ตอนนั้นรู้สึกว่าตุรกีแกลาดตระเวณบินเฉยๆ ไม่รู้ว่าซีเรียจะปืนไว

ส่วนอิสราเอลนี่แกก็นิสัยอย่างนี้อยู่แล้ว รัสเซียคงไม่ทำอะไร เพราะนี่ไม่ใช่ครั้งแรก และช่วงนี้รัสเซียก็ไม่ได้มาช่วยลงไม้ลงมืออยู่แล้ว

แหม่... บังเอิญเพิ่งดูสารคดีชุดเกี่ยวกับอิสราเอลใช้ F16  8 ลำบุกไปถล่มโรงปฎกรนิวเคลียร์ในอิรัค  ระยะทาง 670 ไมล์ บินผ่านจอร์แดน ซาอุ เข่าไปถึง แบกแดด  ตลอดทางไม่มีไครตรวจจับได้ด้วยเรดาห์ ในขณะถล่มก็มีเพียง ปตอ ต่อต้านอย่างเบาบาง  ไม่มี  SAM หรือ Mig มาแต่อย่างใด....  อเมริกายังเงิบ เพราะเพิ่งส่ง F16 ไปให้ใช้แค่ 2-3 ปี  และตลอดเวลาที่ อิลราเอลวางแผน อเมริกาก็ไม่ระแคะระคายเลยแถมอเมริกาเองก็มีความพยายามที่จะชิงตัวประกันในอิหร่านในปีก่อนหน้านั้น  แต่ปฎิบัติการล้มเหลวอย่างสิ้นเชิง... บินแค่ใกล้ๆไปซีเรียมันจิ๊บๆ    เป็นบทเรียนว่า....  "อย่ามาซ่าส์กับอิสราเอล"  ไม่มีขู่... เอาจริงล้วนๆ

https://www.youtube.com/watch?v=95Tu4sbJ7Co

https://www.youtube.com/watch?v=95Tu4sbJ7Co

https://www.youtube.com/watch?v=hR1kRql6WyM

อ้อ... อีกอย่าง  ประเทศมุสลิมในตอ. กลาง เกือบทั้งหมดมีศักยภาพสูงทางด้านคุยโวซะมากกว่าทำได้จริงครับ... และจะว่าไปแล้วการเมืองอิหร่านยังมีความอ่อนตัว/ปรับสภาพตามกระแสโลกมากกว่าอิรัคสมัยซัดดัมครับ... อย่างน้อยยังมีการเปลี่ยน รบ - มีเลือกตั้ง ซ้ดดัมครองอำนาจเบ็ดเสร็จในอิรัคมานานจนชี้ไม้กลายเป็นนก  เผลอๆพี่แกฝันร้ายตอนกลางคืน ตึ่นมาอารมณ์ค้าง ลากเอาจรวดนิวเคลียร์มายิงอิสราเอลแค่ลูก สองลูก อิสราเอลก็ล่องจุ็นครับ  แถมประเทศที่ถ่ายทอดเทคโน นิวเคลียร์ให้อิรัคในขณะนั้นก็ยังเป็น ฝรั่งเศษ และ อิตาลี (เหตุผลทางธุรกิจล้วนๆ) ตอนนั้นอิสราเอลรู้แน่ว่าโรง ป นิวเคลียร์ จะwork แน่นอน และพยายามทุกทางที่จะทำให้โครงการล้มเลิกไป แต่ไม่สำเร็จ สุดท้ายก็ต้องบอมบ์

สำหรับโรงนิวเคลียร์ในอิหร่าน อิสราเอลมี่ทางเลือกมากกว่าการส่ง บ. ไปโจมตีครับ... เช่น จรวดร่อน, Drone ถ้ารู้แน่ว่าอันตรายจะมาถึงตัว  อิสราเอลเอาแน่ครับ หรือ แนวตั้งรับก็จะเป็น Iron dome - patriot...  (ซึ่งแต่ก่อนไม่มี)

