กอ.รมน.เอาจริง! กางแผนสร้างรั้วชายแดนไทย-มาเลเซีย ทั้งรั้วคอนกรีต ตาข่าย ลวดหนาม และรั้วต้นไม้ เตรียมนำเข้าถกในเจบีซีเร็วๆ นี้
พ.อ.บรรพต พูลเพียร โฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) เปิดเผยว่า สืบเนื่องจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ในฐานะรองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (ผอ.รมน.) ได้เสนอแนวคิดการสร้างรั้วตามแนวชายแดนในพื้นที่ภาคใต้ต่อ นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะ ผอ.รมน. เพื่อสนับสนุนการรักษาความมั่นคงภายในประเทศ เนื่องจากข้อมูลด้านการข่าวพบว่ามีแนวร่วมผู้ก่อเหตุรุนแรงได้ใช้บางพื้นที่เป็นช่องทางในการเคลื่อนไหวหรือขนย้ายสารประกอบวัตถุระเบิดแสวงเครื่อง ทั้งยังช่วยลดปัญหาการลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย ปัญหายาเสพติด ปัญหาสินค้าหนีภาษี เช่น น้ำมันเถื่อน ทั้งยังสามารถลดการใช้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติภารกิจลาดตระเวนป้องกันชายแดนนั้น
ความคืบหน้าจนถึงขณะนี้คือ ในหลักการเบื้องต้นทราบว่าทางรัฐบาลมาเลเซียได้เห็นชอบและอาจนำเข้าหารือในที่ประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม (เจบีซี) ไทย-มาเลเซีย เพื่อพิจารณาในรายละเอียดต่อไป
สำหรับการสำรวจความต้องการสร้างรั้วตามแนวชายแดนของฝ่ายไทย จะเป็นการสร้างรั้วตามแนวชายแดนในพื้นที่เขตแดนไทยที่มีการปักปันเขตแดนแล้ว โดยพิจารณาจากลักษณะภูมิประเทศและภัยคุกคามด้านความมั่นคงเป็นสำคัญ สรุปความต้องการในการสร้างรั้วตามแนวชายแดน ประกอบด้วย
- รั้วคอนกรีตเสริมลวดหนาม ระยะทาง 6.5 กิโลเมตร ในพื้นที่ อ.นาทวี จ.สงขลา
- รั้วลวดตาข่ายเสาเหล็กสูง 3 เมตร ระยะทาง 68.9 กิโลเมตร ในพื้นที่ อ.ตากใบ จ.นราธิวาส และ อ.สะเดา อ.สะบ้าย้อย จ.สงขลา
- รั้วลวดหนาม ระยะทาง 46 กิโลเมตร ในพื้นที่ อ.แว้ง จ.นราธิวาส และ ระยะทาง 26 กิโลเมตร ในพื้นที่ จ.ยะลา
- เขื่อนอเนกประสงค์ (เสริมลวดตาข่าย) ระยะทาง 9.3 กิโลเมตร ในพื้นที่ อ.ตากใบ จ.นราธิวาส
- รั้วพืชพรรณไม้บริเวณแนวชายแดน ซึ่งมีลักษณะภูมิประเทศเป็นภูเขาสูง ระยะทาง 400.7 กิโลเมตร ในพื้นที่ จ.นราธิวาส จ.ยะลา จ.สงขลา และ จ.สตูล
พ.อ.บรรพต กล่าวด้วยว่า แนวชายแดนภาคใต้ของไทยมีอาณาเขตติดต่อกับประเทศมาเลเซีย ซึ่งมีความยาวเส้นเขตแดนประมาณ 647 กิโลเมตร อยู่ในพื้นที่ จ.สตูล 56 กิโลเมตร จ.สงขลา 150 กิโลเมตร จ.ยะลา 267กิโลเมตร และ จ.นราธิวาส 174 กิโลเมตร เฉพาะ จ.นราธิวาส แบ่งเป็นเขตแดนทางบก 79 กิโลเมตร และทางน้ำ 95 กิโลเมตร
** ผมขอคัดลอกมาเฉพาะข่าวที่เกียวกับรั้วชายแดนน่ะคับ **
สามารถอ่านข่าว เต็มได้ที่นี่คับ http://www.isranews.org/south-news/other-news/item/25308-wall_25308.html
ผมว่าไม่มีประโยชน์ เปลืองงบเปล่าๆ เพราะไม่มีใครไปยืนเฝ้า เดี๋ยวก็โดนตัดเป็นรู หรือไม่ก็โดนรื้อเอาไปขายหมด
ถ้าทำจริงก็ควรจะเป็นลักษณะแบบ DMZ เกาหลีเหนือ-ใต้ทหารเดินลาดตระเวนป้อมตรวจการณ์เฝ้า เอ้อถ้าทำอย่างนั้นได้ผมว่าน่าสนใจ
จะสร้างปาเลสไตส์เอเซียเหรอครับ เดี๋ยวก็งานงอกหรอก แก้ไห้มันถูกจุดจะดีกว่านะ
เอ่อ...คุณYUKIKAZE
...ปาเลสไตน์อยู่ในเอเชียอยู่แล้วนะครับ...
