หน้าแรก    ตั้งกระทู้ใหม่   ตอบคำถาม    เข้าสู่ระบบ      


สรุปโครงการเรือดำน้ำ U206A ที่ล่มไป คิดว่าเราโชคดีหรือโชคร้ายกันแน่

โดยคุณ : Ares เมื่อวันที่ : 30/04/2014 16:18:11

จากที่อ่านความคิดเห็นในกระทู้ข้างล่าง มีหลายท่านกล่าวว่าการซื้อขายอาวุธระหว่างเรากับเยอรมันที่ผ่านมาหลายรายการมีปัญหา ซึ่งถ้าเป็นอย่างที่กล่าวมาจริง เลยสงสัยว่าแล้วทำไมคนในบอร์ดนี้ส่วนใหญ่ถึงยังเชียร์เรือดำน้ำ U206A ไม่กล้วว่าเราจะมีปัญหาภายหลังหรือ

             เปรียบเทียบกับเรื่องปืน G36 ความเสียหายที่เกิดขึ้นกับเรายังมีมูลค่าไม่มากนัก แต่ถ้าเป็นกับเรือดำน้ำ U206A ล่ะ เกิดเยอรมันเลิกสนับสนุนเราในภายหลัง ด้วยองค์ความรู้เรื่องเรือดำน้ำในปัจจุบันของเราไม่มีเลย แบบนี้ทร.ก็แย่ซิ เพราะไม่สามารถแก้ไขปัญหาอะไรได้เอง หรือแม้แต่จะไปให้ประเทศอื่นช่วย ก็คงจะไม่สมบูรณ์เหมือนกับเยอรมันเอง

             ส่วนถ้าในอนาคตเรามีโครงการจะซื้อเรือดำน้ำใหม่ เราก็ต้องตัดตัวเลือกอย่างเยอรมันกับเกาหลีใต้ไปเลยใช่ไหม ยกเว้นว่าเกาหลีใต้จะสามารถพัฒนาแบบเรือของตัวเองได้เอง รวมไปถึงการซื้ออาวุธอื่นๆจากเยอรมันหรือที่มีความเกี่ยวข้องกับเยอรมัน กองทัพเราต้องเลิกเลยหรือไม่ เพื่อความปลอดภัยและมั่นคง





ความคิดเห็นที่ 1


เขา Block เฉพาะอาวุธ ที่สามารถนำมา ละเมิดประชาชนโดยตรง ได้ เท่านั้น ครับ...และเป็นแค่ในช่วงระยะเวลาหนึ่ง เท่านั้น...(ซึ่งก็เป็นเหมือนกันหมดทุกประเทศ แหล่ะครับ..ยกเว้น กลุ่มประเทศสังคมนิยม เท่านั้น)

Alpha Jet ก็ไม่เห็นจะมีปัญหาอะไร...

ส่วนเรือดำน้ำ U-206A ถ้าติดตามข้อมูล เขาก็จะขายให้มาทั้งกระบิ....ยกอะไหล่ให้หมด...

ความสัมพันธ์ของ ทร.เยอรมัน กับ ทร.ไทย มีความแนบแน่นมายาวนาน...

พระบรมชนก (เจ้าฟ้าทหารเรือ) ก็เคยไปประจำการฝึกเป็นลูกเรือบนเรือหลวงของ เยอรมัน หลายปี (สมัยก่อน ฮิตเล่อร์ ยึดอำนาจ)...จนเมื่อ ท่านเข้ารับราชการทหารเรือ ก็นำแนวคิดของ กองทัพเรือเยอรมัน มาพัฒนากองทัพเรือ ที่สำคัญ ก็คือ เรือ ส. นั่นเอง (ถ้าจำไม่ผิด ส. มาจาก คำว่า Submarine)

โดยคุณ juldas เมื่อวันที่ 11/09/2013 11:33:25


ความคิดเห็นที่ 2


ตามที่ท่าน Juldas บอกครับ นั่นคือเรื่องที่น่าเสียดายเป็นอย่างยิ่งครับ เพราะในข้อเสนอที่ได้รับนั้นนอกจากการซ่อมคืนสภาพ/เปลี่ยนแบตเตอรี่ใหม่แล้ว ยังได้รวมถึงอะไหล่ทั้งหมดที่ทางเยอรมันมีเก็บไว้ และยังรวมถึงเครื่องจักรเครื่องมือที่ใช้ในการดูแลรักษาซ่อมบำรุงเรือดำน้ำที่ทางเยอรมันเคยมีใช้สำหรับกองเรือดำน้ำ U-206A ทั้งหมดเลยทีเดียวครับ ที่สำคัญคือตัวเรือรุ่นนี้(รุ่นที่ทางเยอรมันใช้เอง)ทำจากโลหะพิเศษที่ไม่ผุกร่อนเป็น Non-Magnetic Steel ซึ่งถือได้ว่ามีอายุการใช้งานไม่จำกัดอีกด้วย

โดยคุณ TWG เมื่อวันที่ 11/09/2013 12:31:40


ความคิดเห็นที่ 3


ช้าๆ อาจใด้พร้า เล่มงามๆ

u-206-1



โดยคุณ fantom เมื่อวันที่ 11/09/2013 13:51:03


ความคิดเห็นที่ 4


เอิ่มนั่นคือที่เราจะได้หรอครับถ้าเอามาตอนนั้นผมขอเปลี่ยนใจได้ไหมครับไม่ว่ากันน่ะ LOL

โดยคุณ FiTaLipz เมื่อวันที่ 11/09/2013 14:15:34


ความคิดเห็นที่ 5


ในดีลนั้นมี U-206A ทั้งหมด 6 ลำ โดยเป็นเรือที่ได้ปรับปรุงยืดอายุมาก่อนแล้วและสภาพดี 4 ลำ(ตอนนี้โคลัมเบียซื้อไปแล้ว 2 กำลังจะขอซื้อเพิ่มอีก 2 ) ซึ่งก่อนจะส่งมอบก็จะมีการซ่อมบูรณะแบบยกลำทั้งหมดก่อน ส่วนอีก 2 ลำจะเป็นลำที่ทรุดโทรมมากกว่า(น่าจะเป็นในรูปข้างบน) คงนำมาใช้บางส่วนเป็นอะไหล่สำรอง และนำมาใช้เป็นเรือจำลองในการฝึกลูกเรือเท่านั้น ถ้าจะดูสภาพเรือก็น่าจะหารูปเรือของโคลัมเบียมาดูจะดีกว่าครับ

โดยคุณ TWG เมื่อวันที่ 11/09/2013 14:37:40


ความคิดเห็นที่ 6


โอว non magnetic steel ไม่ผุกร่อน หน้าตาเป็นแบบนี้นี่เอง..........เอวัง

โดยคุณ manukit เมื่อวันที่ 11/09/2013 14:42:18


ความคิดเห็นที่ 7


ก่อนอื่น ผมว่า โชคดี ที่เราได้ ถ้าการจัดซื้อไม่ติดขัดอะไร

คุณ เข้าใจคำว่า เรือดำน้ำฝึก บ้างไหมครับ แม้แต่การที่คนจะเป็นนักบินขับไล่ ก็ล้วนแต่ต้องผ่านการขับเครื่องบินฝึกด้วยกันทั้งนั้น

