MINDEF Signs Contract to Acquire Two Submarines
The Ministry of Defence has signed a contract with Thyssenkrupp Marine System GmBH to acquire two new Type 218SG submarines. The contract includes a logistics package and a crew training arrangement in Germany. The two submarines are projected for delivery from 2020.
These submarines, together with the Archer-class submarines, will replace the ageing Challenger-class submarines. The Challenger-class submarines were built in the 1960s and will be progressively retired from service. The replacement submarines will have significantly improved capabilities and be equipped with Air Independent Propulsion systems.
ข้อมูลเพิ่มเติมจากสื่อของเยอรมันครับ สัญญาสำหรับเรือดำน้ำ 2 ลำ (ออกแบบเฉพาะตามความต้องการของ ทร.สิงคโปร์) + ระบบการส่งกำลังบำรุง + การฝึกกำลังพล มูลค่าประมาณ 1.7 พันล้านยูโร
รายละเอียดเพิ่มเติม: https://www.facebook.com/kapitaennem0/posts/626031384119838
ราคาไม่ธรรมดาจริงๆ
ราคาใจหายวาบ...... 1.355 US/eur หรือกว่า 2300 ล้านเหรียญสำหรับ 2 ลำ กว่า 33,000 ล้านบาทต่อ
ลำ ถ้าทร.จะซื้อเรือดำน้ำจากเยอรมันภายใน 1-2 ปี ข้างหน้า หน้ามืดแน่ๆ
รุ่นนี้น่าจะเป็น216 สำหรับ Export จึงใช้เลข 218 ขนาด กว่า3,000 ตัน จึงน่าจะแพงกว่า 212 มาก อ่านคร่าวๆแล้วยาวกว่า 212 ประมาณ 40% เดิมเตรียมไว้เสนอขายออสเตรเลียที่ ไม่พอใจ ด.รุ่น Collins ที่มีปัญหามาตลอด ไม่นึกว่าสิงคโปร์จะข้ามรุ่นมาซื้อ ด.ใหญ่ขนาดนี้ อย่างว่าคนมีตังค์ ทำอะไรก็ดูดีไปหมด
เคยคุยกับท่านกัปตันนีโมมานานแล้วถึงเรื่องซื้อเรือดำน้ำมือ2ซึ่งจะอ้างอิงไปถึงเรือดำน้ำมือ1 ตั้งแต่กระทู้เรือดำน้ำชั้นAgostaจากสเปนนานมาแล้ว มาเจอเคสนี้เข้าเลยขอทบทวนความคิดเห็นกันหน่อยนะครับ พูดตรงๆผมเริ่มงงนั่นแหละ เหอๆๆๆ
สิงค์โปร์ใช้เรือดำน้ำจากสวีเดนมาก่อนและน่าจะใช้เรือดำน้ำจากสวีเดนตามรอยต่อไปคือรุ่นA26 แต่ไฉนงานนี้ฉีกแนวมาหาเยอรมันแบบนี้ไปได้ ท่านกัปตันนีโมช่วยวิเคราะห์เรื่องนี้หน่อยได้ไหมครับ จริงอยู่ว่าเรือดำน้ำสวีเดนมีเยอรมันเข้าไปเกี่ยวข้องเยอะมากแต่ก็ไม่ใช่เยอรมันจ๋าอยู่ดี ทฤษฎีสืบสานทายาทอสูรจากช่องหลายสีโดนสิงคโปร์ทำลายเรียบร้อยแล้ว :(
เรือดำน้ำชั้น A-17 ของ สวีเดน ที่ สิงคโปร์ ซื้อมา ก็ใช้ระบบโซนาร์จาก เยอรมัน คือ ATLAS Elektronik
และบริษัท Kockums ก็คือ บริษัทหนึ่งของ ThyssenKrupp Marine System
ซึ่งดูแล้ว สิงคโปร์ ก็ไม่ได้เปลี่ยน ลักษณะเรือดำน้ำ ไปจากเดิมครับ...คงซื้อจาก ต้นตำรับ...ไม่รอการพัฒนา A-26 ของ สวีเดน...และน่าจะเป็น เรือดำน้ำ ที่เป็นเฉพาะของ สิงคโปร์ เอง...และ A-26 ก็เหมือนเป็นของ ThyssenKurpp เช่นกัน
Kockums AB has changed it's corporate name to ThyssenKrupp Marine Systems AB
Effective from June 1, the company's name is ThyssenKrupp Marine Systems AB. The name Kockums will still be used in our product names, such as Kockums A26 and so on.
