หน้าแรก    ตั้งกระทู้ใหม่   ตอบคำถาม    เข้าสู่ระบบ      


ภาพล่าสุด การผลิตรถถังหลัก OPLOT สำหรับกองทัพบกไทย

โดยคุณ : kaypui42 เมื่อวันที่ : 14/09/2013 22:18:49

ภาพถ่ายภายในโรงงาน Malyshev ที่เมือง Kharkiv ประเทศยูเครน ซึ่งทางโรงงานกำลังทำการผลิต รถถังหลัก OPLOT สำหรับกองทัพบกไทย

ภาพถ่ายจาก: ะ‘ั€ะพะฝะตั‚ะตั…ะฝะธะบะฐ ะธะท ะฅะฐั€ัŒะบะพะฒะฐ-9

 

http://otvaga2004.mybb.ru/viewtopic.php?id=719&p=22

 

http://thaidefense-news.blogspot.com/2013/09/oplot_9.html





ความคิดเห็นที่ 1


เมื่อไหร่จะมาซะทีหนอ รอจนแฉะแล้ว

จะได้อวดรอบบ้านเขาซะที อิอิ

-ขอเรือดำน้ำมาสถิต ณ อ่าวไทย-

โดยคุณ perawat999 เมื่อวันที่ 09/09/2013 21:41:47


ความคิดเห็นที่ 2


เห็นภาพ แล้วเหมือนกับ ทำเสร็จแล้วแกะออก....แล้ว ชิ้นส่วนที่แกะออก ก็กองไว้ซะนาน...จนฝุ่นจับ...

หรืออยู่ระหว่าง ลอกสีใหม่ ทำสีใหม่ ยกเลิกสีเดิมของโรงงาน...

ไม่ทราบว่า จะใช่ 5 คันแรกที่จะส่งมอบหรือเปล่าครับ ?

เห็นแล้ว ก็น่าหวั่นใจ กับ ส่วนเหลือ สี่สิบกว่าคัน...ว่า โรงงาน จะทำให้ทันตามสัญญาหรือเปล่า ? เพราะเห็นภาพไกล ๆ มีอยู่อีก 4-5 คัน...

ถ้าไม่ทันตามสัญญา หรือ ถ้าค้างจำนวนส่งมอบเยอะ หลังสิ้นสุดระยะเวลาส่งมอบ...ปัญหาของ สตง. เรื่องค่าปรับส่งมอบล่าช้า คงมาบาน กับการรับมอบรถถัง แน่...

 

โดยคุณ juldas เมื่อวันที่ 09/09/2013 22:18:59


ความคิดเห็นที่ 3


ไม่น่าจะใช้กองไว้นานจนฝุ่นจับนะครับ คุณ Juldas

เห็นใน TAF คุณ FiTaLipz ได้โพสภาพเจ้าขึ้นรถอยู่ชุดนึง เห็นว่าเอาไปทดสอบยิง

น่าจะเป็นทดสอบเสร็จเอากลับถอยตรวจเช็คปรับแก้มากกว่านะครับ ฝุ่นจับขนาด+สายพานขี้ดินเต็ม ไม่น่าจอดไว้เฉยๆแน่

โดยคุณ markrura เมื่อวันที่ 09/09/2013 22:45:06


ความคิดเห็นที่ 4


ทำไมเกราะดูโล่งๆเหมือนกล่องเหล็กธรรมดา เอามาเรียงเป็นชั้นๆ   และอีกอย่างรถถังพึ่งสร้างใหม่ทำไมดูเก่าเร็วจัง

โดยคุณ thanakon เมื่อวันที่ 09/09/2013 23:16:55


ความคิดเห็นที่ 5


เกราะที่เป็นกล่องเหล็กด้านนอกเป็นปกติครับ อาจจะใช้ใส่ของด้วย เป็นด้านนนอกสุดครับ เกราะชั้นในก็มีครับ

ส่วนทำไมดูเก่าผมว่าหน้าตามันดูเก่ามากกว่า ดูรุ่งริ่งๆ ดีไซน์ไม่ค่อยสามัคคีกัน

โดยคุณ toeytei เมื่อวันที่ 09/09/2013 23:59:43


ความคิดเห็นที่ 6


....สายพานมียางรองแต่ด้านใน  กับหุ้มที่ล้อกดสายพาน  แต่ด้านนอกไม่ยักกะมียางรอง...

....แบบนี้วิ่งบนถนนลาดยางเมืองไทย  มีหวังปลิ้น...(ต้องใช้เทลเลอร์ บรรทุกอย่างเดียว)

โดยคุณ airy เมื่อวันที่ 10/09/2013 02:52:29


ความคิดเห็นที่ 7


การออกแบบ  เค้าออกแบบตามฟังชั่นงานจริงๆ  เลยเนอะ...

ไม่ค่อยๆ มี "อิมเมท"  "อิมเพรสชั่นนิส" อะไรเท่าไรเลย...

หัวข้อด้าน "คลอลิตี้" เกี่ยวกับเรื่อง "ครอสเมติก" เค้าไม่รู้จักจริงๆ เลยนี่ ครับ

งานถึงหยาบ แบบไม่มีประเดนที่ให้ต้องสนใจ....

(มันก็เกี่ยวพันกับเครื่องไม้ เครื่องมือที่เค้ามีไว้ใช้งานด้วย ละ)

โดยคุณ airy เมื่อวันที่ 10/09/2013 03:01:43


ความคิดเห็นที่ 8


ถ้าข้อมูลเป็นว่า นำไปทดสอบ...ก็เกิดความสนใจที่ว่า...ทดสอบสมบุกสมบัน ขนาดนั้นเชียว...เพราะดู โทรม ทั้ง 2 คัน...และเมื่อดูภาพอีกที...ก็เป็นพวกโคลนจริง ๆ...และบังโคลนต่าง ๆ และป้อมปืน ถลอก กันไม่น้อยเลย...

หรือว่า 2 คันนี้ คือ คันต้นแบบ สำหรับ Lot ของไทย สำหรับใช้ทดสอบ...ส่วน ความหมายของภาพที่ว่า OPLOT ของไทย คือ คันที่กำลังผลิต ด้านหลัง กับ ป้อมปืน 2 ป้อม ที่แขวนรอ อยู่....

เพราะดูตามภาพ เหมือนกับเป็นงานแสดง อะไรสักอย่าง เพราะผู้ชม ดูเป็นบุคคลธรรมดาทั่วไป...

ถ้าจำไม่ผิดปริมาณที่ส่งมอบ น่าจะเป็น 49 + 5 = 54

ขณะนี้ เวลาผ่านมา 2 ปี...ถ้าจำไม่ผิด ครม.อนุมัติ ส.ค.54...

กำหนดส่งมอบเสร็จ ภายในปี 2558 (ซึ่งไม่รู้ว่าเดือนอะไร ตามสัญญา แต่ไม่น่าจะใช่ ธ.ค. 2558)...

ดังนั้น เวลาคงเหลืออีกเพียง 2 ปี กับรถถัง 54 คัน...ที่จะต้องส่งมอบ...

ภายในปี 2557 คงต้องอย่างน้อย 25 - 30 คัน...ควรจะเห็นเป็น รถถัง สำเร็จรูป แล้ว....

ซึ่งถ้า Lot สุดท้ายล่าช้าออกไป...แล้วเกิดค่าปรับขึ้น...คนที่จะมีปัญหาลำดับแรก อาจจะไม่ใช่ ทบ. แต่จะเป็น ยูเครน เอง...แล้วมันจะกระทบมาถึง ทบ. ต่อมา...

ผมว่า ทบ. น่าจะตรวจสอบเรื่องปริมาณการผลิต และระยะเวลาการผลิต ให้แน่ชัด...แล้วรีบเตรียมการแก้ปัญหา ตั้งแต่เนิ่น ๆ น่าจะดี...

เพราะ ผบ.ทบ. ก็ออกข่าวตั้งแต่ต้นปี ว่าจะขอเร่งให้ส่งมอบก่อนจำนวน 5 คัน เมื่อเดือน พ.ค.56...แต่ก็ยังไม่มีข้อมูลเพิ่มเติม...

