มาได้ยังไงครับโครงการนี้ ???
จำนวน5ลำวงเงิน2,500ล้านบาทตกลำหละ500ล้านบาทหรือ16.6ล้านเหรียญ น่าจะรวมอะไหล่ต่างๆการฝึกซ้อมเจ้าหน้าที่ไปจนถึงการขนส่งมาให้ด้วย เพื่อนๆทุกคนมีข่าวนี้กันบ้างไหมครับ เนื้อหาในเว็บทร.ระบุชื่อเจ้าหน้าที่อยู่แล้วผมไม่ต้องเซนเซอร์มั้งครับ
ข้อมูลรายละเอียดค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการจัดซื้อจัดจ้าง ตามโครงการจัดหา ฮ.ลำเลียง จำนวน ๕ ลำ
๑. ชื่อ ซื้อเฮลิคอปเตอร์ลำเลียง ๕ ลำ ตามโครงการจัดหา ฮ.ลำเลียง โดยวิธีพิเศษ
หน่วยงานเจ้าของโครงการ กองทัพเรือ
๒. วงเงินงบประมาณที่ได้รับจัดสรร ๒,๕๐๐,๐๐๐,๐๐๐.-บาท
๓. วันที่กำหนดราคากลาง (ราคาอ้างอิง) ๒๔ ก.ย. ๕๖ เป็นเงิน ๒,๕๐๐,๐๐๐,๐๐๐.-บาท ราคา/หน่วย (ถ้ามี) บาท
๔. แหล่งที่มาของราคากลาง (ราคาอ้างอิง) มีแหล่งที่มา ดังนี้
๔.๑ แผนปฏิบัติราชการ และการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ ๕๗ ของ ทร.
๔.๒ แผนปฏิบัติการซื้อจ้าง/จ้าง ประจำปีงบประมาณ ๕๗ กลยุทธ์ด้านการกำหนดยุทธศาสตร์และโครงสร้างกำลังรบ ของ ทร.
๔.๓ การประมาณการราคาการจัดหา ฮ.ลำเลียงของคณะกรรมการกำหนดความต้องการของฝ่ายเสนาธิการ สำหรับโครงการจัดหาจัดหา ฮ.ลำเลียง
๔.๔ ตรวจสอบจากแหล่งผู้ผลิต/ผู้มีอาชีพรับจ้างแล้วนำมาประมาณการราคา (cost estimation)
๕. รายชื่อเจ้าหน้าที่ผู้กำหนดราคากลาง (ราคาอ้างอิง) ทุกคน
๕.๑ น.อ.ศักดิ์สิทธิ์ ยังวิจิตร
๕.๒ น.อ.วินัย สุขต่าย
๕.๓ น.อ.วิสาร บุญภิรมย์
๕.๔ น.อ.พิทักษ์ อิ่มวิทยา
๕.๕ น.อ.สันติ ลยางกูร
๕.๖ น.ท.สยุมภู ศิริรังษี
๕.๗ น.ท.หญิง วาสิตา พ่วงวิจิตร
๕.๘ น.ท.สุรศักดิ์ อินทร์พรหม
ลิขสิทธิ์ © 2013 สำนักงานจัดหายุทโธปกรณ์ทหารเรือ. สงวนไว้ซึ่งสิทธิทั้งหมด.
โครงการใหม่มากเพิ่มเริ่มเมื่อเดือนกันยายนนี้แหละมั้งจึงยังไม่มีข่าวการจัดประกวดแบบออกมา เฮลิคอปเตอร์ลำเลียง5ลำในวงเงินเท่านี้จะเป็นแบบไหนกันแน่ เพราะล่าสุดกองทัพเรือจัดซื้อฮ.MH-60S (Knight Hawk) จำนวน ๒ เครื่องเป็นเงิน๖๔,๐๗๔,๑๙๓.- ดอลลาร์สหรัฐฯ เพราะฉะนั้นราคานี้ซื้อ5ลำไม่ได้อย่างแน่นอน
กระทู้นี้ตั้งขึ้นมาเพื่อสอบถามข้อมูลหนะครับ มีโครงการใหม่ๆของกองทัพเรือไทยโผลมาให้แปลกใจเล่นบ่อยเหมือนกันนะช่วงนี้ ปรกติจะมีท่านfatboyคอบตอบกระทู้สดให้อยู่เสมอ แต่สงสัยตอนนี้คุมงานสมรรถนะสุงอยู่ประเทศเกาหลีใต้แน่ๆเลย
เนื่องจากเป็นเฮลิคอปเตอร์ลำเลียงไม่ใช่ปราบเรือดำน้ำ จึงตัดตัวเต็งจ๋าออกไปเยอะพอสมควร คุณสมบัติของเฮลิคอปเตอร์น่่าจะใกล้เคียงกับS76B ของกองทัพเรือในปัจจุบันนะครับ คือมีขนาดประมาณ7ตัน ใช้2เครื่องยนต์บรรทุกผู้โดยสารได้12คน และทำภาระกิจSARค้นหากู้ภัยได้ เครื่องบินที่ดูใกล้เคียงที่สุดก็คือ S76D หรือ S76C++ครับ
ทั้งหมดที่พูดมาเดาล้วนๆครับเพราะไม่รู้ว่าราคาได้ตามที่ต้องการหรือเปล่า การจัดหาโดยวิธีพิเศษที่ลงไว้ในเว็บ คือ G TO G หรือเปล่านะ
Z 9 ของจีนคงเข้าประกวดด้วยแน่ๆ ครับ
เอาตัวนี้ดีกว่า SA565F ของแท้ดีว่าZ9
โครงการนี้น่าสนใจตรงที่ หากจีนใช้ข้อตกลงในการแลกเปลี่ยนกับสินค้าเกษตร กับราคาที่ดึงดูดมากๆ จนสามารถเปิดตลาดอากาศยานในกองทัพไทยได้สำเร็จแล้วล่ะก็ ในอนาคตย่อมทำให้จีนมีโอกาสที่จะขายทั้งฮ.และบ.ฝึก หรือแม้กระทั่งบ.ขับไล่ให้กับกองทัพไทยได้อีกด้วย ส่วนทางด้านเราเองก็จะสามารถใช้เงื่อนไขบาร์เตอร์เทรดนี้ เพื่อเป็นบรรทัดฐานในการเจรจาต่อรองสำหรับการจัดซื้อจัดหากับคู่ค้าอื่นๆ ได้อีกด้วย
ถ้าโครงการนี้ สำหรับใช้ทดแทน Bell-212 ก็ไม่แน่ อาจจะเป็น Bell-412 ของ อินโดฯ อาจจะได้แข่งขันด้วย...
แต่ถ้าเน้น การลำเลียงยุทธภัณฑ์ และสามารถใช้ในภาระกิจ SAR รวมถึง ลำเลียงพลด้วย...MI-17 จากค่ายรัสเซีย ก็น่าจะมีโอกาส เหมือนกันครับ...ทร.บราซิล ก็ใช้เหมือนกัน
แต่ถ้าจะสำหรับ ทดแทน S-76B...ก็น่าจะมี Z-9 เป็นตัวเต็ง เหมือนกัน...
หรือ ทร. อาจจะจัดหาจากโครงการ EDA ของ สหรัฐ ก็ไม่แน่ อาจจะได้ SH-60F เหลือใช้ หรือ มือสอง ของ สหรัฐ มาก็ได้...เพราะเห็นมีหลายประเทศจัดหาไปใช้อยู่เหมือนกัน...