สำหรับอาวุธเคมีนี่มันเป็นภัยคุกคามที่ Low profile กว่าครับ (ไม่รู้ว่าจะใช้คำไทยอะไรถึงจะเหมาะสม) เพราะขนย้ายไม่ยาก ...ใช้ไม่ยาก วางตำแหน่งเหนือลมแล้วจุดระเบิดแม้จะอยู่นอกเขตแดนอิสราเอล  สารพิษก็จะสร้างความลำบากให้กับอิสราเอลอย่างมาก

ว่าแล้วก็ เลยสอยซะ...

อิสราเอลที่ไปบอมบ์โรงงานนิวเคลียร์ไม่ได้ถึงขั้นเรดาร์จับไม่ได้ครับ แต่ทำการปลอมสัญญาณหลอกว่าเป็นอีกฝ่าย บินเลาะชายแดนจอร์แดนกับซาอุตอนพอซาอุฯเตือนมาก็บอกว่าเป็นบ.ของทอ.จอร์แดนบินลาดตระเวณตามปกติเผลอล้ำว่ะโทษทีๆ พอเข้าจอร์แดนก็บอกเป็นซาอุฯโทษทีๆ

แล้วก็วางแผนเวลาเข้าโจมตีตอนพักหรือสับเปลี่ยนเจ้าหน้าที่ประจำเรดาร์กับโรงงานนิวเคลียร์ของอิรักนี่ล่ะ ก็เลยไม่ได้ตั้งตัว

สรุปคือยิวมันเจ้าเหลี่ยมจัดกัดเจ็บ ทำได้ทุกวิถีทาง

ขอบคุณสำหรับรายละเอียดเพิ่มเติมครับ ท่าน Teoytei... ในสารคดีดูเหมือนจะไม่ใด้กล่าวถึงประเด็นนี้ (หรือผมหลุดไปก็ไม่รู้แน่)

ที่ผมเคยอ่านมาพี่ยิวแกบินเกาะหมู่กันปลอมเป็นเครื่องบินพาณิชย์นะ

มายืนยันอีกคนครับว่านักบินยิวใช้ฝีมือการบินที่ใครในโลกก็ทำไม่ได้คือบินหมู่ชนิดปีกเกือบจะแตะกันไปตลอดระยะทางหลายร้อยไมล์โดยไม่มีการหลุดจากกันทำให้เรด้าร์ของฝ่ายอาหรับมองในจอเห็นเป็นเครื่องบินพานณิชย์ลำเดียวเท่านั้น

เข้ามายืนยันด้วยคน...เพราะเคยอ่านบทความเกี่ยวกับเรื่องนี้ในหนังสือแทงโก้ ฉบับเมื่อเกือบ20ปีมาแล้ว

เค้าบอกว่าอิสราเอลบินเกาะหมู่ชิดกันและโต้ตอบวิทยุด้วยภาษาอาหรับเพื่อลวงให้อีกฝ่ายคิดว่าเป็นเครื่องบินพาณิชย์

เมื่อในช่วงที่บินถึงเป้าหมายและเข้าโจมตีนั้นเป็นเวลาเย็นพอดี..เครื่องบินอิสราเอลจะบินมาทางทิศตะวันตก

ทำให้ ปตอ.ฝ่ายอาหรับต้องเล็งยิงลำบากเพราะแสงอาทิตย์เข้าตา เนื่องจากต้องเล็งย้อนแสงอาทิตย์

ถ้าจำไม่ผิดรู้สึกว่าจะมีไปกันทั้ง F-15และF-16นะครับ...แต่จำไม่ได้ว่าลำไหนทำหน้าที่บินคุ้มกัน

และลำไหนทพหน้าที่โจมตี

ส่วนเรื่องของจรวดแซมนั้นผมก็สงสัยเหมือนกันว่ามันหายไปไหนหมด

เรื่องที่หลอกว่าเป็นทอ.ของจอร์แดนกับซาอุดีอาราเบีย ผมไปเช็คในวิกิภาษาอังกฤษว่ายังงั้นครับ