1.ถ้าได้ U-206A มา อย่าลืมว่า เราให้เยอรมันอับเกรดระบบภายในให้เรียบร้อยแล้วนะครับ โดยการเข้าอู่เรืออับเกรดระบบให้ทันสมัยขึ้นใหม่ ได้มา 6 ลำ ในราคาที่ถือว่า คุ้ม นะผมว่า / ซื้อมาแล้ว มีความพร้อมรบทันที โดย 2 ลำ ทำการฝึกบุคคลกรเรือดำน้ำ อีก 2 ลำ ก็ออกปฏิบัติการ แล้วอีกลำที่เหลือ ก็ใช้เพื่อเป็นอะไหล่ / เมื่ออีก 2 ลำ กลับมาจากปฏิบัติการ อีก 2 ลำ ที่ใช้ฝึก ก็ออกปฏิบัติการทำภารกิจได้อย่างต่อเนื่อง

2. บุคคลากร ได้รับการฝึกฝนทักษะเกี่ยวกะเรือดำน้ำและมีชั่วโมงการฝึกมากขึ้น+พร้อมๆ กะได้สำรวจพื้นที่ใต้สมุทรของทะเลบ้านเรา

3. เมื่อได้ซื้อ U-206A มาแล้ว ความสัมพันธ์ ย่อมจะต่อเนื่องที่จะได้ซื้อเรือมือหนึ่งอย่าง U-33 (ใช่ รุ่นที่เยอรมันส่งออกเปล่าครับ ไม่แน่ใจ) ทุกอย่าง มันมีความต่อเนื่องกันที่เรามีการจัดซื้อ เมื่อได้มือหนึ่งมาแล้ว ก็บวกเพิ่มกะเรือดำน้ำ U-206A ที่เรามีอยู่แล้ว ความพร้อมรบ ก็มีเพิ่มมากขึนอีก+เรือดำน้ำ ก็มีเพิ่มมากขึ้นอีกหลายลำ

4. ต่อให้คุณซื้อเรือเกาหลีใต้มา คุณก็ต้องซื้อเรือดำน้ำฝึกมาอยู่ดี หรือจะเอาเรือดำน้ำมือหนึ่ง ไปวิ่งชนหินโสโครกให้มันพังเล่น แล้วบอกว่า เพื่อประสบการณ์ (ค่าซ่อมบาน) โดยที่ทางเลือกมีให้อยู่แล้วที่เรือดำน้ำฝึก ปล.ขนาดสิงคโปร์ มีเงินมากอยู่แล้ว เขายังซื้อเรือดำน้ำมือสอง เพื่อมาฝึกคน ก่อนขับเรือดำน้ำมือหนึ่งเลยครับ

ถ้าไม่ติดขัดอะไร ผมว่า เราโชคดี+แถมคุ้มค่าด้วย ส่วนภาพที่แสดงด้านบน ถ้าสังเกตุดีๆ สภาพมันก็ยังดีมากนะ เอาเข้าอู่+ขัดเกลาซักหน่อย+เปลี่ยนอะไหล่อุปกรณ์ภายใน ก็แจ๋ว เหมือนอย่างในคลิปนี้แหล่ะ

ปล.เอาภาพมาลงแสดงแบบนี้ ตักกะเหมือนกะที่เรื่องไปไม่ถึงกลาโหม ยังไงไม่รู้แฮ่ะ ทำไม ไม่ลองไปดูให้มันเห็นกะตาเลยหล่ะครับ เรือดำน้ำมือสองตัวเป็นๆ ที่ขนาดเยอรมัน ยังเอาออกปฏิบัติการลาดตะเวนอยู่นะ, เพราะเขา คงไม่เอาเรือดำน้ำในรูปไปลาดตะเวนตรวจตราหรอกครับ ในรูป อาจจะเป็นแค่เรือดำน้ำอะไหล่ก็ได้ครับ

โดยคุณ gto25302530 เมื่อวันที่ 11/09/2013 14:50:45


ความคิดเห็นที่ 8


ถ้าสมมติว่า ได้ U-206A โดยไม่ติดขัดอะไร ไม่แน่ เรือดำน้ำมือหนึ่งของเรา อาจเป็นของเยอรมันรุ่นส่งออกหน้าตาแบบนี้ ก็ได้ครับ (แต่ในคลิป ไม่แน่ใจเหมือนกันครับว่า เป็นรุ่นที่เยอรมัน ส่งออกขายให้กะต่างประเทศหรือเปล่า)

ปล. เผลอๆ รถถังของ ทบ. อาจเป็นเจ้าลีโอ ก็ได้ครับ

โดยคุณ gto25302530 เมื่อวันที่ 11/09/2013 15:14:44


ความคิดเห็นที่ 9


ตามภาพ ลองดูน่าจะเป็น U026 กับ U028 (ลองเล็ง ๆ ตรงสะพานเรือ) ซึ่งไม่ใช่ที่ เสนอขายให้ ไทย กับ โคลัมเบีย ครับ...

S177 U28 DRDV October 1972 January 1974 December 18, 1974 June 30, 2004 scrapped
S175 U26 DRDT July 1972 November 1973 March 13, 1975 November 9, 2005

scrapped

โดยคุณ juldas เมื่อวันที่ 11/09/2013 15:50:02


ความคิดเห็นที่ 10


ตอนนี้ น่าจะเหลือ U-15 กับ U-17 ที่ปลดระวางปี 2010...ซึ่งไม่ใช่ลำที่เป็น อะไหล่...

 

โดยคุณ juldas เมื่อวันที่ 11/09/2013 16:00:53


ความคิดเห็นที่ 11


ผมคิดว่าถ้ายังมี U206 เหลืออยู่ก็ยังมีความน่าสนใจเอามาใช้ฝึกสัก 2 ลำระหว่างจัดหาเรือดำน้ำมือหนึ่งต่อไป

และยังมีอีกลำที่เรือ U214 ที่เยอรมันต่อให้กรีซ ไม่แน่ใจว่าสถานะในปัจจุบันเป็นอย่างไร คือผมเคยอ่านกระทู้เก่าปี 2551 หัวข้อ :....กำลังขายดี U-214 buy ปากีสถาน-กรีซ-ตุรกีนาวี ?  ที่กรีซไม่ยอมรับมอบเรือ U214  ราคาก็ประมาณ 300-400 ล้าน US ถ้ายังอยู่ก็น่าสนใจ (ผมมองว่าที่ไม่รับมอบเนื่องจากขาดงบประมาณมากกว่าปัญหาเรื่องคุณภาพเรือ)

ทั้งหมดก็ U206 2 ลำ  U214 1 ลำ ในราคาประมาณ 400-500 ล้าน US  ทร. น่าพอรับได้ครับ

โดยคุณ rayong เมื่อวันที่ 11/09/2013 16:47:40


ความคิดเห็นที่ 12


ท่านJudas พูดถูกครับ เขาจะมองดูอาวุธที่มีสิทธิ์นำไปใช้ละเมิดสิทธิมนุษยชน เพราะฉะนั้นอาวุธทางบก รวมทั้งรถถังซุ่มเสี่ยงเข้าข่ายนี้หมด การละเมิดมนุษยชนไม่ได้หมายถึงแค่การรัฐประหาร แต่เหตุการใน3จชต ก็สุ่มเสี่ยงจะเข้าข่าย ส่วนอาวุธอื่น ค่อนข้างจะปลอดภัย ดูอย่างalphajet ของทอก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร. เรือดำน้ำเป็นอะไรที่น่าเสียดายมาก 