 

 

โดยคุณ juldas เมื่อวันที่ 10/09/2013 07:01:41


ความคิดเห็นที่ 9


คหสต.สำหรับภาพลักษณ์ไม่ขอพูดแล้ว(เพื่อนๆพูดไว้เยอะ) แต่จากที่ติดตามเพจของ Combat Zones เจ้าของภาพให้การว่ามีการผลิตร่วม 20 คันแล้ว ดังนั้นเราก็ฟังไว้ก่อน ส่วนการประชาสัมพันธ์ก็หาประโยชน์ไม่ค่อยได้เดาว่าทางทบ.ก็ไม่คิดจะทำแล้ว เหมือนตอนแรกที่มีผู้แสดงความคิดเห็นว่าไม่น่าจะเป็น BM Oplot น่าจะเป็น T-84 เฉยๆ ทั้งที่ภาพการเยื่อนการเยี่ยมโรงงานก็มีแต่เจ้า Otop เอ้ย!!BM Oplot มาตลอด ส่วนสายพานผมก็ไม่แน่ใจเหมือนเพื่อนๆ แต่เรามีผู้ผลิตเองไม่ใช่เหรอ ได้มาไม่ถูกใจก็เปลี่ยน แต่มีข้อสังเกต ถ.อิสราเอลกะญี่ปุ่นก็สายพานเหล็กล้วนเหมือนกันนะครับ(เครดิทตามมุมภาพ)



โดยคุณ makropolo เมื่อวันที่ 10/09/2013 07:15:08


ความคิดเห็นที่ 10


ทบ. ได้รับงบประมาณจัดหา ตามข้อมูลของ สำนักงบประมาณ 7,064 ล้านบาท

แบ่งเป็น 3 ปี งบประมาณ

ปี 54 = 1,440 ล้านบาท

ปี 56 =   574 ล้านบาท

ปี 57 = 5,050 ล้านบาท

ก็คือในตอนนี้ ยูเครน มีวงเงินงบประมาณ ที่ ทบ. พร้อมจ่ายได้อยู่แล้ว ประมาณ 2,000 ล้านบาท...ซึ่งคงมีการชำระไปบางส่วนแล้ว...

ซึ่งก็ไม่รู้ว่า จำนวนเงินตามปีงบประมาณ 54-56 จำนวน 2,000 ล้านบาท นี้ ควรจะได้รับมอบแล้วสักกี่คัน....

ก็สงสัยว่า ทำไม ยูเครน ไม่รีบส่งมอบสักจำนวนหนึ่ง...จะได้มี ทุน ไปเร่งล็อตที่เหลืออีกกว่า 5,000 ล้านบาท...ปัจจุบัน พรบ.รายจ่าย งบประมาณประจำปี 2557 ก็ผ่านแล้ว รอพระราชบัญยัติประกาศ...ซึ่งก็เป็น กรอบเวลาปกติ ที่ผู้ขาย น่าจะรู้ในกฎหมายงบประมาณของผู้ซื้อ ในระดับหนึ่ง...

ดู ๆ แล้ว กำหนดเวลาของ ยูเครน คงไม่เกิน 2558 แน่...

ซึ่งถ้าได้ครบตามจำนวน 49 + 5 ก็ดีไป...

แต่กลัวจะได้เพียง 25-30 คัน...แล้วไปติดปัญหาเรื่อง ข้อกำหนดของ สำนักงบประมาณ หรือ สตง. เข้า...ก็ต้องเข้า ครม. ขออนุมัติ ขยายระยะเวลา...และถ้ามีค่าปรับ...ทบ. ก็ต้องเรียกร้องจาก ยูเครน...ซึ่งถ้าไม่เป็นผล...ก็ต้องขอต้องอนุมัติ ครม. ในการยกเลิกข้อเรียกร้องเบี้ยปรับ...แล้วเกิด คาราคาซัง...(ฝ่ายค้าน เอาตายยยยย...แม้จะเป็นผู้อนุมัติก็เถอะ...เพราะ รมว.กลาโหม เป็น นายกฯ)

 

โดยคุณ juldas เมื่อวันที่ 10/09/2013 08:01:17


ความคิดเห็นที่ 11


ถ้าเป็นตามที่คุณJuldasว่า ผมก็ชักจะเสี่ยวว่าโครงการจะล่มซะแล้ว เพราะฝ่ายค้านวันนี้ คือฝ่ายค้านว้นที่โครงการจัดซื้อจัดหาเรือดำน้ำที่นายกฯบรรหาญเสนอต้องล่มไป แต่ส่วนตัวก็ไม่ค่อยชอบการซื้อจากยูเครนนักเพราะดูเหมือนจะให้ความสำคัญกับการส่งมอบน้อยเกินไป

โดยคุณ makropolo เมื่อวันที่ 10/09/2013 09:06:05


ความคิดเห็นที่ 12


เรื่องสายพานเปลี่ยนได้อยู่แล้วครับ แบบหุ้มยางนั้นเอาไว้ใช้ในเมืองเฉยๆ เช่นที่อเมริกาทำอยู่ที่อัฟกันนิสถาน หรือที่ไทยเราเคยใช้เมื่อเจ็ดปีที่ผ่านมาแถวลานพระรูปฯ(ฮา) ครั้งนั้นพื้นถลอกหมดเพราะเราไม่มีสายพานหน้ายาง 

โดยคุณ toeytei เมื่อวันที่ 10/09/2013 09:17:27


ความคิดเห็นที่ 13


เรื่องยางไม่ต้องห่วงหลอกครับรัฐบาลเขายิ่งเร่งให้หน่วยราชการใช้ยางเพิ่มอยู่ :Dส่วนเรื่องส่งมอบช้าถ้าตอนนี้มี20คันแล้ว นับจากเวลาที่5คันแรกมาโชว์ตัว ก็ถือว่าไม่น่าห่วงเท่าไหร่ ส่วนเรื่องสตง ไม่แน่ใจว่าจะคลุมถึงอาวุธไหมเพราะการจัดซื้ออาวุธจากต่างประเทศส่วนใหญจะใช้กรณีพิเศษ ซึ่งต่างจากวิธีพิเศษอีก ที่สกปรกอาจจะเพราะยังไม่ได้เก็บงาน เหมือน ตอนเรือกระบี่พอจะส่งมอบค่อยเก็บงานอีกรอบ. ผมว่าเรื่องรถถังกับฝ่ายค้านนี่ไม่น่าห่วงเท่าไหร่ครับ ห่วงเรือฟรีเกตุทร นั้นแหละ สัญญาต่อ5ปี มันนานจัง ระวังเขาจะเล่นเรื่องทำสัญญาเอื้อประโยชน์เอกชน และเรื่ิองvls8ท่อที่พูดกัน ถ้าspecเรือไม่สามารถเพิ่มvLsได้อีกในอนาคต ผมว่าอาจจะโดน 

โดยคุณ skysky เมื่อวันที่ 10/09/2013 09:49:51


ความคิดเห็นที่ 14


ขอให้ทันละกัน และให้ใช้ได้ทนๆนานๆนะ

โดยคุณ unmanned เมื่อวันที่ 10/09/2013 10:43:35


ความคิดเห็นที่ 15


เรือฟริเกตของ ทร. คือ แบ่งชำระงบประมาณ 5 ปี (ปี 57 - 61)...ผมว่าคงไม่ได้มีปัญหาเรื่องระยะเวลา 5 ปี เพราะรับมอบในปีสุดท้ายของงบประมาณ...ผมว่าดูแล้วไม่ได้เอื้อประโยชน์ผู้ขาย (ตามข่าวช่วงแรก ผู้ขาย พร้อมส่งมอบให้ภายใน 3 ปีอยู่แล้ว)...แต่เอื้อประโยชน์ของ ทร. เอง ที่จะบรรเทาไม่ให้มีจำนวนงบประมาณที่สูงเกินไป...

แต่ของ รถถัง แบ่งชำระงบประมาณ 3 ปี (แต่รวมระยะตามแผน 4 ปี)... และในปีงบประมาณ 57 จัดสรรชำระ 5,000 กว่าล้านบาท...ตามแผนงบประมาณ ในปี 57...ควรจะเสร็จอย่างน้อย 80-90% (ปีหน้าแล้วนะครับ)...แล้วขยายระยะเวลาสัก 1 ปีงบประมาณ คงไม่เป็นไร...

แต่ถ้าในปี 57...รถถังเสร็จและส่งมอบอยู่ประมาณ 50-60% (ตามข้อมูลตอนนี้ว่ากำลังประกอบอยู่ประมาณ 20 คัน เป็นข้อมูลใน facebook)...การขยายระยะเวลาคงไม่ใช่ 1 ปีงบประมาณ...การรับมอบครบ อาจจะไปถึง 2559...

