เดลินิวส์ - เวลา 11.00 น. วันที่ 12 ต.ค. 2556 พล.ต.ต.สุรพล ทองประเสริฐ รอง ผบช.สันติบาล  พล.ต.ต.วันชัย สุวรรณศิริเขต ผบก.ภ.เชียงราย ร่วมกันนำตัว นายธนะสิทธิ์ พูลศิริธนกานต์ อายุ 36 ปี บ้านเลขที่ 18/4 ม.16 ต.รอบเวียง อ.เมือง จ.เชียงราย จ.ส.ต.วิศวะ  ตะพานแก้ว อายุ 36 ปี บ้านเลขที่ 492/2 ถ.พระราม 1 เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ  ปัจจุบันเป็นตำรวจ ผบ.หมู่ กก.5 กองบังคับการตำรวจสันติบาล 2 นายกิติพงษ์  อินต๊ะใจ  อายุ 32 ปี บ้านเลขที่ 194/1 ม.1 ต.เกาะช้าง  อ.แม่สาย จ.เชียงราย ปัจจุบันเป็นทหารพราน สังกัดร้อย 3103 เชียงแสน กรมทหารพรานที่ 31 อ.เชียงคำ จ.พะเยา พร้อมของกลางรถยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า ซีอาวี สีเทา หมายเลขทะเบียน ภภ-186 กรุงเทพฯ อาวุธปืนกล ขนาด 7.62  จำนวน 2 กระบอกจำนวน 2 กระบอก อาวุธปืนอาร์ก้า จำนวน 2 กระบอก เครื่องกระสุนปืนขนาด 11 มม.จำนวน 14 นัด เครื่องกระสุนปืนขนาด 5.56  มม.จำนวน  50 นัด และเครื่องกระสุนปืนขนาด เอ็ม 60 จำนวน 330 นัด อาวุธปืนขนาด 9 มม. อาวุธปืนขนาด 11 มม. 1กระบอกและปืนกลมือ (อูซี่) อีกจำนวน 1 กระบอก
พล.ต.ต.สุรพล เปิดเผยว่า ได้สั่งการให้ พ.ต.ท.โชคชัย พรหมประเสริฐ สารวัตร.กก.3 บก.ส.1 หัวหน้าตำรวจสันติบาล จ.เชียงราย ไปประสานกับ พล.ต.ต.วันชัย ให้นำกำลังร่วมกับตำรวจสันติบาล ชุดปฏิบัติการ 4 บก.สส.ภ.ภาค 5 และร้อย ตชด.326 เข้าทำการตรวจสอบที่บ้านเลขที่  95 ม.1ม.1 ต.ท่าสาย อ.เมือง จ.เชียงราย ภายหลังได้รับรายงานว่ามีการนำอาวุธสงครามมาซุกซ่อนอยู่  ต่อมาพบผู้ต้องหาทั้งหมดอยู่ภายในบ้านและขนสิ่งของใส่ท้ายรถของกลางจึงเข้า ตรวจสอบพบอาวุธปืนของกลางทั้งหมดอยู่ภายในรถและภายในบ้าน จึงตรวจยึดและจับกุมตัวทั้งสามเอาไว้ สอบสวนเบื้องต้นนายธนะสิทธิ์ ให้การว่าอาวุธทั้งหมดนำมาจาก จ.สระบุรี แต่ตนเป็นเพียงคนรับจ้างเก็บปืนอาวุธไว้เป็นเงิน 30,000 บาท และจะมีผู้โทรศัพท์ติดต่อเพื่อให้ขนย้ายต่อไป ส่วนอีกสองคนให้การปฏิเสธว่าไม่ได้รู้เห็นด้วย จึงแจ้งข้อกล่าวหาทั้งหมดว่าร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในความ ครอบโดยไม่ได้รับอนุญาต และร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนที่นายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาต ให้ได้ไว้ในความครอบครอง จากนั้นได้ตรวจยึดของกลางและควบคุมตัวผู้ถูกจับกุม นำส่ง ร.ต.ท.ศรีเดช สุวรรณ์ พนักงานสอบสวน(สบ.1) สภ.เมืองเชียงราย ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
พล.ต.ต.สุรพล กล่าวอีกว่าได้กำชับให้มีการดำเนินการเรื่องนี้อย่างเต็มที่ เพราะเป็นเรื่องที่กระทบต่อความมั่นคงจึงจะมีการสืบสวนสอบสวนเพื่อขยายผลให้ ถึงที่สุด เบื้องต้นคาดว่าจะมีการนำส่งออกไปขายให้กับชนกลุ่มน้อยตามแนวตะเข็บชายแดน ส่วนทางด้านวินัยต่อเจ้าหน้าที่นั้นจะมีการดำเนินการตามขั้นตอนส่วนคดีความ ก็ต้องให้เป็นหน้าที่ของตำรวจ ภ.เชียงราย ต่อไป.