อ่านจากข่าวอิรัคซื้อเครื่องบินFA-50s จำนวน24ลำโดยใช้ชื่อรุ่นT-50IQ เพื่อนำมาเป็นเครื่องบินฝึกขั้นสุงสำหรับ F-16IQ ของเขา สำหรับวงเงินผมยังสับสนอยู่เล็กน้อยเพราะอิรัคเซ็นสัญญากับKAIที่ประมาณ2พันล้านเหรียญสำหรับเครื่องบินและการสนับสนุนทุกอย่างในเวลา20ปีเต็ม แต่ถ้าคิดเฉพาะราคาเครื่องที่เกาหลีใต้และฟิลิปปินส์(กำลังจะ)สั่งซื้อ FA-50 ที่เป็นรุ่นแพงสุดของตระกูลราคาประมาณ28-30ล้านเหรียญ สงสัยอิรัคจะเหมาหมดตั้งแต่การฝึกบินตั้งแต่เริ่มต้นการใฝึกใช้อาวุธจรวดไปจนถึงการซ่อมบำรุงเลยมั้งครับ
http://www.flightglobal.com/news/articles/iraqi-air-force-orders-24-kai-t-50s-394051/
http://www.janes.com/article/31470/iraq-orders-south-korean-fa-50-trainer-and-light-fighter-aircraft
Iraq has signed a $1.1 billion contract for 24 Korea Aerospace Industries T-50 advanced jet trainers, giving the South Korean firm its second international customer for the type. The deal was signed between Iraqi government officials and senior officials from KAI on 12 December.
“I am thankful to the Iraqi government to purchase the T-50 aircraft,” says Ha Sung-yong, president and chief executive of KAI.
“I think that the T-50 is the most optimal aircraft suitable for Iraq’s military operations. We will make our utmost efforts to support the Iraqi air force and ensure the smooth operation of the T-50.”
The first aircraft will be delivered in April 2016, with all 24 to be transferred within a 12-month period. The deal also covers training for Iraqi pilots, while KAI will provide follow-on support for the fleet for 20 years, bringing the entire value of the contract to over $2 billion.
Iraq will use the designation T-50IQ for its aircraft. A source close to the deal, however, says the T-50IQ will actually be based on the most advanced version of the T-50, the FA-50, which can serve both as an advanced jet trainer and light attack aircraft.
The FA-50 now being delivered to South Korea’s air force (below) is equipped with the Link 16 tactical data link, as well as a mechanically scanned array radar, radar warning receiver and a night vision imaging system. It is capable of carrying 4,500kg (9,910lb) of weapons, has a 20mm cannon and can carry air-to-air missiles. All T-50 variants are powered by the General Electric F404 engine.
The T-50 beat the Aero Vodochody L-159, BAE Systems Hawk 128 and Irkut-built Yakovlev Yak-130 for the Iraqi requirement. It will be used to prepare pilots for Baghdad's on-order fleet of Lockheed Martin F-16IQ fighters.
KAI, which last year made its first export deliveries of the T-50 to Indonesia, has current sales campaigns for the type in Botswana, Chile and the Philippines. The aircraft will also compete in the US Air Force’s future T-X competition to replace the Northrop T-38, with the model to be offered in conjunction with development partner Lockheed.