เห็นด้วยครับ..ทำไปก่อนอยากทราบว่าเมื่อใร?การค้าชายแดน(เถื่อน)จะอยู่ในการควบคุมได้...นานแน่นอนครับและเป็นปัจจัยหนึ่งที่ทหาร ตำรวจ พลเรือนเสียชีวิตในภาคใต้..ก็เหมือนอเมริกากับเม็กซิโก?..ก็เห็นหลายท่านในเว็ปไม่ค่อยชอบมาเลเซีย?
ไม่คุ้มครับทำได้ไม่เกินปีโดนทำลายทิ้งหมดแน่ ขนาดกล้องวงจรปิดมันยังพากันเผาทิ้งเลย รั้วตามป่าตามเขาตามแนวชายแดนเละ เอาเงินส่วนนั้นมาจัดหา UAV หรือจัดซื้ออุปกรณ์สำหรับเจ้าหน้าที่จะดีกว่า
ทวีปอาหรับไม่ไช่เหรอ
เอ่อ มันมีทวีปอาหรับด้วยเหรอ นี่ล้อเล่นหรือไม่ทราบจริงๆครับ
ปาเลสไตน์อยู่ในทวีปเอเชียครับ
ส่วนเรื่องรั้วกั้นเป็นเรื่องที่น่าสนใจมาก ถ้ามีน่าจะแก้ปัญหาการทำผิดกฏหมายต่างตามแนวชายแดนได้มาก
สร้างไว้ก็ดีครับ อย่างน้อยก็ เป็นการปักปันเขตแดนไปในตัว ปัญหาต่างๆเรื่องเขตแดนที่ คลุมเครือก็จะได้สะสางไปบ้าง
แต่การสร้างสมควรสร้างด้วยวัสดุ แตกต่างกันตาม เขต สถานการณ์ ว่าจุดไหนอ่อนไหวหรือไม่ ถ้าไม่สำคัญมากหรือไม่มีภัย ก็
สร้างแค่รั้วตาค่ายเหล็กพอ
*****ทวีปอาหรับมันมีอยู่ตรงในโลกหรือ มองหาจนเมื่อยตาไปหมดแล้วยังหาไม่เจอ*****
ทวีปอาหรับไม่ไช่เหรอ
เหอๆ เกิดมาเพิ่งเคยได้ยินก็วันเนี่ย ต้องกลับไปศึกษาวิชาสังคมกันตั้งแต่ประถมเลยนะครับ
เอ่อ
ไอ้ที่เรียกกันอาหรับๆตะวันออกกลางๆมันอยู่ใน
เอเชียตะวันตกเฉียงใต้ กับ แอฟริกาเหนือ (แต่อันหลังนี่ไม่ใช่ตะวันออกกลางนะ)ครับ
เป็นโครงการที่ดีมากครับ..ผมอยากเห็นโครงการลักษณะนี้ออกมาอีกจากฝ่ายความมั่นคง..เพราะถ้าไม่กล้าทำอะไร อนาคต เราคงต้องเสียดินแดนส่วนนี้เป็นแน่แท้ ผมขอให้เหตุผลไว้ดังนี้ นะครับ
1. ก่อนอื่นเราต้องยอมรับก่อนว่าคนส่วนใหญ่ใน3จังหวัดชายแดนภาคใต้กับคนมาเลเซีย คือชาติพันธ์เดียวกัน น้ันก็คือ คนเชื้อสายมาลายู ความเป็นพี่เป็นน้องเป็นเครือญาติมีอยู่แน่นอน และสมาชิกขบวนการหรือตัวแกนนำบางส่วนที่สำคัญก็เคลื่อนไหวอยู่ในประเทศมาเลเซียค่อยวางแผน ฝึกฝน หาเงินทุน ค่อยส่งยุทธปัจจัยต่างๆ เข้ามาสนับสนุนสมาชิกกลุ่มที่อยู่ในสามจังหวัดชาติแดนใต้ของเรา