S76B ของเรายังใหม่อยู่นะครับ บางสื่อบอกเหลือบินได้4ลำ(จาก6 จำหน่ายแน่ๆไปแล้ว1)อยู่สนามบินอู่ตะเภาเป็นหลัก
ผมเดามั่วอีกรอบว่าเป็นการจัดหาเพิ่มเติม โดยเป็นเฮลิคอปเตอร์ลำเลียงที่สามารถใช้กับเรือฟริเกต เรือOPVต่างๆของเราได้ คือใช้ปราบเรือดำน้ำไม่ได้และยิงจรวดต่อสู่เรือรบไม่ได้ แต่อาจติดปืนกลเบาและอุปกรณ์ได้ประมาณภาพ ใช้ในภาระกิจป้องกันและปราบปรามผู้บุกรุกร่วมกับเรือOPVทั้ง3-6ลำ(แบบประเทศอื่นๆที่มีหน่วยยามฝั่ง) และเรือชั้นกระบุรีที่ไม่มีความสามารถด้านปราบเรือดำน้ำ แต่มีแววจะผิดเสียเยอะเลยแฮะช่วงนี้เดาใจกองทัพเรือไม่เคยถูกเลย
ดูจากราคาแล้ว Bell-412และS-76D ตัวเปล่าได้ลุ้นเลยนะเนี่ย ประมาณ12-14ล้านเหรียญทั้งคู่ขนาดก็ใกล้เคียงกัน ถ้าซื้อจากอินโดจะมีการถ่ายโอนองค์ความรู้ด้วยไหมครับ เหอๆ :)
ทร.จะซื้อเหมือน ทบ.หรือเปล่า เพื่อเอามาทดแทน UH-1 เหมือนกัน จะได้ใช้อะไหล่ระบบซ่อมบำรุงเหมือนกัน
ทบ. ซื้อ UH-72A Lakota จำนวน 6 ลำเป็นมูลค่าราว 77 ล้านดอลลาร์ ตกลำละ 13 ล้านดอลลาร์
ของ ทร. 16 ล้านดอลลาร์ อาจจะ+ระบบเพิ่มเติมเช่นเรดาห์ตรวจอากาศ ...
ตอนนี้เจ้าตัวนี้มาแรงสุดน่ะครับ EC -145 T2 เท่าที่คุยกันที่ฝูงบินเพราะเจ้า 212 ใกล้จะปลดแล้วคาดว่า ปี 59 จะทยอยปลดครับผม....(ตอนนี้ทางฝูงบิน 202 เองให้ผมทำโมเดลเจ้าตัวนี้แล้วน่ะครับ คิดว่าตัวเต็งแน่ๆ) สำหรับเรื่องราคาผมไม่ค่อยมีความรู้เท่าไหร่น่ะครับ...แต่โดยปกติเครื่องของ ทร.ก็จะมีราคาสูงกว่าเครื่องของทาง ทบ.อยู่แล้ว ด้วยออพชั่นที่มากกว่าเป็นปกติ หลังจากอาทิตย์ที่แล้วจากการเข้าประชุมของ หน.ช่างต่างๆ ภายใน กบร.เชื่อว่าตอนนี้เป็นเจ้า EC -145 T2 เกิน 70 % น่ะครับ เริ่มมีการให้ จนท.ช่าง ฟิตอ่านหนังสือทบทวนภาษาอังกฤษเพื่อเตรียมสอบไปรับเครื่องแล้วน่ะครับ.....ยังงัยผมว่าเจ้าตัวนี้มาแน่ๆครับ...
งานนี้น่าจะได้ใหญ่กว่า UH-72A ครับ เพราะทบ.จัดหา UH-72A ตกลำนึงประมาณ 9 ล้าน$ แต่โครงการนี้ตกลำนึงประมาณ 16 ล้าน$
http://thaiarmedforce.com/taf-military-news/53-rta-news/607-thai-army-uh-72a-lakota.html
ส่วนตัวเชียร์ AW139 เพราะขนาดห้องโดยสารมีขนาดใหญ่สุดในฮ.ไซค์ใกล้เคียงกัน เทียบกับ S-76D EC-155
ท่าได้ตัวนี้มาล่ะแจ่มเลยแต่ตัวนี้มามะกันกั๊กใช้คนเดียว
EC145 T2 |
Program Status: Under Development IOC: 2013 Total Production: 72 Unitary Cost: EUR๏ฟฝ8.0 million (USD$11 million) Origin: Germany Contractor/s: Eurocopter Description: The Eurocopter EC145 T2 is a further version of the EC145 light-medium twin-engine commercial helicopter suitable for emergency medical services (EMS), oil and gas operations and business aviation. The T2 variant offers significantly improved performance, increased flight safety, enhanced human-machine interface, improved maintainability and lower operating costs. The aircraft features Fenestron shrouded tail rotor replacing the two-blade tail rotor delivering significantly higher safety levels on the ground and in flight, along with enhanced anti-torque control efficiency, reduced power demand in forward flight, and lower sound and vibration levels. The EC145 T2 was announced at the Heli-Expo 2011 exposition in Orlando, Florida, with 17 commitments from four customers. The first customer deliveries are due to begin in 2013. The EC145 T2 helicopter has new composite blades, a new-design tail gear box with lower maintenance costs, and incorporates a duplex tail rotor actuator and dual hydraulic circuits. The aircraft is powered by two Turbomeca Arriel 2E turboshaft engines with increased average power by 25 percent. Besides, the EC145 T2 includes a new modular avionics suite that incorporates three large primary displays and a 4-axis autopilot as standard equipment. It provides an innovative and efficient human-machine interface for flight crews, improved situational awareness and reduced pilot workload, while also offering additional mission capabilities. Parent system is the BK 117 IOC: 1983 Total Production: 1,206 Other Family Members: EC145, EC645 and UH-72A Lakota Transactions: There are 30 transactions involving 514 items for BK 117 from 2006 to 2022 and 10 transactions involving 72 items for the EC145 T2 view report |
จากข้อมูลเป็นการตั้งโครงการจากราคาตลาดทั่วไป คิดว่า เป็นเพียงราคากลาง ครับ...ราคาจัดหาจริง อาจจะต่ำกว่านั้นได้ครับ...