ส่วนเรื่องเป็นบ.พาณิชย์อันนี้ผมไม่เคยเจอ เคยเจออีกแบบอ้างว่าบินต่ำเกาะภูมิประเทศ หลบเรดาร์ ความเร็ว 360 kn ที่ความสูง 150 ft ต่ำมาก ฟังดูเว่อร์ๆ เพราะบินกันใกลขนาดนั้น 

แต่ที่แน่ๆ จากคำให้สัมภาษณ์ของ Ze'ev Raz ซึ่งเป็นหัวหน้าทีมเรื่องที่ king hussein ของจอร์แดนกำลังเอ้อระเหยลอยชายอยู่บนเรือยอชขณะฝูงบินข้ามหัวไป รีบแจ้งฝ่ายอิรัก ซึ่งอิรักดันไม่ได้รับแจ้ง แต่มอสสาดดักฟังเรียบ 

รู้สึกว่าเค้าจะใช้วิธีลวงทั้ง 2 วิธีนะครับ...

เครื่องบินกลุ่มนึงจะตอบโต้วิทยุกับสถานีเรดาร์เป็นภาษาอาหรับว่า

เป็นฝูงบินของจอร์แดนที่ทำการฝึกบินตามปกติ..

อีกกลุ่มนึงเกาะปีกชิดกันให้เห็นเป็นเครื่องบินลำใหญ่เพื่อหลอกว่าเป็นเครื่องบินพานิชย์

แต่ผมจำรายละเอียดไม่ได้มากเพราะอ่านมาสิบกว่าปีแล้ว..หากคลาดเคลื่อนต้องขออภัยด้วยครับ

แต่ที่จำได้ชัดเจนก็คือ เรื่องที่เครื่องบินอิสราเอลบินเข้าโจมตีจากทิศตะวันตกในช่วงที่

ดวงอาทิตย์กำลังตกดิน  ทำให้พล ปตอ.เล็งได้ยากเพราะต้องเล็งสวนทางกับแสงอาทิตย์

ตามสารคดีคือมี F15  ทำหน้าที่บินคุ้มกันครับ แต่ไม่ใด้ให้รายละเอียดมากนัก  ถ้าอ้างอิงถึงข้อมูลที่ว่ามีการหลอกว่าเป็น บ โดยสารผมก็ว่ามันอาจเป็นไปใด้กับฝูง F15 มากกว่าครับ แต่นั่นหมายความว่า F15 ต้องบินในเพดานบินของ บ พาณิชย์ เช่น แถวๆ 33000 ฟุต... เพราะถ้าจะมาตอบว่าเป็น บ พาณิชย์ในขณะที่เรดาห์ จับว่าบินต่ำมากๆนี่มันก็จะผิดปกติไปนะผมว่า.... อย่างไรก็แหล่วแต๊... มันก็เทพคั่กๆ

แต่ผมว่ารัสเซียน่าจะได้ข้อมูลที่น่าสนใจพอสมควร รูปแบบเทคนิค การบินการเข้าตี อาวุธ ของทัพอากาศที่ดีเป็นอันดับต้นๆของโลก ซึ่งอิสราเอลจะคุ้มไหมที่มาแสดงขีดความสามารถบนระบบป้องกันของรัสเซีย รัสเซียไม่รู้สึกขายหน้าหรือครับปล่อยหลุดไปได้ ไม่งั้นคงมีการตอบโต้หรือตีข่าวจากมอสโก เหมือนตอนที่อิสราเอลยิงจรวดไปตกแถวนั้นมารอบนึง แต่ครั้งนี้เงียบ หรือว่าเคลียกันหมดแล้ว