ถ้าเหตุการณ์เป็นแบบนั้น ก็อยู่ที่ว่า ในสัญญามันจะมีค่าปรับการส่งมอบล่าช้า ประมาณใด น่ะครับ...

ซึ่งถ้าสัญญามันระบุ...ในเรื่องค่าปรับ...เคยเห็น ครม. มีมติยกเลิกมาสำหรับการจัดหาอาวุธในอดีต...แต่การยกเลิกนั้น...มีรายงานว่า กองทัพผู้ซื้อ ได้มีการติดตาม ทวงถาม มาแล้วพอสมควร...จึงขอให้ ครม. อนุมัติ...แต่มันก็เป็นจำนวนเงินที่ไม่มาก...

แต่ถ้าเกิด กรณี ส่งมอบล่าช้า กว่า 15 - 20 คัน หรือเรียกได้ว่า เกือบจะครึ่งหนึ่งของสัญญา...มูลค่ามันคงจะดูสูงอยู่...ภาพการมอง เอื้อประโยชน์ให้ผู้ค้า ดูจะชัดเจนกว่า...

โดยคุณ juldas เมื่อวันที่ 10/09/2013 10:58:17


ความคิดเห็นที่ 16


ผมมองว่า จากระยะเวลาที่คันแรกออกจาก assembly line ที่มีภาพออกมาให้เห็น ก็ไม่กี่เดือน ได้ออกมา 20 คันในเวลาไม่กี่เดือน  ระยะเวลาสมมุติว่า เอาวันที่ 30 กันยา 57 เป็นเวลาส่งมอบ ก็เหลืออีก 1 ปี ก็น่าจะทันนะครับ ปล ไอ้ที่บอกว่า แถม 5 คันนี้มาจากไหนหรอครับ เพราะเห็นที่ TAF เคยคุยกัยว่าไม่มีแถม 

โดยคุณ skysky เมื่อวันที่ 10/09/2013 11:33:28


ความคิดเห็นที่ 17


เหมือนเป็นวันเด็กยูเครน....เลยครับ...

....ดูเหมือนเค้าไม่มี Inspecter ฝ่ายลูกค้าคอย Inspection ในกระบวนการผลิตเลยหรือครับ....

ดูจากข่าวของผู้ผลิตรายนี้  แล้วเหมือนไม่แค่...อะไรเรื่องเวลาส่งมอบเท่าไหร่เลย

โดยคุณ airy เมื่อวันที่ 10/09/2013 11:44:10


ความคิดเห็นที่ 18


....เคยได้ยินมานานมากเหมือนกันครับ..ที่ว่า สายพานไม่มียางรอง นี่เอาไว้ใช้งาน ที่ลาดชั้นมากๆ เช่นตามภูเขา

แต่ผมไม่เคยเชื่อเลย..  ผมว่ามียางประดับครึ่งหนึ่ง  ก็น่าจะใช้งานตามภูเขาได้เหมือนกันนะครับ เพราะรถมันหนักมาก

โดยคุณ airy เมื่อวันที่ 10/09/2013 12:13:11


ความคิดเห็นที่ 19


วันที่ 01 พฤษภาคม พ.ศ. 2554 เวลา 15:21:49 น.

 

 

แห่ทิ้งทวน ครม.นัดสุดท้าย วงเงินกว่า 1.2 แสนล้าน คมนาคม 8 โครงการ 3.2 หมื่นล้าน กลาโหมขอซื้อรถถังยูเครน 7.22 พันล้าน คลังขอ 2.8 พันล้านทำประกันภัยพืชผล ไตรรงค์ขอ 2.2 พันล้านทำปุ๋ยสั่งตัด เล็งให้ ธ.ก.ส.ปล่อยกู้ 2-3 หมื่นล้านซื้อปุ๋ย ธอส.ปล่อยสินเชื่อ 5 หมื่นล้านให้กู้ 3 ล้านซื้อบ้านหลังแรก ดอกเบี้ย 0% ใน 2 ปีแรก ให้ผ่อนชำระนาน 30 ปี

เมื่อวันที่ 30 เมษายน รายงานข่าวจากทำเนียบรัฐบาล แจ้งว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 3 พฤษภาคมนี้ ซึ่งเป็นนัดสุดท้ายก่อนที่จะมีการยุบสภานั้น ปรากฏว่าหลายหน่วยงานต่างยื่นขออนุมัติงบประมาณจัดทำโครงการต่างๆ รวมเงินกรอบวงเงินปล่อยสินเชื่อรวมแล้วกว่า 1.2 แสนล้านบาท อาทิ กระทรวงคมนาคม จะเสนอโครงการเร่งด่วนให้พิจารณา เพื่อไม่ต้องการให้โครงการหยุดชะงักระหว่างการรอรัฐบาลใหม่ รวมมูลค่ากว่า 32,000 ล้านบาท ประกอบด้วย 1.โครงการจัดหารถจักรดีเซลไฟฟ้า จีอี 50 คัน วงเงิน 6,563 ล้านบาท 2.โครงการปรับปรุงรถจักร 56 คัน วงเงิน 3,359 ล้านบาท

3.โครงการจัดหารถโดยสารรุ่นใหม่สำหรับบริการเชิงพาณิชย์ 115 คัน วงเงิน 4,981.05 ล้านบาท 4.โครงการก่อสร้างอุโมงค์เชื่อมต่อระหว่างจังหวัดเชียงใหม่-อำเภอหางดง วงเงิน 1,050 ล้านบาท 5.โครงการก่อสร้างถนนราชพฤกษ์ ถนนกาญจนาภิเษก (แนวตะวันออก-ตะวันตก) วงเงิน 2,470 ล้านบาท 6.โครงการสร้างจุดเชื่อมต่อสถานีรถไฟฟ้าเพชรบุรีกับสถานีมักกะสัน วงเงินกว่า 10 ล้านบาท 7.โครงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานด้านบริการการเดินอากาศ 4,460 ล้านบาท 8.ขอออกพระราชกฤษฎีกา (พ.ร.ฎ.) เวนคืนที่ดินทางด่วนใหม่ สายศรีรัช-วงแหวนรอบนอก 16.7 กิโลเมตร ค่าเวนคืน 9,500 ล้านบาท รวมทั้งการขอยกเว้นการใช้ระบบอนุญาโตตุลาการรถไฟฟ้าสายสีแดง (บางซื่อ-รังสิต)

ข่าวแจ้งว่า ขณะที่กระทรวงกลาโหมจะเสนอ ครม.พิจารณางบประมาณซื้อรถถังจากประเทศยูเครนรุ่น Oplot จำนวน 54 คัน วงเงินงบประมาณ 7,200 ล้านบาท จากเป้าหมายที่ต้องซื้อให้ครบ 200 คัน หรือ 1 กองพล รวมเป็นเงินกว่า 2 หมื่นล้านบาท เพื่อนำไปประจำการกองพลทหารม้าที่ 3 (พล.ม.3) จ.ขอนแก่น ส่วนกระทรวงพาณิชย์จะเสนอแผนพัฒนาและส่งเสริมตลาดสินค้าอินทรีย์ ปี 2554-2558 กำหนดเป้าหมายให้ไทยเป็นศูนย์กลางสินค้าเกษตรอินทรีย์ในภูมิภาคอาเซียน

ข่าวแจ้งว่า ส่วนกระทรวงการคลังจะเสนอวงเงินการทำประกันภัยพืชผลจำนวน 2,850 ล้านบาท และเสนอให้พิจารณาจัดตั้งสำนักงานนโยบายพัฒนาระบบการเงินภาคประชาชน (สพช.) เป็นหน่วยงานในสังกัดสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ทำหน้าที่กำกับดูแลการเงินทั้งในระบบและนอกระบบ

นายกรณ์ จาติกวณิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวในงาน "ปฏิบัติการ เพื่อสังคมประเทศชาติ" จัดโดยธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ที่ห้องจูบิลี่ อิมแพค เมืองทองธานี ว่า ในการประชุม ครม.วันที่ 3 พฤษภาคมนี้ กระทรวงการคลังจะเสนอให้ ครม.อนุมัติแนวทางในการแก้ปัญหาปุ๋ยเฉพาะหน้า โดยจะให้ ธ.ก.ส.ปล่อยสินเชื่อปุ๋ยอัตราดอกเบี้ยต่ำพิเศษให้กับเกษตรกรที่เป็นลูกค้าของ ธ.ก.ส.และเกษตรกรทั่วไปวงเงิน 20,000-30,000 ล้านบาท เชื่อว่าจะเพียงพอต่อความต้องการของเกษตรกร เพราะปกติ ธ.ก.ส.ปล่อยสินเชื่อวงเงิน 80,000-90,000 ล้านบาทอยู่แล้ว จึงไม่น่าจะกระทบต่อฐานะของ ธ.ก.ส. ขณะนี้ อยู่ระหว่างการคำนวณสูตรอัตราดอกเบี้ยที่เหมาะสม

