ASTVผู้ จัดการออนไลน์ -- กริพเพน "สเตลธ์"? ฟังดูอาจเป็นเรื่องแปลก แต่ก็ไม่ใช่เรื่องใหม่ เพียงแต่ว่ากลุ่มซาบแห่งสวีเดนผู้ผลิตเครื่องบินรบ JAS39 ได้ปัดฝุ่นโครงการที่พับเอาไว้ 5-6 ปีก่อนมาพัฒนาต่อไปเพื่อผลิตเครื่องบินรบยุคที่ 5 ลำแรกของยุโรปออกมา มุ่งเจาะตลาดทั้งในยุโรปและเอเชีย ซึ่งเป็นที่แน่นอนว่าเรื่องแบบนี้ทางการจีนต้องจับตาอย่างใกล้ชิดโดยเฉพาะ อย่างยิ่งเมื่อมีชื่อไต้หวัน เข้าไปเกี่ยวข้องด้วย ตามรายงานของ "โกลบอลไทม์ส" นิตยสารรายไตรมาสภายใต้ร่มธงหนังสือพิมพ์ "ประชาชนรายวัน" กระบอกเสียงของพรรคคอมมิวนิสต์จีน บริษัทด้านอาวุธและการอวกาศของกลุ่มซาบได้ออกแสวงหาความร่วมมือจากไต้หวัน กับเกาหลี รวมทั้งฟินแลนด์เพื่อพัฒนาโครงการ FS-2020 หรือที่รู้จักกันทั่วไปว่าเครื่องบินรบ "กริพเพน" ยุคที่ 5 รูปทรงล่องหน มีขีดความสามารถหลบเลี่ยงการตรวจจับของเรดาร์ นิตยสารข่าวที่ทรงอิทธิพลของจีนรายงานเรื่องนี้โดยอ้างข่าวสารที่เผย แพร่ในช่วงต้นปี หลังจากมีสำนักข่าวกลาโหมตะวันตกอีกแห่งหนึ่งแพร่งพรายออกมาอีกครั้งหนึ่ง เมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า ซาบได้ปัดฝุ่นโครงการนี้กลับมาอีกครั้งหนึ่ง หลังหยุดไปเมื่อปี 2551 เมื่อสหภาพยุโรปประสบปัญหาเศรษฐกิจอันเนื่องมาจากหนี้เน่าในภาคอสังหาริม ทรัพย์ในสหรัฐ ปัจจุบันหลายประเทศในยุโรปยังคงเผชิญหน้ากับวิกฤตการเงิน แต่สวีเดนไม่ได้รวมอยู่ในกลุ่มที่เศรษฐกิจย่ำแย่เหมือนประเทศยุโรปใต้และ เป็นเวลาอันเหมาะสมสำหรับการพัฒนาโครงการ FS-2020 ต่อไปเพื่อเป้าหมายในปี 2563 ดีเฟ้นซ์นิวส์อัปเดทด็อทคอมรายงาน ส่วนสื่อจีนกล่าวว่าไต้หวันนั้นไม่ได้มีความสนใจโครงการ "กริพเพนสตลธ์" มากนัก เนื่องจากไม่เชื่อใจสวีเดนที่ในวันใดวันหนึ่งข้างหน้าอาจจะยอมอ่อนข้อให้แก่ คอมมิวนิสต์จีน นอกจากนั้นไต้หวันก็มีโครงการจะผลิตเครื่องบินรบยุคที่ 5 โดยใช้โครงร่างของ F-22 “แร็ปเตอร์” หรือ F-35 “ไล้ท์นิ่ง” ด้วยความร่วมมือช่วยเหลือจากสหรัฐที่เป็นพันธมิตรอันแนบแน่น ขณะที่ยังไม่ทราบท่าทีของเกาหลีในขณะนี้ สำหรับญี่ปุ่นเป็นที่ทราบกันดีว่ามีโครงการผลิตเครื่องบินรบยุคที่ 5 ของตัวเอง คื่อโครงการที่มีชื่อว่า ATD-X Shin Shin การเข้ามาสู่ตลาดย่านนี้ของกริพเพนสเตลธ์ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า ก็จะทำให้เอเชียแปซิฟิกมีเครื่องบินรบสุดยอดอย่างน้อย 4 รุ่น คือ J-31 ของจีน ของไต้หวัน ของญี่ปุ่นกับของกลุ่มซาบ ยังไม่นับรวมกับ F-35 ที่ญี่ปุ่นเองเป็นหุ้นส่วนหนึ่งในการศึกษาวิจัยและผลิตกับกลุ่มบริษัทล็อก ฮีดมาร์ตินแห่งสหรัฐ กับ F-22 ที่ญี่ปุ่นขอซื้ออีกด้วย การเข้ามาปรากฏตัวของกริเพนสเตลธ์จะทำให้ดูเหมือนว่า J-31 ที่จีนหมายมั่นปั้นมือจะให้เป็นกำลังหลักของกองทัพอากาศในทศวรรษหน้า กำลังจะถูกล้อมด้วยเครื่องบินรบเทคโนโลยีสูงกว่าหรืออย่างน้อยที่สุดก็สูสี กันมากมายหลายรุ่น จีนจึงต้องจับตาความเคลื่อนไหวของกลุ่มผู้ผลิตเครื่องบินสวีเดนอย่างใกล้ชิด ตามแผนการของซาบนั้น กริพเพนสเตลธ์จะใช้โครงการร่างเดิมๆ รวมทั้งปีกสามเหลี่ยมแบบเดลต้าของ JAS39 ยังคง "คานาร์ด" ด้านหน้าเอาไว้ แต่มีแพนหางคู่เอนคล้านกับหางของ F-22 ติดเครื่องยนต์ไอพ่น 1 เครื่องเช่นเดิมแต่มีเว็กเตอริ่งคอนโทรลซึ่งต่างไปจากรุ่นปัจจุบันทั้งนี้ เพื่อสร้างความคล่องแคล่วให้เครื่องบินรบยุคหน้าและยังสามารถจำหน่ายในราคา ที่สมเหตุสมผลได้คือราคาจะต่ำกว่า F-22 หรือ F-35 ของสหรัฐ สื่อกลาโหมออนไลน์บางยแห่งตั้งข้อสังเกตก่อนหน้านี้ว่า เมื่อศึกษาจากการออกแบบโครงร่างที่คล้ายคลึงกัน เครื่องบินรบยุคที่ 5 ของรัสเซียคือ T-50 PAK FA "สเตลธ์" ก็อาจได้รับแรงบันดาลใจจากกริเพนสเตลธ์ก็เป็นได้ กลุ่มซาบเริ่มโครงการ FS-2020 เมื่อปี 2548 ด้วยการศึกษาวิจัยของมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งในกรุงสตอกโฮล์ม ด้วยการสนับสนุนด้านการเงินจากกระทรวงกลาโหม โครงการเดินมาจนถึงขั้นมีการสร้างเครื่องบินโมเดลเพื่อบินทดสอบและเคยมี วิดีโอเผยแพร่จนเป็นที่ฮือฮาไปทั่วยุโรปมาแล้ว โครงการนี้ยังอยู่และถึงเวลาจะต้องวิจัยต่อไปให้ได้ข้อมูลเป็นปัจจุบันที่ สุดก่อนลงมือสร้างเครื่องต้นแบบ และ "ถึงแม้จะไม่มีฝ่ายอื่นๆ สนใจร่วมทุน ซาบก็สามารถเดินทางหน้าต่อไปได้ด้วยความเชี่ยวชาญของกลุ่มเองที่ผลิตเครื่อง บินรบมานานหลายสิบปี" เว็บไซต์ข่าวกลาโหมแห่งเดียวกันกล่าว . |
|||
2 |
|||
3 |
|||
4 สวีเดนคิดต่างไปจากกลุ่มพันธมิตรยุโรปตะวันตกโดยมุ่งผลิตเครื่องบิน รบยุคที่ 5 ออกมา ขณะที่ฝรั่งเศส อังกฤษและเยอรมนี ยังคงมุ่งมั่นพัฒนาเครื่องบินรบยุคที่ 4 กับยานบินไร้การบังคับ เพราะฉะนั้น FS-2020 จึงเป็นโครงการผลิตเครื่องบินสเตลธ์เพียงโครงการเดียวในซีกยุโรป ถ้าหากนับเริ่มต้นจาก 0 ก็ต้องยอมรับว่า JAS39 กริพเพนประสบความสำเร็จด้านการตลาดพอสมควร