โดยคุณ skysky เมื่อวันที่ 11/09/2013 16:49:34


ความคิดเห็นที่ 13


เสียดายโอกาสดีดีที่ผ่านเลยไป ถ้าพอมีโอกาสอีกทีจัดได้เลยครับ

 ผมขอสนับสนุนครับ

 

โดยคุณ part88 เมื่อวันที่ 11/09/2013 18:08:27


ความคิดเห็นที่ 14


ผมว่าท่านที่เอารูป ด.ที่จอดในท่า หน้าตาทรุดโทรมเพื่อเย้ยหยัน หรือกระทบกระเทียบผู้ที่สนับสนุนโครงการที่ผ่านไปแล้ว และโอกาสที่จะจัดหาเรือรุ่นนี้ต่อไปเป็นไปไม่ได้แล้วนั้น ควรตรวจ ค้นคว้าหาข้อมูลที่ถูกต้องเสียก่อนนะครับ  เวบไซต์นี้น่าจะถกแถลงกันด้วยเหตุผล และข้อเท็จจริง ซึ่งจะทำให้ผู้ใช้มีมาตรฐานสูงขึ้นด้วย ไม่ใช่เอามันอย่างเดียว  แค่เปิด Wiki เกี่ยวกับ  ด. 206 ดูก็ทราบว่า ด.รุ่นนี้ สร้างมาตั้ง 18 ลำ ใช้ไปจนเหลือ 6 ลำสุดท้ายที่ปรับปรุงไปเป็น 206A แล้ว เรือที่เหลือขณะเราจะซื้อนั้น ยังไม่ได้ปลดประจำการเลย จะเป็นแบบ Hot Transfer  เรือที่ดีที่สุด คือ U 23 U24 ซึ่งตอนนี้ ทร.โคลัมเบียซื้อและรับมอบไปแล้วเมื่อ 27 ส.ค.2555(ดูรูป) ลำที่ดีต่อมา คือ  U 16 U 18 ซึ่ง ทร.จะซื้อและปรับปรุงด้วย (และตอนนี้รับทราบจากกำลังพล ทร.ที่ไปฝึกอบรมทราบว่าโคลัมเบียก็จะซื้อไปด้วย) ส่วน 2 ลำสุดท้ายคือ U15 U17 นั้นสภาพไม่ดีนัก ทร.จะเอามาเป็นอะไหล่ รูปที่บางท่านเอามาลงประชดนั้น มองให้ดีที่หอบังคับการจะเห็นตัวเลขรางฯ  ไม่มี 6 ลำที่ว่านี้เลย มันเป็น U 26 U 28 หรืออะไรประมาณนี้ U28 ปลดเมื่อ ปี 2547 U 26 ปลด 2548 รูปถ่ายเมื่อไรก็ไม่ทราบ แต่ตอนถ่ายคงใกล้จะตัดเป็นเศษเหล็กแล้ว  อย่างไรก็ตามเราก็ควรทราบว่า บริเวณหัวเรือ และหอบังคับการนั้น ไม่ได้ทำด้วยวัสดุที่ทำตัวเรือ ส่วนที่เป็น Pressure Hull (ซึ่งเป็นทรงกระบอก ส่วนหอก็มีเพียงส่วนชั้นในทรงกระบอกทางดิ่งที่ทนแรงกดได้) หัวเรือเป็นโดมโซนาร์  ส่วนที่ต้องการให้คลื่นเสียงผ่านเข้าออกได้ เป็นวัสดุสังเคราะห์ครับ รุ่นเก่า เป็น FRP รุ่นต่อๆมาเป็น GRP ,CFRP คือเป็นพลาสติกนั่นเอง บางส่วนของหอฯก็ใช้วัสดุนี้นะครับ  เพราะฉะนั้นเรือหัวเรือนั้นทำความสะอาด ทาสีใหม่ หรือเปลี่ยนใหม่ไม่ใช่เรื่องใหญ่เลย ขอให้ดูที่ตัวเรือรูปทรงกระบอกดีกว่าว่ามันทรุดโทรมตรงใหน

http://www.thyssenkrupp-marinesystems.com/en/composite-materials.html

 

ทร.คิดดีแล้วครับ(ผมเชื่ออย่างนั้น) แต่ทำความเข้าใจกับผู้คนไม่ได้ และก็มีคนที่ไม่ยอมเข้าใจโดยมีเป้าหมายอื่นอยู่แล้วก็เลยจบไป เราเคยคิดกันใหมครับว่ากว่าเราจะมี ด.ไม่ว่าใหม่หรือเก่า ประมาณ 10 ปีจากนี้ ตอนนั้นประเทศเพื่อนบ้านเรามีประสบการณ์ในการใช้ ด.ถึงระดับใหนแล้ว ทั้งที่เรามีโอกาสเมื่อ 2 ปีที่แล้ว ที่จะมี ด.มาฝึกและใช้งานประมาณ 10 ปี+โดยมีต้นทุนการใช้งานเพียงประมาณ150 ล้าน/ลำ/ปี(ไม่คิดค่า operate)

เรื่องนี้น่าจะจบได้แล้วครับ เพราะจะเถียงกันต่อไปอย่างไรก็ไม่มีโอกาสนั้นแล้ว

ด.ของโคลัมเบีย


โดยคุณ sboot เมื่อวันที่ 11/09/2013 21:44:29


ความคิดเห็นที่ 15


ถ้าเราได้เรือ U 206 A มา 4 ลำก็ไม่เพียงพอสำหรับประเทศไทยครับ (เพราะเรามี 2 ฝั่ง)

ยังไงก็ต้องจัดหาเรือดำน้ำใหม่เพิ่มอยู่ดีครับ  อย่างน้อย 2 ลำ ซึ่งคงเป็นเรือตระกูลเยอรมันเหมือนกัน ครับ

แต่ถ้าได้มา ทำให้เราไม่ต้องเร่งรีบจัดหาเรือใหม่เร็วนัก  จะทำให้ผ่อนคลายงบประมาณไปได้มาก

เรื่องเรือดำน้ำใครๆ ถือเป็นเรื่องใหญ่ เรื่องสำคัญ ไม่ต้องปิดประตูอยู่แต่ในบ้านอย่างเดียว

ออกไปขอบนอกก็เสี่ยงสูง  เรืออื่นพลอยใช้งานไม่เต็มประสิทธิภาพไปด้วยเปล่าๆ

ที่สำคัญเรื่องข่าวสาร ชายฝั่งเพื่อนบ้านที่ก้าวร้าวเราก็ไม่มี  เหมือนคนตาบอด

การเฝ้าตรวจการณ์อย่างต่อเนื่องก็ทำไม่ได้....(ข่าวที่ไม่ต่อเนื่องมีเชื่อถือได้ค่อนข้างต่ำ)

โดยคุณ airy เมื่อวันที่ 11/09/2013 23:03:54


ความคิดเห็นที่ 16


ท่าน sboot ผมเย้ยหยันตรงใหน ภาพที่ผมโพ้สคุณคิดว่าผมสร้างขึ้นมาเองงั้นหรือ...?

ถกกันด้วยเหตุผลและข้อเท็จจริงนั้นที่คุณพูดนั้น... แสดงว่ารูปที่ผมโพ้สเป็นของเท็จ งั้นหรือครับ...?