นายกรณ์กล่าวว่า ขณะเดียวกันอาจพิจารณาให้สิทธิเพิ่มเติมสำหรับนักลงทุนทั้งไทยและต่างประเทศที่จะเข้ามาลงทุนทางด้านอุตสาหกรรมเกษตรเพื่อส่งเสริมอุตสาหกรรมปลายน้ำของเกษตรกร นอกจากนี้ จะเสนอให้มีการประกันภัยพืชผลให้เกษตรกรทั้งภัยแล้งและน้ำท่วม ซึ่งเป็นไปตามความเห็นของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีที่ต้องการให้ความคุ้มครองครบถ้วนรวมถึงภัยธรรมชาติอื่นๆ ด้วย เนื่องจากที่ผ่านมาภัยทางธรรมชาติมีความรุนแรงและมีความถี่มากขึ้น

นายกรณ์กล่าวว่า ปกติรัฐบาลจะชดเชยให้เกษตรกรที่ประสบภัยทางธรรมชาติ ไร่ละ 606 บาท โดยจะคิดเบี้ยประกัน 130 บาทต่อไร่ (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) โดยเกษตรกรจ่ายค่าเบี้ยประกัน 60 บาทต่อไร่ ที่เหลืออีก 70 บาทรัฐบาลเป็น ผู้จ่ายให้ หากประสบภัยธรรมชาติ เกษตรกรจะได้รับค่าชดเชยสินไหม 2,006 บาทต่อไร่ แยกเป็นการชดเชยจากการประกันภัย 1,400 บาทต่อไร่ และรัฐชดเชยให้ตามระเบียบกระทรวงการคลังอีก 606 บาท โดยเกษตรกรต้องเข้าร่วมโครงการประมาณ 60-70% ของเกษตรกรทั้งหมดจึงจะสามารถจ่ายเบี้ยประกันที่ 130 บาทต่อไร่ได้ หากเกษตรกรเข้าร่วมต่ำกว่านี้จะไม่คุ้มทุนและ ธ.ก.ส.ก็จะมีความเสี่ยงที่ต้องแบกรับภาระดอกเบี้ย ดังนั้นผู้บริหาร ธ.ก.ส.ต้องพยายามชักจูงลูกค้าเข้าโครงการให้ได้ตามเป้า

นายลักษณ์ วจนานวัช ผู้จัดการ ธ.ก.ส. กล่าวว่า อัตราดอกเบี้ยสินเชื่อปุ๋ยเป็นอัตราดอกเบี้ยต่ำพิเศษน่าจะอยู่ที่ประมาณ 6.50% ลดลงได้ไม่เกิน 0.50% จากอัตราปกติที่อยู่ที่ 7% ระยะเวลาการปล่อยสินเชื่อประมาณ 6 เดือน จากอัตราดอกเบี้ยอัตราดังกล่าวหาก ธ.ก.ส.ปล่อยกู้เต็มวงเงินก็จะสูญเสียรายได้ประมาณ 250-300 ล้านบาท ปัจจุบันราคาปุ๋ยเกินกว่าราคาควบคุมประมาณ 3,000 บาทต่อตัน ดังนั้นคงต้องปรับราคาให้สอดคล้องกับต้นทุน หากยังปล่อยให้สถานการณ์เป็นอย่างนี้ก็อาจเกิดปัญหาขาดแคลนปุ๋ยและปัญหาปุ๋ยปลอม

นายวรวิทย์ ชัยลิมปมนตรี กรรมการผู้จัดการธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) กล่าวว่า ในการประชุม ครม.วันที่ 3 พฤษภาคมนี้ กระทรวงการคลังจะเสนอให้ ครม.พิจารณาโครงการปล่อยกู้บ้านหลังแรกราคาไม่เกิน 3 ล้านบาท วงเงิน 50,000 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ย 0% นาน 2 ปี ระยะเวลาผ่อนชำระ 30 ปี ซึ่ง ธอส.เป็นผู้ดำเนินการ เพื่อสนับสนุนคนมีรายได้น้อย-ปานกลาง ผู้มีรายได้ประมาณ 10,000 บาทต่อเดือน สามารถกู้ในวงเงินสูงสุด 1 ล้านบาท

นายมั่น พัธโนทัย รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า สำหรับความคืบหน้าการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ภาษีรถยนต์นั้น คงไม่สามารถนำเสนอได้ทันรัฐบาลชุดนี้ เนื่องจากยังเหลือเรื่องที่ต้องผ่านความเห็นชอบจาก ครม.อีกมาก ขณะเดียวกันนายกรัฐมนตรีเชิญรัฐมนตรีกระทรวงต่างๆ เข้าหารือ เพื่อจัดลำดับความสำคัญเร่งด่วนที่จะต้องพิจารณาในที่ประชุม ครม.ไว้แล้ว แต่ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของนายกรณ์ ว่าจะนำเข้าพิจารณาในที่ประชุม ครม.หรือไม่

นายไตรรงค์ สุวรรณคีรี รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายเศรษฐกิจ กล่าวว่า ในการประชุม ครม.วันที่ 3 พฤษภาคมนี้จะรายงานผลการศึกษาโครงการปุ๋ยสั่งตัดเพื่อลดต้นทุนการผลิตของเกษตรกรให้ ครม.รับทราบ และพิจารณาโครงการ คาดว่าจะใช้งบประมาณ 2,250 ล้านบาท จากกรอบอนุมัติโครงการ 3,500 ล้านบาท นอกจากนี้ ยังเสนอผลการศึกษาและแนวทางแก้ปัญหาราคาไข่ไก่ และเนื้อสุกรแพง

 

  •  Ukraine
  •  Thailand

In March 2011, the Royal Thai Army placed an order for 49 T-84s to replace its fleet of aging M41A3 Walker Bulldog light tanks. Up to 200 tanks may eventually be acquired. However, the Royal Thai Army had yet to make an official announcement.[6][7] The government had just approved 7.155 billion baht to purchase the first 49 Oplot tanks to be assigned to several units: the 2nd cavalry battalion (Royal Guard at Fort Chakkraphongse, Prachinburi), the 4th cavalry battalion (Royal Guard at Kiakkai, Bangkok), the 8th cavalry battalion (Fort Suranari, Nakhon Ratchasima), and the 9th cavalry battalion (Fort Ekathotsarot, Phitsanuloke).[8][9][10] The first T-84 Oplot will be delivered to be tested at Cavalry Center at Fort Adisorn, Saraburi in mid-2013 and during the official procurement. The factory in Ukraine had offered the extra 5 T-84 Oplot in addition to the first 49 Oplot tanks.[11] On January 5, 2013, it was announced that the first 5 T-84s would be delivered by May 2013 for training purposes. Another 50 will be delivered by the end of 2015, with 200 total ordered.[12]

ผบ.ทบ.เผย ยูเครนจะส่งมอบรถถัง Oplot 5 คันแรกในพ.ค.นี้


รายละเอียด :

ที่ศูนย์การทหารม้า ค่ายอดิศร จ.สระบุรี วันที่ 4 ม.ค. 56 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก เป็นประธานเนื่องในวันทหารม้า 4 มกราคม ณ ศูนย์การทหารม้า ค่ายอดิศร จ.สระบุรี ซึ่งในวันนี้ (4 ม.ค.) ได้มีการนำรถถังและรถสายพานลำเลียงทุกรุ่นที่เข้าประจำการของกองทัพบกมาจัดแสดง โดย ผบ.ทบ.ได้นั่งรถถังโบราณรุ่นเรโน ซึ่งมีอายุ 74 ปี และปลดประจำการไปแล้วเข้ามายังบริเวณพิธี และได้กล่าวให้โอวาทกำลังพล ว่า ทหารม้าถือเป็นกำลังหลักของกองทัพบก มีส่วนสำคัญในการรักษาอธิปไตยมาตั้งแต่อดีต ซึ่งสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชถือว่าเป็นพระบิดาของทหารม้า ก็ขอให้เจ้าหน้าที่ทุกคนมุ่งมั่นปฏิบัติราชการด้วยความรักความสามัคคี และสร้างให้กองทัพบกเป็นกองทัพที่มีศักยภาพ นำพาประเทศชาติให้รอดพ้นจากภัยคุกคาม ตนภูมิใจที่ได้มายืนอยู่ท่ามกลางเหล่าทหารม้า 