การจะหลอกว่าเป็นบินพาณิชย์ต้องดูด้วยหรือเปล่าว่าเป็นเส้นทางบินพาณิชย์ เพราะถ้าไม่ใช่เส้นทางอยู่ๆเครื่องบินพาณิชย์มาโผล่มันจะทะแม่งๆนะ ซึ่งเส้นทางที่บินนั้น ช่วงแรกเบี่ยงไปทางตะวันออกเลียบชายแดนซาอุฯกับจอร์แดนจาก ไม่ได้ตรงตัดจอร์แดนไปตรงๆ

ส่วนตัวผมไม่คิดว่าจะมีเส้นทางบินพาณิชย์เลียบชายแดนระหว่างสองประเทศนี้นะครับ

ส่วนทฤษฎีที่บอกบินเลียบเกาะภูมิประเทศนั้นไม่ได้ให้เรดาร์จับได้ว่าเป็นบ.พาณิชย์มาเฉี่ยวพื้นเล่น แต่หมายถึงบินต่ำจนเรดาร์หาไม่เจอ 

ที่ผมอ่านมาจากบทสัมภาษณ์ของ Zeev Raz แกบอกว่าความจริงจะให้มีการโจมตีหลังพระอาทิตย์ตกเพื่อให้โจมตีเสร็จมืด อีกฝ่ายไม่สามารถส่งมิก 21 มาตามล้างได้ แต่พี่ท่านกลัวบอมบ์ไม่ลงเป้า เพราะมืดเดี๋ยวมองไม่เห็นเลยเลือกโจมตีก่อนพระอาทิตย์ตกดิน ความจริงฝ่ายอิสราเอลคาดการว่าจะได้รับการต่อต้านอย่างหนักจากทัพอากาศอิรัก จึงจัดฝูงใหญ่ไป f16 8ลำ f15 6ลำ กะว่ากลับมาไม่ครบแน่นอน แต่เป็นงงเพราะไม่มีเครื่องบินหน้าไหนมาสกัดกั้นเลย อันนี้จากคำสัมภาษณ์นะครับ

ผมเคยอ่านเรื่องการถล่มโรงงานนิวเคลียร์ในอิรัก ในหนังสือสงคราม ใช้ชื่อยุทธการว่า ยุทธการบาบิโลน ใช้ F-๑๖ ๘ เครื่องทำหน้าที่โจมตี F-๑๕ ๘ เครื่องทำหน้าที่คุ้มกัน

        จริงแล้วต้องเข้าใจอิสราเอลก่อนน่ะ ว่าอดีตเขาเจออะไรมาบางอย่างเช่นกรณี  สงคราม 6 วัน ของอิสราเอล และอีกหลายๆครั้ง
ทั้งที่หน่วย มอสสาด ได้แจ้งเตือนมาก่อนแล้ว ว่ามันจะเกิดขึ้นแต่สุดท้ายผู้มีอำนาจของอิสราเอลตอนนั้นก็ไม่ทำอะไร ถ้าเข้าใจไม่ผิด ไอ้สงคราม 6 วัน ของอิสราเอล เป็นสิ่งที่ทำให้อิสราเอล ต้องเปลี่ยนยุทธศาสตร์ การป้องกันประเทศใหม่ (การป้องกันที่ดีที่สุดคือการรุกโจมตีศัตรูที่เป็นภัยก่อน เหอๆๆอันนี้ผมคิดเอง) อย่างกรณีสงคราม 6 วัน อิสราเอลนั้นเกือบจะสิ้นชาติ กว่าจะตัดสินใจได้ อียิปต์ก็ส่งทหารเข้ามาเต็มฉนวนกาซ่า และคาบสมุทรซีนาย ส่วนทางเหนือก็มีซีเรีย ตะวันออกมีจอร์แดน นี้ถ้าไม่ได้หน่วย มอสสาด ในการหาข่าว อิสราเอลก็คงไม่ตัดสินใจวางแผนเพื่อชิงโจมตีก่อนฝ่ายอียิปต์ ข่าวของมอสสาด แม่นย่ำขนาดให้เครื่องบินของอิสราเอลทำการโจมตีเป้าหมายเป็นฐานทัพอากาศของอียิปต์ ๑๑ แห่ง  ในขณะ จอมพล อาเมอร์ และพลตรี ซิดกิ มาหมุด เดินทางโดยเครื่องบินไปตรวจเยี่ยมผู้บัญชาการทหารในแนวหน้าที่ประจำการเตรียมพร้อมอยู่ที่คาบสมุทรซีนาย เพราะหน่วยต่อสู้อากาศยานจะถูกสั่งให้ปิดระบบป้องกันภัยทางอากาศชั่วคราว เพราะเกรงว่า จะมีใครเกิดกดปุ่มจรวดยิงเครื่องบินของท่านแม่ทัพ