ส่วนที่สร้างมา 18ลำนั้น ถูกครับ แล้วคัดเลือกสภาพที่ดีที่สุดมา6ลำอัพเกรด เป็น U-206a ในช่วงปี1999

ซึ่งคงไม่ใช่ใช้ไปจนเหลือ 6ลำสุดท้ายหรอกครับ และกลับไปดูอีกทีรูปที่โพ้สผมไม่เคยโพ้สว่าเป็น 6ลำที่ปรับปปรุง..ถูกไม๊ครับ

ส่วน non magnetic steel เริ่มจาก U-205 แต่ยังไม่ประสพผลสำเร็จ

และคำถามสุดท้าย ที่ผมโพ้สน่ะ มันมันส์และสนุกงั้นหรือ...?

คำว่า ช้าๆ อาจใด้พร้าเล่มงามๆ คุณคิดความหมายมันออกไม๊ครับ ....?

โดยคุณ fantom เมื่อวันที่ 12/09/2013 00:07:05


ความคิดเห็นที่ 17


รูปและคำบรรยายที่คุณ fantom โพสต์ ไม่ใช่รูปเท็จ แต่ก็ misleading ระดับนึงล่ะครับ ในเมื่อคำถามถามถึงโครงการเรือ 206A ที่ ทร.เคยเสนอ แต่คุณเอารูปเรือแบบเดียวกันที่รอคิวถูกตัดทิ้งมาลง ซึ่งถึงจะเป็นเรือรุ่นเดียวกันแต่ก็ไม่ได้อยู่ในสภาพเดียวกับเรือตามโครงการในคำถามตอนต้น

ส่วนเรื่องช้าๆ ได้พร้าเล่มงาม น่าจะเป็นตามที่คุณ airy โพสต์มากกว่า คือถ้าได้ชุดแรกมาเป็น gap filling ก่อนก็จะทำให้ความจำเป็นเร่งด่วนลดลงไปและสามารถยืดเวลาจัดหาเรือใหม่ไปได้อีก 10-15 ปี

สุดท้ายในเรื่องของ non-magnetic steel hull ไม่สำเร็จในชุดเรือ 205 แต่เยอรมันก็ปรับปรุงจนสามารถแก้ปัญหาได้ในชุด 206/206A และในชุด 212A ของ ทร.เยอรมันที่มาทดแทน 206A ก็ใช้ non-magnetic steel เช่นเดียวกัน ถ้าจะพูดเรื่องความผุกร่อน ส่วนที่เห็นในภาพก็ไม่ได้ผุกร่อนอะไร ตัวเหล็กไม่ได้บางลงด้วยซ้ำ แค่บุบและสีลอกมากกว่าครับ ถ้าอยากดูเหล็กเรือผุกร่อนแนะนำให้ดูเรืออื่นที่อายุ 30-40 ปี (อายุไล่ๆ กับ 206 ในภาพ) เทียบกันดีกว่าครับ จะได้เห็นว่าเหล็กผุกร่อนจริงๆ เป็นอย่างไร (ถ้าจะให้เทียบกัน สภาพดาดฟ้าเหนือแนวน้ำของเรือผิวน้ำหลายลำยังสู้ดาดฟ้าเรือดำน้ำในภาพที่จมอยู่ใต้น้ำบ่อยๆ ไม่ได้)

โดยคุณ กัปตันนีโม เมื่อวันที่ 12/09/2013 03:41:39


ความคิดเห็นที่ 18


แบบไหนก็ได้ขอแค่ให้มีไว้ฝึกศึกษาก่อน จะเก่าจะใหม่จะจีนรัสเซียเยอรมันเกาหลีก็แล้วแต่

โดยคุณ pop04 เมื่อวันที่ 12/09/2013 05:11:10


ความคิดเห็นที่ 19


ผมขออนุญาตไม่โต้เถียงกันนะครับ เหมือนที่บางท่านว่า รูปไม่ใช่รูปเท็จแน่นอน แต่ควรเป็นรูปอื่น เพราะมัน mislead อย่างน้อยก็มี 3 ท่านที่เห็นรูปแล้วบอกว่า เออ เห็นแล้วลำนี้เหรอ ไม่เอาดีกว่า ผู้อ่านอ่านความคิดเห็นทั้งสองด้านแล้วคงวินิจฉัยเองได้

- เอาข้อมูลดีกว่า  ที่ผมบอกว่า ด.มี 18 ลำ ใช้ไปจนเหลือ 6 ลำ เป็นการละไว้ในฐานที่เข้าใจ จะได้ไม่ต้องพูดยาว แต่ไม่ใช่เขาคัดเอาลำสภาพดี 6 ลำมาปรับปรุงเป็น 206 A นะครับ เขาปรับปรุงเป็น 206Aไป 12 ลำ(ดูได้ใน wiki ทั้งภาษาอังกฤษและเยอรมัน)ต่อมาก็ทะยอยปลดไปจนเหลือ 6 ลำ เป็นการปลดก่อนเวลาตามแผนลดกำลังรบ และแผนโครงสร้างของ ทร.ยม.ขณะนี้ก็จะมี ด.เพียง 6 ลำเท่านั้น ไม่มีเพิ่ม

-เรื่องเรือรบเยอรมันนั้นผมพอรู้อยู่บ้าง เพราะเคยเดินทาง/ฝึก/ปฏิบัติงาน/สังเกตการณ์ในเรือของ ทร.เยอรมัน หลายลำ เดินทางไปเป็นระยะทางรวมกว่า 50,000 ไมล์ทะเล      สำหรับ ด.แม้ไม่ได้เป็นนักเรือดำน้ำแต่ก็เคยออกทะเลไปสั้นๆครั้งหนึ่งกับ 206 ตอนยังไม่เป็น A 

โดยคุณ sboot เมื่อวันที่ 12/09/2013 07:26:18


ความคิดเห็นที่ 20


non magnetic steel   ผมว่ามันไม่ผุกร่อนง่ายๆเหมือนในรูปหรอก  ที่เห็นแค่เป็นรอยถลอก

แล้วเป็นสีสนิมภายนอกนิดหน่อย แค่ทาสีใหม่ก็เหมือนเดิมแล้ว

สมัยก่อน การใช้เหล็ก non magnetic วัตถุประสงค์เพื่อป้องกันการตรวจจับโลหะ แต่ ผลพลอยได้

คือ มันผุกร่อนช้า จนมันสามารถอยู่มาได้จนทุกวันนี้ แม้จะมีอายุ 40 ปี แล้วก็ตาม

แต่ ปัจจุบัน คำว่า non magnatic วัตถุประสงค์หลัก น่าจะเพื่อความคงทนถาวรมากกว่า

เพราะเทคโนโลยีสมัยนี้ สามารถตรวจจับวัตถุที่เป็น non magnatic ได้

โดยคุณ soda77 เมื่อวันที่ 12/09/2013 09:55:17


ความคิดเห็นที่ 21


อันนี้ถ้ามีให้กด like ผมที่จะกดแบบซอยถี่ๆให้เลย  เอาแบบว่า โอกาสทองแบบนี้จะหาที่ไหนได้อีกแล้ว เรือที่สามารถใช้งานได้อีกอย่างน้อย 12-15 ปี จำนวน 6 ลำในราคาแพ็คเกจเพียงแค่ 7000 ล้านบาท !!!!!.......... เฮ้อ การเมืองหนอ....การเมือง