EC-145 T2 ดูแล้ว มันจะเล็กไปหรือเปล่าครับ...ดูขนาดเป็น Light-Medium
ดูราคาโครงการแล้ว น่าจะจัดหาเฮลิคอปเตอร์แบบ Medium ได้เหมือนกันนะครับ...
ราคาเปรียบเทียบ คุณลักษณะทางพาณิชย์ ครับ จากเว๊ปไซด์
UH-72A กับ EC-145 T2 เป็นคนละรุ่นกันครับ
AW-139 ผมว่า ก็น่าสนใจดีครับ...แต่ยังไม่เห็น แบบที่ติดตั้งระบบอาวุธยิงสนับสนุน เช่น กระเปาะปืน หรือ จรวด...และ ระบบป้องกันตัวจากอาวุธ พื้นสู่อากาศ
และเมื่อดูถึง มิติ ของ AW-139 กับ Bell-212 ดูแล้ว AW-139 กลับจะมีความเล็กกว่า
และเมื่อทำการ พับใบพัดประธาน ได้...เมื่อเทียบกับการ ปฏิบัติการร่วมกับ เรือชั้น ปัตตานี ที่ใช้ Bell-212 ในภาระกิจปราบปรามโจรสลัด...
ดู AW-139 น่าจะสามารถใช้งานได้ดีกว่า (แต่ความยาว คิดว่า ก็คงเข้าโรงเก็บไม่ได้ทั้งหมด ความเห็นส่วนตัวครับ)
AW139 น่าใช้จริงๆ สเกลก็ได้ สเปคก็โดน งานนี้ต้องลุ้นว่าทร.จะเลือกใคร
จริงๆ AW139 ยาวกว่า Super Lynx แค่นิดหน่อย แต่พับหางไม่ได้ (ไม่แน่ใจว่าพับใบได้หรือเปล่า)
แต่พอ Super Lynx พับหาง ความยาวต่างกันเยอะเลย
แต่โครงการนี้คงไม่ได้เอาไปประจำบนเรือ เพราะฉะนั้นสเกลพอๆกับ Bell 212 ได้ก็น่าจะผ่านแล้ว
ถามท่านจูดาสและเพื่อนๆทุกคนหน่อยครับ มีโครงการโพสลงเว็บแบบนี้แสดงว่าได้รับการอนุมัติแล้ว อยู่ในแผนปฏิบัติการซื้อจ้าง/จ้างประจำปีงบประมาณ57 แล้วมีโอกาสที่จะเจอโรควูบไหม กลัวหายไปดื้อๆแบบซาดรัล4ระบบหรือฮ.ปราบเรือดำน้ำอะไรแบบนี้ :(
กองทัพเรือมีBell 212/214 จำนวน 9ลำ ถ้าทยอยปลดไปทั้งหมดผมไม่ค่อยเห็นด้วยแฮะ แต่ถ้าเอาเครื่องที่ยังใหม่ไปปรับปรุงซัก4-5ลำไว้ใช้งานต่อ(ที่เหลือทำอะไหล่)น่าจะเป็นผลดีมากกว่านะครับ บินอยู่เหนือพื้นดินอย่างเดียวก็ยังดี ส่วน5ลำใหม่ดูยังไงก็ต้องเป็นเฮลิคอปเตอร์ขนาดกลางที่มี11ที่นั่งขึ้นไปหละครับ ใช้ลำเลียงเป็นหลักไม่ใช่ทำภาระกิจพิเศษเอาลำเล็กมาไม่คุ้มเลย
เฮลิคอปเตอร์ใช้งานทั่วไป ของ กองทัพเรือ จะเรียกว่า เฮลิคอปเตอร์ลำเลียง ครับ...