จากนั้น ผบ.ทบ. กล่าวถึงความคืบหน้าการจัดซื้อรถถัง OPLOT จากประเทศยูเครน เข้ามาประจำการ ว่า หลังจากที่รัฐบาลอนุมัติงบประมาณให้กับกองทัพ ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการประกอบชิ้นส่วน และขั้นตอนการผลิตทั้งหมด ซึ่งต้องใช้เวลาสักระยะ แต่จากการที่ได้กำหนดแผนงานเอาไว้ คือ รัฐบาลยูเครนจะทยอยส่งรถถังให้กับกองทัพในระหว่างปี 2557 - 2558 ซึ่งจาการได้พูดคุยกับรัฐบาลบยูเครน ตนได้ขอให้เร่งให้ส่งมอบเร็วขึ้น โดยในกลางเดือนพฤษภาคม 2556 ทางยูเครนจะส่งมอบรถถังให้ประมาณ 4 - 5 คัน เพื่อนำมาใช้ในการฝึกและศึกษา ก่อนที่จะทยอยส่งรถถึงทั้งหมดกว่า 50 คันให้แล้วเสร็จภายในปี 2558 และจากการที่ตนได้ไปดูงานที่ยูเครนก็ได้เห็นถึงความเข้มแข็งและสมรรถนะของรถถึงรุ่นดังกล่าว ซึ่งมีความน่าเชื่อถือ สามารถยิงเป้าหมายได้อย่างแม่นยำ ซึ่งรถถังที่ประจำการอยู่ในกองทัพปัจจุบันส่วนใหญ่จัดหามาจากทางตะวันตก ซึ่งกองทัพก็มีความต้องการ แต่ไม่สามารถจัดซื้อได้ เนื่องจากมีราคาสูง ดังนั้นจึงต้องจัดซื้อจากประเทศยูเครนที่มีสมรรถนะและราคาที่รับได้ อย่างไรก็ตม ยืนยันว่ากองทัพจัดซื้อยุทโธปกรณ์ทุกอย่างโดยคำนึงถึงผลประโยชน์ของชาติเป็นหลัก

http://breakingnews.nationchannel.com/home/read.php?newsid=665268

โดยคุณ juldas เมื่อวันที่ 10/09/2013 12:25:47


ความคิดเห็นที่ 20


58 นี่ปีปฎิทินหรือปี งบประมาณครับ ถ้าปีงบประมาณ วันนี้ก็ยังปีงบประมาณ 55 อยู่เลย  ส่วนข่าวที่บอกว่าจะไปอยู่ พล ม3 ผมว่าไม่ใช่ และในข่าวภาษาไทยก็ไม่ได้บอกว่ามีแถม5 คัน เนื้อข่าวภาษาอังกฤษ บอกว่าแถม5คัน แต่ยังไม่เห็นเอกสารที่เป็นทางการบอกว่ามีการแถม จึงไม่แน่ใจว่ามาจากข่าวลือหรือเปล่า

รถถังคันแรก ออกจากสายการผลิตเมื่อปลายเดือน มิย ตอนนี้ต้น กย ผ่านไปแค่ 2 เดือน หากตามที่กล่าวอ้างว่า ผลิตออกมาแล้ว 20 คันเป็นจริง (ผมไม่ค่อยเชื่อนะ แต่ก็เอาสมมุติว่าจริงละกัน) ก็ไม่น่าห่วงอะไรว่าจะส่งมอบไม่ทันนิครับ ต่อให้เป็นปีปฎิทินก็ตาม   ส่วนเรื่องคุณภาพ... ขอรอดูตอนมาทดสอบที่ไทยก่อน

ปล แต่ก็สงสัยเรื่อง 5 คันที่จะมาเดือน พค ไม่รู้ว่าจริงๆเกิดอะไรขึ้น หรือก็จากการเข้าใจผิด จาก ผลิตเสร็จเดือน พค เป็นส่งมอบ

 

โดยคุณ skysky เมื่อวันที่ 10/09/2013 12:49:10


ความคิดเห็นที่ 21


ตอนนีปีงบประมาณ 56 ครับ ตุลาคมนี้ก็ปีงบประมาณ 57 แล้วครับ

ก็หวังว่าจะจัดส่งทันตามสัญญาครับ

โดยคุณ Tumx เมื่อวันที่ 10/09/2013 13:05:39


ความคิดเห็นที่ 22


เรื่อง 20 คันที่โพสต์ไว้ใน TAF คือคนถ่ายเนี่ยบอกมาเองครับส่วนที่ว่าจริงไม่จริงยังไงนั้นไม่ทราบ

ข้อมูลก็เอามาจาก COMBAT ZONE นั่นล่ะครับ - _-

โดยคุณ FiTaLipz เมื่อวันที่ 10/09/2013 14:04:34


ความคิดเห็นที่ 23


ตัวเลขปีงบประมาณนั้น เป็นตัวเลขตาม พรบ.งบประมาณแผ่นดินปี 2556 ครับ...

คือในเอกสารประกอบ จะเป็นข้อมูล งบประมาณผูกพันที่ลงนามในสัญญาแล้ว ตามข้อมูลคือ ปี 54 จำนวน 1,440 ล้านบาท....และในปีงบประมาณ ก็จัดสรรเพิ่มอีก 574 ล้านบาท...ก็คือ ตอนนี้ในปี 2556 ทบ. มีวงเงินงบประมาณสะสมรอเบิกจ่ายของ OPLOT ประมาณ 2,000 ล้านบาท ครับ...

และถ้า พรบ.งบประมาณปี 2557 นี้ประกาศแล้ว...ก็เท่ากับว่า ทบ. มีวงเงินงบประมาณสะสมรอเบิกจ่ายเต็มจำนวนแล้ว...

ยูเครน ส่งมอบเมื่อไหร่ เท่าไหร่....ตรวจรับมอบ แล้วผ่าน...ก็ชำระได้เลย....

ตามข่าวปรากฎในประเทศไทย ผมเจอแต่ข้อมูล 54 คัน...รวมถึง ที่ ผบ.ทบ. บอก...ก็อยู่ในจำนวน 54 คัน...

คือ รับเดือน พ.ค. จำนวน 4 - 5 คัน...ส่วนที่เหลืออีกประมาณ 50 คัน จะทะยอยรับมอบในปี 57 - 58

ข่าวแรกนั้น เป็นการขออนุมัติ เฟสแรก จากจำนวนทั้งหมด 200 คัน...ครับ...ซึ่งคงเป็นข้อเสนอข่าวในขณะนั้น ว่า จัดหารถถังเข้า พล.ม.3 จึงเหมาว่าไปอยู่ในกรมนั้นทั้งหมด...เพราะโครงการรวมทั้งหมดของการจัดหารถถัง คือ 20,000 ล้านบาท...

มีแต่ข่าวในต่างประเทศ ที่บอกว่ายูเครน ขายให้ ไทย 49 คัน ครับ...

จึงเป็นที่มาในข้อมูลของ วิกี คือ 49 + 5...

ซึ่งผมว่า ข้อมูลในไทย น่าจะมีความน่าเชื่อถือกว่า ว่า เฟสแรก ไม่ว่าจะแถม หรือ ไม่แถม ก็น่าจะมีจำนวน 54 คัน...

ผมถึงให้ความเห็นว่า ถ้าส่งมอบภายในปี 2558 คงไม่มีปัญหาอะไร...แต่ถ้า เกินไปจากนั้น...ถ้าจำนวนไม่เยอะ...ก็คงไม่น่าจะมีปัญหาเหมือนกัน...เพียงแต่ ผมหวั่นว่า...มันจะมีจำนวนที่เป็นสาระสำคัญ...

ถ้าจำนวน 5 คัน มาภายในปีนี้...อีก 20 คัน มาภายในปี 2557...ซึ่งมันคงต้องมีระยะเวลาการตรวจสอบ และรับมอบ แล้วถึงจะชำระเงินค่างวดให้ ยูเครน สำหรับ จำนวนรวม 25 คัน...