คงเป็นเรื่อง ระบบอำนวยการรบ กับ AIP ที่จะเปลี่ยนไปจากเดิม แต่ก็น่าจะเป็นพื้นฐานคล้าย ๆ จากของเดิม...
ซึ่ง คาดเดาว่า คงเป็น ระบบอำนวยการรบของ ATLAS Elektronik แต่อาจจะเพิ่มการเป็น Network Centric Warfare ระบบเฉพาะของ สิงคโปร์ เข้าไป เพื่อร่วมกับเรือชั้น Formidable และ S-70B
The Västergötland (Type A 17) class was designed to carry out a variety of roles to provide defence against invasion including anti-surface warfare, mining, surveillance, anti-submarine warfare and insertion of special forces. The boats were built in the 1980s for the Royal Swedish Navy (RSwN) following awards of the design contract on 17 April 1978 and the construction contract on 8 December 1981 to Kockums, Malmö. Kockums, which is part of ThyssenKrupp Marine Systems, built the midship section and carried out final assembly while Karlskrona built the bow and stern sections.
และถ้าเราดู โมเดลเรือ หมายเลขคู่
Type-210 ระวาง 1,150 ตัน
Type-212 ระวาง 1,500 ตัน
Type-214 ระวาง 1,700 ตัน
Type-216 ระวาง 4,000 ตัน
เรือของ สิงคโปร์ เป็น Type-218 SG ผมว่า ระวางเรือ ก็ไม่น่าจะต่ำกว่า 4,000 ตัน และคิดว่า น่าจะมี แนวโน้ม ระวาง มากกว่า 4,000 ตัน...
คาดว่า เรือดำน้ำ ชั้นนี้ คงเป็น เรือดำน้ำ ที่ทันสมัยที่สุดใน อาเซียน รวมถึงออสเตรเลียด้วย และคงสามารถ ปฏิบัติในทะเลได้ในระยะเวลาที่นาน มากกว่า 45 วัน (ความเห็นส่วนตัวครับ)
ทีแรกก็มองว่าสิงคโปร์น่าจะรอเรือดำน้ำ A-26 ของสวีเดนเหมือนกันครับ แต่สิงคโปร์คงรอไม่ไหว ประกอบกับการควบรวมบริษัท Kockums ของสวีเดนกับ HDW ของเยอรมันภายใต้ ThyssenKrupp Marine Systems อย่างที่ท่าน juldas ว่าไว้ก็คงทำให้สิงคโปร์มองว่าไม่ได้เป็นการเปลี่ยนแปลงพื้นฐานมากจนเกินไป นอกจากนี้แบบเรือที่สิงคโปร์ต้องการคือ Type 218SG ซึ่งเป็นแบบเรือเฉพาะสำหรับสิงคโปร์ ไม่ใช่แบบมาตรฐานเดิมของ HDW เช่น Type 214 หรือ Type 216 ก็อาจเป็นไปได้ว่าสิงคโปร์อาจกำหนดรายละเอียดของระบบภายในบางอย่างที่ต่างไปจากแบบมาตรฐานของเยอรมันครับ
ในปี 2020
Blue Water Navy ของ สิงคโปร์ คงจะประกอบไปด้วย
AAW (Anti Air Warfare)
F-15SG
Formidable Class
ASuW (Anti Surface Warfare)
Formidable Class
ASW (Anti Submarine Warfare)
Formidable Class
Type-218SG
S-70B
Excluxive Economic Zones ของ สิงคโปร์
AAW (Anti Air Warfare)
F-16D