อย่างน้อยต้องติดตั้ง ปืนกล และ จรวด สำหรับสนับสนุน นาวิกโยธิน ได้ด้วยเช่นกันครับ...
Bell-212 ก็ใช้ ชื่อเรียก เฮลิคอปเตอร์ลำเลียง...
ส่วน Bell-212 ถ้าเข้่าใจไม่ผิด ทำการปรับปรุง และ Overhual มาแล้ว ครั้งหนึ่งน่ะครับ...
ซึ่งปัจจุบัน ก็เห็น กองทัพเรือ จัดตั้งกองพันนาวิกโยธิน เพิ่มอีก 1 กองพัน...
ในความเห็นผม ดู ๆ EC-145 T2 มันจะเล็กไปสำหรับ ภาระกิจ สนับสนุนนาวิกโยธิน ไปหรือเปล่าน่ะครับ...
ในขณะที่ กองกำลัง จะมีกำลังพล เพิ่มขึ้น...การใช้งานของ ฮ.ลล. น่าจะเพิ่มขึ้นตาม...
การใช้งานสำหรับการฝึก และสนับสนุน น่าจะใช้งานมากกว่า ปัจจุบัน...
แต่เดิม โครงการนี้ น่าจะเคยอยู่ใน โครงการจัดหา เฮลิคอปเตอร์ลำเลียงขนาดใหญ่ จำนวน 6 ลำ มูลค่าโครงการ 3000 ล้านบาท ในแผน 9 ปี ที่ กองทัพเรือจัดทำเมื่อประมาณปี 2549 (ลำละ 500 ล้านบาท เหมือนกัน)
แต่อาจจะปรับลักษณะลงมา เหลือเพียง เฮลิคอปเตอร์ใช้งานทั่วไป ด้วยราคาที่ปรับเปลี่ยนแปลงไป...โดยจำนวนลดมาเหลือ 5 ลำ งบประมาณโครงการ 2500 ล้านบาท (ลำละ 500 ล้านบาท)
โครงการของ กองทัพเรือ ยังอยู่แหล่ะครับ...เพียงแต่คงปรับเปลี่ยน ก่อน หลัง ตามสภาพงบประมาณที่ได้จัดสรร...ตามแผนพัฒนากองทัพไทย ระหว่างปี 2554 - 2563 ในส่วนของ กองทัพเรือ ต้องการงบประมาณจัดหาอาวุธใหม่ รวมกว่า 3 แสนล้านบาท แต่ถ้าลดจำนวนโครงการ คงเหลือโครงการสำคัญ กองทัพเรือ ต้องการงบประมาณจัดหาอาวุธใหญ่ รวมประมาณ 170,000 ล้านบาท....
ผมว่า โครงการคงอยู่ครบ...แต่งบประมาณ ไม่มี...การเรียงลำดับ เลย สลับกันไป - มา ตามความเสื่อมสภาพของอาวุธ มากกว่าครับ...
เมื่อเทียบกับ Bell-412
ซึ่งถ้า AW-139 พับใบพัดประธาน ไม่ได้...ก็น่าสนใจลดน้อยไปนิดหนึ่ง
แต่ถ้าทั้ง EC-145 T2 และ AW-139 พับใบพัดประธาน ไม่ได้ทั้งคู่...ก็น่าสนใจอยู่นะครับ ว่า
แบบ EC-145 T2 มีจุดเด่น ที่น่าสนใจ เมื่อกับแบบอื่น ๆ ประมาณไหนครับ...แต่ดูว่า เป็น ฮ.สมัยใหม่ และดูจะ มาตรฐานการใช้งานของ เยอรมัน
ถ้าผมขอเสนอ AW-101(EH-101Merlin) จะมีความเป็นไปได้แค่ไหนคับ
5 ลำนี้ขอเป็น Super Lynx ดีกว่าครับ จะได้ไม่มากแบบ ที่สำคัญใช้ได้กับเรือหลายลำ
เยอรมัน จัดหาให้กับ หน่วยรบพิเศษ จำนวน 15 ลำ รวม 196.8 ล้านยูโร หรือประมาณ 263.7 ล้านเหรียญ รวมออฟชั่น การฝึก ถัวเฉลี่ยออกมา ต้นทุนโครงการก็ประมาณลำละ 17.60 ล้านเหรียญ
Germany's armed forces plan to acquire 15 light utility helicopters (LUH) for German special forces units, sources indicate.