เครื่องบินจะเริ่มส่งมอบประมาณกลางปี2016และภายใน12เดือนจะส่งได้ครบ24ลำ ถ้าดูจากดีล16ลำที่อินโดนิเซียสั่งและได้เกือบครบฝูงแล้วก็น่าจะเป็นไปตามนี้ FA-50สามารถเอาชนะ L-159 ,Y-130 และ Hawk128และได้รับออเดอร์ใหญ่ที่สุด แปลกดีที่ไม่มีM-346นะครับจะด้วยสู้ราคาไม่ไหวหรือเปล่าผมก็สุดจะเดา แต่เย็นนี้ท่านนีโอเปิดเบียร์ลีโอฉลองได้เลยนะครับ
มีการทำสัญญาเมื่อวันที่12ธันวาคม2556 รวมอะไหล่การซ่อมบำรุงการฝึกอบรมที่กองทัพอากาศอิรัคไม่มีความสันทัด นับเป็นตลาดที่น่าสนใจไม่เบาสำหรับบริษัทที่มีความพร้อมในเรื่องนี้ด้วย KAI ก็ยังคงขายไปได้เรื่อยๆ ผมไม่แน่ใจว่าฟิลิปปินส์สั่งFA-50 12ลำหรือยังแต่เขายังมีโปแลนด์ให้ความสนใจจะซื้อไปดัดแปลงและประกอบเอง ส่วนกองทัพอากาศไทยรอไปก่อนครับ ถึงปีที่ต้องการจริงๆคงมีความชัดเจนมากขึ้น ทั้งเรื่องการใช้งานการซ่อมบำรุง ค่าใช้จ่ายในการบินแต่ละเที่ยวและความปลอดภัยของเครื่องบิน T-50และ M-346 ตกไปแล้วรุ่นหละ2ลำ ตีคู่กันแม้แต่เรื่องนี้แฮะ
ข่าวแทรกข่าวที่1 เครื่องบินฝึกสกอร์เปี้ยนของTextron ขึ้นบินครั้งแรกแล้ว แม้จะเป็นเครื่องบินเจ๊ทแต่ผมดูแล้วน่าจะเป็นเครื่องบินฝึกขั้นประถมมากกว่านะครับ เพราะขนาดเล็กและบรรทุกอาวุธได้น้อยกว่าตระกูลT-50ถึงครึ่งต่อครึ่ง ก้ไม่น่าตรงกับความต้องการเรานัก
http://www.janes.com/article/31528/first-flight-for-scorpion-light-strike-jet
The Textron Airland Scorpion combat aircraft made its maiden flight from McConnell Air Force Base in Wichita, Kansas, on 12 December.
The intelligence, surveillance, and reconnaissance (ISR)/light strike twin-engined jet flew for approximately 1 hour and 25 minutes during the sortie, which took place less than 24 months from initial design.
"Today's first flight is a major milestone for the Scorpion as the programme transitions into the flight test phase," said Textron Chief Executive Officer Scott Donnelly.
According to test pilot and former US Navy aviator Dan Hinson, "the Scorpion compares very favourably to more costly aircraft currently used for low-threat missions. It showed impressive stability and responsiveness closely matching all of the predicted parameters for today's manoeuvres - it's going to be a highly capable aircraft for the ISR and homeland security mission set."
First unveiled in September, the all-composite Scorpion is being touted by Textron and Airland as a cost effective yet capable platform for missions such as irregular warfare, border patrol, maritime surveillance, counter-narcotics, and air defence. Performance specifications so far released give the Scorpion a 450 kt top speed, a 40,000 ft service ceiling, and a ferry range of 2,400 n miles. It has an internal payload of 1,360 kg, and can carry an additional 2,766 kg of external munitions.
Textron officials previously told IHS Jane's that the company has been in discussion with the Air National Guard and Special Operations Command regarding the new aircraft, but that it was too soon to talk about export interest.
ข่าวแทรกข่าวที่2(เก่าแล้ว) อังกฤษเลิกใช้ Goalkeeperในปี2015 และประกาศขายอาวุธนี้ทั้งหมด
โดยหลังจากเรือ Illustriousปลดประจำการในปี2014อังกฤษจะเหลือแค่เรือ Albionและ Bulwarkเท่านั้นที่ใช้งาน ซึ่งเรือทั้ง2ลำจะเปลี่ยนมาเป็นฟาลังซ์ในปี2015และขายต่อGoalkeeperเลย ส่วนเรือรบรุ่นใหม่ทั้งหมดหันไปพึ่งพาฟาลังซ์แทน เป็นการกลับมาใช้อาวุธชนิดนี้อีกครั้งของกองทัพเรืออังกฤษเขา
เราไปขอซื้อต่อมาดีไหมครับเลือกเฉพาะของใหม่ๆมาซัก3ระบบติดบนเรือสำคัญๆของเรา ไม่รู้จะขายแพงไหมผมให้ระบบละ5ล้านเหรียญขาดตัวแล้วกัน แต่ขออะไหล่และกระสุนเยอะๆด้วยนะอย่างน้อยผมก็ซื้อเรือหลวงกระบี่จากคุณหละครับ เหอๆๆๆ
ผมสงสัยเรื่องการจัดซื้ออาวุธของอิรักอยู่ว่าอเมริกามีส่วนควบคุมแค่ไหน และให้งบประมาณช่วยแค่ไหน
หลังจากอเมริกาถอนทหารออกจากอิรักมีอำนาจในการตัดสินใจเรื่องเกี่ยวกับความมั่นคงแค่ไหน
สมาชิกท่านใดมีความรู้หรือมีลิงค์ข้อมูลมาแบ่งๆผมมั่งก็ได้
เพราะดูจากการตัดสินใจซื้อหลายๆครั้งเหมือนอเมริกาตัดสินใจมากกว่านะผมว่า หรือไม่ก็ล็อบบี้
โป๊ะ.......ฟู่ ฟู่ ฟู่....เอิ๊ก ฉลองครับฉลอง ยอดขายกำลังพุ่งแร๊ง แรง.....55555....