Victory Class
ASuW (Anti Surface Warfare)
Victory Class
New Corvette
ASW (Anti Submarine Warfare)
New Corvette
Archer Class
ในส่วนของระบบอำนวยการรบเป็นเรื่องที่น่าสนใจครับว่าสิงคโปร์จะเลือกแบบไหน เพราะการเปลี่ยนแบบจะส่งผลต่อการฝึกกำลังพลรวมถึงเครื่องฝึก simulator ส่งผลให้สิงคโปร์อาจต้องมี simulator ฝึกเรือดำน้ำถึง 2 แบบ อีกตัวอย่างหนึ่งในกรณีของ ทร.เยอรมันเองก็เจอกับปัญหาลักษณะนี้เช่นเดียวกัน คือระบบอำนวยการรบของ Type 212A Batch 1 กับ Batch 2 มีความแตกต่างกันจนทำให้ ทร.เยอรมันมีแนวความคิดว่าจะปรับปรุงระบบของเรือ Batch 1 ให้เหมือนกับ Batch 2 เพื่อลดภาระด้านการฝึกกำลังพลและการบริหารจัดการอะไหล่ครับ
จากA26ขนาด1600ตันไปเป็น218SGขนาดมากกว่า4,000ตันนี่มันใหญ่ขึ้นมากกว่า2เท่าเลยนะ แต่เรือสามารถบรรทุกจรวดฮาร์พูนไปจนถึงโทมาฮอคได้เลย(ถ้าสามารถซื้อได้นะ) และน่าจะมีอาวุธจรวดต่อสู้อากาศยานIDASของเยอรมันติดมาแน่ๆ วงเงินสุงขนาดนี้ผมว่าอาวุธครบเซ็ตนะครับ
ผมว่า สิงคโปรจัดหาType218SG ซึ่งมีVLSด้วย คงจะมองไกลไปถึงการจัดหาTomahawkแล้วครับ และผมเชื่อว่าน่าจะซื้อได้เพราะปัจจุบันเทคโนโลยีของTomahawk block I ก็ไม่ได้เป็นเทคโนโลยีที่ลับสุดยอด ซึ่งถ้าติดตั้งTomahawkก็จะเป็นMini ballistic missile submarine
ดูดภาพมาครับ ถ้า Type-218 มีพื้นฐานมาจาก Type-216 ก็ดูจะใหญ่ของ ทร.เกาหลีใต้อีกครับ
โพสใหม่
สิงคโปร์ อาจจะมองไปที่ Strom Shadow ก็ได้ครับ ใช้เป็น Land Attack Missile โดยใช้ยิงจาก ท่อยิงตอร์ปิโด ไม่มีการติดตั้ง VLS...
และน่าจะใช้กับเรือชั้น Formidable ได้ด้วย
MBDA has developed a longer-range sea-launched variant for the French Navy, called Missile de Croisière Naval (MdCN standing for Naval Cruise Missile). It will be deployed on FREMM multipurpose frigates (from 2014) and on Barracuda class submarines (from 2017), using the A70 version of the Sylver launcher on the former and the 533 mm torpedo tubes on the latter. As the missile is not launched from a plane, as is SCALP/Storm Shadow, a booster has been included. The submarine version is encapsulated in an hydrodynamic hard container which is ejected when the missile reaches the surface. To provide a comparable range to the BGM-109 Tomahawk, the range of the MdCN (well over 1000 km) is significantly larger than the SCALP/Storm Shadow.