According to a parliamentary source, the Federal Ministry of Defence (MoD) plans to make a request for parliamentary approval for the programme before the summer recess on 29 June.
The deal would come at EUR195.7 million (USD261.9 million), including training options for EUR1.1 million, and will be based on the Eurocopter EC145 T2 platform, including several mission modules.
The Bundeswehr plans are still subject to parliamentary review; however, approval is expected before summer recess, and contract signature before the year's end.
The Bundeswehr plans the introduction of the first LUHs in December 2015, with delivery of all 15 helicopters concluded by June 2017.
เอาแบบเยอรมันน่าจะดีครับถึงจะเล็กแต่ค่าใช้จ่ายน่าจะถูกกว่าแบบอื่น นักบินจะได้บินบ่อยๆ ไม่ใช่ซื้อมาแล้วนานๆจะได้ออกบิน
ดูข่าวและราคาเฮลิคอปเตอร์เพื่อนบ้านเราบ้างนะครับ กองทัพอากาศฟิลิปปินส์สั่งซื้อ AW-109 Power จำนวน8ลำในวงเงิน80ล้านเหรียญ (เฉลี่ยลำหละ10.4ล้านเหรียญ) โดยเฮลิคอปเตอร์จะมีการติดตั้งปืนกล12.7มมและจรวดที่ข้างลำตัวได้ด้วย คิดว่าประมาณในภาพนั่นแหละครับ เห็นแล้วอดเปรียบเทียบกับAS550 C3ของเราไม่ได้เหมือนกัน
AgustaWestland has won the bidding to supply eight attack helicopters worth $80 million for the Philippine Air Force (PAF). The Philippine STAR reports. A notice of award was issued to AgustaWestland late last month. Defense Undersecretary Fernando Manalo confirmed the report, saying the helicopters may be delivered next year if the budget is released soon.
“If the DBM (Department of Budget and Management) releases the cash allocation, the letter of credit could be opened immediately and the helicopters could be delivered before the end of December next year,” Manalo said. According to Defense Assistant Secretary Patrick Velez the helicopters will be armed with two .50 caliber machine guns and rocket launchers. According to the bid documents the helicopters will be capable of navigating in bad weather and performing close air support. They will be delivered with full night operation capability with complete weapons system and integrated logistics support package.
http://defense-update.com/20131030_philippines-buy-8-aw109-power-helos.html
มีหลายประเทศที่จัดหาAW-109ไปใช้งานกับกองทัพเรือ เช่นออสเตรเลีย ไนจีเรีย ฟิลิปปินส์(สั่ง5ลำ เป็นความคิดที่ดีมาก เพราะจะมีเฮลิคอปเตอร์น้อยแบบมาตราฐานดี) บังคลาเทศ รวมถึงหน่วยยามฝั่งอเมริกาด้วย จึงกลายเป็นเฮลิคอปเตอร์อเนกประสงค์ทำงานได้หลากหลายเป็นที่นิยมและราคาไม่แพง แต่เนื่องจากเป็นเครื่องขนาดเล็กแค่7ที่นั่ง คงไม่ตรงตามความต้องการกองทัพเรือเท่าไหร่
แต่ถ้ากองทัพเรือจะเอาเครื่องเล็กผมชอบลำนี้มากที่สุดครับ คิดว่าราคา Z-9 รุ่นธรรมดาของถูกกว่านิดหน่อยแต่ลำนี้น่าสนใจมากกว่าเยอะ
กองทัพเรือฟิลิปปินส์คงนำไปใช้กับเรือฟริเกตแฮมิลตัน2ลำของตนเอง และเรือฟริเกตใหม่เอี่ยมอีก2ลำที่กำลังจัดหา ส่วนกองทัพอากาศเขาอาจจะเล็งรุ่นต่อสู้รถถังในล๊อตหน้าก็ได้ อาจจะไม่ดีเท่าAW-129แต่ก็พอใช้งานทดแทนกันได้ และยังทำภาระกิจอื่นได้เพิ่มอีกด้วยในราคาถูกกว่าพอสมควร
ปล. ถ้ามีซักประเทศสั่งปรับปรุงให้พับหางได้ซักหน่อย และติดอาวุธASWสำหรับปราบเรือดำน้ำหละซี๊ดเลย
ในฐานะผู้ปฏิบัติงาน ใจจริงตัวไหนมาก็ได้น่ะครับ...สงสารเจ้า 212 จัง อายุก็น่าจะมากกว่าผมซะอีก..555 ยังงัยก็ขอให้ได้ของดีๆมาใช้ ขอให้โครงการนี้ผ่านไปได้ด้วยดีครับ...หลังจากโครงการนี้ผ่านไปแล้วเมื่อคืนนอนหลับฝันไปว่าอยากได้เจ้า CH-46 มาประจำกบร. สัก 4 เครื่องเป็นของมือสองก็ได้ถ้าพี่เค้าแบ่งขายให้น่ะ...น่าจะมาสนับสนุนการยกพลจาก ร.ล.อ่างทอง ได้ดีเลยทีเดียว.....(ขอบคุณ ท่าน:juldas สำหรับข้อมูลดีๆด้วยน่ะครับ)....