        นอกจากความเทพของอิสราเอลแล้ว โชคดีของอิสราเอลคือสมัยนั้นการสื่อสารยังไม่ดีเท่าสมัยนี้ แล้วคุณลองคิดดูว่าปัจุบันถ้ารอให้ชาติอาหรับเตรียมกำลังรบขนาดกำลังพลจากอียิปต์ ๑๕๐,๐๐๐ นาย, ซีเรีย ๗๕,๐๐๐ นาย, จอร์แดน ๕๕,๐๐๐ นาย, ซาอุดิอารเบีย ๒๐,๐๐๐ นาย เครื่องบินรบ ๘๑๒ เครื่อง แล้วด้วยการสือสาร ณ.ปัจจุบันด้วย คุณคิดว่าอิสราเอลจะเหลืออะไร
สรุปสำหรับผม มันไม่แปลกหรอกที่ปัจจุบันอิสราเอลจะชิงลงมือก่อนทุกครั้ง เพราะด้วยความเหนือชั้นของหน่วยมอสสาด

ประมาณว่าเหมือนที่เคยดู WWZ หรือเปล่าที่มีฉากนึงว่าตอนแรกที่อาหรับเคลื่อนทัพอิสราเอลลงมติว่าไม่ได้มีภัยคุกคามต่ออิสราเอล

หลังจากที่รู้แล้วว่าพวกตนคิดผิดอิสราเอลเลยคิดจะเปลี่ยนแปลงใหม่โดยการที่หากบุคคล 9 คนคิดไปในทางเดียวกัน บุคคลที่ 10

มีหน้าที่ ที่จะต้องไม่เชื่อและต้องเริ่มสืบสวนหาเหตุผลหรือหลักฐานมายืนยันให้ได้ว่าจริงๆแล้วมันตรงกันข้าม .........

คงประมาณนี้กระมังครับ XD แต่อย่างว่าก็แค่หนังคงไม่ได้มีองกรณ์อะไรพวกนี้อยุ่ด้านหลังหรอกกระมังครับ :D

  ผมอ่านจากแหล่งเดียวกับท่าน  Ghost Rider  ครับ    สมรภูมิก็ด้วย   และจากหนังสือภายนอก     รู้สึกว่าอิสราเอลใช้ทั้งสองวิธีนะครับ    วิธีการที่บินเกาะหมู่เพื่อให้ดูเป็นเครื่องบินพานิชย์  รู้สึกว่าจะมีการบินทับเส้นทางเครื่องพานิชย์ด้วยนะครับ   โดยรู้ตารางการบินมาล่วงหน้า   รู้สึกจะเป็นหมู่   F-15  ที่คอยบินคุ้มกันอยู่ด้านบน

    ท่าน Odin  ครับ     สงครามที่ทำให้อิสราเอลเกือบสิ้นชาติ  คือ  สงครามโยมคีปเปอร์ (บางเจ้าออกเสียงว่า โยมคีปปูร์)  ครับ    เป็นสงครามที่เกิดหลังจากสงคราม  6 วันครับ    