Barracuda class submarines เป็นเรือดำน้ำพลังงานนิวเคลียร์ของ ฝรั่งเศส ระหว่างขับน้ำ 4500 - 5500 ตัน
แต่ สิงคโปร์ ใช้ Type-218SG เป็นเรือดำน้ำดีเซล แทน
http://en.wikipedia.org/wiki/French_Barracuda-class_submarine
ท่านRAFครับ ถึงมันไม่ใช่เทคโนโลยีลับสุดยอดแต่เจ้าขวานบินมันก็เป็นอาวุธเชิงรุกเต็มรูปแบบอย่างนึงที่อเมริกาไม่น่าขายนะครับ เพราะดุลอำนาจทางการทหารจะเปลี่ยนไปอย่างมากเลย (ยกเว้นอาจจะให้ซื้อแต่ฝากไว้กับอเมริกา)
คิดง่ายๆว่าโทมาฮอว์คมีใช้กันอยู่สองประเทศคืออังกฤษกับอเมริกา
อวป.ร่อนระยะยิงขนาดนี้ เป็นอาวุธระดับนี้ชนิดเดียวที่ได้รับการพิสูจน์ผ่านการใช้งานจริงมานักต่อนัก ความน่าเชื่อถือสูง
เจ้าอื่นๆยังไม่มีการออกโรงเลย
tomahawkมาหรือเปล่าไม่รู้...แต่ที่รู้ตอนนี้เสือกำลังเครียดดด!!
ถ้าเป็น SCALP Naval หรือStrom Shadowใช้งานทางทะเล เรือดำน้ำสกอร์เปี้ยนของมาเลย์สามารถใส่แล้วยิงได้เลยนะครับ MBDAกับDCNSสนิทกันกว่าพี่น้องแท้ๆเสียอีก ขณะเดียวกันยังใส่จรวด MistralและVL Mica สำหรับป้องกันภัยทางอากาศได้อีกด้วย สิงค์โปร์มีฮาร์พูนมาเลยก็มีเอ็กโซเซ๋ต์ เรียกว่าสมน้ำสมเนื้อกันเลยทีเดียว
เพียงแต่ถ้า218SGติดท่อVLSจะได้เปรียบขึ้นมาบ้าง เป็นการซื้ออนาคตที่กำลังจะมาถึงมากกว่าปัจจุบัน วงเงินมันสุงมากหนะยังไม่รู้รายละเอียดจริงๆตอนนี้ก็จับใส่มันเข้าไปเรื่อยๆก่อน เรือจริงกลายเป็นขนาดเท่า 214 หละฮาเล็ดเลย เหอๆๆๆๆ
สิงคโปร์น่าน้ำทางทะเลมีไม่มาก ตอนแรกผมคิดว่าจะซื้อเรือดำน้ำชั้นลาดตระเวน แต่เล่นเรือดำน้ำขนาดใหญ่ มีขีดความสามารถในการดำลึกมากกว่า 350-500 m ผมมองว่าสิงคโปร์ต้องการมีเรือดำน้ำทางลึกเพื่อค้านอำนาจกับจีนมากกว่า
ps.ค่าซ่อมบำรุงคงจะแพงแนนอนยกเว้นงานนี้มีการถ่ายทอดเทคโนโลยีสิงคโปร์สามารถผลิตอะไรต่างๆและซ่อมบำรุ่งเองได้
ถ้า ทร. มีงบพอ จากรูปที่รุ่นต่างๆ ผมคงเลือก type 212 เพราะมีขนาดเหมาะกับท้องทะเลไทย แต่ด้วยราคาที่แพงมากๆ คงต้องมีการลดสเปกบางอย่าง เช่น ใช้อุปกรณ์รุ่นเก่ากว่า 1 รุ่น หรือ อาจต้องตัด option บางอย่างที่ไม่จำเป็นทิ้งไปเลย และอาจจัดหามาสัก 4 ลำ ใช้งบผูกพันสัก 10 ปี เพื่อประจำการ 2 ฝากฝั่งของไทย ครับ
ผมว่า นอกจากType 206 แล้ว Type 210 Mod เหมาะกับอ่าวไทยที่สุดครับ Type 212 เยรมันคงไม่ขายนอกจากอิตาลีพันธมิตรฝ่ายอักษะในสงครามโลกครั้งที่สองครับ
http://www.thyssenkrupp-marinesystems.com/en/hdw-class-210mod.html