โดยสามารถจำหน่ายเวอร์ชั่นส่งออกให้แก่หลายประเทศ รวมทั้งสวิตเซอร์แลนด์ซึ่งสัปดาห์ที่แล้วรัฐสภาเปิดไฟเขียวให้รัฐบาลซื้อกริ พเพนอีกลอตหนึ่ง และสาธารณรัฐเช็กได้ตัดสินใจเช่าเครื่องบินรบยุคที่ 4+ ที่ผลิตในสวีเดนต่อไป สวีเดนต้องเผชิญหน้ากับแสนยานุภาพของสหภาพโซเวียตมาตลอดช่วงปีแห่ง สงครามเย็น ซึ่งก็ไม่ต่างไปจากสหพันธรัฐรัสเซียในปัจจุบันในปัจจุบันหรือรัสเซียในยุค สมบูรณาญาสิทธิราช สวีเดนต้องมีกองทัพอากาศที่เข้มแข็งและมีเครื่องบินที่ทันสมัยก็ด้วยสาเหตุ ดังกล่าว เคยมีสื่อกลาโหมบางแห่งวิเคราะห์เอาไว้อย่างน่าสนใจว่า JAS39 กริพเพนของกองทัพอากาศไทยเป็นเสมือนการปักธงของสวีเดน เป็นสัญลักษณ์การเผชิญหน้าระหว่างสวีเดนกับรัสเซียในภูมิภาคนี้ กริพเพนของไทยกำลังเผชิญกับเครื่องบินรบประสิทธิภาพสูงค่าย โซเวียต/รัสเซียที่รายล้อมอยู่รอบข้างโดยเฉพาะอย่างยิ่ง Su-30MKM ที่ทันสมัยที่สุดของมาเลเซียจำนวน 18 ลำ กับ MiG-29 อีกฝูงใหญ่ ที่เชื่อกันว่ามาเลเซียจะเลือกอัปเกรดให้ทันสมัยตามข้อเสนอของรัสเซียเมื่อ ต้นปีนี้ หากไม่นับ MiG-21 ที่ค่อนข้างเก่าของกองทัพอากาศลาว ห่างออกไปไม่ไกลนักทางทิศตะวันออกกริพเพนของไทยยังต้องเผชิญกับ Su-30MK2/MK2V ของกองทัพอากาศเวียดนามที่อาจจะมีจำนวนถึง 40 ลำภายในปี 2563 เมื่อหันไปทางทิศตะวันตกก็ยังต้องเจอ MiG-29 ในพม่าอีก 24 ลำ และไทยยังต้องเฝ้าจับตาเครื่องบินรบรุ่นใหม่ที่พม่าจัดซื้อจากรัสเซียเมื่อ ปีที่แล้ว ซึ่งจนบัดนี้ก็ยังเก็บเป็นความลับสุดยอด. กริพเพนแห่งอนาคต สำนักข่าวกลาโหมออนไลน์ |
|||
5 |
|||
6 |
|||
7 |
|||
|
อย่างนี้ในอนาคตเราก็อาจจะมี Stealth ใช้กับเขาสิครับ รึยังไง
น่าสนใจและน่าติดตาม เสียเดียวไม่มีเงินถุงเงินถังไปร่วมทุนด้วย
เทคโนโลยีแบบก้าวหน้า ต้องใช้แหล่งเงินทุนและระยะเวลา
ไม่เป็นไร เรามีตัวนี้เตรียมไว้สอยแล้ว เกือบๆพันลูก ต่อให้ SU กับ MIG
บินมาทั้งฝูง ก็ยิงไปทีละชุด .. 5 นาที ยิงไปทีละ 20 ลูก แค่นี้มันก็บินหนีจนขี้แตก
สุดท้ายก็มาเจอกริฟเพน ใล่จี้ตูดจนน้ำมันหมด แล้วก็ร่วงไปเอง อิอิ
GRIPEN STEALTH
ไม่รู้ว่ามันจะเกี่ยวข้องกับที่โบอิ้งคุยกับซาบคราวก่อนด้วยหรือไม่ครับ
เก็บเงินไว้รอsaabดีกว่าF-35 เพราะราคาถูกกว่า หน้าจะได้เร็วกว่าด้วยถ้าจะซื้อจริงๆ
ส่วนตัวผมคิดว่ากองทัพอากาศไทยเรามาทางซาบแล้ว เราน่าจะมองโครงการนี้เอาไว้บ้าง
เชียนไปเรื่อยเจื้อยเลยเว้ย