          ที่เบื้องบนของยิวตัดสินใจผิดพลาดเพราะผลจากการกระทำของอิสราเอลในสงคราม  6  วัน       ซึ่งในสงคราม  6 วันนั้น    อิสราเอลเป็นผู้ตัดสินใจชิงโจมตีก่อนหลังจากรวบรวมข่าวกรองและมั่นใจแล้วว่าฝ่ายตรงข้ามจะบุกแน่ๆครับ  

     และหลังจากจบสงคราม 6 วัน       อิสราเอลก็โดนรุมด่าและกดดันจากทุกฝ่าย    แม้แต่ฝ่ายตะวันตกและอเมริกาที่เป็นพวกเดียวกันอย่างแรงครับ           เลยทำให้เมื่อสงครามโยมคีปเปอร์มีทีท่าจะเริ่ม      อิสราเอลซึ่งสามารถตรวจเก็บข้อมูลข่าวกรองได้ก่อนแล้ว     และเบื้องบนได้รับคำเตือนมาแล้วล่วงหน้า      กลับทำให้เบื้องบนลังเลที่จะชิงโจมตีก่อนแบบสงคราม  6  วันอีก     แล้วไปเลือกตั้งรับแทนครับ     ผลจึงออกมาว่าอิสราเอลเกือบพ่ายแพ้ในสงครามโยมคีปเปอร์ทีเดียว   เกือบสิ้นชาติ       เห็นว่าถึงขนาดเกือบตัดสินใจใช้อาวุธนิวเคลียร์ที่มีอยู่เพื่อทำลายล้างคู่ต่อสู้ทีเดียว

   สงครามกลับมาพลิกเพราะความประมาทเลินเล่อและผยองกับชัยชนะที่ได้มากเกินไปของอียิปต์ครับ    จึงตัดสินใจส่งกองกำลังภาคพื้นดินและยานเกราะปฎิบัติการนอกร่มของระบบป้องกันภัยทางอากาศ      และเปิดช่องให้ ทัพฟ้าของอิสราเอลกวาดล้างจนย่อยยับครับ     สถานะการณ์จึงพลิก

เรื่องบินต่ำเรี่ยน้ำ หรือเรี่ยภูมิประเทศนั้น(แถวนั้นเป็นทะเลทรายเป็นส่วนใหญ่-คงจะคล้ายบินเหนือทะเล)นักบินอิสราเอลน่าจะฝึกกันประจำอยู่แล้ว ที่ว่าบินไกลบินต่ำขนาดนั้นไม่น่าทำได้นั้น ก็ขนาดเครื่องบินอาร์เจนติน่า(เอตองดาร์)ที่ยิงเรือเชฟฟิลด์ของอังกฤษจมในสงครามฟอล์คแลนด์ นั่นก็บินออกจากฐาน 450 nm (เติม ชพ.กลางอากาศ) และบินต่ำระดับยอดคลื่น จนไอน้ำทะเลฟุ้งขึ้นมาถึงกระจกห้องนักบิน เป็นระยะกว่า 150 nm ก่อนเข้าโจมตี ไม่รู้ความสูงเท่าใด(ความสูงขนาดตอน pop up ขึ้นมาตรวจเป้ายังแค่ 500 ft)(นาวิกศาสตร์ มิ.ย.56-นางนวลแห่งมาลบีนาส) ปัจจัยที่ข้าศึกคิดไม่ถึงว่าจะทำได้นั้นทำให้ประสบความสำเร็จครับ ผมว่าคงไม่เวอร์นะ ถ้าฝึกกันจริงจัง ปัจจุบันยิ่งเครื่องบินสมัยใหม่ที่มีระบบ Terrain following น่าจะบินได้โดยไม่ทำให้นักบินเครียดมาก บ.ทอร์นาโดของประเทศในยุโรป(เก่าแล้ว)ก็มีระบบพวกนี้ มันบินกันต่ำจนน่ากลัว ขึ้นๆลงๆตามไหล่เขา นักบินอิสราเอลเก่งเป็นอันดับต้นๆของโลก เชื่อว่าเขาทำได้แน่ เครื่องบินรบอิสราเอลฝึกบินต่ำกว่าระดับน้ำทะเล ด้วยครับ  อ้าว ไม่ได้โม้นะครับ ใครไปลงเล่นน้ำที่ Dead Sea ซึ่งเป็นชายแดน อิสราเอล-จอร์แดน จะเห็นเครื่องบินรบของอิสราเอลบินเป็นคู่ๆ บินต่ำมากๆหนือผิวน้ำDead Seaตามแนวเขตแดน  เนื่องจากระดับน้ำในDead Sea ต่ำกว่าระดับน้ำทะเลตั้งกว่า 400เมตร แสดงว่าเครื่องบินที่บินเหนือ Dead Sea ย่อมบินต่ำกว่าระดับน้ำทะเล ประมาณ 400 ม.ด้วย(555)