คราวนี้ ตามข่าวที่ติดตามมา เหมือนกับ บริษัทฯ บางบริษัท ที่เกี่ยวข้อง หรือ บริษัทฯ ประกอบ ผมก็ไม่แน่ใจ ที่มีปัญหาทางการเงิน แก้ปัญหาได้เรียบร้อยแล้วหรือยัง...และมีสายป่านเงินทุน ที่จะประกอบรถอีก 29 คัน ให้เสร็จภายในปี 2558 หรือเปล่า น่ะครับ...

ก็คือให้ความเห็นว่า ถ้ามันมีแววที่ไม่แน่นอน ทบ. ก็น่าจะเตรียมการตรวจสอบ ระยะเวลาการส่งมอบให้ดีครับ...

ไหน ๆ ก็จัดหามาแล้ว...ก็ไม่อยากให้เกิดปัญหามา ครึ่ง ๆ กลาง ๆ...หรือไปเป็นแสงปลายอุโมงให้เกิดปัญหาทางการเมืองให้มันสะดุด...มันจะไม่มีประโยชน์อะไร...

โดยคุณ juldas เมื่อวันที่ 10/09/2013 14:29:49


ความคิดเห็นที่ 24


ก่อนรับมอบก็ทำบุญกรวดน้ำซะหน่อยก้ดีนะครับเดี๋ยวจ้าวกรรมนายเวรจะตามรถมาด้วย อุ๊ย...ขนลุก!!

โดยคุณ YUKIKAZE เมื่อวันที่ 10/09/2013 15:30:35


ความคิดเห็นที่ 25


นึกว่าจะ มั่ยเอ๊ยไม่โผล่มา

โดยคุณ nick01 เมื่อวันที่ 10/09/2013 16:11:01


ความคิดเห็นที่ 26


บางคนนี่ออกความเห็นที่อคติชัดเจนจนน่าเกลียดเลยนะ 

พูดตรงๆว่า ไม่โพสก็ไม่มีใครหาว่ามือง่อยหรอกนะ 

 

ส่วนเรื่องที่ว่าโรงงานทำไมคนเยอะ 

ดูเหมือนจะเป็นงานเปิดโรงงานให้คนเยี่ยมชม  

 

สายพานตัวนี้ มียางรองถอดได้ แต่ที่ยังไม่ติด เดาว่าเพราะเพิ่งไปทดสอบมาในที่ๆดินอ่อน ซึ่งไม่มีความจำเป็นจะต้องใช้ 

จริงๆแล้วยางรองสายพานนั้น เรื่องป้องกันถนนเป็นรอยเป็นเรื่องรองมากๆ 

ยางรองสายพานมีไว้สำหรับการเคลื่อนที่ของรถถังในเมือง เนื่องจากถนนเป็นพื้นแข็ง(เช่น คอนกรีต หรือ ลาดยาง) ทำให้เหมือนเอาเหล็กไปขูดถนน ทำให้เสียงดังและแรงสั่นสะเทือนสูง(แรงสั่นสะเทือนที่เกิดจากการสั่นพ้อง) แรงเสียดทานมากเกินไป กินน้ำมัน และ ยังทำให้อายุการใช้งานของสายพานสั้นลงด้วย  ส่วนเรื่องรักษาถนนจริงๆแล้วเป็นเรื่องรองๆ 

ส่วนในภูมิประเทศนั้น การไม่ใส่ยางรองสายพานจะดีกว่า เพราะเพิ่มการยึดเกาะ โดยเฉพาะพื้นที่ที่มีดินอ่อน เพราะยางรองสายพานทำให้แรงกดพื้นเพิ่มสูงกว่าไม่ใส่ยางรองสายพาน (พื้นที่หน้าสัมผัสของสายพานเปล่า สูงกว่าแบบมียางรองสายพาน)   

แต่ในปัจจุบันมีการใช้สายพานแบบใหม่ คือ Rubber band tracks ที่ทำจากยางทั้งเส้น เสริมด้วยลวดเหล็กกล้าภายใน  ทำให้สามารถเคลื่อนที่ในเมืองก็ได้(แถมเงียบขึ้น) และ ในภูมิประเทศก็ไม่เสียความสามารถของสายพานเหล็กเดิมๆด้วย  

 

โดยคุณ icy_CMU เมื่อวันที่ 10/09/2013 21:15:41


ความคิดเห็นที่ 27


อยากเห็นตัวเป็นๆในไทยแล้วครับ ^^

ปล.จากสภาพที่ดูเหมือนมีบางคันที่น่าจะไปทดสอบข้างนอกบ้างแล้วดูจากเศษดินกับรองร่อย

โดยคุณ iceman35 เมื่อวันที่ 10/09/2013 22:06:14


ความคิดเห็นที่ 28


.....ผมลองพิจารณาดูสายพานของเค้าดีๆ....โอ้ว สุดยอด....นี่มัน...นววัตกรรมที่สุดยอด ครับท่าน

กล่าวคือมันน่าจะใช้ได้ทั้ง 2 ด้านครับ.....วาว... แปลก  เพราะว่าไอ้ครีบกันหลุดจากร่องล้อนั้น

มัน น่าจะเป็นชนิดถอดได้ ถอดไปใส่ด้านตรงข้ามได้  ด้วยสลักน๊อต...แน่ๆ ครับ.....

....ถ้ามันกลับด้านได้อย่างนี้ แล้ว  เวลาเอามาสวนสนามในเมืองก็ใช้ด้านที่มียางรอง

เวลาใช้วิ่งบนภูเขาหินเยอะๆ ก็ใช้ด้านที่เป็นเหล็ก....(ผมก็สงสัยอยู่แล้ว เชียว ตะงิด ตะงิด)

เพราะว่ามันมียางรองทั้งล้อกดสายพาน  และที่ตัวสายพาน 2 จุดไม่น่าเป็นไปได้ (มียางแค่ล้อกดก็พอ)

ผมว่ามันน่าจะเวอร์ค นะครับ....       ไอ้แทรกชู ที่พลิกใช้งานได้ทั้ง 2 ด้าน  ที่ไม่เหมือนกันอันนี้

(ที่เค้าเอาด้านเหล็กใช้งานนี่ อาจไม่ต้องการให้  ยางมันสึกเร็ว เพราะอาจต้องส่งมอบด้วยแทรกชุดนี้)

โดยคุณ airy เมื่อวันที่ 11/09/2013 02:57:55


ความคิดเห็นที่ 29


สายพานกลับด้านนี่คงไม่ใช่แล้วแหละครับ

ถ้าพลิกเอายางอยู่ด้านนอกแล้วเอาเหล็กที่เป็นร่องๆเข้าในก็ตายสิครับ ล้อเล้อพังหมด

โดยคุณ toeytei เมื่อวันที่ 11/09/2013 03:44:42


ความคิดเห็นที่ 30


สายพานกลับด้านนี่ไม่ใช่แล้ว 

สายพานัวนี้มียางรองทั้งนอกและใน 

ยางรองด้านในคือ กันล้อกดสายพานสึก (ล้อกดสายพานก็หุ้มยาง) ลดเสียง ลดการสั่นสะเทือน 

สายพานรองยางด้านใน มีมาตั้งแต่สมัยT-80Bแล้ว 

โดยคุณ icy_CMU เมื่อวันที่ 11/09/2013 05:58:44


ความคิดเห็นที่ 31


การนำเอารถถังที่ผลิตออกมาชุดแรก ตามสเปกของลูกค้าที่เปลี่ยนแปลงไปจากแบบดั้งเดิมหลายจุด เพื่อใช้สำหรับการทดสอบโดยเฉพาะ ก็สมควรแล้วที่ทางผู้ผลิตจะต้องทำการทดสอบระบบต่างๆ และปรับแต่งแก้ไขให้เรียบร้อยก่อนส่งมอบ ยิ่งทดสอบให้หนักและครอบคลุมมากเท่าไหร่ โอกาสเกิดความผิดพลาดบกพร่องก็จะยิ่งน้อยลง และเมื่อทดสอบแล้วก็ต้องนำกลับมารื้อออกเพื่อทำความสะอาด รวมทั้งปรับแต่งแก้ไขให้เรียบร้อยก่อนที่จะประกอบกลับดังเดิม ในประเด็นนี้ผมมองว่าเป็นเรื่องปกติมากๆ และถูกต้องเหมาะสมแล้ว

