุปหรือครับ ?? (แอบเชียร์ Sniper อยู่)

ถ้าราคาใหม่แพงกว่าเท่าตัว แล้วถ้าเทียบกั f16 CD มือ 2 จะเป็นไงครับ ระหว่างปรับปรุง 18 ลำเทียบเท่า Block 50/52

กับซื้อ CD มือ2 Block 30/40 ( เข้าใจว่า block50/52คงยังไม่มีมือ 2 ) แต่ได้เครื่องเพิ่ม มาอีก 1 ฝูงเต็มๆ ประมานเอาปริมาน

อะครับ อิอิ หรือ 40 ล้าน/ลำ พอจะได้ F15 cd มือ2ไหมครับ ผมแค่คิดอะนะครับ ว่าถ้าเราเลือกจัดหา F15 cd มือ 2 มาแทน

การปรับปรุง f16 อะไรจะคุ้มกว่ากัน ขอบคุณความเห็นของพี่ๆทุกท่านนะครับ

F-16C Block 50+ ของตุรกี 30 ลำราคาอยู่ที่ $2.9 billion. ราคาปี 2011 

F-16 ที่อินโดซื้อเป็น F-16 C/D block 25 ซึ่ง ทอ. สหรัฐ ปลดประจำการแล้ว  โดยในรายละเอียด Spec. 
แทบไม่แตกต่างกับ F-16 A/B เราเลย เครื่องยนต์ก็ตัวเดียวกันแถมน้ำหนักตัวเปล่ายังหนักกว่า 
เพราะมีเหตุจำเป็นต้องปรับปรุงโครงสร้างให้แข็งแรงขึ้น ดูแบบหยาบ ๆ ความคล่องตัว ความเร็ว อัตราเร่งก็ต่ำ
กว่าครับ แต่มันก็ต่างกันเพียงเล็กน้อยเท่านั้น จุดที่แตกต่างจริง ๆ ก็คือมี AN/APG-68 มาให้ตั้งแต่กำเนิด
แต่ US น่าจะปรับปรุงไปแล้วบ้าง อาจจะเป็นรุ่น (V)3/(V)5 ซึ่งสามารถยิง AIM-120 ได้แล้ว

ส่วน F-16 A/B MLU  ของเราจะติดตั้ง AN/APG-68(V)9 ซึ่งเป็นรุ่นที่ทันสมัยที่สุดในตระกูลนี้แล้ว การปรับปรุงของ
เรากับฝูง 403 อาจจะแพงไปบ้างเพราะจำนวนที่เข้าปรับปรุงไม่เยอะ แต่ก็ทำให้ได้เครื่อง MLU ที่ปรับปรุงเสร็จมี
เอวิโอนิกที่ทันสมัยพอ ๆ กับ C/D Block 50 ในราคาครึ่งหนึ่งครับ 

สำหรับ F-16 C/D block 30/40 และ F-15 C/D  ตอนนี้ยังคงอยู่ประจำการใน ทอ.สหรัฐต่อไปครับจนกว่า F-35
จะเข้าประจำการแต่ก็ไม่รู้ว่าเมื่อถึงเวลาขาย US จะขายเท่าไร และสภาพจะโทรมแค่ไหนกัน 

ผมก็ทราบหละครับท่านMIGGERSว่าดีลของอิรัคแพงเวอร์ แต่มันออเดอร์ท้ายสุดของF-16แล้วนี่เลยเอามาลงไว้ด้วย เจอฝูงแรกของเขาหน่อยสิครับสั่งก่อนปีเดียวเองราคาโหดดีแท้ 4.2พันล้านเหรียญพร้อมอุปกรณ์และการเซอร์วิสคล้ายกับดีลT-50เลย

WASHINGTON, September 15, 2010 -- The Defense Security Cooperation Agency notified Congress on September 13 of a possible Foreign Military Sale to Iraq of 18 F-16IQ Aircraft as well as associated equipment and services. The total value, if all options are exercised, could be as high as $4.2 billion.

The Government of Iraq has requested a possible sale of (18) F-16IQ aircraft, (24) F100-PW-229 or F110-GE-129 Increased Performance Engines, (36) LAU-129/A Common Rail Launchers, (24) APG-68(V)9 radar sets, (19) M61 20mm Vulcan Cannons, (200) AIM-9L/M-8/9 SIDEWINDER Missiles, (150) AIM-7M-F1/H SPARROW Missiles, (50) AGM-65D/G/H/K MAVERICK Air to Ground Missiles, (200) GBU-12 PAVEWAY II Laser Guided Bomb Units (500 pound), (50) GBU-10 PAVEWAY II Laser Guided Bomb Units (2000 pound), (50) GBU-24 PAVEWAY III Laser Guided Bomb Units (2000 pound), (22) Advanced Countermeasures Electronic Systems (ACES) (ACES includes the ALQ-187 Electronic Warfare System and AN/ALR-93 Radar Warning Receiver), (20) AN/APX-113 Advanced Identification Friend or Foe (AIFF) Systems (without Mode IV), (20) Global Positioning Systems (GPS) and Embedded GPS/Inertial Navigation Systems (INS), (Standard Positioning Service (SPS) commercial code only), (20) AN/AAQ-33 SNIPER or AN/AAQ-28 LITENING Targeting Pods, (4) F-9120 Advanced Airborne Reconnaissance Systems (AARS) or DB-110 Reconnaissance Pods (RECCE), (22) AN/ALE-47 Countermeasures Dispensing Systems (CMDS); (20) Conformal Fuel Tanks (pairs). Also included: site survey, support equipment, tanker support, ferry services, Cartridge Actuated Devices/Propellant Actuated Devices (CAD/PAD), repair and return, modification kits, spares and repair parts, construction, publications and technical documentation, personnel training and training equipment, U.S. Government and contractor technical, engineering, and logistics support services, ground based flight simulator, and other related elements of logistics support. The estimated cost is $4.2 billion.

สรุปแล้วอิรัคมีเครื่องบินF-16IQจำนวน 18+18=36 ลำ เขาสั่งเรดาร์ AN/APG-68v9 จำนวน2รอบ 22+22=44ชุดแปลว่ามีสำรองไว้8ชุด(หรือเปล่า)  FMSเดียวกับเราเลยทั้ง2รอบนะครับ แสดงว่าที่เราสั่ง6+16=22ชุดก็มีไว้สำรองจำนวน4ชุด(หรือเปล่า)