http://www.w54.biz/showthread.php?1372-Warship-Design&p=40984&viewfull=1
Written by Administrator
Friday, 27 September 2013 16:41
ALIDE learned exclusively that the Spanish Navantia that is offering three different configurations of frigates in international competition for Brazil's navy new surface ships, the Prosuper. In this program the MB intends to acquire a ship logistics, five patrol boats and five modern multipurpose frigates of about 6000 tons displacement.
In all their statements and communications to the Brazilian press, until now, the representatives of the Spanish company dedicated to repeatedly defend technological superiority and operational AEGIS air defense system produced by Lockheed American naval. This system equips the frigates previously sold to the navies of Spain and Australia. The message was that AEGIS was technically incomparable, so the best solution for the future requirements of MB.
These assertions, however, are always confronted with the inevitable subsequent questions about the real possibility of this system come to be offered with a package of effective technology transfer by the Americans. Transfer this that mainly could meet the demanding goals of the Ministry of Defense to train the national defense industry.
However, this week ALIDE found that Navantia kept an ace up his sleeve.
MB were initially offered to the frigate F-105 (latest version of the proven Álvaro de Bazán class) with the SPY-1D radar, and also a version of the Norwegian frigate Fridtjof Nansen, lighter and equipped with radar smaller and less capable of AEGIS family, the SPY-1F.
Both these ships were configured with long-range anti-aircraft missiles Raytheon Standard SM-2 and / or ESSM medium range.
The third proposal, totally unknown until now, completely broke this mold Hispanic American to marry a hull standard frigate F-105 with a new mast with antennas modular radar Australian CEAFAR. This naval AESA radar operates in S band and was developed by CEA Technologies, which, however, has an American Northrop Grumman's participation in this program. According to the documentation of Navantia, one maritime patrol aircraft can be identified by CEAFAR more than 350km away from the ship. This model, albeit with a lower range and power to the two options "thoroughbred" American, yet, would be more capable than any other radar proposed by other shipyards Prosuper participants for their ships.
With this third option also opened the door for the Aster missiles propose Navantia 15:30 corporation's European MBDA, the same model fitted to the two variants of the Aster missile frigate FREMM.Os, according to several sources ALIDE, appear to be far the preference technological MB. To successfully integrate this new missile system in the hull of the F-105's all part of the upgrading trajectory of Aster missiles (up-link) is controlled and coordinated by a transmitter module independent of radar supplied by MBDA own.
As part of the modernization program of half-life Anti-Ship Missile Defence (ASMD) the CEAFAR was installed together with the missiles Enhanced Sea Sparrow Missile in the Australian frigate HMAS Perth, one of the eight ANZAC MEKO class in service in that sea. The antennae of the complementary system of communication with U.S. missiles CEAMOUNT are not required to choose the Aster missile. The radar was in testing until July 2011 and in November of the same year it was announced the contract of 650 million Australian dollars for the modernization of other ships of this class. To fire the missile Aster hull standard F-105 will be modified by replacing the vertical launcher American Mk-41 by its European equivalent Sylver. Four Sylver A50 launchers can carry and launch up to 32 missiles per ship.
The system CEAFAR the innovation is based on a series of "tiles" of modular elements transmitters and receivers which can be combined freely with panels sized to fit in the subject's superstructure available in each type of vessel. In the installation chosen for the Australian Anzac frigates six antennas were used, each with 16 "tiles" transmitter / receiver. In the case of the hull of the F-105 would be used only four antennas, but with 64 tiles in each, totaling a power and scope is much larger.
