จรวดตัวซื้อไหม่ได้ข่าวว่ายิงได้ 300 โล

ถ้ามีตาดีๆ ก็คงจะพลิกเกมได้ตั้งแต่ในมุ้งเลย

เพราะถ้ายิงจากเบตง จะไปตก แถว กัวลาลัมเปอก็ได้

ยิงที่อุบล ตก พนมเปญสบาย ยิงแถว หนองคาย นครพนม ตกเวียดนามชิลๆ

ยิงที่เชียงใหม่ ตก เนปิดอว์ก็ยังได้ ส่วนป้องกันภัยทางอากาศ

ให้ ทอ รับหน้าเสื่อ ชิลๆ แค่เครื่องบินข้าึกบินขึ้น ก็เหมือน ฌาปณกิจตัวเองนั่นแหละ

บูรณาการรวม ของ 3เหล่าทัพ

ความผิดพลาดความเสียหายก็น้อยลง ใด้ประสิทธภาพและความแม่นยำเพิ่มขึ้น..

แต่ผมไม่เข้าใจว่าทำไมกองทัพบกถึงไม่เลือก ESSM หรื RIS-T SL Guided Missile ที่ใช้เรด้าของ SAAB มันจะงานต่อการส่งกำลังบำรุงและการใช้ดาต้าลิงค์แบบบูรณาการ  ง่ายและเร็วกว่า สะดวกในการจัดฝึกกำลังพล เพราะเรามีเทคโนโลยี 2 ตัวนี้อยู่ในมือแล้ว และ  SAAB ก็มาจัดตั้งสำนักงานใหญ่ประจำภาคพื้นเอเชียแปซิฟิกในประเทศไทย การร่วมมือกันในหลายด้านมันก็จะง่ายขึ้น

ทอ. กับ  ทร. ลิ้งค์กันอยู่แล้ว  ทบ. ก็กำลังมาเชื่อมด้วย .. ต่อไป แค่เรดาห์จับสัญญาณเครื่องบินรบข้าศึก

ตั้งแต่ขึ้นจากรันเวย์ แค่ไม่กี่วินาที ทุกเหล่าทัพของเราก็รู้ถึงกันหมด

บอกตามตรงนะผมไม่ค่อยชอบระบบฝรั่งเศษสักเท่าไร เราชื้อทั้งทีดันชื้อระบบที่มีระยะสันแค่ 20 กิโลเมตร ถึงหลายๆคนบอกว่ามีดีกว่าไม่มี

แต่สำหรับผมมันสั้นไปจริงๆนะ

VL Mica ใช้สายไฟเบอร์ออปติกในการเชื่อมต่อ ในทางเทคนิคแล้วสามารถเชื่อมต่อได้ไกลมากๆ และที่สำคัญคือปลอดภัยจากการแจมด้วย แต่เหมาะกับระบบป้องกันภัยทางอากาศแบบติดตั้งประจำที่ การเคลื่อนย้ายก็จะค่อนข้างยุ่งยากในการโยงสายเชื่อมต่อ
เทียบกับ Iris-T SLM ที่ใช้ระบบเครือข่าย DataLink มีขีดความสามารถในการเชื่อมต่อได้ถึง 20 กม. เมื่อรวมกับระยะยิงที่ไกล40 กม. จึงสามารถวางตำแหน่งแท่นยิงให้ครอบคลุมพื้นที่ได้กว้างมาก โดยมีความสามารถในการเคลื่อนย้ายที่ตั้งได้อย่างรวดเร็ว 

แต่ยังดีที่ เรด้าของ VL Mica เป็นของอังกฤษ ทบ.อาจอะนำมาใช้ร่วมกับ  Starstreak ที่พึ่งสั่งชื้อมาก็ได้เหมือนในรูป ถ้าเป็นระบบฝรั่งเศษหมดบอกตรงคงเหมือนกับครั้งที่ชื้อจากอิตาลิมา