2.ยุทธปัจจัยต่างๆ หรือสมาชิกขบวนการ คงใช้ช่องทางตามตะแขบชายแดนส่วนต่างๆในขณะที่เจ้าหน้าที่ดูแลไม่ทั่วถึงเป็นช่องโหว่ในการดำเนินการหรือหลบหนีเพราะทันทีที่กลุ่มคนเหล่านี้ออกจากประเทศไทยก็จะปลอดภัยเพราะทางฝั่งประเทศมาเลเซียโดยเฉพาะรัฐกลันตันน้ันสนับสนุนขบวนการพวกนี้อยู่แล้ว
3.การทำกำแพงกั้นระหว่างสองประเทศถึงแม้ว่าอาจจะมีช่องทางที่จะหลบหลีกออกไปได้แต่ก็ต้องทำด้วยความยากรำบากผู้กระทำต้องมีเจตนาชัดเจนซึ่งแสดงให้เห็นวัตถุประสงค์ว่าน่าจะเป็นกลุ่มที่ก่อความไม่สงบหรือพวกกระทำผิดกฎหมายง่ายต่อการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ เพราะถ้าเป็นคนธรรมดาก็คงออกตามด่านชายแดนตามปกติ
4.จริงๆแล้วผมอยากให้ปิดชายแดนด้วยซ้ำพร้อมท้ังทำกำแพงกันระหว่างสองประเทศกั้นสัก200ปี คนเชื้อสายมาลายูคงน้อยลงเพราะกลายเป็นคนไทยเกือบหมดแล้ว
5.เรื่องความมั่นคงของชาติ....มันควรอยู่นอกเหนือจากเหตุผลอื่นใด..ไม่มีคำว่าแพงหรือไม่คุ้มค่า..ยกตัวอย่างให้ดู1ข้อนะครับ..เวลาที่คุณไปซื้อปืน1กระบอกราคาหนึ่งแสนบาท คุณอาจบอกว่าแพงมาก แต่ถ้ามีคนจะมาฆ่าคุณ ปืนราคาหนึ่งล้านบาทคุณยังต้องซื้อ
ผมในฐานะคนใต้ ขอแสดงความเห็นด้วยที่จะทำแนวกำแพงตามแนวชายแดนไทย- มาเลเซีย ครับ ผลดีที่ได้คือ
- สามารถกำหนดเส้นแบ่งเขตแดนได้ชัดเจน
- สามารถควบคุมความเคลื่อนไหวของผู้ก่อการตามแนวชายแดนได้มากขึ้น เช่น การลอบขนอาวุธผ่านแนวชายแดน
แต่สิ่งที่สำคัญกว่านอกจากแนวกำแพงแล้วต้องมีการตรวจตราเป็นระยะๆ ตลอดแนวความยาวกำแพง ซึ่งสามารถทำได้ทั้งการมีฐานทหาร ,ตชด. , กล้องทีวีวงจรปิด , การจัดชุดลาดตระเวน เป็นต้น ครับ
สร้างได้ก็ดีครับ..ผมก็เป็นคนนึงที่อยากเห็นความชัดเจนของเส้นเขตแดน แต่ไม่รู้ว่าจะสร้างกำแพงได้แน่นหนา
ตลอดแนวชายแดนรึเปล่า(อย่างกำแพงเมืองจีนบางจุดยังเป็นมูลดินธรรมดาๆเลย) กลัวพวกกลุ่มโจรมันจะมาเจาะ
หรือ ระเบิดกำแพงเป็นรูนี่แหละ
ตอนนนี้กำลังลองหลับตานึกภาพ...ถ้าทำจริงๆมันจะมีลักษณะเหมือนอย่างกำแพงเบอร์ลิน หรือ กำแพงกั้นเกาหลีเหนือ/ใต้รึเปล่านะ