แปลสั้นๆนะครับ Navantia เสนอขายเรือฟริเกตF100กับกองทัพเรือบราซิลโดยมี3ทางเลือกสำหรับอุปกรณ์เรดาร์ นั่นคือ
1 ติด SPY-1D radar เหมือนเรือF100ของตนเองและออสเตรเลีย ใช้กับจรวด SM-2 และ ESSM
1 ติด SPY-1F radar เหมือนเรือF310ของนอร์เวย์ (Fridtjof Nansen)ใช้กับจรวด SM-2 และ ESSM
3 ติด CEAFAR radar เข้าไปแทน โดยสินค้าจากออสเตรเลียตัวนี้มีระยะทำการที่350กม. และใช้งานร่วมกับจรวด Aster15/30 ได้ตามความต้องการของบราซิล โดยแผนนี้จะมีNorthrop Grummanเข้ามาเอี่ยวด้วย (เดาเอาเองมาเขาต้องการพัฒนาต่อยอดไปขายอเมริกากอีกที)
ทั้งนี้เนื่องมาจากความกังวลในเรื่องการถ่ายโอนความรู้เรื่องระบบเอจิสจากอเมริกาจะมีปัญหาและค่าใช้จ่ายที่สุง ทางเลือกที่3จึงเกิดขึ้นเพื่อให้บราซิลได้ตัดสินใจ
ถ้าเป็นข้อ3จริงๆหน้าตาเรือคงประมาณนี้แหละครับ เรือสเปน เรดาร์ออสเตรเลีย อุปกรณ์อเมริกา อาวุธฝรั่งเศส แผนนี้ราคาจะถูกที่สุดและไม่ต้องมีเรดาร์ควบคุมการยิงที่ทันสมัยติดตั้งด้วย แต่จรวดจะราคาแพงที่สุดเช่นกัน ดูจากเรือแล้วเสากระโดงใหญ่เวอร์เกินไปเลย เพราะCEAFARมันเล็กกว่าSPY-1ตั้งเยอะแต่ดันใช้งานได้350กม.เนี่ยสิ ถ้าข้อมูลไม่คลาดเคลื่อนและบราซิลเกิดชอบใจแบบนี้รวมทั้งNorthrop Grummanเอาไปสานต่อด้วย เรดาร์ตัวนี้คงมีอนาคตกับเขาพอสมควรนะครับ
โครงการนี้อเมริกาเอี่ยวอยู่ดีถ้าเลือกเรือสเปนไม่ว่าจะออกมาออปชั่นไหนก็ตาม ข่าวนี้มี Lockheed Martinเข้ามาเป็นผู้เล่นด้วย
โครงการนี้ยังอยู่ในการพิจารณา คู่แข่งที่สำคัญก็มีจากเกาหลีใต้KDX-IIและฝรั่งเศษFREMM อ่านจากข่าวF100จะติดSylver A50 จำนวน32ท่อเท่ากับFREMMพอดี เรือKDX-IIที่สามารถติดMK-41ได้ถึง64ท่อเรือของจริงก็คงติด32ท่อเท่ากัน ขึ้นอยู่กับเรือลำไหนจะถูกใจบราซิลมากที่สุด แต่คนในปรเทศเขาเชียร์ FREMM กันนะครับ
จาก Option 1และ2 ที่เสนอ SM-2 และ ESSM
แต่พอมา Option 3 กลับเสนอ CEAFAR + Aster15/30
พอจะอนุมาณได้หรือไม่ว่า CEAFAR/CEAMOUNT ก็ยังไม่สามารถIntegrate ให้ยิง SM-2 ได้
ถ้าเป็นเช่นนั้นจริงๆ SM-2 ไม่น่าจะเกิดกับทร.ได้
คืออย่างนี้นะครับท่านคิตตี้ บราซิลมีโครงการใหญ่ๆอยู่ในตอนนี้2โครงการคือ F-X2 โปรแกรมของกองทัพอากาศ คือการจัดหาเครื่องบินทันสมัยรุ่นใหม่จำนวน36ลำในรอบแรก และเครื่องบินที่ว่านี้ควรจะใช้งานในเรือบรรทุกเครื่องบินได้ด้วย เพราะกองทัพเรือจะจัดหารอบที่2ในภายหลัง(เป็นที่มาของ Sea Gripen) ตัวเต็งคือ F/A-18E ราฟาล และ Gripen NG เรียงตามนี้ F/A-18E อเมริกาเสนอจะให้เงินกู้ประธานาธิบดีชอบ ราฟาลนักการเมืองชอบ และGripen ทหารชอบ มันเลยยังหาข้อสรุปไม่ได้แต่ใกล้แล้วหละ
ส่วนอีกอันคือ PROSUPER program ของกองทัพเรือ ที่มีความต้องการเรือ11ลำได้แก่ 5 Offshore Patrol Vessels, 5 Escort Vessels and 1 Logistic Supply Vessel to be built in Brazil for the Brazilian Navy โครงการนี้บราซิลจัดหาเรือ OPV มาแล้ว3ลำ ส่วนที่เหลือยังอยู่ในขั้นตอน