ขอบคุณข้อมูลของทุกท่าน....ปฏิบัติการถล่มโรงปฏิกรณ์นิวเคลียร์อิรัคคราวนั้นคือ Operatin Opera เมื่อวันที่ 7 มิ.ย.2524 โดยบ.เอฟ-16เอ จำนวน 8 เครื่องแบกระเบิดธรรมดา มารค์84 ขนาด 2,000 ปอนด์ 2 ลูกต่อเครื่อง (นน.รวมกัน 4,000 ปอนด์หรือเท่ากับ 1,818 กก.ง่ายๆ คือรถฟอร์จูนเนอร์หนึ่งคัน) หนักมากๆ อ้อ ใช้ชนวนถ่วงเวลาด้วย --- 8 เครื่องคือหน่วยโจมตี และบ.คุ้มกันคือ เอฟ-15เอ จำนวน 6 เครื่อง ในวิกิไม่ได้บอกว่าโหลดอะไรไปบ้าง..................ปฏิบัติการก็เป็นอย่างที่หลายๆท่านว่า บินหลอกจอร์แดนไป บินหลอกซาอุดี้ไป จนผ่านอ่าวอัคคาบาเจอกษัตริย์ฮุสเซนๆ แจ้งอิรัค ระบบสื่อสารขัดข้อง ซวยครั้งแรก พอเข้าเขตอิรัค ฝูง เอฟ-16 พร้อมเครื่องคุ้มกัน เอฟ-15 สองเครื่อง (เอฟ-15 สี่เครื่องที่เหลือก็แยกย้ายคอยแบ็คอัพในน่านฟ้าอิรัคแถวๆนั้น) ทั้งหมดก็บินดำดิ่งเรี่ยพื้น 30 เมตร หลบเรดาห์อิรัค พอถึงเป้าหมายก็เชิดหัวขึ้นถึงระดับ 2,100เมตร ดำดิ่งดาหน้าทิ้งระเบิดห่างกัน 5 วินาทีต่อลำที่ระดับ 1,100 เมตร ระเบิดอย่างน้อย 8 ลูกจาก 16 ลูก เข้าเป้าจังเบอ....ทราบภายหลังว่าชั่วโมงครึ่งก่อนหน้าทหารหน่วยป้องกันภัยทางอากาศของอิรัคพักกินมื้อเที่ยงแถมดันปิดเรดาห์ด้วย ซวยครั้งที่สอง ไม่รู้หน่วยนี้จะถูกส่งไปทำเหมืองแบบนักบอลเกาหลีเหนือหรือเปล่า....ปฏิบัติการจบในสองนาที หลังจากทิ้งๆๆๆๆๆ ระเบิด บ.ทั้งหมดก็กลับไปกินข้าวที่ฐานปลอดภัยทุกท่าน........เรื่องนี้ดราม่ามากอ่านได้ที่ http://en.wikipedia.org/wiki/Operation_Opera ตอนผมเด็กๆ ราวๆ ป4 สมรภูมิของบก.สมพงษ์ลงหน้าปกเป็นฝูง เอฟ-15 ด้วยสวยมั่กๆ