ท่าน เจี๊ยบ ก็มีสิทธิฝันเป็นจริงได้ครับ...เพราะอยู่ใน ลิสต์ EDA ชั่วโมงบิน น่าจะคงเหลือเฉลี่ย 7,000 ชั่วโมงบิน...
ถ้าบิน ปีละ 200 ชั่วโมงบิน ก็คงใช้งานได้อีก 35 ปี แต่ถ้าใช้งานประมาณปีละ 400 ชั่วโมงบิน ก็ใช้ได้ประมาณ 15 ปี...(ก็คุ้มอยู่นะครับ)
คงต้องดูว่า ค่าใช้จ่ายในการปรับสภาพเท่าไหร่
และถ้า สมมติ ฝัน ของท่าน เจี๊ยบ เป็นจริง ขึ้นมา...ก็คงพอจะเข้าใจ ความหมายของ EC-145 T2 ว่า ทำไม กบร. ถึงมอง สเปค ฮ. ประมาณนี้...(น่าสนใจครับ)
จินตนาการภาพเล่น ๆ ครับ
EC-145 T2 = 5
CH-46E = 4
รู้สึก ทร เลือก EC 635 น๊ะครับ ท่าน
รุ่นนี้ เปิดประตู ข้างบินได้เหมือน Bell 212 ไหมครับ
ส่วน CH46 E ขอให้รีบจองน๊ะครับ ซ่อม คืนสภาพ 8 เดือนครับ อุปกรณ์ ครบ เดี๊ยว อินโด เขา เลือกของดีไปหมด ยิ่ง โดน ออสเตรเลียดักฟังอยู่
นาวิก สามารถ ขับเรือขึ้นท้าย เครื่องได้ เลย อย่าง เจมบอร์น เลย
EC145 T2 เปิดบินได้ EC635 ก็น้่จะเปิดประตูข้างบินได้ เนาะครับ
ขอโทษ ครับ ทร น่า จะเป็นรุ่น EC 645 T2
ทราบข่าวภายใน ได้เชิญชวนให้ บริษัท ผู้ผลิต เสนอแบบ อากาศยาน เพื่อเลือกแบบ ไปแล้ว
ที่ ทร เลือก เพราะ EC 645 T2 ใช้ ล้อ เพื่อ ไว้ใช้ เบรค บน ตระข่าย
แต่ ผม อยาก ให้ ใช้ MD 900 Expoler รุ่น Notar เพราะไม่มี Tail Rotor ที่ เป็นอันตราย ต่อ การฟัน จนท บน แผท ฟอร์ม
สามารถพับ Main Roter Blade
แต่ จุดเสียที่เป็น สกี เวลาลง บนตระข่าย ที่มี ลม เเรง สามรถ ลื่น ไถลได้
พวกเรา สมาชิก ทาย มา ผม ว่า ก็ น่าทจะเหมาะ ดี
เพราะ ทร คง อยากได้ ฮ ไว้ เป็น ธุการ
เนื่อง จาก บรรทุก ทหาร นย พร้อม เครื่องสนาม ไม่น่าได้ถึง หนึ่ง หมู่