    ส่วนคนที่บอกว่ามันเก่า ผมจะบอกให้ว่าแม้เรือ U206 ถึงมันจะเก่าและใช้ได้กับอาวุธ ตอร์ปิโดเพียงอย่างเดียว (ไม่สามารถใช้จรวด UGM) แต่มันได้ขึ้นชื่อว่าเป็นเรือดำน้ำตระกูลเยอรมันที่มีความเงียบเป็นอาวุธร้าย ดังนั้นถึงมันจะไม่ดีเท่าเรือ scorpene ของมาเลเซีย หรือ กิโล ของเวียดนาม แต่มันสามารถใช้ความเงียบ บวกกับมันได้เปรียบในเรื่องของความชำนาญพื้นที่ในฐานะเจ้าบ้านเพื่อใช้สำหรับซุ่มรอและกบดาน ต่อให้ scorpene ของมาเลเซียที่ว่าเจ็งๆ ถ้าเจอ U-206 เข้าประกบ 2 ต่อ 1 คือ scorpene 2 ลำ โดนประกบโดย U206 4 ลำเข้าไป คุณคิดว่า scorpene 2 ลำนี้ จะรอดกลับออกไปจากอ่าวไทยหรือครับ เฮอะๆ.......ไม่มีซะละ

โดยคุณ ObeOne เมื่อวันที่ 12/09/2013 23:56:44


ความคิดเห็นที่ 22


ยอมรับ ตามเหตุที่ท่าน กับตันนีโม ว่ามาครับ แต่ถึงอย่างไรผมก็ยังคงมองถึงความล้าสมัยและความเก่าอยู่เช่นเดิม

และคงมีผมเพียงคนเดียวในบอร์ดนี้ที่ยังไม่เห็นด้วยหรือค้านกับเรือชุดนี้มาตลอด ...

โดยคุณ fantom เมื่อวันที่ 13/09/2013 10:32:02


ความคิดเห็นที่ 23


ส่วนผม สนับสนุน 100% อิอิ ถ้าสมมติว่า ผ่าน โดยไม่ติดขัดอะไร ป่านนี้ บุคคลากรของเรา คงมีประสบการณ์และชั่วโมงการฝึกที่มากขึ้นและกำลังขมักเขม้นฝึกและสำรวจตรวจตราภูมิศาสตร์พื้นที่ใต้ท้องทะไทย ทำให้รู้ว่า จุดไหน เป็นจุดอับ จุดไหน เป็นหุบเหว จุดไหน เป็นพื้นที่หินโสโครก

แล้วมาถึงตอนนี้ ทร. ก็จะได้สั่งซื้อเรือดำน้ำมือหนึ่ง มาเพิ่มเติมอีก เพราะ % ของการได้ มันมีมากอยู่แล้ว (สมมตินะครับ ถ้าไม่ติดขัดไร) โดยที่ความมุ่งหวังของทร. จะเน้นเรื่องเรือดำน้ำมาก่อน เส็จจากเรื่องดำน้ำแล้ว ทร. คงจะหันไปหาเรื่องเรือฟริเกตสมรรถสูง เพิ่มเติม

ส่วนนะตอนนี้ ที่เราพลาดไป เราก็ยังไม่แน่ใจกะเรือดำน้ำ เป็นได้เพียงแค่การฝึกบุคคลากรเตรียมไว้ ในขณะที่เพื่อนบ้าน เอาเรือดำน้ำ มาป้วนเปี้ยนในอ่าวของเราสบายๆ

เพราะยังไง ผมก็สนับสนุนมากอยู่แล้ว หากมันไม่ติดขัดอะไร

โดยคุณ gto25302530 เมื่อวันที่ 13/09/2013 12:31:29


ความคิดเห็นที่ 24


มีผมอีกคนด้วยน่ะ ท่าน fantom  ที่เห็นด้วยแค่ครึ่งเดียว

.. สมมุติ ถ้าเราได้ U206A มือสองมา 6 ลำ ซึ่งเห็นจะสามารถใช้งานได้อีก 15-20 ปี .. ผมกลัวว่า

รัฐบาลจะตัดความสำคัญของเรือดำน้ำป้ายแดงออกไป  เพราะคิดว่าเรามีใช้อยู่แล้ว เพราะพวกรัฐบาล

เขาไม่ได้มีความคิดเหมือนพวกเราในบอร์ดนี้ เขาห่วงแต่งบประมาณที่จะเอาไปใช้ด้านอื่นๆที่มีโอกาศ

ได้คะแนนเสียงมากกว่า

มาวันนี้ ทุกประเทศรอบบ้านเขามีเรือดำน้ำกันหมดแล้ว ยิ่งเวียดนามได้เรือดำน้ำป้ายแดงมา 6 ลำ

ผมว่ารัฐบาลคงนั่งไม่ติดแล้วหล่ะ เจอแรงกดดันทั้งจากฝ่ายทหารและประชาชน ว่าทำไมเราไม่มี

ทีนี้ .. เร็วๆนี้เราก็จะได้อนุมัติงบซื้อเรือดำน้ำแน่นอน และต้องเป็นรุ่นที่เหนือกว่าของประเทศรอบบ้านด้วย

เพื่อแสดงให้เห็นว่า เรายังเป็น เบอร์ 1 ในย่านนี้

โดยคุณ soda77 เมื่อวันที่ 13/09/2013 20:25:14


ความคิดเห็นที่ 25


ขอชื่นชมในสปิริต ท่าน fantom นะครับ แต่ส่วนตัวผมชอบโครงการนี้ นะครับ เงินประมาณ 7000 ล้าน ได้เรือ ที่ใช้งาน 4 ลำ พร้อมการฝึกศึกษา กับอายุใช้งานประมาณ 10 ปี ตก ปีละ 700 ซื้อมาได้เรือเกือบจะทันทีไม่ต้องรอนาน แถมจะได้มีโอกาส ซ่อมบำรุง ฝึกศึกษาการออกแบบเรือ ในอนาคตเมื่อปลดประจำการ (เอามาชำแหละ ดู เป็นแนวทางพัฒนาและออกแบบเรือดำน้ำขนาดเล็กในอนาคต) 

ส่วนเรื่องเรือดำน้ำใหม่ ที่เห็นว่าจะเหนือกว่า แมงป่อง กับ กิโล ผมนึกไม่ออกจริงๆว่าตัวไหน เห็นจะมีก็ เจ้า เรือ เยอรมันนี้แหละครับ 212/214  เรือเกาหลีไม่ผ่านในสายตาผมนะ(ภายใต้สิทธบัตร) ยังไงผมชอบของแท้ๆมากกว่า แต่ราคาคงเอาเรื่องเหมือนกัน

ปล.แต่ยังไงซะคิดว่าเรือ เยอรมัน กับ ฝรั่งเศส ราคาคงไม่หนีกันสักเท่าไหร่ ...พี่ไทยเรามีปัญญาซื้อแน่ๆ ถ้าจะเอา

โดยคุณ SeriesVll เมื่อวันที่ 14/09/2013 00:40:02


ความคิดเห็นที่ 26


ที่ว่า มีอายุ 10 ปี นี่มันอายุของแบตเตอร์รี่ ไม่ใช่เหรอครับ แค่เราเปลี่ยนแบตใหม่ ก็มีเพิ่มอายุขึ้นได้ต่อไปอีก