เห็นด้วยอย่างยิ่งว่าควร สร้าง ไม่งั้นโจรวิ่งข้ามไปข้ามมากันสบายใจเฉิบ และรั้วนี่ไม่ใช่สร้างไว้เฉยๆ แต่มันก็ต้องมีการตรวจตราประจำอยู่แล้ว
(ยูเอวีติดกล้อง ติดอินฟราเรด ติดเรดาร์หาอุโมงค์ ฮา ชักฝัน)
กด LIKE ให้กับคนเริ่มต้นแนวคิดนี้และผลักดันมันให้เป้นจริงขึ้นมาครับ
รู้สึกว่ามีสมาชิกท่านหนึ่งของ TFC เคยเสนอแนวคิดนี้มาก่อนแล้วด้วย ไม่แน่ใจกลัวเอ่อยชื่อ Login แล้วเกิดไม่ใช่มีหน้าแหก..........เอาเป็นว่าแนวคิดของสมาชิกท่านนั้นเริ่มเป็นรูปร่างแล้ว ยินดีด้วยครับ
จบปัญหากองทัพมดซะทีแบบนี้
นั่นก็เป็นข้อยืนยันว่าไม่ใช่แค่เราที่เล่นเวปนี้ครับ และก็น่ายินดีที่แนวคิดนี้ได้รับการนำไปใช้ครับ แม้มันจะนานมากแล้ว
ทำไปเลยครับ ถ้าแค่รั้วคงใช้งบประมาณไม่เท่าไร ถูกกว่าพวกกินหินกินทรายกินยางมะตอยจากการทำถนนเยอะ
เพียงแต่อยากให้ทำดีๆไปเลย อย่างไงก็เป็นแนวชายแดน ทำแบบถาวรไปก็ไม่เสียหาย ถ้าแค่ขึงลวดหนามหรือรั้วกระจอกๆอย่าทำเลย อย่างที่ข้างบนว่าน่ะแหละ ไม่นานเดี๋ยวก็หายหมด เลือกแค่บางจุดสำคัญๆแล้วลงกำแพงคอนกรีตไปเลยดีกว่า ป้องกันไม่ได้ทั้งหมดแต่อย่างน้อยก็บีบพื้นที่ให้เล็กลง
หรือถ้าเป็นรั้วตาข่ายรั้วลวดหนามก็ควรมีการดูแล(อย่างน้อยก็UAV) ถ้าไม่มีก็ไม่ต้องไปทำมันหรอก มีเหมือนไม่มี เอางบไปซื้อรถเกราะให้ทหารดีกว่า
ส่วนมุมมองของต่างประเทศไม่ต้องไปสนใจ เราปกป้องผลประโยชน์ของเรา ชายแดนเราๆจะทำอย่างไงก็เรื่องของเรา ถ้าต้องไปคอย"ถาม"คนอื่นก่อนแสดงว่าพื้นที่นั้นไม่ใช่ของเราแล้ว(ไม่นับพื้นที่ทับซ้อน)
อีกอย่างการสร้างรั้วตามแนวชายแดนมีแต่ได้กับได้ทั้งสองประเทศ แต่ถ้าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเกิดหงุดหงิดขึ้นมาก็...
ถามว่าดีไหม ดีครับ ดีมากๆด้วย แต่กับเมืองไทยของเราอะไรดีๆเกิดอยากมาก มากๆ
ใช้วิธีค่อยทำไปก็ดีนะผมว่า เอาให้แข็งแรงดีๆไปเลย ห้า หกปีผ่านไปมันก็ได้เยอะแล้ว เห็นด้วยครับมันบีบพื้นที่ได้ แต่ต้องจัดสรรงบหาอัตรากำลังและเทคโนโลยีเยอะมากเหมือนกัน อันนี้ขำๆกันนะ ก็เป็นค่ายทหารที่ยาวที่สุดในโลกไปเลย