ส่วนเรื่องอัตราการผลิตนั้น จากระยะเวลาที่เหลืิตามสัญญาประมาณ 2 ปีนั้น ผมมองว่าเหลือเฟือครับ เพราะการผลิตยุโธปกรณ์รุ่นใหม่ย่อมต้องมีการเตรียมสายการผลิตและชิ้นส่วนที่จะนำมาประกอบเป็นจำนวนมาก ซึ่งในช่วงเริ่มแรกนั้นต้องใช้เวลาในการเตรียมการค่อนข้างนานเป็นธรรมดา แต่เมื่อทุกอย่างเข้าที่เข้าทางแล้วอัตราการผลิตจะเพิ่มสูงขึ้นอย่างมาก การผลิตจะเป็นไปอย่างรวดเร็ว ไม่แปลกที่ตามข่าวระบุว่ามีรถถังที่อยู่ในระหว่างการผลิตอีกราว 20 คัน ซึ่งหากเป็น Oplot ของทบ.ไทยทั้งหมดจริง ผมคิดว่าจากจำนวนที่สั่งซื้อไปอีก 49 คันที่เหลือนั้น อาจไม่ต้องรอถึงสิ้นปี 2558 หรอกครับ อาจจะราวปลายปี 2557 เราก็น่าจะได้รับมอบรถถังครบตามจำนวนที่สั่งซื้อไปทั้งหมด้วด้วยซ้ำไป แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็คงต้องติดตามผลการทดสอบรถถังชุดแรก 5 คันที่จะส่งมาให้ทบ.ทำการทดสอบผ่านไปก่อนครับ

ปล. ต้องไม่ลืมว่าความต้องการรถถังของทบ.นั้น มีจำนวนรวมทั้งหมดถึงราว 200 คัน ทางผู้ผลิตย่อมคาดหวังที่จะได้รับคำสั่งซื้อเพิ่มในส่วนที่เหลืออีกกว่าร้อยคันอย่างแน่นอน ดังนั้นผู้ผลิตจึงน่าจะเร่งผลิตและเน้นคุณภาพของรถถังชุดแีกนี้เป็นอย่างมาก เพื่อให้เป็นที่ยอมรับและสามารถขายรถถังให้ทบ.ได้มากขึ้นต่อไป

โดยคุณ TWG เมื่อวันที่ 11/09/2013 08:18:36


ความคิดเห็นที่ 32


เหมือนงานวันเด็ก บ้านเราเลย น่ารักดีครับ

 

   แต่ผมว่าถ้ารถถัง Oplot M ดังกล่าวคือรถถังที่จะส่งมอบให้ ทบ.ไทย  แปลกใจว่าทำไมยูเครนถีงเปิดให้บุคคลภายนอกเขาไปถ่ายภาพของ Oplot M นี้ได้ถึงโรงงาน  แบบแทบทุกรายละเอียด  ( กลัวว่าภาพที่หลุดออกมาที่ไม่ได้มีการโพส จะเป็นภาพอุปกรณ์ภายในต่างๆ )

   ถ้าเปิดให้ประชาชนชม น่าจะจัดให้ชมเฉพาะยุทโธปกรณ์อื่นๆ ที่ไม่ใช่ยุทธโธปกรณ์ที่จะจัดส่งให้ลูกค้า   ยิ่ง Oplot M ของ ทบ. มีการปรับปรุงกว่า 40 รายการ และเป็นรถถังที่จะทันสมัยและดีที่สุดของ ทบ.ไทย  ยิ่งไม่ควรเปิดเผย และ ยิ่งไม่น่าให้ถ่ายรูป ( ตรงนี้ นายทหารโครงการของ ทบ.ไม่น่าจะปล่อยให้มีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้น ควรเตือนให้ทางยูเครน ตั้งแต่ก่อนการเริ่มสายการผลิต )   จะว่าทางยูเครนตั้งใจจะอวดสินค้าตนเอง อวดว่าโรงงานตนเองยังเดินสายการผลิตอยู่ ไม่ได้มีปัญหาการเงินจนต้องปิดกิจการ ก็ไม่ควรจะ เปิดเผยให้เห็นสายการผลิตแบบ ชนิดแตะเนื้อต้องตัวรถถังได้แบบนี้ครับ ถ่ายซะเห็นกันทุกรูขุมขน

 

   อีกประเด็นคือ แปลกใจ เรื่องสายพานติดยาง ( ถ้า Oplot M ที่จะได้รับมอบไม่มียางมาด้วย  แต่ถ้ามียางก็ขออภัยก่อนแล้วกัน )  คือหลายท่านกล่าวว่า ไม่มีมาก็ไม่เป็นไร เดี๋ยวนำเข้าประจำการแล้ว ทบ.จัดหาติดให้หรือเปลี่ยนใหม่ก็ได้  .....................แปลกดีครับ ซื้อรถถังใหม่ทั้งที่ทำไม ไม่ระบุใน TOR ไปเลยครับ ว่า ทบ.ต้องการสายพานแบบมียางด้วย  จะต้องไปเสียเงินเพิ่มจัดหาอีกทำไม ในเมื่อเราจัดหารถถังมือหนึ่ง ( ? )

 

ยิ่งรู้สึกแปลกใจอีก คือ ตามที่คุณ Juldas โพส ข่าวต่างๆเกี่ยวกับการจัดหา Oplot รวมถึงข่าวกำหนดส่งมอบรถถัง  ซึ่งปกติการจัดซื้อจัดจ้างก็มีกฎและระเบียบการจัดซื้อจัดจ้างก็เป็นมาตราฐานอยู่แล้ว  เช่นถ้าส่งมอบล่าช้า ก็ต้องมีการปรับเงิน หรือยกเลิกสัญญาแล้วแต่กรณีๆไป  แต่งง คือ เหมือนกรณี รถถัง Oplot นี้ หลายท่านออกความเห็นประมาณว่า ส่งมอบช้าก็ไม่เป็นไร ...............บอกตามตรงครับ งงกับมาตราฐานครับ

 

   ยิ่งการจัดหาอาวุธยุทโธปกรณ์ของ ทบ.และ ทร. ยิ่งต่างกันฟ้ากับดินครับ ทบ.ถูกเสมอ แต่ ทร.มีแต่การโดนตำนิ แปลกครับ

   ที่ผ่านมานั่งอ่านความเห็นหลายท่านทั้งใน TFC และ TAF รวมถึง Pantip เห็นเล่น ทร. แทบทุกเม็ดทุกดอก เล่นกันทุกจุด แต่โครงการ ที่ประชาชนสงสัย ของ ทบ. ไม่ว่าจะเป็น GT-200, เรือเหาะ รถถัง รถหุ้มเกราะ หรือแม้แต่ Tavor กลับไม่ขุด ไม่เล่นกันบ้าง มีแต่อวยกัน ..............แปลกใจครับผม อย่าหาว่าผมอคติกับ ทบ. นะครับ แต่ผมว่าหลายท่านในบอร์ดแห่งนี้และ TAF รวมถึง Pantip คงรู้สึกแบบผมครับ ว่าบางครั้งมันก็ไม่ค่อยจะยุติธรรมกับ ทร.ครับ

โดยคุณ Chelsea เมื่อวันที่ 11/09/2013 21:10:31


ความคิดเห็นที่ 33


หน้าแตกเลยครับ...  นึกว่าเป็นนวัตกรรมเก่าของ พี่หมี ที่ผมเพิ่งมาได้เห็น...

อีกด้านหนึ่งมันไม่เรียบ  พอที่จะรองล้อกดสายพานจริงๆ ละครับ

ขออภัยด้วยครับ  ที่อาจสร้างความเข้าใจผิดให้คนอื่นได้ครับ

ขอบคุณมากครับ

 

 

......................

แต่ความหลงของผม...

ทำให้ผมได้ไอเดียร์ บางอย่างไปใช้งานด้วยละครับ.....(ประเภทชิ้นเดียวครอบจักรวาล)

โดยคุณ airy เมื่อวันที่ 11/09/2013 21:11:08


ความคิดเห็นที่ 34


เรื่องระเบียบการจัดซื้อจัดจ้างของทางราชการ  ผมว่ามันรัดกุมค่อนข้างมาก จนปฏิบัติได้ลำบากมากพอควรเลยครับ

ซึ่งจะให้มันตรงเป๊ะตามเงื่อนไขในสัญญาเลย มันค่อนข้างจะอุดมคติไปหน่อยเหมือนกัน...