5 Escort Vessels แปลอีกทีก็คือ modern multipurpose frigates of about 6000 tons displacement ซึ่งก็คือเรือฟริเกตเอนกประสงค์ที่มีขนาดประมาณ6000ตันจำนวน5ลำนี่แหละครับ ไม่ได้กำหนดว่าจะต้องเป็นเรือฟริเกตต่อต้านอากาศยานแต่อย่างใด แต่เขาตั้งใจจะต่อเองในประเทศ3ถึง4ลำให้ได้นี่คือออปชั่นของบราซิล
กองทัพเรือบราซิลมีทั้งเรืออังกฤษและอเมริกาแต่จัดหาอาวุธจรวดจากฝรั่งเศษและยุโรปเป็นส่วนใหญ่(ทั้งหมดเลยต่างหาก) ที่ Navantia เสนอแบบนั้นเพราะตรงตามความต้องการกองทัพเรือบราซิลที่มีแนวโน้มชอบฝรั่งเศสมากกว่าอเมริกา เรือฟริเกตุF100ที่ติดระบบเอจิสแพงกว่าเรือFREMMมากพอสมควร เขาเลยมีแผนนี้มานำเสนอ ก็เหมือนประเทศเราที่ต้องการSAABอะไรทำนองนั้นแหละครับ ถ้าเรือสามารถยิง SM-2 ได้โดยมีราคาอยู่ในงบประมาณและยินดีถ่ายโอนข้อมูลรวมถึงการติดตั้งระบบทั้งหลายภายในประเทศได้ ผมว่าเขาก็ไม่ปฎิเสธนะครับ แต่ปัญหาคือมันจะได้ตามนี้หรือเปล่าเนี่ยสิ
อันที่จริงคนบราซิลเองชอบเรือTYPE-26 ของอังกฤษมากที่สุดนะครับ(เพราะใช้เรืออังกฤษมาโดยตลอด) แต่เรือไม่สามารถสร้างทันขายในรอบนี้ เพราะกว่าอังกฤษจะเริ่มต่อลำแรกก็ปี2016เข้าไปแล้ว ตัวเต็งเลยเลื่อนไปที่เรือ FREMM F100 และKDX-II ตามลำดับ เรือTYPE-26 ติดได้แค่จรวด CAMMที่ยิงได้ไกลแค่20กม.เองนะครับ ผมก็ไม่กล้าพูดลึกๆมากเพราะไม่รู้RFQของเขา
คำถามที่ว่า CEAFAR/CEAMOUNT สามารถIntegrate ให้ยิง SM-2ได้ไหมปัจจุบันไม่ได้ครับ ข่าวนี้ไม่เกี่ยวกับเรือไทยเลยนะผมไม่พูดถึงเลยซักนิด พอดีเห็นว่ามันแปลกดีที่เอาระบบที่ไม่เคยใช้งานร่วมกันมาจับคู่กันก็เลยเอามาโพสลง ที่น่าแปลกใจมากที่สุดก็คือCEAFARมีระยะทำการ350กม.นี่สิครับ ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าข้อมูลคลาดเคลื่อนหรือเปล่าเพราะผมก็ไม่รู้เหมือนกันแฮะ เหอๆ
จุดเด่นของ CEAFAR คือขนาดที่เล็ก กินไฟน้อยกว่า SPY1 ใช้เสากระโดงใหญ่ก็ใช่ที่ น่าจะเป็นในรูปแบบนี้มากกว่า
CEAFAR รุ่นธรรมดา เคยอ่านเห็นระยะมันแค่ 200 km นิดๆ เอง แต่ถ้ารุ่น High Power ที่กำลังพัฒนาอยู่ก็ไม่แน่
โทษที่ครับที่ผมมาพูดถึง Sm-2 กับ ทร.ในกระทู้นี้ (ที่ไม่ได้เกี่ยวข้องเลย) พอดีติดใจมาจากเรือฟริเกตที่ต่อใหม่จาก DSME+SAAB ที่บอกว่ารองรับ SM-2 ในอนาคต ก็พยายามมองหาว่า SAAB จะเอา SM-2 มายิงได้อย่างไร
ตัว CEAFAR เท่าที่เคยอ่านเจอ บอกว่ามีระยะ 200 กม. และก็น่าจะเป็นอย่างนั้น เพราะAnzac-class frigate ที่มีการยกเครื่องเอาเจ้า CEAFAR/CEAMOUNT ไปติดตั้ง ก็ยังเก็บเอาเจ้า SPS-49 ไว้เป็น Long Range Radar ทั้งๆที่มันต้องปรับแต่งกันมากมาย โดยต้องเอาเจ้าSPS-49 มาติดบนหัวของ CEAFAR/CEAMOUNT อีกที
ลดเสากระโดงลงมาแล้วก็พอใช้ได้อยู่นะ เผื่ออนาคตจะเปลี่ยนเรดาร์ตัวใหม่จะได้ได้ต้องเปลืองเงินมาก