ขอบคุณครับท่าน superboy สำหรับข่าวสาร คราวนี้อีรักจ่ายแพงมากกว่า 40 ล้านเหรียญต่อเครื่องสำหรับ F/A-50 แพงแปลกๆ อาจจะมาจากรายการอื่นๆเช่นระบบอาวุธที่จัดหามาพร้อมกัน อะไหล่ หรือเพิ่มสเปก และบางทีการขายอาวุธนั้นถ้ามีการกินนอกกินในกัน(คอร์รัปชั่น) ราคาที่ขายแก่รัฐบาลนั้นน่าจะสูงเกินจริงก็เป็นได้ เห็นพวกเศรษฐน้ำมันจ่ายราคาของแพงมหาโหดเกือบทุกครั้ง ดูอย่างซาอุที่จัดหา F-15E ล๊อตครั้งสุดท้ายที่ผ่านมาไม่กี่ปี แพงใจหาย
สำหรับอินโดกับฟิลิปปินส์ น่าจะเป็นเครื่องเปล่า
อิรัก(ที่ตอนนี้ถูกอเมริกันคุมหมดทุกเรื่อง)จัดหาแบบนี้ชักลุ้นแบบสบายใจแล้วครับสำหรับโครงการ T-X นอนมาแห๋งสำหรับ T-50
ไม่แน่หลอกครับ ที อิรักจัดหา ฮ รัสเซีย ก็ไม่เห็น กองทัพอเมริกาซื้อไปใช้ ปืนเล็กก็ ค่าย รัสเซีย ยังไม่นับ BTR อีก
โครงการT-X มันก็ยังไม่แน่หรอกครับท่านนีโอ โบอิ้งจะอยู่เฉยฝ่ายเดียวบริษัทก็คงไม่ได้เหมือนกัน ผมนึกแพนหางของเครื่องบินต้นแบบเขาออกแล้วว่าเหมือนลำไหน นี่เลยSAANB 2020 concept เหมือนกันเป๊ะๆ
พูดถึง Goalkeeper มือสองน่าซื้อมาติดกับร.ล.นเรศวรกับร.ล.ตากสินนะครับ
คงไม่มีที่วางหรอกครับ(จุดวางปืนรองไม่น่าจะพอ)
ผมว่าซื้อมาติดให้กับเรือจักรีฯ สัก 2 ระบบ เรืออ่างทอง 1 ระบบ เรือชั้นนเรศวรลำล่ะ 1 ระบบ เรือชั้นสุโขทัยลำล่ะ 1 ระบบ เรือชั้นสุรินทร์ลำล่ะ 1 ระบบน่าจะดีน่ะครับ ส่วนเรื่องปัญหาพื้นที่ติดตั้งในเรือไม่พอ หรือไม่แข็งแรงพอ ผมคิดว่าสามารถขยายโครงสร้างเรือเพียงเล็กน้อยและเสริมความแข็งแรงของโครงสร้างเป็นเรื่องที่น่าจะทำได้เพราะขนาดปืนก็ไม่ได้ใหญ่มากมายอะไร
ผมมองว่าระบบ CIW เป็นสิ่งจำเป็นมากแม้แต่เรือลำเลียงพลซึ่งมีชีวิตทหารโดยสารจำนวนมากไปด้วยยิ่งต้องมีไว้ป้องกันตัวเองครับ ส่วนพวกเรือคอเวตร์ เรือฟริเกตยังพอมีพวกจรวดต่อสู้อากาศยานช่วยป้องกันได้ระดับนึงครับ
อังกฤษเหลือเรือติดGoalkeeper จำนวน3ลำคือ Illustrious 3ระบบ Albion 2ระบบ และ Bulwark อีก2ระบบ รวมเป็น7ระบบ ส่วนที่อยู่บนเรือType 22 จำนวน4ลำสุดท้ายที่ปลดประจำการตั้งแต่ปี2011คาดว่าคงขายไปหมดแล้ว
ผมอนุมัติให้ท่านระยองเหมามาทั้งหมดครับไปเบิกงบกับรัฐบาลได้เลย :) แต่เขาจะให้หรือเปล่าผมไม่รู้นะ