ส่วนอุปกรณ์ภายใน ทร.ก็มีงบให้ทางเยอรมัน อับเกรดให้ทันสมัยขึ้นอยู่แล้ว

ที่ผมสนคือ ประสบการณ์ของชั่วโมงการฝึก-ของบุคคลากรเรือดำน้ำมากกว่า เพราะเราจะฝึกสำรวจตรวจตราภูมิศาสตร์พื้นที่ใต้ท้องทะเล (ทั้งฝั่งอ่าวไทยและฝั่งอันดามัน) ของเราตอนไหนก็ได้

7,000 กว่าล้าน ได้เรือฝึก ถึง 6 ลำ ฝึกบุคคลากรให้มีความรู้ความสามารถทักษะที่สูง อีก 5-6 ปี ข้างหน้า เรา ก็ซื้อเรือดำน้ำใหม่ มาเพิ่มเติมอีก ก็จะเพิ่มเขึ้ยวเล็บให้แข็งแกร่งขึ้นอีก แถมบุคคลากรที่ผ่านการฝึกฝนถึง 5-6 ถึง 10 ปี จะมีทักษะที่สูงมากแค่ไหน

ในขณะที่เราคุยกันอยู่ในนี้ บุคคลากรของเรา มีทักษะประสบการณ์ ผ่านมาแล้ว 2 ปี (ถ้าได้เราได้มาแบบไม่ติดขัดอะไรตั้งแต่เริ่มต้น)

โดยคุณ gto25302530 เมื่อวันที่ 14/09/2013 01:26:41


ความคิดเห็นที่ 27


ผมว่าโชคดีนะ โชคดีตายเลย จะได้ไม่ต้องมีเรือดำน้ำ ฮา ไอ้เรือดำน้ำเกาหลีที่อ้างๆ มาเบรกเรือเยอรมัน ก็ยังไม่เห็นโผล่หัวออกมาเลย

 

โดยคุณ tongwarit เมื่อวันที่ 14/09/2013 01:46:06


ความคิดเห็นที่ 28


ขอทำความเข้าใจกันก่อนนะครับ  โครงการที่เราจะซื้อคราวนั้น มัน เรือ 6 ลำ แต่ ใช้งานได้ 4ลำไม่ใช่หรอครับ อีก 2 ลำ สำรอง(หรือว่าผมอ่านข่าวแล้วเข้าใจผิด)  นี้ถ้าได้เรือใช้งานมา 6 ลำจริง ยิ่งโคตร คุ้มเลยครับ...โอ้วจอร์จมันยอดกว่าที่เคยอีกนะนี้

โดยคุณ SeriesVll เมื่อวันที่ 14/09/2013 02:16:09


ความคิดเห็นที่ 29


จำนวนลำ ผมก็จำไม่ค่อยได้เท่าไรครับ แต่ที่แน่ๆ 6 ลำ ขึ้นไปครับ

โดยคุณ gto25302530 เมื่อวันที่ 14/09/2013 02:36:47


ความคิดเห็นที่ 30


ถ้ามองว่า เรือชุดนี้ซื้อมาฝึก ผมว่าคุ้มนะ แต่ สมมุติว่าได้มา deal เรือ ฟรีเกตุอาจจะไม่เกิด เพราะอาจจะเอามาแทนเรือชั้นพุทธไปเลย

โดยคุณ skysky เมื่อวันที่ 14/09/2013 12:42:05


ความคิดเห็นที่ 31


เรืออีก 2 ลำ (ที่ไม่พร้อมใช้งาน) น่าจะไม่รวมอยู่ในงบประมาณโครงการ 6,600 ล้านนะครับ

(คงต้องตีราคาค่าซ่อมเพิ่มกันใหม่ สำหรับ 2 ลำนี้  แต่ได้เป็นกรรมสิทธิแน่นอน)

แต่โครงการนี้รวมฐานปฏิิบัติการเรือดำน้ำ (ฐานทัพ)  และการฝึกอบรมในต่างประเทศด้วยนะครับ

ถูกไม่ละครับ.....(น่าจะเรียกว่าราคาเหมาะสม มากกว่า)

 

แต่ตอนนี้ถึงไม่ได้เรือ  ทร. ก็ส่งทหารไปอบรมดูงาน  และผมอยากให้เอาเงินไปสร้างฐานปฏิบัติการเสียเลย (ไม่ต้องรอแล้ว)

 

โดยคุณ airy เมื่อวันที่ 14/09/2013 16:28:05


ความคิดเห็นที่ 32


คุณskyskyครับ ผมว่าถึงซื้อ206Aได้ ยังไงๆก็ต้องซื้อเรือฟริเกตอีกอยู่ดีเพราะมันทดแทนหน้าที่กันสมบูรณ์ไม่ได้ (ไม่แน่ว่าอาจจะเป็นOHPจัดเต็มแบบทร.ออสเตรเลีย)

โดยคุณ Phu2000 เมื่อวันที่ 14/09/2013 23:52:48


ความคิดเห็นที่ 33


ขออนุญาตเขียนเรื่องเกี่ยวกับข้อมูลโครงการจัดหา ด.รุ่น 206A อีกครั้งครับ คงเป็นครั้งสุดท้ายแล้วจริงๆ เพราะเรื่องมันหวนกลับมาไม่ได้อีกแล้ว แต่ก็น่าศึกษาเป็นบทเรียนสำหรับ ทร. ก่อนอื่นต้องขออภัยเรื่องที่เขียนไปครั้งก่อน ออกจะเป็นการคุยโวไปหน่อยว่ารู้เรื่องเรือเยอรมันดี เป็นเรื่องไม่สมควรครับแม้จะเป็นข้อมูลจริง ขอโทษด้วยครับ แต่ด้วยความรู้สึก(ส่วนตัว)ที่ว่าโครงการที่น่าจะมีประโยชน์ และคุ้มค่าก็ยังมีคนไม่เข้าใจ  ถ้ามาว่าโครงการ A-7 ,แฮริเออร์ อะไรแบบนี้ผมคงเฉยๆเพราะไม่ค่อยเข้าท่า  สำหรับข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องจัดหา ด.นี้น่าจะปรับชั้นความลับเป็น UNCLAS ได้แล้ว เพราะไม่เกี่ยวกับทร.ไทยแล้ว

ยังมีคนสงสัยว่าเราจะได้ ด.ใช้การกี่ลำ ถ้าสำเร็จ  ยืนยันว่า พร้อมใช้ 4 ลำครับ คือ U 16, U 18 ,U23 และ  U24 อีก 2 ลำคือ U15,U17 แม้จะปลดมาไล่เลี่ยกัน แต่สภาพเรือไม่สมควรปรับปรุง จึงจะรับมาด้วยแต่ใช้ฝึกความคุ้นเคยในท่า และเอาชิ้นส่วนเป็นอะไหล่ รวมจะขนส่งเรือกลับมา 6 ลำครับ เป็นเรื่องบังเอิญที่ อดีต ผบ.เรือ U 17 มาเป็น รอง ผชท.ทหาร ยม./กรุงเทพในขณะที่ทำโครงการอยู่ (เยอรมันไม่ได้ตั้งใจส่งมา)และเพิ่งครบวาระกลับประเทศไปไม่กี่เดือนนี้เอง เป็นคนที่อัธยาศัยดี พร้อมที่จะให้คำแนะนำแก่ ทร.เต็มที่เพราะสนิทกับเพื่อน นนร.ไทยรุ่นเดียวกันมาก