เรื่องความล่าช้าของ Btr 3 E นี่ผมว่าเค้าก็คงไม่รู้จะแก้ไขยังไง...เหมือนกันนะ เลยใช้ความเงียบ...(ไม่น่าใช่)

คงใช้วิธีการอธิบายแบบเปิดเผย  ตรงไปตรงมา  ตามข้อเท็จจริง  แล้วขอความกรุณาพยายามเข้าใจ ตามจริงด้วย...

Oflot นี่ก็คงต้องปรับกันตามสัญญาละครับ  ถ้าไม่ทันจริงๆ หรือไม่ก็เปลี่ยนเป็นของแถมก็คงได้มั่ง ครับ (แบบ Btr)

กองพันหนึ่ง ใช้รถถัง 51 คัน  อีก 3 คันที่เหลือมันเป็นรถอะไร ประเภทเดียวกันหรือเปล่า ครับ

โดยคุณ airy เมื่อวันที่ 11/09/2013 21:36:20


ความคิดเห็นที่ 35


5 คันแรก พ.ค.56 ผมยังไม่เห็นนะครับ และเชื่อว่าทุกท่านคงยังไม่เห็นนอกจากจะมาแบบ ลับ แอบทดสอบกันในค่ายเรียบร้อย( 555..)

ส่วนที่ท่าน  เชลซี ว่า มันก็จริงครับ มีกลิ่นของมันอยู่ ( นอกจากจะหลับหูหลับตา...ว่าไม่เห็นไม่ได้ยิน)

โดยคุณ SeriesVll เมื่อวันที่ 12/09/2013 00:16:22


ความคิดเห็นที่ 36


ผมว่าส่วนใหญ่นี่แหละแฟนทร. เชียร์กันเยี่ยวเหนียว ตอนมีข่าวจะได้เรือดำน้ำทีกรุทู้คอมเมนท์พุ่งแบบอัพเดทกันไม่ทันเป็นร้อยไวมากครับ เรื่องเรือฟริเก็ตพอได้สเป็คต่ำก็เซ็งเป็นธรรมดาครับ

ส่วนเรื่องทบ.เขาก็ด่ากันหนักกว่าอีกครับ ด่าจนเบื่อกันแล้ว ตั้งแต่ยุคบีทีอาร์จนมาถึงโอพล็อต

โดยรวมคือการจัดหาของทบ.ชอบทำแบบงุบงิบๆ รายละเอียดไม่ค่อยมีเลยสาวกันได้ไม่ค่อยเต็มปาก เพราะพี่แกเล่นปิดไปหมด การส่งมอบบีทีอาร์ก็ไม่รู้ว่าได้มีการจ่ายค่าปรับส่งล่าช้าหรือไม่ เพราะช้าคอดๆ 

tavor โดยรวมก็เป็นที่พิสูจน์แล้วว่าใช้ได้ไม่ค่อยดีเท่าที่คุยไว้ มีกระบอกเสียงสำคัญคือผู้กอง fw109 แต่ก็ซื้อมาแล้วก็ทำไงได้ เห็นจะตั้งสายการผลิตอะไหล่ด้วย

จีทีสองร้อยมันชัดจนไม่ต้องด่าแล้วครับ เรือเหาะก็อีกอันนึง

 

โดยคุณ toeytei เมื่อวันที่ 12/09/2013 03:29:15


ความคิดเห็นที่ 37


เรื่อง ทบ. ทร.นี่ผมไม่แปลกใจใครบอกว่าไม่ด่า ทบ.ไม่ติทบ. คือติกันจนปากจะฉีกถึงรูหูแล้วครับ XD

โดยคุณ FiTaLipz เมื่อวันที่ 12/09/2013 13:10:12


ความคิดเห็นที่ 38


ผมยังไม่เห็นใครบอกว่าไม่ต้องปรับนะครับ คำถามที่คุยๆกันคือจะส่งมอบทันหรือไม่. ไม่ทันก็ต้องปรับ เหตุยังไม่เกิดเส่วนที่เหลือทรโดนด่าเรื่องเรือ ก็ไม่ต่างจากที่ทบโดนเรื่อง oplot. กองเชียร์อยากได้leo k1. ของทรกองเชียรอยากได้sm2 vslเยอะๆ ก็ไม่แปลก. ทอก็มีกองเชียร์ su ด่า ผมว่าถ้ามันมีเหตุผลก็แย้งกันแบบมีเหตุผล. ก็จบ 

กลับมาเรื่องให้ชาวบ้านมาดูรถถัง ตรงนี้ก็น่าสนใจครับว่าควรปิดเป็นความลับ แต่ในรูปจะเห็นว่ามีรั้วกั้นอยู่ ชาวบ้านดูได้แต่ด้านนอก ข้างในไม่ได้เปิดให้เข้าชม คงมีแต่คนงานของบริษัท ซึ่งไม่แน่ใจว่าจะokไหม

โดยคุณ skysky เมื่อวันที่ 12/09/2013 14:20:41


ความคิดเห็นที่ 39


 

ส่วนตัวนะครับ ถ้าดูจากลายพรางแล้ว ขอเดาว่า เป็น รถ ที่จะส่งมอบให้เราแน่ๆ  แล้วถ้าดูดีๆ นะครับ จากรูป นั่งเต็มรถถังเลย นั่งคร่อมลำกล้องปืนใหญ่ยังมีเลยครับ ดูห่างๆ ยังไงนี้ รูปมันเยอะดูดีๆครับจะเห็นว่า ทั้งเด็กและผู้ใหญ่เต็มเลย บนรถอ่ะครับ

ขอสรุป ถ้าเป็นรถที่จะส่งมอบให้เราจริง(ซึ่งน่าจะใช่) เป็นการแย่ที่เดียวที่เอาออกมาโชวแล้ว ซึ่งรถใช้โชวก็ มีอยุ่แล้ว แล้วขอติระบบการจัดการโรงงานด้วย ไม่ค่อยเป็นสัดส่วน ไม่มีความเป็นระเบียบเรียบร้อยเท่าที่ควรเลย ครับ เห็นระบบจัดการบางที่ที่มีนดีๆ นะครับ ชิ้นส่วนถอด ออก เข้าที่เก็บ หรือห้องทดสอบเรียบร้อย ไม่มีมากองให้คนทั่วๆไปได้เห็นได้ถ่ายรูปแบบนี้หรอกครับ

ปล.ที่ว่า ก็คงจะไม่เกียวกับคุณภาพรถหรอกนะครับ เพียงแต่เห็นระบบที่ไม่เป็นระเบียบแล้วมันขัดหูขัดตา...ครับผม

โดยคุณ SeriesVll เมื่อวันที่ 14/09/2013 01:19:39


ความคิดเห็นที่ 40


ไปดูรูปอีกที ใช่จริงๆด้วยครับ บีนกันยังกะวันเด็ก ทบ ควร เรียกผู้ผลิตมาคุย

โดยคุณ skysky เมื่อวันที่ 14/09/2013 12:32:05


ความคิดเห็นที่ 41


เข้ามางง....

ผมยังไม่เห็นว่ารูปไหนแสดงว่าควรเป็นความลับเลย

เปิดให้คนในประเทศของเขาเยี่ยมชม เพื่อแสดงความภูมิใจในโรงงานของเขา ก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่

เห็นแล้วเฉยๆครับ

โดยคุณ evill เมื่อวันที่ 14/09/2013 15:35:47


ความคิดเห็นที่ 42


http://monsoonphotonews.blogspot.com/2013/09/t-84-oplot-3.html

เว้ปบอกประมาณว่า T-84 Oplot อาจจะไม่ใช่ของใหม่

โดยคุณ dw5000th เมื่อวันที่ 14/09/2013 20:26:44


ความคิดเห็นที่ 43


มันไม่ควรให้สาธารณะเข้ามายุ่มย่ามกับของที่จะผลิตให้ลูกค้าเพราะว่ามันเป็นเรื่องความมั่นคงครับ

ข่าวจะออกอย่างไรก็ช่าง ว่าซื้อนู่นซื้อนี่ ต่ถ้าไม่เห็นตัวจริงๆสัมผัสจริงก็ไม่สามารถยืนยันได้ครับว่ายุทโธปกรณ์รายละเอียดมีอะไรบ้าง

โดยคุณ toeytei เมื่อวันที่ 14/09/2013 22:18:49