ยม.ขายเรือก่อนปรับปรุงให้อย่างนี้ครับ 4 ลำแรก ประมาณ 750ล้านบาท(ราคารวม 4 ลำ) 2ลำหลังประมาณ 80ล้านบาท(40ล้านต่อลำ) ตอร์ปิโดรุ่น DM2A3 ทั้งตัวตอร์ฯรวมหัวรบ กล่อง และขดลวดที่ใช้บังคับครบชุดและแบต 16 ชุด+หัวฝึกอีก 5ราคาส่วนนี้ประมาณ200ล้านบาท กับชิ้นส่วนอะไหล่ทั้งคลัง (รวมที่สำคัญและราคาสูง)ประมาณ 800 รายการ กับเครื่องฝึก(simulator)ทั้งหมดที่มีอยู่(บนบก)ได้แก่  -ศุนย์ยุทธการ ด.-การควบคุมเรือ-เครื่องจักร เครื่องไฟฟ้า ฯลฯราคารวม280ล้านบาท ต่อจากนั้นเป็นค่าฝึกพื้นฐานกำลังพล ค่าซ่อมบำรุง การทดสอบในอุโมงค์ปรับความดัน(เอาเรือใส่เข้าไปทั้งลำแล้วอัดน้ำเท่าความลึกที่ต้องการ) ฯลฯ เอาเป็นว่าในส่วนที่ ทร.ต้องจ่ายให้ กห.เยอรมัน รวมเกือบ 2,000ล้านบาท-ค่าใช้จ่ายส่วนนี้ใครจะโจมตีเรื่องทุจริตไม่ได้เพราะจ่ายรัฐต่อรัฐ)

ค่าใช้จ่ายส่วนหลักเป็นค่าซ่อมคืนสภาพและปรับปรุงเรือ 4 ลำ ที่ บ. HDW จะเป็นผู้ดำเนินการ  เป็นการOverhaul อุปกรณ์เกือบทุกอย่างในเรือ รวมทั้งตรวจโครงสร้างตัวเรือ Tanks  ที่สำคัญต้องปรับแต่งให้เรือมาใช้ในน้ำทะเลในเขตร้อน(ปรับค่าความสมดุล-เนื่องจากความหนาแน่นต่างกัน) และติดตั้งระบบปรับอากาศ(เรื่องใหญ่) ระบบระบายอากาศ รวมนับร้อยรายการ สำคัญมากคือ เปลี่ยน แบตฯใหม่ 3 ลำยกเว้น U 23 เพิ่งเปลี่ยนแบตฯ (แสดงให้เห็นชัดว่าเขาปลดก่อนเวลาที่คาดหมายไว้) ค่าปรับปรุงที่กล่าวมานี้รวม 3,500ล้านบาท ค่าใช้จ่ายที่เหลือเป็นค่าขนส่ง ค่าบริการทางเทคนิค ผู้เชี่ยวชาญมาประจำในปทท. และอื่นๆ(ประมาณ500)

ค่าใช้จ่ายส่วนสุดท้ายก็คือการสร้าง บก. ,ท่าจอดเรือ สิ่งอำนวยความสะดวก อาคารฝึกที่จะเอา Sim มาตั้ง เงินส่วนหลังใช้จ่ายในประเทศนะครับ พันกว่าล้าน ดังนั้นที่บอกว่า 7,000-8,000ล้านนั้น เป็นมูลค่ารวมในการจัดตั้งกองเรือดำน้ำเลย ไม่ใช่แค่ซื้อและปรับปรุงเรือ

ท่านจะเห็นได้ว่าการทำโครงการในกองทัพไทย บางครั้งจึงต้องทำแบบเลี่ยงบาลี เช่นซื้อเครื่องบิน แต่ไม่มีเครื่อง ซื้อเรือแต่อาวุธไม่ครบ ซื้อระบบอาวุธนำวิถ๊ ยังไม่มีลูก ฯลฯ ทั้งนี้เพราะทำเต็มโครงการวงเงินสูงเช่นโครงการนี้ ก็ถูกเบรกอีก หาว่าแพง นี่ขนาดเรือเก่านะครับ ทุกเหล่าทัพจึงต้องหาทางเลี่ยง (หากเลี่ยงได้)เรือดำน้ำใหม่นั้นคงเป็นเรื่องยากถ้าจะทำ จะมาทีละลำ เพราะวงเงินสูงมาก ผ่อนอย่างไรงป.แต่ละปีไม่พอ ผ่อนนานไปก็ไม่ได้ผิดระเบียบ รวมทั้งเรือเสร็จก็ต้องจ่ายเงินครบด้วย (เครื่องบินและรถถังน่าจะง่ายกว่าในด้าน งป. เพราะแยกเป็น 6 เป็น 12 ได้ แต่เรือแยกเป็นครึ่งลำไม่ได้)นี่ละครับปัญหา พอแค่นี้ละครับ  เอ้อ กว่าเราจะมีเรือดำน้ำลำแรก ประเทศในอาเซียนไม่น้อยกว่า4 ประเทศจะใช้เรือดำน้ำไปแล้วกว่า 10 ปี ผมกลัวตรงนี้ละครับ

โดยคุณ sboot เมื่อวันที่ 17/09/2013 01:19:53


ความคิดเห็นที่ 34


โครงการตัดหาเรือดำน้ำกับโครงการจัดหาเรือฟริเกตมันไม่เกียวกันอยู่แล้วครับ และไม่น่าส่งผลกระทบกันเท่าไร โครงการจัดหาเรือดำน้ำนั้นใช้งบทหารเรือ ส่วนโครงการเรือฟริเกตที่มมูลค่าสูงมากๆ นั้นต้องขออนุมัติงบฯ พิเศษ เหมือนโครงการจัดหาอาวุธใหญ่ๆ อย่างอ่ืน เช่นการจัดหากริพเพนเป็นต้นครับ

เรือหกลำ ใช้สี่ลำเป็นอะไหล่สองลำพูกแล้วครับ 

 

โดยคุณ tongwarit เมื่อวันที่ 17/09/2013 04:17:52


ความคิดเห็นที่ 35


ที่ท่าน sboot กล่าวไว้ทั้งหมดคือ ข้อเท็จจริงที่น่าเสียดายมาก เมื่อเทียบจำนวนเงินและระยะเวลากับสิ่งที่ทร.จะได้รับกลับมา คนที่คัดค้านเกือบทั้งหมดเป็นพวกที่ไม่รู้และไม่คิดจะรู้รายละเอียดเหล่านี้เลยด้วยซ้ำ ตั้งหน้าตั้งตาคัดค้านตำหนิด่าทออย่างเดียว แถมยังเถียงแถข้างๆคูๆ ในแบบที่ไม่ใช้สติปัญญาและสมอง คนพวกนี้รกโลกจริงๆ

โดยคุณ TWG เมื่อวันที่ 17/09/2013 12:18:18


ความคิดเห็นที่ 36


ที่ท่าน sboot กล่าวไว้ทั้งหมดคือ ข้อเท็จจริงที่น่าเสียดายมาก เมื่อเทียบจำนวนเงินและระยะเวลากับสิ่งที่ทร.จะได้รับกลับมา คนที่คัดค้านเกือบทั้งหมดเป็นพวกที่ไม่รู้และไม่คิดจะรู้รายละเอียดเหล่านี้ เลยด้วยซ้ำ ตั้งหน้าตั้งตาคัดค้านตำหนิด่าทออย่างเดียว แถมยังเถียงแถข้างๆคูๆ ในแบบที่ไม่ใช้สติปัญญาและสมอง คนพวกนี้รกโลกจริงๆ

^  ตามที่ท่าน TWG กล่าวมา ผู้คัดค้านมิใช่มีแต่ผม (ซึ่งไม่มีส่วนส่งผลใดๆกับดีลนี้เลย)

ท่านที่คัดค้านทั้งหลาย มีทั้ง คนในกองทัพเรือเองที่ใด้ยินมา ทั้งคนของรัฐบาลทั้ง 2รัฐบาล

ที่มีอำนาจแม้กระทั่งที่ปรึกษาอาวุโส ทร.ต่างๆนาๆ

...เป็นพวก ไม่ใช้สติปัญญาและสมอง และ รกโลก จริงๆหรือ...? 

โดยคุณ fantom เมื่อวันที่ 18/09/2013 11:40:38


ความคิดเห็นที่ 37


ก็เหมือนโครงการA-JET ละครับ เขามี100 เครื่อง จะขายให้เรา 80 เครื่อง จะขายให้เราก่อนเฟตเเรก50 เฟตสอง 30 ขายลำละ 50 ล้านบาท ตัวเครื่อง 1 ล้านบาท อีก 49 ล้านบาทค่าซ่อมบำรุ่ง  แต่ก็ยังดีที่ได้มา 25เครื่องนึกแล้วเสียดาย 

โดยคุณ pop04 เมื่อวันที่ 18/09/2013 12:39:36


ความคิดเห็นที่ 38


หากท่านอ่านโพสของผมอย่างละเอียดและเข้าใจ ท่านจะทราบว่าผมหมายถึงคนจำพวกไหนนะครับ การทีีมีความคิดความเห็นที่แตกต่างกันตรงข้ามกันนั้นเป็นเรื่องปกติ และเป็นเรื่องที่ดีที่จะทำให้เรามีมุมมองที่หลากหลาย ทำให้เราสามารถคิดวิเคราะห์ได้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น แต่ทั้งนี้นอกจากทั้งสองฝ่ายจะนำเอาเหตุผลข้อเท็จจริงมาใช้ในการโต้เถียงกันแล้ว ต่างก็ต้องยอมรับและทำความเข้าใจในข้อเท็จจริงของอีกฝ่ายหนึ่งด้วย จึงจะเกิดปัญญาและสามารถแก้ปัญหาต่างๆ ได้ คนที่ทำตัวเป็น "คนรกโลก" นั้นมีในทุกวงการทุกชนชั้นไม่จำกัดฐานะและการศึกษา เพียงแต่ที่ใดมีมากมีน้อยไม่เท่ากัน บางคนก็ทำตัวเช่นนี้กับบางเรื่องบางโอกาสเท่านั้น คงอยู่ไม่ได้หากจะทำตัวเช่นนั้นตลอดเวลา

โดยคุณ TWG เมื่อวันที่ 18/09/2013 14:50:23


ความคิดเห็นที่ 39


คนที่คัดค้านเกือบทั้งหมดเป็นพวกที่ไม่รู้และไม่คิดจะรู้รายละเอียดเหล่านี้ เลยด้วยซ้ำ ตั้งหน้าตั้งตาคัดค้านตำหนิด่าทออย่างเดียว แถมยังเถียงแถข้างๆคูๆ ในแบบที่ไม่ใช้สติปัญญาและสมอง คนพวกนี้รกโลกจริงๆ

^ ...คำพูดของท่านที่ไม่ใด้เปลี่ยนแปลง แต่อย่างใด

ผมก็ยังขอถามคำเดิมครับ  *คนที่คัดค้านเกือบทั้งหมด เป็นบุคคลที่ไม่ใช้สติปัญญา/สมอง และ รกโลก ...จริงๆหรือ?

โดยคุณ fantom เมื่อวันที่ 18/09/2013 16:21:05


ความคิดเห็นที่ 40


ผมว่าเราไม่ควรว่าผู้ที่เห็นต่างอย่างเสียๆหายๆนะครับ ว่ากันด้วยเหตุผลดีกว่า ผู้คัดค้านโครงการนี้มีอยู่หลายกลุ่ม กลุ่มที่ค้านโดยสุจริตใจก็มีเยอะ  แต่ที่ไม่สุจริตใจ หรือไม่ทราบข้อมูลโดยละเอียดก็มาก ซึ่งมีทั้งคนในและนอก ทร.( ทร.คงไม่สามารถเปิดเผยว่าเราจะได้ตอร์ปิโดพร้อมรบกี่ลูก นอกจากระบุในเอกสารที่มีชั้นความลับที่เสนอขึ้นไปให้ผู้เกี่ยวข้องโดยตรงทราบ)  บางท่านค้านเพราะเห็นว่าควรซื้อของใหม่เท่านั้น(เพราะ ทร.ก็มีจุดอ่อนที่เคยซื้อของเก่ามาใช้โดยไม่คุ้มค่า) โดยไม่ทราบข้อจำกัดด้าน งป.ทร.เป็นต้น แต่ที่ไม่สุจริตก็พยายามดึงจะให้ซื้ออีกประเทศหนึ่ง ถ้าทำไม่ได้ก็ล้มมันเสีย บางท่านยิ่งกว่านั้น อ้างถึงเบื้องสูงเลยว่าไม่ชอบให้ ทร.มีเรือดำน้ำ ถ้าอ้างอย่างนั้น แสดงว่าอีกกี่ปีกี่ชาติ ทร.ก็มีเรือดำน้ำไม่ได้

ที่สำคัญที่สุด ทร.ยังไม่ทราบเลยครับว่าโครงการนี้ ไม่ได้รับอนุมัติเพราะอะไร โดยถูกถ่วง ถูกอ้างมาเป็นปี เปลี่ยน รมว.กห.ไป 3 คน  ผลสุดท้ายก็อ้างว่าไม่สามารถทำตามกำหนดเวลาที่เยอรมันเสนอไว้ได้ จึงให้ระงับโครงการไป  ง่ายๆอย่างนั้นเอง 

โดยคุณ sboot เมื่อวันที่ 19/09/2013 11:59:14


ความคิดเห็นที่ 41


ได้อ่านข้อมูลจากคุณ shoot แล้วรู้สึกเสียดายมากๆ เลยครับ

ต่อให้เป็นเทคโนโลยีเก่า แต่ใครที่คิดจะเข้ามารุกรานคงต้องคิดมากขึ้นแน่นอน

แต่ที่เสียดายที่สุด คือ ประสบการณ์ในการมีเรือดำน้ำ ซึ่งจะทำให้เรามีความชำนาญและทำการรบ

ในยามศึกได้อย่างมีประสิทธิภาพ มันก็เหมื่อนทหารหรือนักกีฬาที่มีการซ้อมอย่างสม่ำเสมอย่อมจะมีทักษะ ความชำนาญ

มากกว่าพวกที่ซ้อมน้อยๆ เป็นต้น

แล้วเราก็สามารถใช้ เรือ ด.เหล่านี้ศึกษาท้องทะเลได้อย่างระเอียดเพื่อเป็นประโยชน์ในการรบหรือเรื่องอื่นๆ ต่อไปครับ

โดยคุณ smallforward เมื่อวันที่ 30/04/2014 16:18:11